ผ้าอาบน้ำฝน บุญประเพณีเข้าพรรษา

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย Catt Bewer, 18 กรกฎาคม 2008.

  1. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    ผ้าอาบน้ำฝน บุญประเพณีเข้าพรรษา

    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาสาฬหบูชา หรืออาสาฬหปุรณมีบูชาในวันนี้เป็นวันที่พระพุทธ เจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาธัมมจักกัปปวัตนสูตรเป็นผลให้เกิดมีพระสาวกรูปแรกขึ้นในพระพุทธศาสนาถือได้ว่าเป็นวันแรกที่มี พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบองค์พระรัตนตรัย

    ต่อเนื่องมาในวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 ซึ่งเป็นอีกวันหนึ่งที่มีความสำคัญด้วยเป็น วันเข้าพรรษา ซึ่งการเข้าพรรษาเป็นพุทธบัญญัติกำหนดให้พระภิกษุหยุดอยู่กับที่ไม่เดินทางไปพักค้าง ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งตลอดฤดูฝนเป็นเวลาสามเดือน ซึ่งการที่พระภิกษุอยู่ประจำที่ทำให้มีโอกาสได้สงเคราะห์กุลบุตรที่ประสงค์จะอุปสมบท เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ได้สงเคราะห์ พุทธบริษัททั่วไปช่วงพรรษา จึงเป็นอีกโอกาสดีที่พุทธศาสนิก ชนจะได้ตั้งมั่นรักษาศีล ปฏิบัติธรรม ลด ละเลิกอบายมุขทั้งหลายทั้งปวง

    นอกจากนี้เมื่อถึงวันเข้าพรรษาไม่เพียงการทำบุญตักบาตร รักษาศีล ฟังเทศน์ฟังธรรมแต่ยังมีการนำ ผ้าอาบน้ำฝน ถวายแด่พระภิกษุรวมอยู่ด้วย ไพฑูรย์ ปานประชา นักวิชาการวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรมให้ความรู้พร้อมบอกเล่าประเพณีการถวายผ้าอาบน้ำฝนที่ยังคงปฏิบัติสืบต่อกันมาว่า ปกติผ้าที่พระภิกษุใช้จะมีเพียงสามผืน ในช่วงเข้าพรรษาซึ่งเป็นฤดูฝน ผ้าที่ใช้อาจเปียกบ่อย จึงมีการถวายผ้าชนิดหนึ่งที่เรียกกันว่า ผ้าอาบน้ำฝน ให้กับพระได้ใช้ผลัดเปลี่ยน

    การถวายผ้าอาบน้ำฝนเป็นประเพณีที่มีเรื่องเล่ามาแต่ครั้งพุทธกาลซึ่งตามที่ทราบกันนางวิสาขาเป็นคนแรกที่กราบทูลขอพระพุทธเจ้า ถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระภิกษุซึ่งถึงวันนี้ยังคงเป็นประเพณีที่ชาวพุทธปฏิบัติต่อเนื่องมาซึ่งผู้ที่ทำบุญถวายผ้าอาบน้ำฝนจะได้รับอานิสงส์เหมือนการถวายผ้าชนิดอื่น ๆ
     
  2. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    [​IMG] อนุโมทนาสาธุบุญ [​IMG]

    นรชนควรสละทรัพย์เพื่อรักษา อวัยวะ
    นรชนควรสละอวัยวะเพื่อรักษา ชีวิต
    นรชนควรสละทรัพย์ อวัยวะ ชีวิต เพื่อรักษา ธรรม<O:p</O:p
     
  3. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    อานิสงส์ถวายผ้าอาบน้ำฝน

