พระพุทธิวงศมุนี-มรณภาพอย่างสงบ

เมื่อวันที่ 1 ก.ค.นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ รพ.แพทย์ปัญญา กทม. พระพุทธิวงศมุนี (บุญมา ทีปธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาส ได้มรณภาพลงอย่างสงบ ด้วยโรคมะเร็งตับ ท่ามกลางลูกศิษย์ที่มาเฝ้าดูอาการกว่า 20 คน โดย น.พ.อุทัย สุดสุข อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) น้องชายของพระพุทธิวงศมุนี เปิดเผยว่า พระพุทธิวงศมุนี มีอาการของโรคมะเร็งมาตั้งแต่ปี 2547 โดยเป็นมะเร็งที่ตับอ่อน และได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.กรุงเทพเป็นเวลาเกือบ 2 ปี จากนั้นช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา คณะแพทย์ได้ตรวจพบว่ามะเร็งลามจากตับอ่อนไปที่บริเวณตับ จึงย้ายพระพุทธิวงศมุนี มารักษาอาการที่ รพ.แพทย์ปัญญา เนื่องจากมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคมะเร็งมากกว่า โดยใช้เวลารักษาอยู่ประมาณ 6 เดือน ซึ่งในระหว่างทำการรักษาอยู่นั้น พระพุทธิวงศมุนียังคงจำพรรษาอยู่ที่วัด และใช้วิธีเดินทางไปกลับระหว่างวัดกับโรงพยาบาลตลอดระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 ก.ค. อาการของพระพุทธิวงศมุนี ทรุดหนักลง โดยเริ่มมีอาการปวดท้องมาก จนลามไปปวดทั้งตัว ตนและพระภายในวัดจึงพาเข้ามารักษาที่ รพ.แพทย์ปัญญา แต่เนื่องจากพระพุทธิวงศมุนี มีอายุมาก ประกอบกับเป็นโรคมะเร็งตับในระยะสุดท้าย แม้ทางคณะแพทย์จะให้การรักษาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ไม่สามารถรั้งชีวิตพระพุทธิวงศมุนีไว้ได้ และได้มรณภาพลงเมื่อเวลา 12.25 น. รวมอายุ 85 ปี 65 พรรษา

น.พ.อุทัยกล่าวอีกว่า พระพุทธิวงศมุนี เป็นพระนักพัฒนาในด้านการปกครอง การศึกษา การเผยแผ่ และได้ปฏิบัติศาสนกิจที่เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนามาโดยตลอด จนทำให้มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ถวายปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาบริหารการศึกษา ในปี 2545 และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ได้ถวายปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ ในปี 2546 ซึ่งถือว่าพระพุทธิวงศมุนีเป็นพระสงฆ์รูปแรกที่ได้รับปริญญาในสาขาดังกล่าวจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ ส่วนด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังต่างประเทศ พระพุทธิวงศมุนีก็ไม่ได้ย่อหย่อน โดยท่านได้ดำเนินการสร้างวัดธรรมประทีป ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในประเทศเบลเยียมด้วย ส่วนกำหนดการหลังจากนี้ จะเก็บศพของพระพุทธิวงศมุนี ไว้ที่ รพ.แพทย์ปัญญาก่อน และในวันที่ 3 ก.ค. จะเคลื่อนศพไปที่วัดจักรวรรดิฯ เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ได้สรงน้ำ และทางคณะสงฆ์ของทางวัดจักรวรรดิฯ จะขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพด้วย และหลังจากนั้นจะตั้งศพไว้ที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติของวัดจักรวรรดิฯ เป็นเวลา 7 วัน ก่อนจะเก็บศพเป็นเวลา 100 วัน และจะมีการขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป
ประวัติพระพุทธิวงศมุนี เดิมชื่อบุญมา สุขสุด เกิดวันที่ 9 มี.ค. 2464 ที่ ต.ไร่ใต้ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี หลังจากจบการศึกษาระดับประถมศึกษา ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดโพธิ์ตาก อ.พิบูลมังสาหาร ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่วัดสมุหประดิษฐ์ จ.สระบุรี เมื่อ พ.ศ.2483 และย้ายมาที่วัดอนงคาราม เมื่อ พ.ศ. 2484 ก่อนย้ายมาอุปสมบทที่วัดจักรวรรดิราชาวาส และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2528 ส่วนสมณศักดิ์ พระพุทธิวงศมุนี ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2501 รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2507 รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2535 และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นรองสมเด็จพระราชาคณะ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2540

<Oที่มา : </O