พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    1377. ศิษย์ที่สืบทอดวิชาจากหลวงพ่อใหญ่ หรือหลวงพ่อห้อง วัดช่องลม เหรียญอายุ 80 ปี หลวงพ่อเปาะ วัดช่องลม จังหวัดราชบุรี ปี 97 หรือ เหรียญรุ่น 3 ใหบูชา 1450 บาท



    upload_2023-1-30_16-28-29.png


    upload_2023-1-30_16-32-57.png

    ปี พ.ศ. ๒๔๙๗

    ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ หลวงพ่อเปาะ ได้มีอายุครบ ๘๐ ปี ทางคณะศิษย์จึงได้จัดงานฉลองอายุของหลวงพ่อเปาะ และได้มีการสร้างเหรียญวัตถุมงคลเพื่อเป็นที่ระลึกในงานดังกล่าว สามารถแบ่งออกเป็นดังนี้คืิอพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก โดยทั้ง ๒ ชนิดมีรายละเอียดที่คล้ายกันแตกต่างกันเล็กน้อย

    เหรียญเสมาใหญ่หลวงพ่อเปาะ วัดช่องลม รุ่น ๓

    สร้างในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ เพื่อแจกให้กับผู้ที่บริจาคทรัพย์ให้กับทางวัด และแจกในงานงานฉลองอายุ ๘๐ ปี ของหลวงพ่อเปาะ ลักษณะเป็นเหรียญเสมาขนาดทั่วไป มีหูในตัว สร้างด้วยเนื้อทองแดง มีทั้งที่เป็นผิวไฟ และกระไหล่ทอง ถือเป็นเหรียญรุ่น ๓ ของหลวงพ่อเปาะ
     
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    1378. เหรียญพระธาตุพนม ปี 94 ทองแดง หลังพระครูวโรวรัตโนบล (หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง) จ.นครพนม ให้บูชา 1450 บาท


    upload_2023-1-30_17-43-17.png

    เหรียญพระธาตุพนม ปี 2494 เนื้อทองแดง หลังพระครูวโรวรัตโนบล (หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง) จ.นครพนม (หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ เป็นผู้ปลุกเสก)
     
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    1379. ล็อกเก็ตหลวงพ่อกวยชุตินธโร หลังมรรจุมวลสารมงคลมากมาย ปิดรายการครับ


    upload_2023-1-30_18-4-5.png
    เพื่อร่วมบูรณะวัดในสายวิชาของหลวงพ่อกวย มีวัดสุวรรณเจดีย์ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นปฐมกิจ
    ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุวรรณฯ (พระสุวรรณศีลาจารย์) เป็นศิษย์เรียนวิชาจากหลวงพ่อกวยโดยตรง ที่คนยังไม่ค่อยทราบกัน หลวงพ่อกวยเรียกหลวงพ่อเสงี่ยมว่า "พระลิเก" เสมอทุกคราวไป เพราะเป็นอาชีพพื้นเพเดิมของหลวงพ่อเสงี่ยม หลวงพ่อเสงี่ยมท่านมีดีไม่น้อย อีกทั้งรู้กาลมรณภาพของตนล่วงหน้านาน และบอกไว้ทุกคน ไว้วันหลังจะมาเล่าให้ฟัง
    ล็อกเก็ตชุดนี้ จะมีสัญลักษณ์ของวัดสุวรรณเจดีย์ เพื่อแยกชัดว่าออกจากที่ใด
    มวลสารที่บรรจุด้านหลัง เป็นมวลสารนับพันรายการ ชุดเดียวกับที่บรรจุล็อกเก็ตหลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ ซึ่งนอกจากมีพระที่หลวงพ่อกวยร่วมเสกหนึ่งกำมือ พระแหวกม่านพิมพ์(ต้อ)ใหญ่ ปี ๒๕๑๕ พระแหวกม่านชุดลงกรุ(จากพระอาจารย์ตั้ว ที่พักสงฆ์ซับลำใย) เป็นต้น อัฐิหลวงปู่ศรี ก็มีผสมไปเล็กน้อย ผงดินสอสมเด็จโต ได้จากวัดระฆัง ก็ใส่ไป ได้ผงสมเด็จโตของหลวงพ่อกวยอีก
    ยังได้เพิ่มมวลสาร
    1.พระที่หลวงพ่อกวยร่วมเสกพิธีหมู่ลงไปอีกกำมือหนึ่ง
    2.ผงสมเด็จโตที่หลวงพ่อกวยใช้สร้างพระ
    3.ผงและทรายเสกของหลวงพ่อกวย
    4.พระของหลวงพ่อกวย สารพัดพิมพ์ สารพัดรุ่น น้ำหนัก 2 กิโลกรัม ที่พระอาจารย์สมจิต วัดบึงลาดสวาย นำมา ซึ่งเป็นพระแท้ตามมาตรฐานวงการ แหล่งที่มาเชื่อถือได้ เอ่ยชื่อไปก็รู้จักกันดีพอควร
    5. พระหลวงปู่ทวดเนื้อโขลก และพระกลางลาน ของหลวงปู่ดู่วัดสะแก (เดิมมีผงพระของหลวงปู่ดู่อยู่แล้ว หลายอย่าง)
    6. พระสมเด็จแตกหัก อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร (เติมอีก)
    7. ผงกรุวัดสัมฤทธิ์ (เติมอีก) ผงกลับดวง(เติมอีก)
    8. สารพัดผง ผู้อุดล็อกเก็ต กรุณาเติมให้อีก

    แอดมินมีโอกาสได้ผง เกศา และทรายเสก ไว้ครอบครอง ด้วยเหตุที่
    ปี ๒๕๔๑ หรือ ต้นปี ๒๕๔๒ ไม่แน่ใจ ได้รับเกศาหลวงพ่อกวย จากพระอาจารย์ตั้ว ที่พักสงฆ์ซับลำใย
    ปี ๒๕๕๒ ได้ร่วมช่วยแรงงานทำวัตถุมงคล ถวายวัดโฆสิตาราม ได้เกศา ผง และทรายเสก
    ปี ๒๕๖๒ ศิษย์หลวงพ่อเห็นความตั้งใจ ให้เกศา มาจำนวนมาก แอดมินจึงมีวาสนาได้เกศาหลวงพ่อ สามครั้ง ซึ่งในการสร้างครั้งนี้ ก็ได้รับทรายเสกและผงของหลวงพ่อกวย จากบุคคลเชื่อถือได้นอกวัดโฆสิตาราม มาเพิ่มอีก
    (ขอให้ปี ๒๕๗๒ ได้อีกครั้งก็แล้วกัน ไม่โลภเลย)

    ทรายเสกแตะกดให้เห็นทุกองค์ พระชำรุดตั้งใจบดไม่ละเอียดให้เป็นลิ่ม หายสงสัย
    การนำเสก พร้อมกับล็อกเก็ตหลวงปู่ศรีทุกประการ และได้นำเสกในงานพุทธาภิเษก ของวัดไร่ จังหวัดอ่างทอง โดยหลวงพ่อสมศักดิ์ วัดการเปรียญ เพิ่มอีกหนึ่งครั้ง (ท่านนี้ก็ร่วมสายวิชา ที่หลวงพ่อกวยใช้ประจำ)

    ล็อกเก็ตรุ่นนี้แอดมินบรรจุเกศาเอง โดยบรรจุไม่มากน้อยไปกว่ากัน อยู่ใต้ผ้าห่มพระพุทธเมตตาจากอินเดีย ที่แปะไว้ดังรูป มองเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง ตั้งใจบังไว้ด้วยผ้า

