พระพุทธรูปหรือเครื่องรางของขลังเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ทำไมเมืองไทยถึงมีปัญหามากมาย

เคยสงสัยเหมือนผมใหมว่า
ทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยเรามีพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมากมาย เครื่องรางของขลังเต็มบ้านเต็มเมือง จะว่าไปก็เกือบทุกคน แล้วทำไมคนไทยหรือประเทศไทยจึงมีแต่ความเดือดร้อน มีพายุ คลื่นยักษ์ มีมรสุม น้ำท่วม ไฟป่า เข็นฆ่ากันทุกวัน เดือดร้อนกันไปทั่ว แล้วเครื่องรางต่าง ๆ ได้ช่วยเหลืออะไรคนไทยบ้าง

 

ผมว่า ช่วยคุณ ธาตุสี่ ก่อนดีกว่า เพราะเอาพระพุทธรูปมาอ้าง ว่าทำไมบ้านเมืองถึงเดือดร้อน
ทั้งที่มีพระพุทธรูปเครื่องรางของขลังเต็มบ้าน
พระพุทธรูปเป็นองค์แทน ในคุณความดีอันหาที่สุดประมาณมิได้ ท่านไม่มาเกี่ยวข้องกับกรรมของคนอื่น
แต่ที่เดือดร้อนกันอยู่ทุกวันนี้ เพราะสัตว์โลกสร้างกรรมชั่วมาก กว่ากรรมดี
กรรมมันจึงตามสนองให้เดือดร้อนกันไปทั่ว กรรมใครกรรมมัน ใครทำกรรมอะไรไว้ ก็ได้รับผลของกรรมนั้น
แล้วใครจะไปห้ามกฎของกรรมได้ล่ะคุณ แม้แต่พระพุทธองค์เมื่อครั้งทรงขันธ์ห้าอยู่ ท่านก็ยังโดนกรรมเล่นงานอยู่เลย
แล้วทำไมปุถุชนอย่างเราๆมีอกุศลกรรมมากมาย จะไม่เดือดร้อนล่ะท่าน ยอมรับกฎของกรรมเถอะน่า คุณธาตุ4 คร้าบบบ

 

สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม ใครทำชั่วก็ได้ผลชั่วแน่ ใครทำดีก็ได้ดีแน่ ตอนนี้ก็ทนๆไป
ก่อนก็แล้วกัน กับสภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และเรื่องอื่นๆ ต่อไปประเทศไทย
จะเจริญแน่ ไม่ควรนำเอาพระรัตนตรัยมาอ้างโน่นอ้างนี้นะครับ เพราะท่านเป็นสิ่งที่
อยู่สูง จะได้บาปไม่รู้ตัว

 

ประชากรในเมืองไทยมีหลายสิบล้าน แต่มีกี่ล้านที่มรับธรรมมะของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ ทุกวันบ้านเมืองถึงไดวุ่นวายอย่างนี้

 

เคยได้อ่านคำๆหนึ่งในเว็ปพลังจิตนี่ล่ะค่ะที่ว่า'ของดีไม่มีเสื่อม ใจคนต่างหากที่เสื่อม' แล้วก็ไม่มีอะไรศักดิ์สิทธิ์เกินกรรม (แต่ละประโยคจำเขามาทั้งน้าน 555+)

 

แก้ไขๆคับ ของดีไม่มีเสื่อม ใจคนต่างหากที่เสื่อม ถูกแล้วคับ เป็นคำพูด( ไม่รู้พระอรหันต์ใช้คำว่า "คำพูด"ป่าวนะคับ ) ของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแกคับ
แต่ ไม่มีอะไรศักดิ์สิทธิ์เกินกรรม ผมว่าผิดแล้วหล่ะคับ เพราะที่จริงคำพูดพระท่านว่า ไม่มีใครจะใหญ่เกินกรรม คับ(พระพุทธเจ้าก็ยังทรงต้องชดใช้กรรมคับ) ดังนั้น ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม ไม่ใช่ ไม่มีอะไรศักดิ์สิทธิ์เกินกรรม เพราะสิ่งที่สักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือ พระรัตนตรัย คับผม

ปล.พิมผิดขออภัยด้วยนะคับ

 

