''ผู้ว่าฯพาหุง'' ได้เลื่อนขั้นตลอดชีวิตข้าราชการ เพราะสวดพาหุงฯ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย 2499, 4 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=900 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left width=120 bgColor=#ffffff>
    ชื่อ-นามสกุล :
    อายุ :
    วุฒิการศึกษา :
    อาชีพ :
    องค์กร :
    ประเภทองค์กร :
    </TD><TD vAlign=top align=left width=480 bgColor=#ffffff>
    นาย สงวน จันทรอักษร
    64 ปี
    ปริญญาโท
    ข้าราชการบำนาญ
    พุทธสมาคมจังหวัดพัทลุง
    ภาคเอกชน
    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    ในปี พ.ศ.๒๕๒๗ ข้าพเจ้ารับตำแหน่ง
    เป็นผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
    อยู่มาแล้ว ๓ ปี นั่งมองดูงานกับมองดูอายุตัวเองแล้ว
    คิดว่าถ้าอยู่อย่างนี้ คงไปไม่ถึงไหนแน่
    เพราะงานผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยไม่เด่นมากนัก
    การที่จะได้ ๒ ขั้นคงยาก ประกอบกับอายุตัวก็ ๔๐ กว่าแล้ว
    จึงตัดสินใจขอออกจากกระทรวงมหาดไทย
    ไปเป็นหัวห้าฝ่ายแผนและโครงการสำนักงานจังหวัดนราธิวาส
    ที่นั่นงานมากและเป็นที่เสี่ยงภัย

    ที่นราธิวาส บ้านเช่าหายาก มีบ้านที่หัวหน้าฝ่ายคนก่อนเคยเช่าอยู่
    เก่ามากๆ ผีดุ บนฝ้าเพดานมีค้างคาว หนูอาศัยอยู่เต็ม
    ตอนกลางคืนจะมีเสมือนเสียงคนเดินบนเพดานตลอดคืน
    ข้าพเจ้าคิดจะหาบ้านใหม่หลายครั้งแต่หาไม่ได้

    ผู้บังคับบัญชาขณะนั้น ดูเหมือนไม่ค่อยชอบหน้าข้าพเจ้าเลย
    แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมาแล้วก็ต้องทำงานให้คุ้ม
    ตกหัวค่ำก็ไปทำงาน โครงการอันเนื่องจากพระราชดำริ
    มีถึง ๒๙๙ โครงการ ทำคนเดียวไม่ค่อยทัน จึงต้องขึ้นทำตอนค่ำ
    ตั้งแต่ ๑๘.๓๐ น. ถึง ๒๒.๓๐ น. ทุกวัน
    หลังจากเลิกงานแล้วก็เป็นทุกข์ เพราะกลับไปบ้านก็กลัวผีหลอก
    จึงต้องไปกินเหล้าวันละ ๑ แบน หรือเบียร์ ๒ ขวดทุกวัน เมาแอ่นแล้วกลับบ้าน
    เข้านอนโดยไม่ต้องถอดเสื้อผ้า หลับไปเลยจะได้ไม่ต้องกลัวผี
    เป็นเช่นนี้อยู่ ๒-๓ เดือน เงินที่ติดตัวไปบ้างก็เริ่มหมด
    กลัวจะเป็นคนติดเหล้าก็กลัว จึงขึ้นไปกรุงเทพ ๒-๓ วัน

    ไปหาท่านมหาคล่อง ที่วัดวิเศษการ พรานนก
    ท่านบอกว่า ถ้ากลัวผีให้สวดพุทธคุณพาหุงมหากา

    ก็ไปซื้อหนังสือ เจ็ดตำนานมา ๑ เล่ม
    ตัดเอาเฉพาะที่เป็นบทพาหุง ไปถ่ายขยายใหญ่ติดไว้หัวนอน
    คราวนี้เลิกงานดึกแล้ว ไม่กินเหล้า เบียร์
    แต่รีบกลับมาบ้านสวดพุทธคุณ พาหุงมหากา
    หลับสบายดีตั้งแต่บัดนั้นมา จนไม่ต้องกินเหล้าเบียร์อีกเลย


    พอดี ตอนนั้น แม่ไปอยู่ด้วย แม่ใส่บาตรทุกวัน
    หลังจากสวดพุทธคุณพาหุงได้ ๒ เดือน
    ผู้บังคับบัญชาที่เคยไม่ชอบหน้า ก็ให้คนมาตามชวนไปทานอาหารเย็น
    แล้วค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อย จนในที่สุดกลายเป็นคนที่ท่านชอบ
    ท่านขึ้นไปกรุงเทพ ๒ ครั้ง เพื่อขอความดีความชอบเป็นกรณีพิเศษ ๒ ขั้นให้
    ปีนั้นได้ ๒ ขั้น