    การเสก ล็อกเก็ตสิ้นสุดลงแล้ว งานพุทธาภิเษกใหญ่ต้นเดือนสิงหาคม โดยพระคณาจารย์กว่าสี่สิบท่าน
    รายการผู้อธิษฐานจิตและพิธี มีดังนี้
    1. พระอาจารย์ปั่น จันทาโภ วัดเนินมหาเชษฐ์ จ.สุพรรณบุรี
    2. พระอาจารย์พิจารย์ วิจารโณ วัดโพธิ์ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
    3. พระอาจารย์สมเพ็ชร อุปกาโร วัดบางจักร จ.อ่างทอง
    4. พระอาจารย์สราวุธ(ปืน) ปัญญาวุโธ วัดลาดชะโด จ.พระนครศรีอยุธยา
    (เสกพร้อมสีผึ้งเทวดาหุง ที่เพิ่งหุงเสร็จ ณ ขณะนั้น โดยบังเอิญ)
    5. พระอาจารย์สมจิต คุณกโร วัดบึงลาดสวาย จ.นครปฐม
    6. พระอาจารย์เอราวัณ อติวีโร พุทธอุทยานธรรมโกศล จ.ปทุมธานี
    7. พระอาจารย์ปกาศิต อภิลาโส วัดหลักสาม กรุงเทพมหานคร
    8. พระธรรมธีรราชมหามุนี (หลวงพ่อเที่ยง อคฺคธมฺโม ป.ธ.9) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพมหานคร ได้กรุณาให้วางไว้บนหัวนอนของท่าน สวดเสกให้ทุกคืน
    9. พิธีพุทธาภิเษกวัดดอนเนรมิต จ.ชัยนาท (เหรียญพระพรหม รุ่นสมปรารถนา) โดย หลวงปู่ตี๋ ปวโร พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ พระอาจารย์วิชัย วัดหัวเด่น หลวงพ่อเจ้าคุณสมชาย วัดปริวาสฯ
    10. พระอาจารย์ส่วน (พระครูวิริยโสภิต) เจ้าอาวาสวัดพระปรางค์ จ.สิงห์บุรี เชิญหลวงปู่ศรีอำนวยพร
    11. เชิญ หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท อำนวยพร
    12. พ่อท่านผอม ถาวโร สำนักปฏิบัติธรรมถาวโร (สังกัดวัดไทรขาม) จ.นนทบุรี
    13. พิธีพุทธาภิเษกวัดไร่ จ.อ่างทอง โดยพระอาจารย์แม้น วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา (ชั่วโมงเศษ)
    14. พระอาจารย์สมศักดิ์ ปาสาธิโก วัดการเปรียญ จ.ชัยนาท
    15.พิธีพุทธาภิเษกและทำยาจินดามณี วัดสิรินธรเทพรัตนาราม ในพระราชูปถัมภ์ จ.นครปฐม 16.พิธีพุทธาภิเษกวัดไร่ จ.อ่างทอง โดยพระอาจารย์สมศักดิ์ ปาสาธิโก วัดการเปรียญ จ.ชัยนาท
    17. เชิญหลวงพ่อกวยอำนวยพรอีกครั้ง ที่หน้ารูปหล่อหลวงพ่อ ณ วัดโฆสิตาราม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2023
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    1380.พระดีพิธีใหญ่ พระผงพิมพ์วัดสามปลื้ม ที่ระลึกงานฉลองศาลาการเปรียญ พ.ศ.2509-2513 ให้บูชา 650 บาท



    upload_2023-1-30_19-58-44.png

    1370003-52422.jpg

    วัดจักรวรรดิราขาวาส พระนคร เดิมเป็นวัดราษฏร์นามว่า วัดสามปลื้ม มีมาแต่สมัยอยุธยาจนมาประมาณปี๒๓๖๒-๒๓๖๓ ท่านเจ้าพยาบดินทรเดชา ร่ามกับบุตรชาย ดำเนินการสร้างวัดถาวรวัตถุต่างๆขึ้นใหม่ตลอดทั้งวัดเสร็จแล้วได้น้อมเกล้าถวายเป็นพระอารามหลวงต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๓เมื่อพ.ศ.๒๓๖๘และได้พระราชทานนามใหม่ว่า วัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท
    ต่อมาเมื่อปี๒๕๑๑ กาลเวลาผ่านไปถาวรวัตถุและเสนาสนะต่างๆภายในพระอารามได้ทรุดโทรมลงมากตามอายุขัยท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ เจ้าอาวาสในสมัยนั้นสมเด็จธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสรูปที่๑๓ และคณะสงฆ์ได้วางโครงการปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุต่างๆไว้เป็นขั้นๆ
    ทางวัดจึงได้สร้างพระผงพิมพ์วัดสามปลื้มขึ้น๔ พิมพ์คือ พิมพ์เศียรโล้น พิมพ์พระประธานพิมพ์กลีบบัว และพิมพ์พระประธานเล็ก โดยนำผงเก่าของวัดที่ ได้เก็บรักษาไว้เอามาผสมกับผงว่าน ๑๐๘เกสร ๑๐๘ และผงศักดิ์สิทธ์อีกมาก ปรากฏว่าเป็นที่นิยมต้องการของประชาชน โดยประชาชนได้บูชาไปจนหมด
    ต่อมา พ.ศ. ๒๕๑๓ ทางวัดได้ปราภงานฉลองศาลาการเปรียญที่สร้างขึ้นใหม่แทนหลังเก่า เริ่มตั้งแต่วันที่๖-๑๐ พฤษภาคม รวาม๕วัน๕คืน จึงได้สร้างพระพุทธรูปพระบูชาและพระพิมพ์ต่างๆของสำนักขึ้นเป็นที่ระลึกในการบรูณะพระอาราม ในโอกาสฉลองศาลาการเปรียญเพื่อให้ประชาชนได้นำไปบูชาสืบไป
    พระผงพิมพ์วัดสามปลื้ม ทางวัดได้รวบรวมผงเก่าของวัด ซึ่งคณะตระกูล "สิงหเสนึ" หลายท่านได้เก็บรักษาไว้เช่น คุณหญิงเจือ นครราชเสนี เป็นตัน นำมาถวายและได้รวมกับผงเก่าที่ทางวัดมีอยู่ รวมทั้งผงที่ได้จากพระคณาจารย์ทั้งจากภาคเหนือ ภาคตะว้นออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลางนี้ นำมาผสมกับผงว่าน ๑๐๘ เกสร๑๐๘ สร้างขึ้นอีก โดยอาศัยพิมพ์เดิม แต่สร้างประณีตขึ้นกว่าเดิม คือ
    ๑พิมพ์-เสียรโล้น
    ๒ พิมพ์-พระประธาน
    ๓ พิมพ์-กลีบบ้ว
    ๔ พิมพ์-พระประธานเล็ก
    นามพระสมณศักดิ์เจริญหระพุทธมนต์และพระคณาจารณ์ผู้ทรงคุณนั่งปรก เนื่องในพิธีพุทธาภิเษกปลุกเศกพระบูชา พระพิมพ์เหรียญ และผ้ายันต์ ของวักสำนักวัดจักรวรรดิราชาวาส(วัดสามปลื้ม)พระนครณ พระอุโบสถวัดจักรวรรดิราชาวาส
    วันอังคารที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๑๓เวลา ๑๘.๐๐ น.
    เจริญพระพุทธมนต์
    ๑ พระเทพสุธี วัดอนงคาราม
    ๒ พระเทพคุณาภรณ์ วัดสระเกศ
    ๓. พระราชบัญญามุนี วัดจักรวรรดิราชาวาส
    ๔. พระคุณาจารว้ตร วัดราชบุรณะ
    ๕. พระสิรินันทมุนี วัดบพิตรพิมุข
    ๖. พระวิสุทธิสารโสภณ วัดคณิกาผล
    ๗. พระครูชัยโสภณ วัดชัยชนะสงคราม
    ๘. พระครูโกมุกสรคุณ วัดสระบัว
    ๙. พระครูโสภณธรรมาจารย์ วัดดาวดึงษาราม
    ๑๐, พระครูสมุห์อนุสรณ์ วัดมหาวงษ์

