พระพุทธองค์ ทรงประทานของขวัญวันแต่งงาน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บุญญสิกขา, 13 ตุลาคม 2009.

แท็ก: แก้ไข
  1. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]

    พระพุทธองค์ ทรงประทานของขวัญวันแต่งงาน


    ในสมัยพุทธกาล พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ในกรุงสาวัตถี
    <o></o>
    มารดาของกุมาริกาผู้หนึ่งได้จัดงานอาวาหมงคล คืองานมงคลสมรสในเรือนของตน ในวันมงคลได้นิมนต์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยหมู่ภิกษุสงฆ์

    <o></o>
    พระศาสดาอันหมู่แห่งพระภิกษุแวดล้อม ได้เสด็จไปในที่แห่งนั้น ประทับนั่งแล้ว หญิงผู้ที่เป็นเจ้าสาวในงานสมรสนั้นกระทำการบำรุงภิกษุ โดยกิจแห่งการกรองน้ำ เป็นต้น เพื่อหมู่แห่งภิกษุทั้งหลาย นางก็ได้เที่ยวไปๆ มาๆ บำรุงภิกษุอยู่ในที่แห่งนั้น
    <o></o>


    ฝ้ายเจ้าบ่าว ผู้เป็นที่ว่าสามีของนางได้ยืนแลดูนางแล้ว เมื่อเขาแลดูอยู่นั่นเอง ด้วยอำนาจแห่งราคะ คือกิเลสภายในย่อมฟุ้งซ่าน เขาถูกความหลงเข้าครอบงำ ย่อมกระทำให้ถึงความไม่รู้ตัว จึงไม่เข้าไปบำรุงพระบรมศาสดา ไม่บำรุงพระมหาเถระทั้ง ๘๐ ที่ตามเสด็จ คงได้แต่กระทำจิตคิดอยู่ว่า “เราจักเหยียดมือออกจับผู้ที่เป็นเจ้าสาวนั้น”


    [​IMG]
    <o></o>
    <o></o>

    พระบรมศาสดาทรงเล็งเห็นอัชฌาสัย ทรงกระทำอิทธิฤทธิ์ปิดบัง โดยอาการกระทำไม่ให้หนุ่มผู้เป็นบุรุษ ได้เห็นสตรีในที่แห่งนั้น ก็ในกาลนั้นเมื่อบุรุษหนุ่มแลไป ก็ไม่เห็นหญิงอันเป็นสตรีผู้เป็นที่รักนั้นแล้ว จึงได้แลเห็นพระบรมศาสดาในที่ๆ เขายืนอยู่นั่นเอง ขณะนั้นองค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสกับบุรุษที่ยืนอยู่ในที่นั่นว่า
    <o></o>

    แน่ะ ! ก็ชื่อว่าไฟ ประดุจเช่นดั่ง ไฟราคะ นั้น ย่อมไม่มี ,
    ชื่อว่าโทษ ประดุจดั่งเช่นกับ โทษ คือโทสะ ย่อมไม่มี ,
    ชื่อว่าทุกข์ ประดุจเช่นกับทุกข์ เพราะ การบริหารขันธ์ ย่อมไม่มี
    แม้สุข ที่ประดุจดังเช่น นิพพานสุข ย่อมไม่มีเหมือนกัน ” ดังนี้แล้ว
    <o></o>​

    พระองค์ทรงตรัสพระคาถาเป็นพระพุทธวัจนะ ดังนี้ว่า
    <o></o>

    “นัตถิ ราคสโม อคติ นัตถิ โทสสโม กลิ
    นัตถิ ขันธาทิสา ทุกขา นัตถิ สันติปรัง สุขัง
    “ไฟเสมอด้วยราคะ ย่อมไม่มี, โทษเสมอด้วยโทสะ ย่อมไม่มี,
    ทุกข์ทั้งหลาย เสมอด้วยขันธ์ ย่อมไม่มี, สุขอื่นจากความสงบ ย่อมไม่มี,
    (ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท สุขวรรค ๔๒/๒๕/๓๗๑)
    <o></o>​

