พยานแห่งการละลึกชาติ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย วรเดช, 26 กันยายน 2007.

  1. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    พยานแห่งการละลึกชาติ

    ในทางพุทธศาสนา กล่าวว่าการกลับชาติมาเกิดมีจริง คนเราเกิดแล้วต้องตาย พอตายแล้วก็ไปเกิดใหม่ วนเวียนเป็นวัฎจักร หมุนเวียนหลายร้อย หลายพันชาติจนนับไม่ถ้วน เพราะวิญญาน หรือที่เรียกว่าอาทิสมานกาย หรือกายทิพย์ เป็นอมตะไม่ตาย ร่างกายเราเป็นเพียงบ้านชั่วคราวให้อาทิสมานกายนี้อาศัยอยู่เท่านั้น เราผ่านการเกิดการตายมาหลายครั้งหลายหนจนนับไม่ถ้วน ความตายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว แต่ที่เรากลัวคือความเจ็บปวดก่อนตาย และเรากลัวความไม่รู้ว่าหลังการตายนี้ บ้านใหม่ ภพใหม่ที่เราจะไปอยู่เป็นอย่างไร เป็นนรก หรือ สวรรค์ หรือ เป็นเปรต หรือ เป็นอสูรกาย ถ้ามีสติ เราเลือกไปภพภูมิที่ดีได้ ถ้าขาดสติ เราจะไปอย่างมืดมิดด้วย โทสะ โลภะ โมหะ และ อนุสัยกรรมจะนำเราไป ตามแต่กรรมที่เราเคยก่อไว้ ซึ่งเราไม่มีโอกาสเลือกเองได้เลย เพราะอวิชชาครอบงำ ทำให้ กิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง คอยกระตุ้นให้เราอยากได้ อยากมี อยากเป็น เราจึงต้องมาเกิดอีก เพื่อสนองตัณหาที่ไม่สิ้นสุดของเรา ในภพต่างๆ ในบทบาทของบุคคลต่างๆ ทั้งดี ทั้งชั่ว ทั้งจน ทั้งรวย ผันแปรเปลี่ยนไปเรื่อย

    กรรมหรือการกระทำที่เราทำทุกขณะ ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นความคิด การพูด การกระทำ ก่อให้เกิดห่วงโช่ต่อออกไปยังภพไม่สิ้นสุด ทุกกรรมที่เราทำ จะถูกบันทึกไว้ในส่วนลึกของจิตใต้สำนึก จิตเป็นเสมือนเทปที่ดีเยี่ยมที่บันทึกได้ไม่จำกัด และอยู่เป็นหลักฐานอย่างถาวรไม่บุบสลาย แต่การที่เราหรือบุคคลทั่วไป ไม่อาจกรอเทปมาดูอดีตชาติเราได้ เพราะขณะที่เราเปลี่ยนภพ เปลี่ยนชาติ มันเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างแรงในโลกธาตุ ประกอบกับร่างใหม่ที่เราอาศัยอยู่นี้ไม่สมบูรณ์พอ ทำให้หลายสิ่งที่เราเคยทำได้ เรากลับลืมไปหมด เราต้องมาเรียนกันใหม่ ในโรงเรียนของโลกนี้ แต่โรงเรียนโลกก็สอนเราได้เพียงบางส่วน กายของเราเหมือนวิทยุคุณภาพต่ำที่มีคลื่นรบกวนตลอดเวลา เราไม่อาจรับอะไรได้ชัดเจน จิตของเราจึงไม่อาจควบคุมใช้งานร่างกายของเราได้เต็มความสามารถ ตั้งแต่เกิด เซลในร่างกายของเรา ล้านๆ เซลก็เริ่มแตกดับตลอดเวลา มันจะวิ่งโคจรออกนอกระบบ ไม่เป็นระเบียบแตกแถวอยู่เสมอ ซึ่งการแพทย์ปัจจุบันเรียก ผลจากอาการนี้ว่าเกิด อนุมูลอิสระ หรือ Free radical ทำร่างกายเราเสื่อม ร่างกายเราแก่ เหมือนสนิมเหล็กที่กัดกร่อนชีวิตเราตลอดเวลา

    การกระทำทุกอันของเรา ทุกวันทำให้เกิดกรรม และเวรกรรมนั้นก็คงมีอยู่จริง การกลับมาเกิดใหม่เป็นจริง ที่มิอาจปฎิเสธได้ จนมีหลักฐานปรากฏ ตั้งแต่ในอดีตจนปัจจุบันเราเห็นบุคคลที่ละลึกชาติได้ กลับมาเกิดใหม่ มาเล่าเป็นประจักษ์พยานมากมาย เช่น