    เจริญพุทธาภิเษกพระเจริญพุทธาภิเษก เบ็นพระพิธีธรรมของคณะวัดพระเชตุพน วัดมหาธาตุ และวัดจักรวรรดิราชาวาส ได้เจริญพุทธาภิเษกและทิพมนต์จนเสร็จพิธี เวลา ๑๙.๐๐ น.นั่งปรก
    ๑. พระราชสิทธิมุนี วัดมหาธาตุ
    ๒. พระราชมุนี วัดปทุมวนาราม
    ๓ พระรักขิตวันมุนี วัดป่าเลไลก์
    ๔. พระโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิตร
    ๕. พระพุทธมนต์วราจารย์ วัดสุทัศนเทพวราราม
    ๖. พระศรีสัจจญาณมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม
    ๗. พระครูพิทักษ์วิหารกิจ วัดราชนัดดาราม
    ๘. พระครูโสภณกัลยณว้ตร วัดกัลยาณมิตร
    ๙. พระครูปลดสงัด วัดพระเชตุพน
    ๑. หลวงพ่อกก จังหวัดกาญจนบุรี
    ๑๑. หลวปคำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์
    จ๒. พระครูพิชัย ณรงค์ฤทธิ์ วัดสิตาราม
    ๑๓. หลวงพ่อคำ วัดพระรูป สุพรรณบุรี
    ๑๔. หลวงพ่อเณร บางเลน นครปฐม
    นอกจากนี้ พระคณาจารย์ของสำนัก วัดจักรวรรดิราชาวาสก็ได้ร่วมในพิธีกรรม และนั่งปรกในคราวนี้ด้วย เช่น
    พระอาจารย์ผ่อง จินดา
    พระอาจารย์โชติ ธมมโชโต
    พระครูสมุห์เพิ่ม สุวโจ เบ็นต้น
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458



    upload_2023-1-30_21-55-3.png


     
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    สวัสดียามเช้าครับ
     
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    1381. พระเนื้อผง ท่านเริ่มสร้าง ตั้งแต่ ปี 2481 ...เครื่องราง สิงห์ , เสือ ของท่าน ได้รับความนิยมมาก พระสมเด็จทรงสิงห์ หลวงพ่อชื่น วัดกลางคูเวียง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ให้บูชา 899 บาท


    upload_2023-1-31_11-19-14.png

    ประวัติ หลวงพ่อชื่น เขมจารี วัดกลางคูเวียง จังหวัดนครปฐม

    "หลวงพ่อชื่น เขมจารี" อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางคูเวียง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อีกทั้งเป็นหมอยาตำรับแผนโบราณ รักษาให้กับคนทั่วไปโดยไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทน

    ประวัติหลวงพ่อชื่น เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 19 พ.ค.2445 ที่บ้านกลาง หมู่ 3 ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นบุตรของนายฝอยและนางวัน ทุยเวียง ประกอบอาชีพทำนา

    เมื่ออายุ 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดสัมปตาก ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดกลางคูเวียง เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2465 โดยมีพุทธวิถีนายก (หลวงปู่บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดหล่อ วัดกลางบางแก้ว เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระอธิการมา วัดลานตากฟ้า เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า เขมจารี

    หลังจากนั้น ท่านได้มาจำพรรษาอยู่วัดกลางคูเวียง โดยได้ศึกษาพระปริยัติธรรม พร้อมกับศึกษาการแพทย์แผนโบราณ ท่านมีความรู้ทางอักษรไทย และภาษามคธ แตกฉานในอรรถธรรม ต่อมาได้ไปศึกษาภาษาขอมและวิทยาคมกับหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ได้เรียนคู่กับ หลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางแก้ว

    นอกจากนี้ ยังมีความรู้พิเศษในทางวิปัสสนาธุระเป็นอย่างดียิ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เม.ย.2472 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกลางคูเวียง และเริ่มก่อสร้างบูรณปฏิสังขรณ์สิ่งต่างๆ รวมทั้งเริ่มรักษาโรคให้ชาวบ้านที่ได้รับความเจ็บป่วย โดยมิได้เรียกค่ารักษาใดๆ

    สำหรับตำรับตำรายารักษาโรคเหล่านั้น ท่านศึกษาเล่าเรียนจาก "หมอเทียนสาลีเวียง" หมอโบราณที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องการรักษาโรค การดูฤกษ์ยาม ทำนายโชคชะตา

    ครั้นถึง พ.ศ.2479 ท่านได้หาเงินสร้างอุโบสถใหม่แทนหลังเดิม ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ทำด้วยไม้กระดาน ชำรุดจนไม่สามารถใช้ทำสังฆกรรม พร้อมกับสร้างพระประธานองค์ใหม่ พระอัครสาวก พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร

    ต่อมาท่านซื้อที่ดินขยายเขตวัดออกไปอีกทางด้านเหนือ เพื่อใช้เป็นที่ปลูกสร้างโรงเรียนประชาบาล คือ โรงเรียนวัดกลางคูเวียง (พันธุลาภอนุสรณ์) ซึ่งแต่เดิม ต้องอาศัยศาลาการเปรียญของวัดเป็นที่ศึกษาเล่าเรียน

    อีกทั้ง ท่านยังได้ก่อสร้างกุฏิขึ้นอีกหลายหลัง โดยเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด และลงมือทำเองอีกด้วย

    หลวงพ่อชื่น เริ่มสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2479 ซึ่งเป็นปีที่ท่านสร้างโบสถ์หลังใหม่ทดแทนโบสถ์หลังเดิมที่เป็นไม้ โดยสร้างวัตถุมงคลเนื้อชินผสมดีบุกใช้มวลสารหลักจากเงินเก่าที่อยู่ในหลุมลูกนิมิตโบสถ์หลังเดิม สร้างขึ้น 4 รูปแบบ คือ พระปิดตา พระนางพญา พระปางลีลา และนางกวัก

    ต่อมาในปี พ.ศ.2481 สร้างวัตถุมงคล "รุ่นอินโดจีน" ซึ่งถือว่าเป็นรุ่น 2 เพื่อนำรายเป็นทุนสร้างศาลาการเปรียญ และซื้อที่ดินขยายเขตวัดเพิ่ม วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมีเสื้อยันต์ ผ้ายันต์วัวธนู พระสมเด็จผงพุทธคุณ พระหลวงพ่อโตซุ้มเถาวัลย์เนื้อดิน และเครื่องรางรูปเสือ เนื้อผงพุทธคุณ

    หลังจากปี พ.ศ.2481 ท่านสร้างวัตถุมงคลอีกหลายรูปแบบโดยเจตนาเพื่อบรรจุกรุ อาทิ เครื่องรางรูปเสือ สิงห์ พระสมเด็จ พระสมเด็จทรงสิงห์ โดยสร้างด้วยเนื้อผงเป็นหลัก แต่ท่านได้แกะพิมพ์ และกดพิมพ์พระด้วยตัวเอง

    ในปี พ.ศ.2506 สร้างเหรียญรูปเหมือนด้วยเนื้อทองแดงผิวไฟ ท่านได้จารด้วยตัวเองทุกเหรียญ ถือเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียว

    กล่าวขวัญกันว่า เครื่องรางของขลังและวัตถุมงคลของหลวงพ่อชื่น มีพุทธคุณโดดเด่นในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย และคงกระพัน

    พ.ศ.2506 หลวงพ่อชื่น ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรที่ "พระครูโสภณสาธุการ"

    ในช่วงท้ายของชีวิต ท่านเผยแผ่พระธรรมวินัยให้แก่พุทธบริษัท นำไปปฏิบัติเพื่อเป็นการปลูกศรัทธา ตลอดจนได้รักษาโรคให้กับผู้เจ็บป่วยอย่างมิเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย กระทั่งหลวงพ่อชื่น มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2514 เวลา 20.05 น. สิริอายุ 69 ปี พรรษา 49

    ในช่วงเวลาที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล มีผู้มีจิตศรัทธาและและเคารพเลื่อมใสท่าน จับจองเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมเกินกว่า 100 วัน

    กาลต่อมา หลวงพ่อเชิญ ในฐานะศิษย์เอก เป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของหลวงพ่อชื่น ด้วยการก่อสร้างกุฏิโสภณสาธุการ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งคุณงามความดี พร้อมกับสร้างเจดีย์ทองบรรจุศพหลวงพ่อชื่น ภายในกุฏิ เพื่อให้บรรดาผู้ที่เคารพเลื่อมใสได้มากราบไหว้บูชาเป็นสิริมงคล โดยได้ทำพิธีบรรจุศพหลวงพ่อไว้ในพระเจดีย์ทอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ส.ค.2524 เวลา 09.29 น.