...แต่ก่อน ก็ เคย สงสัย แบบนี้ แหล่ะครับ....แต่หลายสิบปีมาแล้ว.. ความสงสัย ก็ค่อยๆ มลายหายไป....เดี่ยวนี้ แม้แต่เศษเสี้ยว ของความสงสัย ก็ไม่มีแล้ว....555-000

 

ท่านธาตุ 4 ครับ..ตอบคำถามผมก่อนนะท่านว่า..พลังพุทธานุจะคุ้มครองคนดีรึว่าคนชั่ว....แล้วเดี๋ยวผมจะตอบให้ท่านหายสงสัยเลย...ผมเคยสงสัยมากกว่าท่านอีกครับ...มาวันนี้ไม่แล้วครับ..ไม่มีวิจิกิจฉาแล้ว

 

ควรแยกแยะเรื่องกรรมให้ถูกต้อง

 

ของคู่กัน

 

ใครจะใหญ่เกินกรรม

 

เห็นด้วยกับทุกท่านว่าเป็น กรรม...
แต่ยังดีที่ชาวไทยยังมีที่พึ่งพิงทางใจ ไม่ว่าจะเป็นธรรมะของพระพุทธองค์
หรือรูปเคารพแทนพระพุทธองค์ มีที่พึ่งทางจิตที่ถูกต้องทำให้สบายใจได้ใน
ส่วนหนึ่ง...ดีกว่าเคว้งคว้างหาที่พึ่งมิได้...

 

ขอตอบเจ้าของกระทู้ดังนี้ครับ

ถาม : พระพุทธรูป หรือเครื่องรางของขลังเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ทำไมเมืองไทยถึงมีปัญหามากมาย

ตอบ : เรื่องการกราบบูชาพระพุทธรูป เครื่องรางของขลัง กับเรื่องบ้านเมืองวุ่นวายเดือดร้อน เช่น มีพายุ, คลื่นยักษ์ มีมรสุม น้ำท่วม ไฟป่า เข็นฆ่ากันทุกวัน ฯลฯ ทั้งสองเรื่องนี้ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกันบางส่วนเท่านั้น แต่ไม่ใช่เกี่ยวข้องกันทั้งหมดนะครับ

เพราะเนื่องจากว่า เหตุการณ์วุ่นวายที่คุณยกตัวอย่างมานั้น จะมีสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นได้หลายอย่าง การบูชาพระพุทธรูป หรือเครื่องรางของขลังนั้นไม่ใช่เหตุผลหลักโดยตรงเลย...

ความวุ่นวายที่คุณบอกมา หากจะแยกออกเป็นประเภทจะได้ ๒ ประเภท คือ ความวุ่นวายเกี่ยวกับบุคคล ๑ ความวุ่นวายไม่ใช่บุคคล ๑

วุ่นวายของบุคคล
- - - - - - - - - - - - -
ความวุ่นวายของบุคคลนี้ มีสาเหตุเกิดมาจาก "กิเลส" ในใจคนนั่นแหละครับ ยิ่งคนเรามีกิเลสในใจมากเท่าไร ยิ่งวุ่นวายเท่านั้น ตรงกันข้ามหากมีกิเลสน้อยลงเท่าไร ความวุ่นวายก็จะน้อยลงเท่านั้น เพราะคนที่มีกิเลสน้อย มีตัณหาน้อย ความทะยานอยากก็จะน้อย และจะมีความดีมากแทน จะมีศีลมีธรรม เมื่อมีศีลมีธรรม ก็จะไม่ฆ่ากัน ไม่เบียดเบียนกัน เท่านี้ความวุ่นวายก็จะไม่เกิดขึ้นครับ

ความวุ่นวายไม่ใช่บุคคล
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
ความวุ่นวายที่ไม่ใช่บุคคล เช่น มีพายุ, คลื่นยักษ์ มีมรสุม น้ำท่วม ไฟป่า เป็นต้น เราต้องยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีมาแต่ในปัจจุบันนี้เท่านั้น แต่มีมาก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนจะมีการบูชาพระพุทธรูป ก่อนจะมีเครื่องรางของขลังอย่างในทุกวันนี้เสียอีก และไม่ได้มีในประเทศเรา มีกันทั่วโลก...