    ....การถวายผ้าอาบน้ำฝนมีผลานิสงส์อย่างไร เป็นใจความว่า ในสมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า
    เสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถีในวันนั้นเป็นวัน ๘ ค่ำ นางวิสาขาได้ถือเครื่อง
    สักการะ พร้อมด้วยบริวารเป็นอันมากไปสู่สำนักพระพุทธเจ้าถวายเครื่องสักการบูชาพระรัตนตรัยแล้ว
    บังเอิญฝนตก พระภิกษุทั้งหลายได้เปลือยกายอาบน้ำฝนกันมากมาย นางวิสาขาเห็นเช่นนั้นแล้วก็เกิด
    ความละอาย และคิดในใจว่าพระภิกษุไม่มีผ้าสำหรับอาบน้ำฝน ก็บังเกิดมีจิตศรัทธา คิดจะสร้างผ้าอาบ
    น้ำฝนถวายเป็นทานแล้วก็กลับไปสู่กรุงสาวัตถี จัดแจงหาผ้าได้พอสมควรแล้วพอตอนเย็นก็พาบริวาร
    และผ้านั้นมาสู่สำนักพระพุทธองค์แล้วถวายผ้าอาบน้ำฝนนั้น แก่องค์พระศาสดาพร้อมทั้งภิกษุทั้งหลาย
    แล้วกราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การถวายผ้าอาบน้ำฝนนี้มีผลานิสงส์เป็นอย่างไรพระเจ้าข้า

    พระองค์ได้ตรัสเทศนาว่า ดูกรนางวิสาขา ถ้าบุคคลใดมีจิตศรัทธานำผ้าอาบน้ำฝนมาถวายแก่พระภิกษุ
    ในพุทธศาสดาจะมีผลานิสงส์เป็นอเนกประการแล้วพระองค์ทรงนำอดีตนิทานมาแสดงต่อไปว่าใน
    ศาสนาพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มีหญิงเข็ญใจคนหนึ่ง มีนามว่า อมัยทาสีอยู่มาวันหนึ่งนางได้
    เห็นคนทั้งหลาย นำผ้ากาสาวพัตรไปสู่สำนักภิกษุสงฆ์ให้เป็นทาน โดยกระทำให้เป็นผู้อาบน้ำฝน
    นางอมัยทาสีก็มีศรัทธาอยากจะทำบุญกับเขาบ้าง นางก็คิดว่าจะทำอย่างไรดีหนอ ที่เราจะได้ทำบุญใน
    คราวนี้บ้าง พิจารณาผ้าที่จะให้ทานก็ไม่มี รีบไปหามารดา แล้วบอกความจำนงของตนให้มารดา มารดา
    ก็ตอบว่า เราจะเอามาแต่ที่ไหน เราก็เป็นทาสเขาอยู่ นางอมัยทาสี เมื่อได้ยินดังนี้น้ำตาก็ไหลด้วยความ
    เสียใจ มารดาของนางก็มีจิตสงสาร จึงแนะนำให้นางอมัยทาสีไปขึ้นค่าตัวกับนายนางได้รับคำแนะนำ
    เช่นนั้นแล้วก็มีความยินดีจึงรีบไปหานายของนาง ฝ่ายเศรษฐีผู้เป็นนายก็ปฏิเสธไม่ยอมให้นางอมัยทาสี
    ขึ้นค่าตัว นางไม่มีความสบายใจนางมาคิดว่าเมื่อชาติก่อนนี้เราไม่ทำบุญให้ทาน มาชาตินี้เราจึงได้ตก
    ระกำลำบาก ถึงเวลาจะทำบุญกับเขาบ้างก็จะไม่ทำกับเขาคราวนี้จะเป็นตายอย่างไรจะต้องขอทำบุญให้
    ได้ในครั้งนี้ ด้วยจิตศรัทธาแรงกล้านางอมัยทาสีทนความอับอาบขายหน้า ได้สละผ้าห่มแล้วนำใบไม้มา
    เย็บกลัดพอปกปิด บรรเทาความอายแล้วเอาผ้าซักฟอกให้หมดความสกปรกแล้วนำดอกไม้ธูปเทียน
    พร้อมด้วยผ้าไปสู่ธรรมศาลาถวายผ้าอาบน้ำฝนนั้นในวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๗ ก่อนเข้าพรรษาพร้อมกับ
    มหาชนทั้งหลาย แล้วตั้งความปรารถนาว่า ด้วยอานิสงส์ที่ตนได้กระทำบุญในคราวครั้งนี้ ขึ้นชื่อว่า
    ความยากจนเข็ญใจไร้ทรัพย์อย่าได้มีในชาติต่อ ๆ ไป จนถึงพระนิพพาน และขอให้พบพระศาสนา
    พระศรีอริยเมตไตรย์ เมื่อคำปรารถนาของนางจบลงแล้ว เทวดาทั้งหลายก็ซ้องสาธุการสนั่นหวั่นไหว