    หลวงพ่อชื่น ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว โดยได้เรียนคู่กับ หลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางแก้ว สมเด็จทรงสิงห์ยุคแรกนี้ใกล้จะกลายเป็นตำนานแห่ง อ.นครชัยศรีไปแล้วเหมือนกัน หลวงพ่อมักจะแจกให้เฉพาะเข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หรือไม่ก็ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เรื่องพุทธคุณด้านอำนาจบารมี แคล้วคลาด คงกระพัน เชื่อขนมกินได้เลย
     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    พระดีที่ถือว่าเมตตา มหานิยม แรงสุดๆ พระขุนแผนเนื้อดินดำผสมผงใบลาน (หลังจาร) หลวงพ่อแหยม วัดดอนพุทรา จ.นครปฐม ปี 2485 พี่พื้นทรายจองครับ

    upload_2023-1-31_11-25-29.png

    โดยมวลสารที่ใช้ เป็นเนื้อดินอาถรรพณ์ นั่นคือ ดินเจ็ดป่าช้า เจ็ดโป่ง เจ็ดไร่ เจ็ดนา ไคลเสมา ดินขุยปู ผงวิเศษ ว่าน108 เถ้าอังคารกระดูก มวลสารแต่ละอย่างล้วนมีอาถรรพณ์ในตัวจนมีสโลแกน ที่ว่า ขุนแผนอินโดจีน หลวงพ่อเต๋ "ขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิงแต่ลองยิงดูได้"แต่"หากคิดจะเจ้าชู้ ต้องมีขุนแผนหลวงพ่อแหยมไว้คู่กาย" เนื้อพระแบ่งออกเป็นหลายเนื้อด้วยกัน คือ
    1-เนื้อดินเผา จะมีสีแดงอมน้ำตาล,
    2-เนื้อดินดำผสมผงใบลาน
    3-เนื้อดินดิบ
    4-เนื้อผงใบลาน
    ด้านหลังมีรอยจารเปียก เป็นอักขระเลขยันต์การจารในแต่ละครั้ง ก็ไม่เหมือนกันบางองค์จารตามกำลังวัน บางองค์จารยันต์ทั้งแปดทิศ แล้วแต่เจตนาของท่านเอง เพราะท่านพิจารณาฤกษ์ยามกำลังวัน ท่านจึงว่าพระขุนแผนของท่านไม่เป็นรองใครเรื่องความแรง เป็นสุดยอดเมตตา มหาเสน่ห์มากๆครับ แถมยังได้กุมารมาช่วยเสริมอีกแรงครับ โชคลาภก็ดีมากๆ หากหาขุนแผนหลังมะ หลวงพ่อเต๋ ไม่ได้ใช้องค์นี้แทนได้เลย พื้นที่หวงแหนกันมาก บางคนห้อยจนแม่บ้านต้องขอร้องให้เลิกแขวน กันไปเลย

    ท่านเป็นเกจินครปฐมยุคเดียวกับหลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง เป็นพระที่ทรงอภิญญาจิตสูงมาก ขุนแผนท่านโด่งดังมาก่อนหลวงพ่อเต๋ ประสบการณ์ด้านเมตตามหาเสน่ห์สูงมาก แถมพกไปมีคนเห็นเป็นเด็ก(กุมาร)ตามไปด้วยอีกต่างหาก การสร้างพระขุนแผน ของท่านเริ่มสร้างพระขุนแผน ตั้งแต่ ราวปี พ.ศ. 2485 เรื่อยมาจนถึงประมาณปี พ.ศ.2500 โดยมวลสารที่ใช้ เป็นเนื้อดินอาถรรพณ์ ไม่แตกต่างกับ พระขุนแผนของหลวงพ่อเต๋เลย นั่นคือ เดินเจ็ดป่าช้า เจ็ดโป่ง เจ็ดไร่ เจ็ดนา ไคลเสมา ดินขุยปู ผงวิเศษ ว่าน108 เถ้าอังคารกระดูก ฯลฯ เนื้อพระ แบ่งออกเป็นหลายเนื้อ คือ เนื้อดินเผา จะมีสีแดงอมน้ำตาล เนื้อดินดำผสมผงใบลาน เนื้อดินดิบ และ เนื้อผงใบลาน ส่วนพิมพ์ของพระขุนแผน จะมีลักษณะพิมพ์เป็นห้าเหลี่ยม องค์พระ จะมีพิมพ์ปางมารวิชัย และ พิมพ์ปางปลุกกุมาร พนมมือนั่งขัดสมาธิเพชร ประทับนั่งบนฐาน ด้านล่างใต้ฐานเป็นกุมารนอนด้านหลังองค์พระขุนแผน มีรอยจารเปียก เป็นอักขระเลขยันต์ อันประกอบด้วย พระพุทธเจ้า5 พระองค์ คือ"นะ-โม-พุท-ธา-ยะ" หัวใจแม่ธาตุทั้ง 4 คือ"นะ-มะ-พะ-ทะ" หัวใจขุนแผน คือ"สุ-นะ-โม-โล" ยันต์นะเทพรัญจวน ยันต์นะทรหด มะ-อะ-อุ อุ-อะ-มะ ฯลฯ สำหรับการจารเปียก ของหลวงพ่อแหยม ท่านใช้เหล็ก กับ ก้านธูป เป็นตัวจาร การจารในแต่ละครั้ง ก็ไม่เหมือนกัน บางองค์จารตามกำลังวัน บางองค์จารยันต์ทั้งแปดทิศ แล้วแต่เจตนาของท่านเอง เพราะท่านพิจารณาฤกษ์ยามกำลังวัน ในการจารทุกครั้ง มีเรื่องเล่ากันว่า "ในการปลุกเสกพระขุนแผน ของหลวงพ่อแหลม ทุกครั้ง ท่านจะปลุกเสกจนกว่า กุมารที่นอนอยู่ใต้ฐานพระขุนแผน ดิ้นส่ายไปส่ายมา พลิกซ้าย พลิกขวา ตามตำรา ท่านจึงจะนำออกมาให้ญาติโยมได้บูชากัน" นอกจากนั้น หลวงพ่อแหยม ยังได้มอบพระขุนแผนของท่าน ส่วนหนึ่ง ไปแจกแก่เหล่าทหารและตำรวจที่ไปร่วมรบ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อนำไปอาราธนาติดตัวไว้ป้องกันภัยต่างๆ ล้วนเกิดอภินิหารเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ไปรบในคราวนั้น รอดตายกลับมา จนเล่าขานกันมาทุกวันนี้ ร่วมถึงชาวนครปฐมในยุคนั้น รู้กิตติศัพท์พระขุนแผนของท่านเป็นอย่างดี จุดประสงค์ เนื่องจาก พระขุนแผน รุ่นแรก (อินโดจีน) ของหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ราคาไปไกลเกินเอื้อม (หลายหมื่น) อีกทั้ง พระขุนแผน หลวงพ่อแหยม ราคาไม่แพง แถมสร้างในยุคเดียวกัน ราวปลายพ.ศ.2500 มีกรรมวิธีการสร้างที่ไม่แตกต่างกัน เพราะท่านเรียนวิชามาจากพระอาจารย์ รูปเดียวกัน อีกหนึ่งของดี ที่นานๆ จะพบ หายาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2023
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    1382. เหรียญดีเมืองสุพรรณ เหรียญยุทธหัตถีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปี13 ให้บูชา 999 บาท