เพราะว่าเหตุต่างๆ เหล่านี้สาเหตุไม่ได้เกิดจากพระพุทธรูป เครื่องราง หรือแม้แต่เกิดมาจากบุคคลเท่านั้น ยังมีสาเหตุมาจากกฏธรรมชาติอย่างอื่นๆ ด้วย เช่น สภาพดินฟ้าอากาศ, การโคจรของโลก, การหมุนเวียนของดวงจันทร์ เป็นต้น ซึ่งธรรมชาติต่างๆ เหล่านี้จะมีผลต่อสภาพแวดล้อมได้ครับ แต่ไม่ใช่ว่ามนุษย์จะไม่เกี่ยวข้องเลย มนุษย์เองก็เกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน เพราะมนุษย์ก็อยู่ในกฏธรรมชาติ โดยเฉพาะทุกวันนี้ มนุษย์เป็นตัวการหลักเลยที่ไปปรุงแต่ง เร่งเร้าให้เกิดความเสื่อมขึ้นในโลก และธรรมชาติ เร่งเร้าให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ มากมาย

สรุป
- - -
การบูชาพระพุทธรูป และเครื่องรางของขลังไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดความวุ่นวายในทุกวันนี้ แต่กิเลส ความชั่วที่มีอยู่ในใจคนต่างๆ ที่ทำให้ความวุ่นวายที่เดิมมีอยู่แล้ว เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น

การบูชาพระพุทธรูป นั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าผู้บูชาควรจะบูชาอย่างชาวพุทธ คือบูชาด้วยปัญญา ทำให้เป็นพุทธานุสติ หรือให้ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า อย่าไปบูชาเพื่ออ้อนวอนขอลาภผล อิทธิฤิทธิปาฏิหาริย์ เพราะว่าหากบูชาอย่างนั้น ไม่ได้เป็นการบูชาอย่างชาวพุทธ เพราะยิ่งบูชาไปตนเองกลับมีกิเลสเพิ่มมากขึ้น ติดเปลือกเพิ่มมากขึ้นได้ แต่หากบูชาอย่างพุทธแล้ว จะยิ่งทำให้ชีวิตนั้นเจริญก้าวหน้า ได้รับประโยชน์ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า เข้าถึงแก่นแท้ได้ครับ

การบูชาเครื่องรางของขลังต่างๆ เราจะต้องใช้ปัญญาพิจารณาด้วยว่าเราควรบูชาจริงหรือไม่ และต้องดูเจตนาของเราด้วยว่าเราบูชาเพื่ออะไร ทำไปเพื่ออะไร เพราะบางอย่างไม่ใช่พุทธศาสนา เราไม่จำเป็นต้องบูชาก็ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วผู้บูชาแทนที่จะได้รับคุณกลับได้โทษ เกิดสีลัพพตปรามาส มิจฉาทิฐิขึ้น อันนี้ต้องระวังเลยครับ

ตอบเพียงเท่านี้ครับ

ขอให้เจริญในธรรม

 

ขอตอบเจ้าของกระทู้เพิ่มเติม

ประเด็นที่ตอบไปเป็นมุมมองในด้านของผู้ที่บูชาพระพุทธรูป และผู้ที่บูชาเครื่องรางของขลังเท่านั้น แต่แท้จริงยังมีอีกด้านหนึ่งที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างกลางระหว่าง พระพุทธรูป(รวมพระเครื่อง) เครื่องรางของขลังฝ่ายหนึ่ง กับผู้บูชาอีกฝ่ายหนึ่ง ได้แก่ ผู้สร้างพระพุทธรูป หรือผู้ทำเครื่องรางของขลังนั่นเอง ณ ที่นี้ขอพูดเฉพาะประเด็นของการสร้างพระพุทธรูป และพระเครื่องเท่านั้น เครื่องรางของขลังพึงประยุกต์เอาจากเนื้อความนี้ได้เหมือนกัน

หากมุ่งเน้นให้เห็นความวุ่นวายของสังคม โดยเฉพาะวิกฤตของศรัทธา วิกฤตของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยเราแล้ว ผู้สร้างพระพุทธรูป หรือพระเครื่อง(รวมเครื่องรางของขลัง) มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่มากทีเดียว...