    ด้วยอานิสงส์ของนางอมัยทาสีทำบุญในคราวครั้งนั้น อยู่มาได้ ๗ วัน พระเจ้าพันธุมหาราช ได้เสด็จไป
    พบนางกำลังหาบฟืนมาในระหว่างทางก็เกิดความปฏิพัทธ์รักใคร่ในตัวนางมาก จึงตรัสปราศรัยไต่ถาม
    ความตลอดแล้วจึงยกนางขึ้นราชรถนำเข้าไปสู่พระนคร อภิเษกนางให้อยู่ในตำแหน่งอัครมเหสี ครั้น
    ทำลายขันธ์แล้วนางได้ไปเกิดบนสวรรค์มีวิมานทองสูง ๑๕ โยชน์ มีนางฟ้าเป็นบริวาร ๓ พัน ครั้น
    เสวยทิพย์สมบัติแล้วจนในชาติสุดท้ายนางจะได้เกิดในศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย์ได้บรรลุธรรมพิเศษ
    ดังนี้แล พระองค์ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาจบลงแล้ว ชนทั้งหลายก็ได้ดวงตาเห็นธรรมส่วนนาง
    วิสาขาก็ตั้งอยู่ในพระรัตนตรัย

    http://www.84000.org/anisong/13.html
     
  4. อรรัชช์ฐาน์

    อรรัชช์ฐาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +438
    โมทนาสาธุค่ะ
    <O:p> [​IMG]</O:p>
    <O:p> [​IMG]</O:p>
    <O:pคำถวายผ้าอาบน้ำฝน
    อิมานิ มะยัง ภันเต

    วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ
    ภิกขุสังฆัสสะ โอโณชะยามะ
    สาธุ โน ภันเต ภิกขุสังโฆ
    อิมานิ วัสสิกะสาฏิกานิ สะปะริวารานิ
    ปะฏิคคันหาตุ อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ
    (ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมถวายผ้าอาบน้ำฝนกับบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับผ้าอาบน้ำฝนกับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ)
    <!-- NewPP limit reportPreprocessor node count: 1/1000000Post-expand include size: 0/2048000 bytesTemplate argument size: 0/2048000 bytesExpensive parser function count: 0/500--><!-- Saved in parser cache with key thwikisource:pcache:idhash:4263-0!1!0!!th!2 and timestamp 20080712222111 -->รับข้อมูลจาก "http://th.wikisource.org/

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กรกฎาคม 2008
  5. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    ขออนุโมทนา...สาธุในการทำบุญในประเพณีเข้าพรรษานี้ด้วยเทอญ
     
  6. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ผู้ถาม : เมื่อทำบุญแล้ว ถ้าจะอุทิศส่วนกุศลภายหลังจะได้ไหมคะ...........?
    หลวงพ่อ : การทำบุญไปแล้วครั้งหนึ่งสักกี่ปี ๆ บุญก็ยังมีอยู่ถ้าทำไปแล้วสัก ๓๐ ปี ก็ยังอุทิศส่วนกุศลได้ บุญมันไม่หาย ไม่ใช่เราทำบุญแล้ว เดี๋ยวเดียวมันหายไปไม่ใช่อย่างนั้นนะ
    ผู้ถาม :แล้วถ้าเผื่อทำบุญแล้ว ไม่ได้อุทิศส่วนกุศลจะได้บุญเต็มที่ไหมคะ...?
    หลวงพ่อ : ก็ได้เต็มที่อยู่แล้ว เราเป็นผู้ได้สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ว่าเราจะให้เขาหรือไม่ให้ การอุทิศส่วนกุศล นี่นะ ถ้าเราไม่ให้ เราก็กินคนเดียวใช่ไหม..... ทีนี้ถ้าเราให้เขาของเราก็ไม่หมดอีก ส่วนที่เราให้ไปไม่ได้ยุบไปจากของเดิม อย่างเรื่องของ พระอนุรุทธ สมัยที่ท่านเกิดเป็นคนเกี่ยวหญ้าช้างของมหาเศรษฐี เวลาที่ท่านทำบุญแล้ว เจ้านายขอแบ่งบุญ ท่านก็สงสัยว่าการแบ่งบุญน่ะจะแบ่งได้ไหม จึงไปถามพระปัจเจกพุทธเจ้า ที่ท่านรับบาตรนะ ท่านก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า