    upload_2023-1-31_12-26-39.png


    เหรียญสมเด็จพระนเรศวร ยุทธหัตถี ปี 2513 พิธีมหาพุทธาภิเศกยิ่งใหญ่วันกองทัพไทย
    เหรียญพระนเรศวรยุทธหัตถี พ.ศ.2513 วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรีสร้างพร้อมกับกริ่งยุทธหัตถีและพระร่วงยุทธหัตถี มหาพุทธาภิเศกโดยพระเกจิอาจารย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2513 วันกองทัพไทย โดยมีสมเด็จพระสังฆราช ทรงจุดเทียนชัยเวลา 11.00 น. มหาพุทธาภิเศกโดยสุดยอดพระคณาจารย์แห่งยุค 108 รูปดังมีรายนามต่อไปนี้
    - พระราชสุพรรณาภรณ์ (เปลื้อง) วัดสุวรรณภูมิ สุพรรณบุรี
    - พระราชธรรมาภรณ์ (เงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม
    - พระครูวิริยะกิตติ (โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
    - พระโพธิวรคุณ (ฑูรย์) วัดโพธินิมิตร ธนบุรี
    - พระรักขิตวันมุนี (ถิร) วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สุพรรณบุรี
    - พระครูสุตาธิการี (ทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
    - พระครูประสาทวิทยาคม (นอ) วัดกลาง อยุธยา
    - พระครูภาวนากิตติคุณ (น้อย) วัดธรรมศาลา นครปฐม
    - พระครูพินิจวิหารการ (เทียม) วัดกษัตราธิราช อยุธยา
    - พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ (มุ่ย) วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
    - พระครูศีลพรหมโสภิต (แพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    - พระราชปัญญาโสภณ (สุข) วัดราชนัดดา กรุงเทพ ฯ
    - พระครูสถาพรพุทธมนต์ (สำเนียง) วัดเวฬุวนาราม นครปฐม
    - พระครูโสภนกัลยาณวัตร (เส่ง) วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี
    - พระครูเอนกคุณากร (แขก) วัดหัวเขา สุพรรณบุรี
    - พระครูสุวรรณวิสุทธิ (เจริญ) วัดธัญญวารี สุพรรณบุรี
    - พระครูประภัศร์ธรรมาภรณ์ (แต้ม) วัดพระลอย สุพรรณบุรี
    - พระครูอุภัยภาดาทร (ขอม) วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี
    - พระครูประสาทวรคุณ (พริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    - พระครูสุนทรศีลคุณ (ชม)วัดนางในธรรมิการาม อ่างทอง
    - พระครูวรพรตศีลขันธ์ (แฟ้ม)วัดป่า(อรัญญิกาวาส) ชลบุรี
    - พระราชพุทธิรังษี (เจียม) วัดโสธรวราราม ฉะเชิงเทรา
    - พระเมธีธรรมสาร (ไสว) วัดบ้านกร่าง สุพรรณบุรี
    - พระพุทธมนต์วราจารย์ (สุพจน์) วัดสุทัศน์ กรุงเทพ ฯ
    - พระครูพินิจสมาจารย์ (โด่) วัดนามะตูม ชลบุรี
    - พระครูปัญญาโชติวัตร (เจริญ) วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
    - พระครูพิทักษ์วิหารกิจ (สา) วัดราชนัดดา กรุงเทพ ฯ
    - พระครูสุวรรณวรคุณ (คำ) วัดหน่อพุทธางกูร สุพรรณบุรี
    - พระครูนนทกิจวิมล (ชื่น) วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี
    - พระครูวิมลสังวร (สังวร) วัดแค สุพรรณบุรี
    - พระธรรมธรทองดี (ดี) วัดพระรูป สุพรรณบุรี
    - พระครูปรีชาวุฒิคุณ (ฮวด) วัดดอนโพธิ์ทอง สุพรรณบุรี
    - พระครูสุนทรานุกิจ (กริ่ง) วัดสามชุก สุพรรณบุรี
    - พระครูสุวรรณโพธิวัฒน์ (เพรียว) วัดโพธิทองเจริญ สุพรรณบุรี
    - พระครูศรีรัตนาภิรักษ์ (โพธิ์) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี
    - พระครูสุนทรธรรมจารี (อ๊อด) วัดพระธาตุ สุพรรณบุรี
    - พระครูวิเศษมงคลกิจ (มิ่ง) วัดกก กรุงเทพ ฯ
    - พระอาจารย์หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก ระยอง
    - พระอาจารย์หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
    - พระอาจารย์สร้อย วัดเลียบราษฎร์บำรุง กรุงเทพ ฯ
    ฯลฯ
    และพระเกจิอาจารย์ทั่วฟ้าเมืองไทยอีกมากมาย

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2023
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    พระดีพิธีใหญ่ พระสมเด็จหลังสมเด็จโต พิธีจตุรพิธพรชัย ปี 2518


    upload_2023-1-31_20-5-45.png

    upload_2023-1-31_20-11-8.png

    ประวัติการสร้างวัตถุมงคลชุดนี้

    เมื่อ พ.ศ. 2518 นายเรียน นุ่มดี อดีตผู้บัญชาการเรือนจำ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เข้ากราบเรียน หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ พระอภิญญาแห่งสำนักวัดสะแก เพื่อขออนุญาตสร้าง พระปิดตามหาลาภ เพื่อการพระศาสนาที่ วัดเขาใหญ่ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ในถิ่นกำเนิดของท่านผู้บัญชาการฯ

    หลังจากได้รับอนุญาตจากหลวงปู่ดู่แล้ว คณะผู้จัดสร้างได้รวบรวมมวลสารต่าง ๆ มากมายหลายอย่าง อาทิ เช่น ดอกไม้บูชาพระนานาพันธุ์ ผงธูปบูชาพระ และ ว่าน 108 ชนิด ฯลฯ บรรจุในลังไม้อย่างใหญ่ เสร็จแล้วนำไปขอความเมตตา หลวงปู่สี อายุ 128 ปี วัดเขาถ้ำบุนนาค จังหวัดนครสวรรค์ ช่วยปลุกเสกมวลสารต่าง ๆ นั้น

    เมื่อเข้ากราบเรียนให้ท่านทราบถึงความมุ่งหมาย หลวงปู่สีท่านนั่งนิ่งเฉย ไม่ยอมเสกให้ คณะศิษย์ผู้ใกล้ชิดต้องกราบขอร้องให้ท่านช่วยเสก ในที่สุดท่านบอกให้ยกลังมวลสารเข้ามาใกล้ ๆ ท่าน เสร็จแล้ว ท่านจับลังมวลสารเป่าทันที โดยไม่มีการภาวนาคาถาอาคมแต่อย่างใด หลวงปู่สีท่านเป่าลังมวลสารเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เสร็จแล้วท่านพูดว่า “เอาไปได้”

    ท่านผู้บัญชาการเรือนจำฯ และคณะผู้ติดตามถึงกับหน้าเสีย สิ้นความศรัทธา แสดงว่า ไม่เชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์ อะไรกันนี่ เป่าครั้งเดียว จะเกิดความศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร

    เมื่อเดินทางกลับมาถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านผู้บัญชาการเรือนจำฯ จึงให้ลูกน้องเอาปืนยิงลังมวลสารใบนั้น แต่ปรากฏว่า จะยิงย่นสักปานใด ก็ยิงไม่ถูกลังมวลสาร ทั้ง ๆ ที่ลังมวลสารใบนั้นใหญ่โตขนาดสองคนหาม นี่ก็แสดงให้เห็นว่า หลวงปู่สีท่านทรงคุณวิเศษในทางแคล้วคลาดมากน้อยเพียงไร เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กล่าวขวัญกันมาก

    เมื่อสร้างเป็นรูปเคารพพระปิดตามหาลาภเรียบร้อยแล้ว ได้นำไปให้ “หลวงปู่ดู่” ปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลานานถึงหนึ่งเดือน จากนั้นได้จัดพิธีพุทธาภิเษกที่ วัดรัตนชัย (วัดจีน) อ.เมือง จ.อยุธยา เมืองกรุงเก่าอีกครั้งหนึ่ง มีพระเถราจารย์ผู้ทรงพุทธาคมขลังปลุกเสกถึง ๑๖ รูป มีรายนามดังนี้ (พิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2518 )