    เมื่อเงินเดือนสูง ได้รับการแต่งตั้งให้รักษาราชการ
    ในตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานจังหวัดปทุมธานี
    ผู้บังคับบัญชาสมัยนั้นให้ความไว้วางใจมาก
    เพราะเป็นเรื่องแปลก ตกตอนกลางวันท่านจะชวนไปนั่งทานอาหารเที่ยง
    ด้วยกันทุกวันที่ข้างนอก พอทานเสร็จนั่งรถมากับท่าน
    พอจะถึงศาลากลางท่านก็สั่งงานเกือบทุกวัน
    แต่งานที่ท่านสั่งเราเตรียมไว้เสร็จแล้วทุกครั้ง
    นำไปให้ท่านลงนามภายใน ๓๐ นาที หลังจากท่านสั่งแล้วทุกครั้ง
    จึงได้รับความไว้วางใจด้วยดีเสมอมา

    อยู่ปทุมธานีได้ ๖ เดือน กระทรวงย้ายให้ไปอยู่จังหวัดเลย
    ซึ่งเป็นจังหวัดที่ต้องรับผิดชอบดูแลผู้อพยพถึง ๔๖,๐๐๐ คน
    มีข้าราชการที่เป็นลูกน้องมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ถึง ๑๗ คน
    อยู่ที่นี่ก็เป็นที่รักใคร่ไว้วางใจของผู้บังคับบัญชาด้วยดี
    ได้รับการพิจารณาความดีความชอบเป็นกรณีพิเศษ ๒ ขั้น ติดต่อกัน ๒ ปี
    จึงได้รับการแต่งตั้งเข้าไปเป็นหัวหน้าฝ่ายการเงินของกระทรวงมหาดไทย
    ได้ ๒ ขั้น อีก ๑ ปี ต่อมาไปเป็นซี ๘ ที่นครศรีธรรมราช ๔ ปี ได้ ๒ ขั้นอีก ๓ ครั้ง

    พุทธคุณพาหุงสวดตลอดเวลา ทั้งตอนตื่นนอน ก่อนล้างหน้า และก่อนนอน
    ไม่ค่อยได้ว่างเว้นนอกจากมีเหตุจำเป็น


    ต่อมาในปี ๒๕๓๖ กระทรวงมหาดไทยเรียกให้เข้าเรียน
    ในหลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.)
    ช่วงปิด ๓ วันก็ไปถือศีลที่วัดอัมพวัน ไปกับภรรยา
    นุ่งขาวห่มขาวถือศีลอยู่ ๓ วัน ทำสมาธิดีมากๆ ปีนี้ได้ ๒ ขั้นอีก
    ในที่สุดย้ายไปอยู่นราธิวาส วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๓๗ ได้ ๒ ขั้น
    ทาง ศอ.บต. อีก ๑ ปี พอถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๓๙
    ได้เลื่อนเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช

    ตอนอยู่นครศรีธรรมราชนี้ ได้ถือปฏิบัติเคร่งครัดอยู่ ๓ ประการคือ

    ๑. สวดพุทธคุณพาหุงมหากาทุกวัน เช้า-ค่ำ เหมือนเช่นเคย
    วันเกิดอาจสวดธรรมจักรกัปปวัตนสูตรบ้าง ทำสมาธิด้วย

    ๒. ใส่บาตรทุกเช้า ไม่ว่าภิกษุสามเณร จะกี่องค์ต้องใส่จนครบ
    บางวันมีถึง ๕๐ องค์ ใส่จนครบ

    มีข้อสังเกตว่า ยิ่งทำบุญใส่บาตรมากเท่าใด
    ประชาชน ญาติมิตร เพื่อนฝูงจะนำของกินมาให้
    เช่น ผัก ปลา ผลไม้ น้ำผึ้ง ข้าวสาร มาให้จนใช้ไม่หมด
    ต้องแจกจ่ายให้ผู้อื่นอยู่เสมอๆ

    ๓. ชักชวนข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวพุทธไปทำบุญ
    ตามโครงการธรรมทานสัญจร เป็นประจำทุกเดือนๆ ละ ๑ ครั้ง
    ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวันอาทิตย์ มีข้าราชการและประชาน ไปร่วมครั้งละมากๆ
    บางครั้งถึง ๘๐๐ คน ทุกคนจะได้รับแจกบทสวดพุทธคุณพาหุง
    เพื่อสวดทุกคน ทุกครั้งที่ไปทำบุญ ได้แจกไปแล้วที่นครศรีธรรมราช
    ประมาณ ๒ แสนฉบับ (รวมเวลา ๔ ปีครึ่ง)
    จะมีผู้ที่สวดเป็นประจำหลายหมื่นคน