    "สมมุติว่าโยมมีคบ แล้วก็มีไฟด้วย คนอื่นเขามีแต่คบ ไม่มีไฟ ทุกคนต้องการแสงสว่าง ก็มาขอต่อไฟที่คบของโยมแล้วคบทุกคนสว่างไสวหมด อยากทราบว่าไฟของคุณโยมจะยุบไปไหม....?
    ท่านอนุรุทธก็บอกว่า ไม่ยุบ
    แล้วท่านก็บอกว่า "การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกัน ให้เขา เขาโมทนา แต่บุญของเราเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์"


    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    <!-- / message -->​
     
  7. kiyo.m@hotmail.com

    kiyo.m@hotmail.com สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +1
    [​IMG]
    เห็นด้วยกับคุณ Kasher คับ
    ----------------------------
    อนุโมทนาบุญด้วยคับ
     
  8. หนึ่ง898989

    หนึ่ง898989 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +295
    วันแม่แห่งชาติ
    มีการสาธยายพระไตรปิฎก
    กรมการศาสนา
    ถวายเป็นพุทธบูชา

    และเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าบรมราชินีนาถ

    ตลอด ๒๔ ชัวโมง
    ณ วัดใหม่ยายแป้น สี่แยกบางขุนนนท์ ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขต บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

    วันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม ถึง วันอังคาร ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๑

    เริ่มงานวันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๑

    เวลา 0๘.00 น พร้อมกันที่พระอุโบสถ

    เวลา 0๘.๓0 น อันเชิญพระไตรปิฎกทักษิณาวัตรรอบพระอุโบสถ

    เวลา 0๙.0๙ น เริ่มพิธีที่พระวิหารพระไตรปิฎก

    ประธาน จุดเทียนธูปบูชาพระรัตนตรัย

    เจ้าหน้าที่อาราธนาสีล ประธานสงฆ์ให้สีล ประกาศศักราช

    ประธานจุดเทียนบูชาพระไตรปิฎก

    เจ้าหน้าที่อาราธนาธรรม

    พระสงฆ์สวดพระธรรมจักร

    สาธยายพระไตรปิฎกเริ่มเล่มที่ ๓๕ เป็นต้นไปพร้อมกันตลอด ๕ วัน ๔ คืนไม่มีการหยุดสาธยาย

    ชมพระไตรปิฎกโบราณที่หาชมได้ยาก

    (งานนี้ไมมีการรับเงินบริจาคครับ)

    รับเป็นน้ำปานะภัตรตาหารเช้าภัตรตาหารเพล ครับ ท่านใดมีความประสงค์เป็นเจ้าภัตรหาร

    ให้ติดต่อพระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ

    02-435-7555

    มือถือ 089-963-4505

    โทรสาร 02-434-1238

    มีรถเมล์ผ่าน
    79 57 56 68 157 175 40 542 80 509 28 171
    ที่มาจากปินเกล้าลงที่สี่แยกบางขุนนนท์เชิงสะพานลอย
    ที่มาจากสามแยกไฟฉายลงที่เลยห้างแมคโคเดินขึ้นมา
    หรือติดต่อที่ผมก้ได้ครับ 0851245895 ครับ สุริยะ


    สีล คำนี้มาจากพระไตรปิฎกครับ

    ห้ามใส่เสิ้อผ้า สี่ดำมางานครับ
    ท่านใดมางานควรนำดอกบัวสีขาวมาบูชาพระพุทธองค์ด้วยครับ
    <!-- / message --><!-- attachments -->
    <!-- / message --><!-- attachments -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...