พระกับมือถือ-โทรทัศน์ เทศนาโดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย KK1234, 3 พฤศจิกายน 2009.

  1. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    พระกับมือถือ-โทรทัศน์ เทศนาโดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->[​IMG]

    พระกับมือถือ-โทรทัศน์
    เทศนาธรรมโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน


    พวก เราให้ตั้งใจปฏิบัตินะ เราอย่าหวังเอาความโลเลโลกเลกนี้มาเป็นความสุข ความเจริญ มรรค ผล นิพพาน อย่าหวัง สักกี่กัปกี่กัลป์ก็แบบนี้แหละ ถ้าเป็นเรื่องของกิเลสสกปรกตลอดไป ความทุกข์กับความสกปรกไปด้วยกันตลอดไปเหมือนกัน เลอะเทอะไปหมดเวลานี้ เครื่องที่จะทำให้เลอะเทอะนี่มัน แหม มันไหลเข้ามามองดูไม่ทันนะ พระเณรเรานี้แหละ ส่วนโลกไม่มีประมาณเราไม่ว่า

    ส่วน พระเรานี่มีหลักธรรมหลักวินัย เครื่องกลั่นเครื่องกรอง แต่มันกว้านเอามา มันไม่ได้กลั่นได้กรอง กว้านเอามาเลย เวลานี้ก็ดูเอาซิ เริ่มมาตั้งแต่ หนังสือพิมพ์

    หนังสือพิมพ์กับพระเรานี้มันเข้ากันได้ยังไง หนังสือพิมพ์เป็นเรื่องของโลกเขา เป็นเรื่องข่าวเรื่องคราวเรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวาย เรื่องโลกล้วนๆ พระบวชมาแล้วพระพุทธเจ้าไล่เข้าในป่าในเขา นี่ศาสดาสอนอย่างนี้

    แล้ว วิทยุ มันเรื่องเดียวกัน

    จากนั้นก็เทวทัต โทรทัศน์ หนักเข้าไปๆ เรื่อยๆ ทีเดียว มีแต่ข้าศึกของพระเราผู้ตั้งใจปฏิบัติธรรมให้ได้รับความกระทบกระเทือนทั้งนั้น


    จากนั้นไปมหาภัยขั้นสุดยอด ตัดสินอย่างคอขาดบาดตายก็คือ โทรศัพท์มือถือ

    นี้เป็นถ้าว่าศาลก็เรียกว่า ศาลฎีกาไปแล้ว ไม่มีที่จะอุทธรณ์ถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ศาลนี้ไม่มีอุทธรณ์ ศาลโทรศัพท์มือถือนี่ จับจ้อเข้าไปนี่โทรศัพท์ถึงกันได้ทันทีๆ ไม่ว่าที่ไหนๆ นี่ละคอขาด นัดกันซี พระกับผู้หญิงนัดกันที่ไหนก็ได้ เมื่อพอใจกันแล้วนัดกันที่ไหนก็ได้ คอขาดได้ด้วยกันทั้งนั้นแหละ

    นี่ จึงเรียกว่ามหาภัยสุดยอดคืออันนี้เอง ในวัดนี้ใครจะมีไม่ได้ เราอนุโลมให้เฉพาะที่มาไว้สำหรับส่วนรวม ให้ผู้อยู่ในกิจการส่วนรวมยึดไว้โทรศัพท์อันนี้ เพื่อทำประโยชน์ส่วนรวมโดยเฉพาะ ใครจะมายุ่งไม่ได้เป็นอันขาดในวัดนี้ เราเห็นพระองค์ใดที่มีโทรศัพท์มือถือนี้ เราไล่ออกจากวัดทันที ให้ทราบทั่วกันพระเณรเรา จะไม่มีคำว่ารอเลย


    เพราะใครก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นข้าศึกขนาดไหน เรียนธรรมวินัยมาด้วยกันก็รู้ด้วยกัน อะไรเป็นภัยไม่เป็นภัย เรา

    ที่อนุโลมนี้ก็คือว่า โทรศัพท์มือถือนี้เวลานี้กำลังยุ่งเหยิงเกี่ยวข้องกับบ้านกับเมือง ชาติ ศาสนา มารวมอยู่ในจุดวัดป่า ซึ่งเป็นศูนย์รวมที่จะรับข่าวรับคราวเรื่องราวอะไรมา ได้แก้ไขดัดแปลงด้วยการเอาโทรศัพท์เป็นสื่อกัน ให้มีแต่องค์เดียวเท่านั้นเป็นจุดศูนย์กลาง

    ใครจะเอาไปใช้เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ มีมาที่ใดในวัดนี้จะไม่ได้อุทธรณ์ เราบอกตรงๆ นะ ถ้าลงมีมาแล้วเราไล่หนีทันทีเลย เพราะ เรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายจะอนุโลมกันไม่ได้ ต้องไล่หนีทันที ให้ทราบทั่วกันวัดเรา อย่าว่าเราไม่ประกาศนะ แล้วธรรมวินัยประกาศไว้แล้วด้วย นี่เรามาพูดทีหลังแย็บๆ อยู่นี่ หลักธรรมวินัยท่านมีอยู่แล้ว

    ขอขอบคุณ
    http://www.dhammajak.net/forums/view...hp?f=7&t=20238
     
  2. chonthipat

    chonthipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +543
    ถูกต้องแล้วครับผมว่าพระไม่ควรมีไว้เป็นส่วนตัวถ้ามีควรจะตั้งไว้เป็นสาธารณะเพื่อรับกิจนิมนต์ต่างๆแต่ถ้าอยู่กับตัวกลัวจะต้องยุ่งกับเรื่องทางโลกมากเกินไปถ้ากำลังใจดีก็ไม่เป็นไรถ้าไม่ละอะไรจะเกิด
    <table width="100%" border="0" cellpadding="5" cellspacing="0"><tbody><tr><tr><td></td></tr></tr></tbody></table>
     
  3. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    update ครับ ...
     