    ต่อมาตุลาคม ๒๕๔๓ ได้ย้ายไปเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง
    ก็ดำเนินการเช่นเดียวกับที่นครศรีธรรมราช
    แต่ใช้ความถี่ในการออกไปชักชวนคนให้สวดมากขึ้น
    คือ ไปทุกเสาร์อาทิตย์ ส่วนในช่วงพรรษาไปทุกวัน
    เว้นวันจันทร์วันเดียว ผลก็คือ มีผู้สวดพุทธคุณพาหุงมหากากันทั่วเมือง

    ๑ สิงหาคม ๒๕๔๔ เดินทางขึ้นไปนมัสการพระที่พิษณุโลก
    และเชียงใหม่ พอถึงวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๔๔ ได้เดินทางกลับ

    และนมัสการท่านเจ้าคุณหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
    โชคดีมากๆ ที่วันนี้ท่านลงมารับแขก
    มีแขกคุยอยู่เพียง ๔-๕ คนเท่านั้น
    ภรรยาซึ่งมาวัดนี้บ่อยๆ ก็ชวนให้เข้าไปนมัสการท่าน
    หลังจากนั่งฟังท่านคุยอยู่พอสามควร
    ก็มีโอกาสได้เล่าให้ท่านฟังว่า เป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดมา ๕ ปีครึ่งแล้ว



    [​IMG]

    อยู่นครศรีธรรมราชและพัทลุง นำประชาชนสวดพุทธคุณพาหุง
    ไม่เคยขาด ท่านนั่งดูสักพักท่านก็พูดขึ้นมาว่า "ไปเป็นผู้ว่าเสียไป"


    ดีใจมาก เพราะคิดว่าสวดพุทธคุณพาหุงมา ๑๐ กว่าปี
    ล้วนพบแต่ของดี มาวันนี้ท่านเจ้าคุณคงมองเห็นพลังความดี
    ที่เราสวดและปฏิบัติธรรมตามบทพุทธคุณหาหุงมาตลอด
    ท่านจึงให้พรให้ไปเป็นผู้ว่าและพอถึงวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๔
    โทรศัพท์ก็ประกาศว่า ครม.แต่งตั้งให้ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
    คนทั่วไปบอกกันว่า ที่ได้เป็นผู้ว่าก็เพราะสวดพาหุง
    จึงเรียกกันว่าผู้ว่าพาหุง


    ข้าพเจ้าดีใจมากๆ ที่คนเรียกเช่นนั้น
    เพราะอยากจะชักนำให้คนสวดพาหุงกันให้มากๆ
    แต่ดูเหมือนคนไม่กล้าสวด กลัวจะเชย
    แต่เราสวดจนได้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ได้ทำชั่วจนได้เป็น ก็ดีใจ
    เพราะอาจทำให้คนอื่นหายกลัวเชยไปได้บ้าง

    สิ่งที่ชักชวนให้ผู้คนสวดพุทธคุณพาหุงมากๆ
    ก็คือ ได้อธิบายให้คนเข้าใจว่า พุทธคุณพาหุง
    เป็นบทที่พรรณนาเล่าเรื่องที่พระพุทธเจ้าชนะมาร ๘ ประการ
    แต่ละประการทรงชนะด้วยธรรมะ

    อานิสงส์ของการสวด
    ก็คือ เอาธรรมะมาท่องบ่น บริกรรม ภาวนา ย่อมได้อานิสงส์
    และนำธรรมะนั้นๆ ไปปฏิบัติย่อมได้อานิสงส์เห็นทันตา เช่น


    พาหุงข้อที่ ๑ พระพุทธเจ้าชนะมารด้วยระลึกถึงทานที่ทำมาแล้ว
    แต่อดีตชาติ ข้อนี้ธรรมะ คือ สอนให้เราให้ทานแล้วชนะมารได้

    พาหุงข้อที่ ๒ คือชนะด้วยขันติ ความอดทน อดกลั้น
    ผู้ใดสวดแล้วนำธรรมะมาปฏิบัติก็จะทำอะไรสำเร็จ
    ให้ลูกสวด ให้ลูกปฏิบัติ ลูกเรียนหนังสือก็จะสำเร็จมีงานการทำดีๆ