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง เคยเล่าไว้ปรากฎในหนังสือว่า ท่านได้เกิดมาหลายยุคหลายสมัย ที่เราพอเข้าใจได้ ก็ย้อนกลับไปถึงสมัยกรุงสุโขทัย ที่ท่านร่วมขับไล่ขอมจากดินแดนไทย ท่านจากพรหมโลกมาเกิดอีกหลายสมัยในประวัติศาตร์ไทย เมื่อชาติต้องการ แม้สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน ท่านก็ได้ร่วมกู้เอกราช จนที่สุดท่านก็เสร็จกิจในชาติสุดท้ายและลาโลกไป

    หลวงปู่บุดดาท่านสามารถระลึกชาติย้อนไปถึงเป็นพันๆปี ท่านเคยไปช่วยงานฌาปนกิจศพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอินเดีย

    คุณแม่ใหญ่แห่งวัดอัมพวัน ท่านสามารถนั่งสมาธิเข้านิโรธ ได้หลายวันโดยไม่ต้องรับทานอาหารหรือดื่มน้ำ ท่านเล่าเรื่องละลึกชาติของท่านย้อนกลับไป หลายชาติ เกิดเป็นทั้งชาย ทั้งหญิง ทั้งโยคี ทั้งเป็นเทวดา จนได้พบอาจารย์องค์สุดท้ายคือหลวงพ่อจรัล ที่สามารถชี้นำท่านสู่ที่สุดแห่งการเกิด
    แม้ผรั่งอย่างวีโก้ ซึ่งเคยเกิดเป็นพ่อค้าเดินเรือจากฮอลันดา มาสู่สยามประเทศยุคสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มาสร้างวัดอำพวัน ก็มาเกิดอีก เพราะบุญกรรมที่ทำไว้ จึงได้มีโอกาส มาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในเมืองไทย และได้ไปบวช ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน กับหลวงพ่อจรัล จนสามารถส่งพลังจิต เมตตาจิต ข้ามมหาสมุทรถึงแม่ ที่ป่วยอยู่ได้
    หลวงปู่มั่น ภูริฑัตโต ก็เห็นอดีตชาติของท่านว่าเคยเกิดเป็นสุนัข และด้วยความหลงและความพอใจในชาตินั้น จึงเกิดเป็นสุนัขอยู่หลายสิบชาติ ทำให้ท่านเกิดความสังเวชเป็นอันมาก ท่านเกิดความมุ่งมั่นทำความเพียร จนรู้แจ้งในธรรมที่ถ้ำสาริกา
    หลวงปู่โง่นซึ่งเพิ่งละสังขารไปไม่นาน ก็เขียนในหนังสือชีวประวัติของท่านว่าได้เคยไปเกิดในยุคพระนางสุพรรณกัลยา และได้ร่วมเดินทางไปในฐานะเชลยศึกกับท่านถึงที่ประเทศพม่า เพราะความสัมพันธ์นั้น ท่านจึงได้รับการร้องขอจากวิญญานพระนางสุพรรณกัลยาให้นำอัฐิท่านกลับมายังประเทศไทย ต่อมาท่านก็ได้มาเกิดอีกหลายยุค และมีความสัมพันธ์กับชีวิตแม่นาคพระโขนงอย่างลึกซึ้ง แม้แม่นาคได้จากเราไปนานแล้ว แต่วิญญานท่านก็ยังรอพบหลวงปู่โง่นตลอดมา
    เมื่อไม่นานมานี้ก็มีการทำเรื่องการกลับชาติมาเกิดของรายการโทรทัศน์ เรื่องหนึ่ง กล่าวถึงแม่ชีองค์หนึ่งที่ตายแล้วกลับมาเกิดเป็น ด.ญ. รัตนา วงค์สมบัติ ซึ่งทางรายการได้มีการไปสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในอดีต ก็ปรากฏว่าสิ่งที่ ด.ญ. รัตนา จำได้ เป็นความจริงถูกต้องทั้งหมด แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนเธอโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ความจำนั้นก็เลือนหายไปกับกาลเวลา

    ทางพุทธศาสนากล่าวว่าการระลึกชาติเป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปทำได้ แต่ผู้ทำได้ต้องฝึกสมาธิให้มีความชำนาญในการเข้าออกสมาธิอย่างคล่องแคล่ว วิธีทำ อ่านเพิ่มเติมใน เรื่อง.......การระลึกชาติ.....ประสบการณ์ในท้องแม่...มารู้จักกายทิพย์ทันเถิด

    <!--msthemeseparator-->
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...