  4. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    ตอนนี้ก็อยากจะเล่าประวัติของหลวงพ่อโหน่งสักนิดหนึ่ง ประวัติของหลวงพ่อโหน่งเป็นอย่างนี้ ที่ท่านเป็นพระแท้ ๆ นะ พระอย่างนี้ลูกหลานหายาก คือว่าหลวงพ่อโหน่งน่ะเป็นคนใกล้ ๆ วัดคลองมะดันนั่นเอง ไม่ใช่ลูกเศรษฐีคหบดีที่ไหน เวลาครบบวชท่านบวชอยู่ที่วัดคลองมะดัน 1 พรรษา พอพรรษาที่ 2 ก็อยากจะเรียนปริยัติธรรม ท่านมีน้าชายอยู่ที่วัดโพธิ์ วัดพระเชตุพน ท่านเตียน เป็นเจ้าคุณ แล้วเจ้าคุณองค์นี้ได้เปรียญ 9 ประโยค ท่านก็ไปหาน้าชายบอกว่าอยากจะขออยู่ด้วย อยากจะเรียนบาลี น้าชายก็ดีใจ เห็นหลานชายมีความสนใจในพระปริยัติธรรม ขออยู่ด้วย อยากจะเรียนบาลี น้าชายก็ดีใจ เห็นหลายชายมีความสนใจในพระปริยัติธรรมก็บอกว่าอยู่กับน้ำเถอะ เรื่องอาหารการบริโภคไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกลัวอด น้ำจะเลี้ยงเอง มีอะไรเท่าไรจะสอนให้หมด ไม่เก็บละ ดีใจว่าหลานสนใจในการศึกษา เมื่อคุยกันไปคุยกันมา หลวงพ่อโหน่งก็ถามว่า คุณน้าขอรับ คุณโหน่งเป็นเปรียญ 9 ประโยคแล้วก็เป็นเจ้าคุณด้วย คุณน้าละกิเลสได้หมดรึยัง และน้ำชายก็แสนจะดีไม่ตอบตรง ๆ หอก ท่านบอกว่าโหน่ง คุณเข้าไปดูในกุฏิฉันซิว่าฉันมีอะไรบ้าง หลวงพ่อโหน่งก็เดินเข้าไปดูในห้องท่าน มีโต๊ะหมู่มุกบ้าง โต๊ะหมู่ทองบ้างงาช้างอย่างดีบ้าง ของมีค่าเยอะแยะอยู่ในกุฏิภายในห้อง นับราคาไม่ไหว ของมีค่าสูง ๆ มาก พอดูทั่วแล้วท่านก็ออกมา หลวงน้ำก็ถามว่าโหน่งคุณเห็นอะไรบ้าง หลวงพ่อโหน่งท่านก็จาระไนหมดทุกอย่างเท่าที่เห็น ท่านก็เลยบอกหลวงพ่อโหน่งว่า คุณโหน่งนี่ถ้าฉันละกิเลสได้น่ะ ของทั้งหลายเหล่านี้มันไม่มีหรอก ถ้ามันจะมีมันเป็นของสงฆ์ แต่นี่ฉันมีไว้แล้วก็เป็นของส่วนตัวก็แสดงว่าฉันนี่ละกิเลสไม่ได้เลย ฉันบวชเป็นเปรียญ 9 ประโยค และพระราชาทรงแต่งตั้งให้เป็นพระราชาคณะ เรียกกันว่าเจ้าคุณ แต่ฉันก็ละกิเลสไม่ได้สักตัว ราคะ โทสะ โมหะ นี่ฉันละไม่ได้สักตัว หลวงพ่อโหน่งได้ยินอย่างนั้นก็สลดใจเลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นละก็กระผมไม่เรียนแล้วละครับหลวงน้า ถึงจะเรียนกันถึง 9 ประโยคแล้วละกิเลสไม่ได้ เป็นเจ้าคุณแล้วยังละกิเลสไม่ได้ ในเมื่อเรียนแล้วละกิเลสไม่ได้ไม่เรียนให้เหนื่อยหรอกขอรับ ขอลากลับไปวัดคลองมะดัน หลวงน้าก็ไม่ว่าอะไร บอกว่าตามใจ ๆ คุณ ในเมื่อคุณไม่สมัครใจฉันก็ไม่ว่า แต่ว่าถ้าต้องการเรียนเมื่อไรมาอยู่กับหลวงน้านะ หลวงน้าพร้อมที่จะอุปการะ

    [​IMG]






    หลวงพ่อโหน่ง​
     

แชร์หน้านี้

Loading...