    พาหุงข้อที่ ๓ พระพุทธเจ้าชนะมารด้วยเมตตา
    ธรรมะในข้อนี้ คือ เมตตา สวดแล้วแผ่เมตตาก็จะไม่มีศัตรู
    มีแต่เทวดารัก มนุษย์รัก เป็นต้น


    พุทธคุณพาหุงนี้มีอานุภาพมากจริงๆ ได้เห็นมาแล้วทุกอย่าง

    วันหนึ่งประชาชน ๓,๐๐๐ กว่าคนปิดถนน ประท้วงเรื่องเลือกตั้ง
    ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายให้ข้าพเจ้าไปแก้ปัญหา
    สามารถใช้เวลาในการเจรจาเพียง ๑๐ นาที
    ผู้คนเลิกปิดถนนได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจจริง
    จึงขอเชิญชวนทุกท่านสวดพุทธคุณพาหุงเถิดครับ
    ตัวเองได้ดี บุตรหลานได้ดี ครอบครัวได้ดี
    และบ้านเมืองจะดีไปด้วย ข้าพเจ้าเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
    ก็จะทำเช่นเดียวกับที่นครศรีธรรมราช และพัทลุง
    ด้วยใจมุ่งเมตตาให้ประชาชนเป็นสุขด้วยกันทุกคน

    (นายสงวน จันทรอักษร)
    ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
    อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ๙๒๐๐๐




    http://www.jarun.org/v5/th/lrule16r0102.html
    <!-- / message --><!-- sig -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,240
    อ่านเรื่องของท่านเเล้ว ปลื้มมากเลย ทำให้ขยันสวดมากขึ้น ขอขอบคุณค่ะที่นำมาให้รับรู้ถึงบทสวดพาหุง อนุโมทนาสาธุ
     
  3. ขันติธรรม

    ขันติธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +373
    อนุโมทนา สาธุ



    <CENTER>"พาหุงมหากา" หรือ "พุทธชัยมงคลคาถา"


    </CENTER><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="100%" colSpan=2>
    [​IMG]



    ชัยชนะของพระพุทธเจ้าอันเป็นมงคล


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="100%" colSpan=2>ตั้งนะโม ๓ จบ