    1. พระครูสังวรวิมล (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี อ.บางกอกใหญ่ จ.กรุงเทพฯ
    2. พระครูประสาทวิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
    3. พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเรไรย์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
    4. พระโบราณคณิสสร (หลวงพ่อใหญ่) วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    5. พระครูประสาทวรคุณ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดโบสถ์โก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี
    6. พระครูสันทัดธรรมคุณ (หลวงพ่อออด) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา
    7. พระครูกัลยานุกูล (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร อ.ธนบุรี จ.กรุงเทพฯ
    8. หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
    9. พระครูอดุลวรวิทย์ (หลวงพ่อไวทย์) วัดบางซ้าย อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา
    10. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
    11. พระราชสุวรรณโสภณ วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    12. พระครูศรีพรหมโสภิต (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
    13. พระครูสังฆรักษ์ (หลวงพ่อเฉลิม) วัดพระญาติการาม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    14. พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงพ่อหวล) วัดพุทไธสวรรค์ อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    15. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    16. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ (ศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค มาในนามของท่าน)


    ส่วนวัตถุมงคลที่ปลุกเสกในพิธีนี้มีอยู่ 4 ประเภท (ไม่นับรวมของฝากในพิธีนี้) คือ

    1. เหรียญ 9 พระอาจารย์ - จัดสร้าง 5,599 เหรียญ แบ่งออกเป็นอีกสองเนื้อคือ เนื้อเงิน (มีเพียงบางพระอาจารย์เท่านั้น) และเนื้อทองแดง มีทั้งแบบที่บรรจุในกล่องกำมะหยี่และที่ออกให้บูชาแบบเดี่ยว ๆ ที่นิยมเรียกว่า "เหรียญ 9 พระอาจารย์" นั้นเพราะว่าทางคณะกรรมการจัดทำเป็นเหรียญรูปเหมือนพระเกจิอาจารย์ที่ด้านหน้า และประทับยันต์ครูของท่านที่ด้านหลัง รวม 9 แบบ คือ หลวงพ่อนอ วัดกลาง หลวงพ่อถิร วัดป่าเรไรย์ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง หลวงพ่อไวทย์ วัดบางซ้าย หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม โดยเมื่อปั๊มเหรียญเสร็จจากโรงงาน คณะกรรมการได้นำเหรียญของแต่ละพระอาจารย์ไปมอบให้ที่วัดเพื่อให้ท่านปลุกเสกเหรียญของท่านล่วงหน้า 1 เดือนก่อนพิธีพุทธาภิเษกใหญ่

    2. พระสมเด็จ 9 ชั้น - จัดสร้างเป็นเนื้อผงแก่น้ำมัน จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุ ตามประวัติกล่าวว่าพระชุดนี้หลวงปู่ดู่ท่านตั้งใจออกแบบพิมพ์และมวลสาร เพื่อถวายให้หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคเป็นกรณีพิเศษ โดยด้านหน้าจะล้อพิมพ์พระสมเด็จวัดไชโย ด้านหลังเป็นยันต์ครูของหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค และมีคำว่า "วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี" ประทับอยู่ใต้ยันต์ครู โดยหลวงปู่ดู่ท่านได้มอบผงมหาจักรพรรดิ์จำนวนหนึ่งไปผสมเป็นมวลสาร จากนั้นนายเรียนจึงนำเรื่องนี้ได้กราบเรียนหลวงปู่สีทราบ ซึ่งท่านก็อนุโมทนาและอนุญาตตามนั้นและได้มอบผงวิเศษของท่านมาอีกจำนวนหนึ่ง สุดท้ายหลังจากได้มวลสารและกดพิมพ์เป็นองค์พระเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ดู่ท่านได้บอกให้นายเรียนนำพระสมเด็จชุดนี้กลับไปให้หลวงปุ่สีท่านปลุกเสกเป็นปฐม ซึ่งหลวงปู่ท่านก็เมตตาปลุกเสกให้เป็นกรณีพิเศษ 1 เดือน (เป็นพระอีกชุดหนึ่งของสายนี้ที่ปลุกเสกนานมาก) เสร็จแล้วจึงให้นายเรียนมารับกลับไปเพื่อรอเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่

    3. พระแก้ว 3 ฤดู - จัดสร้างเป็นเนื้อผงและมีการลงสีเขียวที่พระวรกาย ปิดทองที่เครื่องทรง เฉกเช่นเดียวกับพระแก้วมรกตที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จ.กรุงเทพฯ จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุไว้ มีทั้งแบบบรรจุกล่อง (ครบ 3 ฤดู) และที่ออกให้บูชาแบบเดี่ยว ๆ ด้านหน้าเป็นรูปพระแก้วมรกตทรงเครื่องตามฤดู (ร้อน / ฝน / หนาว) ด้านหลังประทับยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ (นะโมพุทธายะ) และมีคำว่า "วัดรัตนชัย (จีน) อยุธยา"
    4. พระสามสมัย - จัดสร้างเป็นเนื้อผงโดยแบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ คือ เชียงแสน สุโขทัย อู่ท่อง ขนาดจะเล็กประมาณพระของขวัญ วัดปากน้ำ จำนวนการสร้างไม่ได้ระบุไว้ ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธรูปและที่ใต้พระพุทธรูปจะมีคำอธิบายศิลปะของพระพุทธรูปไว้ด้วย คือ เชียงแสน หรือ สุโขทัย หรือ อู่ทอง ด้านหลังประทับยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ (นะโมพุทธายะ) และมีคำว่า "วัดเขาใหญ่ สุพรรณบุรี"