    ในบทแห่งพระคาถาที่พระองค์ตรัสแสดงไว้ว่า ชื่อว่าไฟอื่นเสมอด้วยราคะไม่มี และโทสะนั้น ย่อมไม่มี ซึ่งความสามารถแห่งการปรากฏโดยความเร่าร้อนนี้ โดยอาการที่ไม่แสดงควัน อันปราศจากเปลวหรือถ่าน ย่อมลุกแต่ในภายในเท่านั้น ก็จักปรากฏโดยความพินาศแห่งผู้ถูกเผา คือ จิตนั่นเอง<o></o>
    <o></o>

    แม้โทษอื่นอันใด จะเสมอด้วยโทษ คือโทสะนั้น ย่อมไม่มีเพราะอกุศลกรรม คือปาณาติบาต เป็นต้น ที่เป็นกายทุจริตกรรมก็ล้วนแต่มีโทสะเป็นมูลราก ปรากฏโดยอาการทำร้าย ทำลายและเบียดเบียน สร้างความพินาศทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของ และผู้อื่นรอบข้างที่ต้องอาศัยฤทธิ์ที่เกิดจากโทสะนั้นๆ ทำความมอดไหม้เสียหายทั้งในอัตภาพนี้ และในอัตภาพหน้า

    <o></o>
    ชื่อว่า เปลวไฟ ที่เป็นความร้อนนั้น อันลุกโชนไปด้วยกองฟืน กองถ่าน หรือด้วยกองน้ำมัน ทำบุคคลเมื่อต้องเข้าถึงภัยแล้ว ก็ถึงที่สุดด้วยความร้อน ก็มีความตายเป็นที่สิ้นสุดในอัตภาพเดียว แต่ความตายอันเป็นความมอดไหม้โดยอาศัยโทษที่เกิดจากโทสะนั้น พึงทำสัตว์ทั้งหลายให้ไม้ในอัตภาพที่นับประมาณมิได้ อันได้แก่โทษในทุคติ วินิบาต นรก นั่นเอง<o></o>
    <o></o>

    พระคาถาที่พระองค์ตรัสแสดงไว้ว่า ชื่อว่าทุกข์อื่นเสมอด้วยขันธ์ทั้งหลาย ย่อมไม่มี ก็ขันธ์ ๕ ทั้งหลายนั้นแหล่ะชื่อว่าเป็นตัวทุกข์ บุคคลพึงยังอัตภาพให้อยู่ได้ ก็ด้วยการบริหารขันธ์ ดังนั้น ชื่อว่าทุกข์อย่างอื่นที่นอกจากขันธ์ทั้งหลาย ที่บุคคลพึงบริหารอยู่ ย่อมไม่มี<o></o>
    <o></o>

    พระพุทธองค์ตรัสแสดงว่า แม้สุขอื่นที่ยิ่งกว่าพระนิพพาน ย่อมไม่มีนั่น การเสวยความสุขจำแนกแล้วได้ ๒ ทาง คือกายิกสุข ได้แก่ ความสุขทางกาย และเจตสิกสุข ได้แก่ ความสุขทางใจ เมื่อความสุขทางกาย กับความสุขทางใจ ซึ่ง ความสุขทั้งสองนี้ ยังไม่พ้นไปจากกองแห่งขันธ์ แต่พระนิพพานเป็นธรรมที่พ้นไปจากสังขตธรรม เป็นสันติสุข ไม่มีสุขอื่นใดยิ่งกว่า<o></o>

    <o></o>
    พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโดยวาระแห่งฤทธิ์ กระทำให้บุรุษผู้เป็นเจ้าบ่าว มิให้แลเห็นซึ่งนางกุมาริกาได้ เพื่อจะได้ให้มีจิตใส่ใจในการฟังธรรมเหล่านั้นได้ ซึ่งในขณะที่ฝ่ายบุรุษกำลังสดับกระแสแห่งพระธรรม ฝ่ายสตรี คือ นางกุมาริกาผู้เป็นว่าที่เจ้าสาว ก็กำลังสดับพระธรรมพร้อมกันไปด้วย ก็เขาเหล่านั้นต่างฝ่ายต่างมิได้เห็นซึ่งกันและกัน ด้วยอำนาจแห่งอิทธิฤทธิ์ที่พระพุทธองค์ทรงบันดาล ต่างก็น้อมใจพิจารณาเนื้อความไปตามกระแสแห่งพระธรรม ในกาลที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงจบการแสดงพระธรรมเทศนานั้น เขาทั้งสองก็บรรลุเป็นพระอริยบุคคล ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล
    <o></o>
    พระพุทธองค์ทรงคลายอิทธิฤทธิ์ ทรงกระทำอาการให้ทั้งคู่เห็นซึ่งกันและกันตามปกติ พระพุทธองค์ทรงประทานของขวัญประทานในวันแต่งงาน ที่มีค่าอันสูงสุดแห่งสัมโมทนียกถา คือ การแสดงพระธรรมเทศนา