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="43%" bgColor=#ffffee>
    • พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
      ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
      ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    • ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคลานิฯ
    </TD><TD vAlign=top width="57%" bgColor=#ffffee>
    • พระจอมมุนี ได้เอาชนะพระยามารผู้เนรมิตแขนมากตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างครีเมขละ มาพร้อมกับเหล่าเสนามารซึ่งโห่ร้องกึกก้อง ด้วยวิธีอธิษฐานถึงทานบารมี เป็นต้น,
    • ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="43%">
    • มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
      โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
      ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    • ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
    </TD><TD vAlign=top width="57%">
    • อนึ่งพระจอมมุนี ได้เอาชนะยักษ์ชื่อ อาฬวกะ ผู้มีจิตหยาบกระด้าง ผู้ไม่มีความอดทน มีความพิลึกน่ากลัวกว่าพระยามาร ซึ่งได้เข้ามาต่อสู้อย่างยิ่งยวดจนตลอดคืนยันรุ่ง ด้วยวิธีทรมานอันดี คือ ขันติ ความอดทน,
    • ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="43%" bgColor=#ffffee>
    • นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
      ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
      เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    • ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
    </TD><TD vAlign=top width="57%" bgColor=#ffffee>
    • พระจอมมุนี ได้เอาชนะช้างตัวประเสริฐ ชื่อ นาฬาคิรี ที่เมายิ่งนัก และแสนจะดุร้าย ประดุจไฟป่าและจักราวุธและสายฟ้า ด้วยวิธีรดลงด้วยน้ำ คือ ความมีพระทัยเมตตา,
    • ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="43%">
    • อุกขิตตะขัคคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
      ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
      อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท
    • ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
    </TD><TD vAlign=top width="57%">
    • พระจอมมุนี ทรงคิดจะแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ จึงได้เอาชนะโจรชื่อ องคุลิมาล ผู้แสนจะดุร้าย มีฝีมือ ถือดาบวิ่งไล่พระองค์ไปสิ้นระยะทาง ๓ โยชน์,
    • ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="43%" bgColor=#ffffee>
    • กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
      จิญจายะ ทุฎฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
      สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
    • ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
    </TD><TD vAlign=top width="57%" bgColor=#ffffee>
    • พระจอมมุนี ได้เอาชนะคำกล่าวใส่ร้ายของ นางจิญจมาณวิกา ซึ่งทำอาการเหมือนดั่งตั้งครรภ์ เพราะเอาท่อนไม้กลมผูกไว้ที่หน้าท้อง ด้วยวิธีทรงสมาธิอันงาม คือ ความกระทำพระทัยให้ตั้งมั่นนิ่งเฉย ในท่ามกลางหมู่ชน,
    • ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="43%">
    • สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง
      วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
      ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท
    • ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
    </TD><TD vAlign=top width="57%">
    • พระจอมมุนี ผู้รุ่งเรืองด้วยแสงสว่าง คือ ปัญญา ได้เอาชนะ สัจจกะนิครนถ์ ผู้มีความคิดมุ่งหมายในอันจะละทิ้งความสัตย์ มีใจคิดจะยกถ้อยคำของตนให้สูงประดุจยกธง และมีใจมืดมนยิ่งนัก ด้วยการแสดงเทศนาให้ถูกใจ,
    • ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="43%" bgColor=#ffffee>
    • นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
      ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
      อิทธูปะเทสะวิธีนา ชิตะวา มุนินโท
    • ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ
    </TD><TD vAlign=top width="57%" bgColor=#ffffee>
    • พระจอมมุนี ได้เอาชนะพญานาคราช ชื่อ นันโทปนันทะ ผู้มีความรู้ผิด มีฤทธิ์มาก ด้วยวิธีบอกอุบายให้พระโมคคัลลานเถระพุทธชิโนรส แสดงฤทธิ์เนรมิตกายเป็นนาคราช ไปทรมานพญานาค ชื่อ นันโทปนันทะ นั้น,
    • ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="43%">
    • ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
      พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทะพะกาภิธานัง
      ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท
    • ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ
    </TD><TD vAlign=top width="57%">
    • พระจอมมุนี ได้เอาชนะพระพรหมผู้มีนามว่า ท้าวผกาพรหม ผู้มีฤทธิ์ คิดว่าตนเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ ผู้ถูกพญานาครัดมือไว้แน่น เพราะมีจิตคิดถือเอาความเห็นผิด ด้วยวิธีวางยา คือ ทรงแสดงเทศนาให้ถูกใจ,
    • ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="43%" bgColor=#ffffee>
    • เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา
      โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
      หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ
      โมกขัง สุขัง อะธิคะมยยะ นะโร สะปัญโญ ฯ
    </TD><TD vAlign=top width="57%" bgColor=#ffffee>
    • บุคคลใดมีปัญญา ไม่เกียจคร้าน สวดและระลึกถึงพระพุทธชัยมงคล ๘ คาถาเหล่านี้ทุกๆ วัน บุคคลนั้นจะพึงละความจัญไรอันตรายทั้งหลายทุกอย่างเส ียได้ และเข้าถึงความหลุดพ้น คือ พระนิพพานอันบรมสุข นั้นแลฯ
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width="43%"></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ที่มา : http://www.banfun.com/buddha/chaimongkol.html




    คำแปล "พาหุงมหากา" หรือ "พุทธชัยมงคลคาถา" มีอยู่ ๘ บท และมีความมุ่งหมายแตกต่างกันทั้งแปดบท กล่าวคือ

    บทที่ ๑ สำหรับเอาชนะศัตรูหมู่มาก เช่น ในการสู้รบ
    บทที่ ๒ สำหรับเอาชนะใจคนที่กระด้างกระเดื่องเป็นปฏิปักษ์
    บทที่ ๓ สำหรับเอาชนะสัตว์ร้ายหรือคู่ต่อสู้
    บทที่ ๔ สำหรับเอาชนะโจร
    บทที่ ๕ สำหรับเอาชนะการแกล้ง ใส่ร้ายกล่าวโทษหรือคดีความ
    บทที่ ๖ สำหรับเอาชนะการโต้ตอบ
    บทที่ ๗ สำหรับเอาชนะเล่ห์เหลี่ยมกุศโลบาย
    บทที่ ๘ สำหรับเอาชนะทิฏฐิมานะของคน
    เราจะเห็นได้ว่า ของดีวิเศษอยู่ในนี้ และถ้าพูดถึงการที่จะเอาชนะหรือการแสวงหาความมีชัย ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรนอกเหนือไปจาก ๘ ประการที่กล่าวข้างต้น
    ก่อนที่จะนำเอาตัวคาถาบทสวดมนต์และคำแปลมาไว้ให้จำจะ ต้องทำความเข้าใจคำอธิบายบทต่างๆ
    ไว้พอสมควรก่อน เพราะความในคาถาเองเข้าใจยาก ถึงจะแปลออกมาก็ยังเข้าใจยากอยู่นั่นเอง เมื่อเราไม่เข้าใจ เราอาจจะไม่เกิดความเลื่อมใส จึงควรจะหาทางทำความเข้าใจกันให้แจ่มแจ้งไว้ก่อน