    เกล็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เล่าขานมาสืบมาเกี่ยวกับพิธีจตุรพิธพรชัย ว่ากันเป็นประเด็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ดังนี้
    ครูบาอาจารย์หลายรูปรวมถึงหลวงพ่อกวยกล่าวกับศิษย์ของท่านว่า "พิธีนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก"
    พิธีนี้หลวงปู่ดู่ท่านให้นายเรียนนิมนต์หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคมาร่วมพิธีพุทธาภิเษก แต่ขณะนั้นท่านอายุ 126 ปีเข้าไปแล้ว ท่านจึงมอบหมายให้พระอาจารย์สมบูรณ์ ศิษย์ก้นกุฎิและดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในขณะนั้นไปร่วมพิธีในนามของท่าน แต่จะว่าไปแล้วเรื่องที่คนคิดไม่ถึงก็คือ หลวงปู่สีท่านก็ได้เดินญาณมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกเช่นเดียวกัน เพราะท่านถือว่าท่านได้รับรับนิมนต์หลวงปู่ดู่ไว้แล้ว
    พิธีนี้ว่ากันว่า นอกจากหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เดินญาณมาร่วมพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ยังมีอีกรูปหนึ่งที่เดินญาณมาร่วมพิธีเหมือนกัน ซึ่งก็คือ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เพราะท่านรับปากนายเรียนว่าจะช่วยปลุกเสกอย่างเต็มที่
    ลูกศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงพ่อกวยเคยถามว่า "หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค เป็นใคร ทำไมถึงมีเหรียญของท่านในชุดเหรียญ" หลวงพ่อกวยท่านตอบว่า "ท่านเป็นพระอรหันต์.."
    หลังจากพุทธาภิเษกเสร็จ มีนักเลงพื้นที่พูดคุยกันว่า "จะขลังแค่ไหน.." ปรากฎว่าคำพูดนี้ได้ยินไปถึงนายเรียน ทำให้นายเรียนนำความนี้เข้าปรึกษาครูบาอาจารย์ในพระอุโบสถว่า "จะทำอย่างไรดี.." เพราะเป็นที่ทราบกันว่าสมัยนั้นการลองของประเภทจะ ๆ นิยมกันมาก เช่น เอาปืนยิง เพราะต้องการทดสอบพุทธคุณในวัตถุมงคลนั้น ๆ ว่าดีจริงเพียงใด ถ้าสมมติว่า "ยิงออกหรือเหรียญโดนยิงทะลุ" ทุกอย่างที่ทำมาเป็นอันจบกัน ซึ่งในเวลานั้นครูบาอาจารย์ที่พรรษาน้อยไม่กล้าออกความเห็นจึงสงบนิ่งเพื่อให้ท่านที่พรรษาสูงกว่าปรึกษาและตัดสินใจกัน ระหว่างนั้นหลวงพ่อกวย ท่านได้ขออนุญาตครูบาอาจารย์ทุกรูปว่า "กระผมอาสา.." หลังจากนั้นท่านจึงนำเหรียญรูปเหมือนของท่านติดตัวไปด้วยหนึ่งเหรียญออกไปนอกพระอุโบสถ แล้วพูดขึ้นว่า "ใครจะเอาไปลองบ้าง" ปรากฎว่านักเลงคนหนึ่งขออาสาเป็นผู้ทดสอบ และได้นำเหรียญดังกล่าวไปยิงที่หลังพระอุโบสถ ปรากฎว่า "แชะ ๆ ๆ.." และได้นำเหรียญมาคืนหลวงพ่อกวยท่านพร้อมขอขมาท่าน พอชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวก็ประจักษ์ในพุทธคุณและเริ่มบอกปากต่อปากไปในวงกว้าง ส่วนหลวงพ่อกวยท่านจึงกลับเข้าไปในพระอุโบสถพร้อมกับกล่าวว่า "เรียบร้อย.."
    ก่อนพระเกจิอาจารย์ทั้งหมดจะเดินทางกลับวัด ทางคณะกรรมการได้มอบวัตถุมงคลในพิธีนี้จำนวนหนึ่งให้แก่พระเกจิอาจารย์ทุกรูป เพื่อให้ท่านนำกลับไปแจกลูกศิษย์ลูกหาที่วัด ทำให้วัตถุมงคลในพิธีนี้กระจายในหลายพื้นที่
    มหาพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลจตุรพิธพรชัย ที่วัดรัตนชัย เมื่อปี พ.ศ. 2518 นั้น หลวงพ่อกวยท่านพบอภินิหารของพระคณาจารย์ผู้ร่วมพิธีปลุกเสกหลายรูปด้วยกัน เมื่อท่านเดินทางกลับมาถึงวัดโฆสิตาราม ได้เล่าให้คณะศิษย์ฟังว่า พระวัดกลาง อ.ท่าเรือฯ (หมายถึงหลวงพ่อนอ) มีคุณวิเศษในทาง มหาอุดเป็นเลิศ พระวัดบ้านช้าง อ.วังน้อยฯ (หมายถึงหลวงพ่อออด) มีความเข้มขลังทางคงกระพันชาตรี เวลาปลุกเสก ตัวเฑาะว์จะหลุดลอยออกมาจากในปาก พระวัดโบสถ์ ลพบุรี (หมายถึงหลวงพ่อพริ้ง) มีดีทางแคล้วคลาด กำบังภัยอย่างยอดเยี่ยม

    สำหรับ "จตุรพิธพรชัย" คือ พรที่จะทำให้เกิดความสวัสดีมีชัย ๔ ประการ เป็นพรที่พระสงฆ์ให้แก่ชาวบ้านเป็นปกติหลังจากทำบุญแล้ว พร ๔ ประการนี้ คือ
    1 . อายุ คือ ให้มีอายุยืน มีชีวิตที่ดี
    2 . วรรณะ คือ ให้มีความสวยงาม มีชื่อเสียงเกียรติยศ
    3 . สุขะ คือ ให้มีความสุขกายสบายใจมีความสะดวก
    4 . พละ คือ ให้มีกำลังกายกำลังใจกำลังทรัพย์ มีพวกพ้องบริวาร
     
  11. พื้นทราย

    พื้นทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2015
    โพสต์:
    753
    ค่าพลัง:
    +625
    ขอจองครับ
     
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458

    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ
     
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    1383.เมตตา โภคทรัพย์ดีมาก เหรียญปัจเจกพระพุทธเจ้า (เหรียญพญาเต่าเรือน) หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ วัดใหม่ จ.นครสวรรค์ ให้บูชา 850 บาท พี่พื้นทราย จองครับ



    upload_2023-2-1_17-11-21.png

    ผู้มีตาดีได้ขอเมตตาหลวงปู่แทงจิตเพื่อจับพลังพุทธคุณในเหรียญปัจเจกพระพุทธเจ้ารุ่นนี้และขอให้หลวงปู่ท่านเมตตาเปิดไม่ให้ปิด ปรากฎว่าหลวงปู่ท่านเมตตา
    ผู้มีตาดีได้สัมผัสบอกว่าในเหรียญปัจเจกพระพุทธเจ้ารุ่นนี้ ด้านพลังเหมือนคลื่นน้ำทะเลลูกใหญ่พร้อมซัดเข้าฝั่งมีความหนาแน่นในกระแสพลังอย่างมาก
    ผนวกกับกระแสดึงดูดเหมือนแม่เหล็ก มีคุณทางด้านมหาโภคทรัพย์ ความอุดมสมบูรณ์ ด้วยมหาลาภ โชคลาภ ดึงดูดโชคลาภ
    เปรียบเสมือนตาข่ายดักทรัพย์ ทั้งยังเป็นมหาเสน่ห์ มหาอำนาจ มหาสะท้อนหนุนดวงชะตาเสริมบารมี ขจัดอุปสรรค
    พร้อมรักษาโรคภัยด้วยการทำน้ำมนต์ ทั้งยังป้องกันภัยอันตราย ป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันคุณไสยและแก้
    เป็นมหาอุตกันอาวุธ กันรังสีต่างๆ พร้อมทั้งอธิษฐานขอพรขอลาภ รัศมี 37 เมตร มีเทพรักษาองค์พระ

    หลวงปู่บุญศรี อินทวันโน ได้เมตตา ทำพิธี อธิษฐานจิตอย่างเต็มที่ ให้ ถึง 2 ครั้ง
    คือ วันที่ 5 ธันวาคม 39 และ วันที่ 14 ธันวาคม 39
    ก่อนสร้างนั้น หลวงปู่ได้เมตตา ออกแบบอักขระ เลขยันต์ บนเหรียญให้ จนถูกใจท่าน แล้วถึงให้โรงงานปั๊มเหรียญสร้างได้ครับ.
    เหรียญ..รุ่นนี้ เกิดจากคณะศิษย์ จะหาเงิน ปัจจัย มาสร้างแพโบสถ์น้ำหน้าวัด..จึงได้ ขออนุญาติหลวงปู่ จัดสร้างเหรียญ ขึ้นมา ..และ คณะศิษย์ ได้ มติ ว่า จะทำ เหรียญพญาเต่าเรือน เพื่อ ให้ผูู้บูชาติดตัว มีโชคลาภ เมตตา มหานิยม ชีวิตเจริญรุ่งเรือง และ คุ้มครองป้องกันภัย อันตรายทั้งหลาย ทั้งปวง ตามตำรับโบราณ...พอได้รูปแบบเหรียญมาแล้ว ได้นำรูปแบบ ไปให้หลวงปู่ ตรวจแบบ ด้านหน้าเหรียญเป็นรูป พระปัจเจกพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ หลวงปู่ยังได้เมตตา มอบพระคาถา หัวใจพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ( วิระทะโย ) ของหลวงพ่อปาน ( พระอาจารย์ของท่าน ) ใส่ไว้ด้านหน้าเหรียญ .... ส่วน ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปหลวงปู่ยืนให้พร เป็นเคล็ดว่า ให้อายุยืน ไร้โรคภัยไข้เจ็บ เดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย พร้อมทั้ง ให้ใส่คาถา พญาเต่าเรือน ( นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ ) พร้อมทั้ง ยันต์เมตตาใหญ่ ยันต์โภคทรัพย์ เรียกเงิน เรียกลาภ .... ทั้งหมด ทั้งมวลนี้ เพื่อให้ อานุภาพของเหรียญนี้ โดดเด่น เรื่อง ลาภ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2023
  15. sumobaimon

    sumobaimon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    1,278
    ค่าพลัง:
    +1,528
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    ตะกรุดปิดไปแล้วครับ ผมลืมอัพ ต้องขออภัยด้วยครับ หากได้มาใหม่ผมแจ้งให้ทราบครับ
     