คือ หากผู้ที่ทำการสร้างนั้นสร้างด้วยมุ่งเน้นพุทธพานิช มุ่งเอาเงินแล้ว จะทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสีย และเกิดความวุ่นวายขึ้นในพุทธศาสนาได้ ดังนั้นหากเป็นในมุมมองของผู้สร้างอย่างนี้ อาจกล่าวแบบเข้าใจของชาวบ้านหรืออย่างเจ้าของกระทู้ได้ว่า "พระพุทธรูป(พระเครื่อง) เครื่องรางของคลัง ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในสังคมได้" แต่จริงๆ ก็หาใช่เป็นที่พระพุทธรูป หรือเครื่องรางของขลังโดยตรงอีกนั่นแหละสาเหตุมาจากคนสร้างที่ทำเป็นพุทธพาณิชต่างหาก ยกตัวอย่างเช่น สมัยที่มีกระแสจตุคามรามเทพนั่นเอง

ดังนั้นผู้สร้างพระถ้าจะให้งดงามควรจะเป็นฆราวาส ที่สร้างไม่ใช่มุ่งเป็นธรุกิจ มีการปั่นราคาพระ แต่มีเจตนาเป็นไปเพื่อให้คนนำไปบูชาเป็นพุทธานุสติ แต่ไม่ใช่หลอกตนเองว่าให้เขานำไปเป็นพุทธานุสติแต่จริงๆ เรามุ่งหวังเอาเงิน เก็งกำไร ตรงกันข้ามหากจะเป็นพระสงฆ์ หากไม่สร้างได้ก็จะดี เพราะมีพระวินัยบัญญัติเอาไว้ว่าใน "มหาศีล" และ "ติรัจฉานวิชา" และ "อาบัติอื่นๆ" แต่หากจะสร้างก็ไม่ควรจะทำพิธีปลุกเสกอะไร สร้างไปก็ให้เปล่าไม่ควรรับเงินหรือสิ่งของเป็นการตอบแทน เป็นการแจกฟรีให้กับลูกศิษย์ไป แล้วลูกศิษย์เองเมื่อได้รับพระไปก็มิใช่นำไปขายต่อ ไปปั่นราคา ควรจะห้ามขาย เพราะตนเองก็ได้มาเปล่าเช่นกัน

การเริ่มง่ายๆ แบบนี้จะเป็นสายกลาง แก้ไขปัญหาได้ระดับหนึ่ง ความวุ่นวายที่เกิดจากพุทธพาณิชที่เป็นอย่างทุกวันนี้จะลดน้อยลงไปได้ครับ

พระพุทธเจ้าทรงได้ตรัสทำนายเอาไว้แล้ว ว่าอนาคตกาลคือปัจจุบันนี้จะมีการขายพระธรรมอันมีค่าเพื่อแลกรูปียะ(เงิน) เราจะต้องคิดให้ดีก่อนจะทำอะไร

ลาภผลปัจจัยจะบังเกิดขึ้นแก่วัดต่างๆ ได้เอง โดยไม่ต้องขอ หรือเรี่ยไร หรือขายสิ่งใดๆ จากวัดเลย หากสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีแก่พุทธศานิกชน และให้พุทธศานิกชนรู้ว่าปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วเขาจะเกิดประโยชน์ เจริญก้าวหน้าในชีวิตจริงๆ อย่างไร

ขอให้เจริญในธรรม

 

*** สังคมไทย ปัญหามาก ****

เพราะ ....คนไทย
ขาดสัจจะทำ...ตัด ลด ทอน นิสัยตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เมืองไทยมีปัญหาน้อยที่สุดแล้ว
อาหารการกินอุดสมบูรณ์ ที่อื่นอดตายกัน
หนาวก็ไม่มาก ร้อนก็พอทนได้
ของที่อื่นเข่นฆ่ากันยิ่งกว่าของไทยมากนัก

 

เห็นด้วยกับทุกท่านครับ...
พระพุทธรูป หรือเครื่องรางของขลัง ดีอยู่แล้ว แต่ใจคนต่างหากที่เสื่อมจึงทำให้ทุกอย่างเสื่อม...มาร่วมกันทำความดีทั้งกายและใจเถอะครับ.....