    ในบทที่ ๑. เป็นเรื่องผจญมาร ซึ่งมีเรื่องว่าพระยามารยกพลใหญ่หลวงมา พระพุทธเจ้าก็ทรงสามารถเอาชนะได้ จึงถือเป็นบทสำหรับเอาชนะศัตรูหมู่มาก เช่น ในการสู้รบ

    คำแปล- พระยามารผู้นิรมิตแขนได้ตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างชื่อ ครีเมขละ พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องมาองค์พระจอมมุนีก็เอาชนะมาร ได้ ด้วยทานบารมีด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๒. เรื่องเล่าว่า มียักษ์ตนหนึ่ง ชื่ออาฬะวกะ เป็นผู้มีจิตกระด้างและมีกำลังยิ่งกว่าพระยามาร
    พยายามมาใช้กำลังทำร้ายพระองค์อยู่จนตลอดรุ่ง ก็ทรงทรมานยักษ์ตนนี้ให้พ่ายแพ้ไปได้จึงถือเป็นบทที่ ใช้เอาชนะปฏิปักษ์หรือคู่ต่อสู้

    คำแปล- อาฬะวกะยักษ์ผู้มีจิตกระด้าง ปราศจากความยับยั้ง มีฤทธิ์ใหญ่ยิ่งกว่าพระยามารเข้ามาประทุษร้ายอยู่ตลอ ดรุ่ง องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยขันติบารมี ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๓. มีเรื่องว่าเมื่อพระเทวทัตทรยศต่อพระพุทธเจ้า ได้จัดการให้คนปล่อยช้างสาร ที่กำลังตกมันชื่อนาฬาคีรีเพื่อมาทำร้ายพระพุทธเจ้า แต่เมื่อช้างมาถึงก็ไม่ทำร้าย จึงถือเป็นบทที่เอาชนะสัตว์ร้าย
    คำแปล- ช้างตัวประเสริฐ ชื่อนาฬาคีรี เป็นช้างเมามัน โหดร้ายเหมือนไฟไหม้ป่า มีกำลังเหมือนจักราวุธ และสายฟ้า องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยพระเมตตาบารมีด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๔. เป็นเรื่องขององคุลีมาล ซึ่งเรารู้กันแพร่หลาย คือ องคุลีมาลนั้นอาจารย์บอกไว้ว่าถ้าฆ่าคนและตัดนิ้วมือ มาร้อยเป็นสร้อยคอ ให้ได้ครบพัน ก็จะมีฤทธิ์เดชยิ่งใหญ่ องคุลีมาลฆ่าคนและตัดนิ้วมือได้ ๙๙๙ เหลืออีกนิ้วเดียวจะครบพัน ก็มาพบพระพุทธเจ้า
    พระพุทธเจ้าทรงสามารถเอาชนะถึงกับองคุลีมาลเลิกเป็นโ จรและยอมเข้ามาบวช กลายเป็นสาวกองค์สำคัญองค์หนึ่งจึงถือเป็นบทที่ใช้เอ าชนะโจรผู้ร้าย

    คำแปล- โจร ชื่อ องคุลีมาล มีฝีมือเก่งกล้า ถือดาบเงื้อวิ่งไล่พระองค์ไปตลอดทาง ๓ โยชน์ องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยการกระทำปาฏิหาริย์ ด้วยเดชะอันนี้ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๕. หญิงคนหนึ่งมีนามว่า จิญจมาณวิกา ใส่ร้ายพระพุทธเจ้าโดยเอาไม้กลมๆ ใส่เข้าที่ท้องแล้วก็ไปเที่ยวป่าวข่าวให้เล่าลือว่าต ั้งครรภ์กับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ให้ความจริงปรากฏแก่คนทั้ง หลายว่าเป็นเรื่องกล่าวร้ายใส่โทษพระองค์โดยแท้ จึงถือเป็นบทที่เอาชนะคดีความหรือการกล่าวร้ายใส่โทษ

    คำแปล- นางจิญจมาณวิกาใช้ไม้มีสัณฐานกลมใส่ที่ท้อง ทำอาการประหนึ่งว่ามีครรภ์ เพื่อกล่าวร้ายพระพุทธเจ้า
    องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยวิธีสงบ ระงับพระทัยในท่ามกลางหมู่คน ด้วยเดชะอันนี้ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๖. เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะสัจจะกะนิครนถ์ ซึ่งเป็นคนเจ้าโวหาร เข้ามาโต้ตอบกับพระพุทธเจ้าจึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะ ในการโต้ตอบ