  17. พื้นทราย

    พื้นทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2015
    โพสต์:
    753
    ค่าพลัง:
    +625
    ขอจองครับ
     
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458

    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    1384.เมตตา โภคทรัพย์ดีมาก เหรียญปัจเจกพระพุทธเจ้า (เหรียญพญาเต่าเรือน) หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ วัดใหม่ จ.นครสวรรค์ ปิดรายการครับ


    upload_2023-2-1_21-28-10.png

    ผู้มีตาดีได้ขอเมตตาหลวงปู่แทงจิตเพื่อจับพลังพุทธคุณในเหรียญปัจเจกพระพุทธเจ้ารุ่นนี้และขอให้หลวงปู่ท่านเมตตาเปิดไม่ให้ปิด ปรากฎว่าหลวงปู่ท่านเมตตา
    ผู้มีตาดีได้สัมผัสบอกว่าในเหรียญปัจเจกพระพุทธเจ้ารุ่นนี้ ด้านพลังเหมือนคลื่นน้ำทะเลลูกใหญ่พร้อมซัดเข้าฝั่งมีความหนาแน่นในกระแสพลังอย่างมาก
    ผนวกกับกระแสดึงดูดเหมือนแม่เหล็ก มีคุณทางด้านมหาโภคทรัพย์ ความอุดมสมบูรณ์ ด้วยมหาลาภ โชคลาภ ดึงดูดโชคลาภ
    เปรียบเสมือนตาข่ายดักทรัพย์ ทั้งยังเป็นมหาเสน่ห์ มหาอำนาจ มหาสะท้อนหนุนดวงชะตาเสริมบารมี ขจัดอุปสรรค
    พร้อมรักษาโรคภัยด้วยการทำน้ำมนต์ ทั้งยังป้องกันภัยอันตราย ป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันคุณไสยและแก้
    เป็นมหาอุตกันอาวุธ กันรังสีต่างๆ พร้อมทั้งอธิษฐานขอพรขอลาภ รัศมี 37 เมตร มีเทพรักษาองค์พระ

    หลวงปู่บุญศรี อินทวันโน ได้เมตตา ทำพิธี อธิษฐานจิตอย่างเต็มที่ ให้ ถึง 2 ครั้ง
    คือ วันที่ 5 ธันวาคม 39 และ วันที่ 14 ธันวาคม 39
    ก่อนสร้างนั้น หลวงปู่ได้เมตตา ออกแบบอักขระ เลขยันต์ บนเหรียญให้ จนถูกใจท่าน แล้วถึงให้โรงงานปั๊มเหรียญสร้างได้ครับ.
    เหรียญ..รุ่นนี้ เกิดจากคณะศิษย์ จะหาเงิน ปัจจัย มาสร้างแพโบสถ์น้ำหน้าวัด..จึงได้ ขออนุญาติหลวงปู่ จัดสร้างเหรียญ ขึ้นมา ..และ คณะศิษย์ ได้ มติ ว่า จะทำ เหรียญพญาเต่าเรือน เพื่อ ให้ผูู้บูชาติดตัว มีโชคลาภ เมตตา มหานิยม ชีวิตเจริญรุ่งเรือง และ คุ้มครองป้องกันภัย อันตรายทั้งหลาย ทั้งปวง ตามตำรับโบราณ...พอได้รูปแบบเหรียญมาแล้ว ได้นำรูปแบบ ไปให้หลวงปู่ ตรวจแบบ ด้านหน้าเหรียญเป็นรูป พระปัจเจกพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ หลวงปู่ยังได้เมตตา มอบพระคาถา หัวใจพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ( วิระทะโย ) ของหลวงพ่อปาน ( พระอาจารย์ของท่าน ) ใส่ไว้ด้านหน้าเหรียญ .... ส่วน ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปหลวงปู่ยืนให้พร เป็นเคล็ดว่า ให้อายุยืน ไร้โรคภัยไข้เจ็บ เดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย พร้อมทั้ง ให้ใส่คาถา พญาเต่าเรือน ( นาสังสิโม สังสิโมนา สิโมนาสัง โมนาสังสิ ) พร้อมทั้ง ยันต์เมตตาใหญ่ ยันต์โภคทรัพย์ เรียกเงิน เรียกลาภ .... ทั้งหมด ทั้งมวลนี้ เพื่อให้ อานุภาพของเหรียญนี้ โดดเด่น เรื่อง ลาภ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2023
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,229
    ค่าพลัง:
    +458
    1385. สุดยอดเมตตา มหาลาภ พระปิดตามหาลาภรุ่นแรกหลวงปู่คร่ำวัดวังหว้าเนื้อพิเศษฝังพลอย สร้างน้อย หายากมาก ให้บูชา 999 บาท
    พี่พื้นทรายจองครับ



    upload_2023-2-1_22-0-55.png

    upload_2023-2-1_22-1-20.png

    upload_2023-2-1_22-3-36.png

    สร้างเพื่อหาทุนช่วยเหลือนักเรียนยากจนและขาดแคลนอาหารกลางวัน สร้างจำนวนน้อยมาก มวลสารสุดยอด
    ผสมผงพรายกุมารและผงโสฬสหลวงปู่ทิม หลวงพ่อเย็นวัดบ้านแลง
    น้ำมันงายอดขุนพลหลวงปู่คร่ำ ผงที่ได้นี้ครบตามสูตร
    เชื่อกันว่าเทพเทวะทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 บาดาล 21 ชั้นพรหมต่างๆ ทุกพระองค์ จะลงมาอนุโมทนาอำนวยพรให้ พระปิดตามหาลาภนี้จึงมีอานุภาพแรง ทรงความขลังศักดิ์สิทธิ์ ผู้บูชาพระปิดตามหาลาภนี้ จะอุดมด้วยลาภสักการะ วาสนา บารมี ปรารถนาสิ่งใดจะสำเร็จดังใจปรารถนาทุกประการ เพียบพร้อมด้วยเมตตามหานิยม ดลบันดาลให้หายจากสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพภัย และอันตรายทั้งปวงจากคุณไสย คุณดำและสิ่งซึ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง หายหมดสิ้น ไม่มีการเบียดเบียนได้ ฯลฯ ลป.คร่ำ ได้เห็นพระปิดตาชุดนี้ แล้วออกปากชมว่า “รู้มั๊ยว่าพระปิดตาชุดนี้ มีค่าควรเมืองทีเดียว คนสร้าง มีจิตใจและความตั้งใจดี ต้องฉลองศรัทธาเค้าซะหน่อย” และท่านก็ได้ปลุกเสกพระปิดตาชุดนี้ตลอดทั้งพรรษา และหลังจากนั้นทางวัดจึงได้นำพระชุดนี้ออกให้ประชาชนบูชาเพื่อนำปัจจัยมาหาทุนช่วยเหลือนักเรียนยากจนและขาดแคลนอาหารกลางวันตามเจตนารมณ์จนสำเร็จ ด้วยพุทธคุณที่ประจักษ์กับผู้ที่บูชาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม แคล้วคลาด กันคุณคนคุณของตลอดจนเกื้อหนุนความเจริญรุ่งเรือง ทำให้พระชุดนี้ได้ถูกบูชาจนหมดจากวัดในเวลารวดเร็ว และหาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน เข้าพิธีพุทธาภิเศก 2 พิธี ปัจจุบันพบเห็นได้น้อย องค์นี้สวย สมบูรณ์ ติดชัดทั้งหน้า-หลัง เนื้อไม่ราน
    พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2023

แชร์หน้านี้

Loading...