    [​IMG]<o></o>
    <o></o>

    พระองค์ทรงพระประทานอมฤตธรรมอันสูงสุด ให้กับคู่บ่าวสาวได้ดื่มกิน ได้แก่ พระนิพพาน ทรงพระประทานสมบัติอันสูงสุดอันมิใช่สมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ มิใช่ทองคำ แก้วมุกดา แก้วประพาฬ แก้วอินทนิล หรือแก้วมณี แต่เป็นโลกุตตรสมบัติ ให้แก่คู่อวาหมงคลทั้งสองได้เสวย ดังนี้แล<o></o>
    <o></o>

    บุญญสิกขา พิมพ์คัดลอกเป็นธรรมทาน<o></o>
    จาก หนังสือ “บทสวดมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร มหาราชปริตร พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์<o></o>
    เรียบเรียบโดย คุณสุนัฐชา ฉายาวัฒนะ (กลุ่มเพื่อนร่วมธรรม)<o></o>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 01.jpg
      01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.9 KB
      เปิดดู:
      2,450
    • DSC04141.JPG
      DSC04141.JPG
      ขนาดไฟล์:
      73.1 KB
      เปิดดู:
      3,098
    • ประทานพร.JPG
      ประทานพร.JPG
      ขนาดไฟล์:
      26.3 KB
      เปิดดู:
      3,566
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2009
  2. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    มิตรไมตรี แปลว่าเพื่อนผู้ยิ่งใหญ่

    มิตรไมตรี เป็นกัลญาณมิตร เพื่อนผู้เดินทางไกลของหมู่สัตว์ทุกผู้ทุกนาม ไม่ได้สำคัญตนว่า

    ประเสริฐกว่า เสมอหรือด้อยกว่าผู้ใดเลย

    การใช้ชีวิตและความเชื่อที่ได้กล่าวไว้นั้น เป็นทางแห่งกัลญาณมิตรแท้ๆ เพราะไม่ได้เกิดมาเพื่อ

    เป็นศัตรูใครจึงได้ชื่อมิตรไมตรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 12.jpg
      12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      14.1 KB
      เปิดดู:
      113
  3. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    "เจริญธรรม" เพื่อทุกดวงจิต นะคะ :)
    ด้วยสถานภาพ ภราดรภาพ เท่าเทียม ท่ามกลาง ตลอดเส้นทาง แห่งการเดินทาง ...
    กราบขอบพระคุณ ปิยะมิตร

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B5.206527/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ตุลาคม 2009
  4. วิมลรัตน์

    วิมลรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +302
    เป็นบุญวาสนาของผู้ที่ได้อ่านพระคาถา จริงๆ
    ขออนุโมทนากับผู้ที่เผยแผ่พระธรรมคำสอนนี้
     
  5. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    โชคดีที่สุดในโลก จริงๆๆ
     
  6. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    ขอบคุณจ๊ะแม่บุญญฯ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ (แล้วจะกลับมาอ่านนะคะ)
     
  7. Blue.star

    Blue.star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +259
    ปรารถนายิ่งนักคือ นิพพานแล ^_^ สุขใดไม่จะเป็นดั่งนี้
     
  8. อิทธิปาฏิหาริย์

    อิทธิปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,834
    ค่าพลัง:
    +1,472
  9. clearlove

    clearlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +644
    อนุโมทนาสาธุครับ
    แต่ยังไม่ไช่ครับถ้าว่างและไม่ลืมจะหาชื่อมาบอก ประวัติพระอรหันต์องค์นี้หน้าสนใจมากครับ
    ถือธุดงเป็นหลัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กุมภาพันธ์ 2010
  10. su37berkut

    su37berkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,121
    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง สำหรับธรรมทานที่มอบให้ครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...