    คำแปล- สัจจะกะนิครนถ์ ผู้มีนิสัยละทิ้งความสัตย์ใฝ่ใจจะยกย่องถ้อยคำของตนใ ห้สูงประหนึ่งว่ายกธงเป็นผู้มืดมัวเมาองค์พระจอมมุนี ก็เอาชนะได้ ด้วยรู้นิสัยแล้วตรัสเทศนาด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๗. เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้า ให้พระโมคคัลลาน์ อัครมหาสาวกไปต่อสู้เอาชนะพระยานาคชื่อ นันโทปนันทะ ผู้มีเล่ห์เหลี่ยมในการต่อสู้มากหลาย จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะเล่ห์เหลี่ยมกุศโลบาย

    คำแปล- องค์พระจอมมุนี ได้โปรดให้พระโมคคัลลาน์เถระ นิรมิตกายเป็นนาคราช ไปทรมานพระยานาคชื่อ นันโทปนันทะ ผู้มีฤทธิ์มากให้พ่ายแพ้ด้วยวิธีอันเป็นอุปเท่ห์แห่ง ฤทธิ์ ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ในบทที่ ๘. เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ผกาพรหม ผู้มีทิฏฐิแรงกล้าสำคัญว่าตนเป็นผู้ที่มีความสำคัญที ่สุด แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงสามารถทำให้ผกาพรหมยอมละทิ้งทิฏฐ ิมานะ และยอมว่าพระพุทธเจ้าสูงกว่า จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะทิฏฐิมานะของตน

    คำแปล- พรหม ผู้มีนามว่า ท้าวผกา มีฤทธิ์และสำคัญตน ว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีทิฏฐิที่ถือผิดรัดรึงอยู่อย่างแน่นแฟ้น องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ด้วยวิธีเทศนาญาณ ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

    ************************************

    คำแปล มหาการุณิโก

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้ทรงเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทรงประกอบด้วยพระมห ากรุณา ทรงบำเพ็ญพระบารมีทั้งปวง เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ ทรงบรรลุพระสัมโพธิญาณอันสูงสุด ด้วยการกล่าวสัจจวาจานี้ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า

    ขอข้าพเจ้าจงมีชัยชนะในชัยมงคลพิธี ดุจพระจอมมุนีผู้ยังความปีติยินดีให้เพิ่มพูนแก่ชาวศ ากยะ ทรงมีชัยชนะมาร ณ โคนต้นมหาโพธิ์ทรงถึงความเป็นเลิศยอดเยี่ยม ทรงปีติปราโมทย์อยู่เหนืออชิตบัลลังก์อันไม่รู้พ่าย ณ โปกขรปฐพี อันเป็นที่อภิเษกของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ฉะนั้นเถิด

    เวลาที่กำหนดไว้ดี งานมงคลดี รุ่งแจ้งดี ความพยายามดี ชั่วขณะหนึ่งดี ชั่วครู่หนึ่งดี การบูชาดี แด่พระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ กายกรรมอันเป็นกุศล วจีกรรมอันเป็นกุศล มโนกรรมอันเป็นกุศล ความปรารถนาดีอันเป็นกุศล ผู้ได้ประพฤติกรรมอันเป็นกุศล ย่อมประสบความสุขโชคดี เทอญ

    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ
    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ
    ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ




    http://www.84000.org/pray/puttakun.shtml
     
  4. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อนุโมทนาบุญค่ะ
    มีประสบการณ์เกี่ยวกับ บทสวดพาหุงมหากา เล็กน้อยค่ะ
    สวดมนต์อยู่หลายบทแต่พอถึงบทพาหุงก็ข้ามไป ไม่ได้สวดค่ะ ต่อมาฝันว่าไปทำบุญที่วัด มีญาติโยมอยู่หลายคนบนศาลา มีพระสงฆ์นั่งอยู่ 3 รูป ท่านเรียกเข้าไป(คนเดียว)ท่านถามว่า"สวดไตรสรณคมณ์ได้ไหม" ก็ตอบว่า" ได้ค่ะ" ท่านบอกว่า "ให้สวดบทพาหุงเพิ่มอีกบทนะ"ในฝันจิตก็รับปากท่านค่ะ และท่านยื่นบาตรมาให้ ท่านบอกว่าอยากได้ อะไรให้หยิบเอาไปนะ ก็ยื่นมือไปหยิบของทิพย์ที่มองไม่เห็นหลายอย่างในบาตรค่ะ
    ต่อมาก็ฝันว่า สวดบทพาหุงอย่างคล่องแคล้ว ทั้งคืน ทั้งที่ในความเป็นจริงยังต้องเปิดหนังสือสวด อยู่เลยค่ะ และตั้งแต่วันนั้นก็สวดเป็นประจำมาตลอดค่ะ
    ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ
    ลงมือสวดมนต์กันเถิดค่ะ สำหรับท่านที่ยังไม่ได้สวด ดีแน่นอนค่ะ
     
  5. noi88

    noi88 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2009
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +55
    อนุโมทนาสาธุคะดิฉันสวดทุกคืนและชวนสามีสวดด้วยตอนแรกสามีผัดผ่อนมาหลายครั้งเพราะชอบทานเหล้าเบียร์ทุกวันแต่ตอนนี้หยุดทานมาหลายวันแล้วหันมาสวดมนต์ตามดิฉันแถมสวดบทที่ดิฉันข้ามไปซะด้วยอย่างนี้ดิฉันได้บุญไหมคะ
     
  6. โป๊ยเซียนสาว

    โป๊ยเซียนสาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,543
    ค่าพลัง:
    +2,279
    อนุโมทนา สาธุ ทำดี คิดดี ปฎิบัติดี ก็ต้องได้ดีเสมอค่ะ
     
  7. chanin

    chanin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2005
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,332
    อ่านแล้วประทับใจมากครับ
    ขอเชิญรับฟังบทสวดพาหุงเพื่อเป็นสิริมงคลร่วมกัน
    http://www.oknation.net/blog/buddhamantra/video/5939
     
  8. thakornt

    thakornt Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2009
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +88
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
    ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ
    คือสมัยที่ผมเรียนจบมา หางานทำอยู่ 2 ปี ทำยังไงก็ไม่ได้งานสักที ช่วงนั้นยอมรับว่าท้อแท้มากครับ พอดีที่บ้านมีหนังสือกฏแห่งกรรมของท่านพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ และมีเรื่องที่กล่าวถึงอานิสงส์การสวดพาหุงฯ พุทธคุณ ผมจึงเริ่มสวดติดต่อกันทุกวัน ประมาณ 3 เดือนครับ ผมก็ได้งานทำครับ จนถึงทุกวันนี้
     
  9. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,214
    อนุโมทนาด้วยค่ะ

    เวปนี้เข้าไปฟังบ่อยมาก ส่งให้เพื่อน ๆ ฟังด้วย แต่ตอนหลังมีปัญหาว่าฟังบทสวดได้ช่วงหนึ่งแล้วจะหยุดไป ถ้ากด play ก็จะเริ่มใหม่ แต่จะฟังได้ไม่จบ หลายบทสวดมีปัญหาอย่างเดียวกัน
     
  10. สงบระงับ

    สงบระงับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +2,919
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ได้บุญมากมายมหาศาลค่ะ นอกจากจะเลิกดื่มเหล้าเบียร์แล้ว ยังมาเริ่มสวดมนต์อีก ดีจังค่ะ เหมือนเริ่มปลูกต้นไผ่ค่ะ จะแตกหน่อแห่งบุญกุศลไปไม่รู้จบ อย่าลืมเป็นกำลังให้แฟนปฏิบัติธรรมและสวดมนต์อย่างสม่ำเสมอนะค่ะ สาธุค่ะ
     
  11. marin1156

    marin1156 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +107
    สวดมาตั้งแต่เรียนอยู่ที่รามคำแหง ประสบการณ์ส่วนตัวของผมคือได้ไปสอบแข่งขันเข้าบรรจุข้าราชการ ระดับ 2 ไว้ที่กรมๆหนึ่ง (ใช้วุฒิ ปวส.) แล้วก็สอบได้ลำดับที่ 45 โดยทางกรมจะขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งไว้ 2 ปี คือผมทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยจนจบ เขาก็ยังไม่เรียกตัวซะทีไกล้จะครบ 2 ปี แล้ว ก็เลยทำงานที่เก่าไปก่อน (พ่อผมอยากให้รับราชการมาก) ผมก็เลยอธิธานว่าขอให้ข้าพเจ้าได้บรรจุเข้ารับราชการทุกครั้งหลังสวดพาหุงมหากา ทั้งๆที่เหลือเวลา อีกไม่ถึงเดือนก็จะครบ 2 ปีที่ขึ้นบัญชีไว้ และแล้วผมก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่ว่ามีหนังสือจากกรมๆหนึ่งให้ไปรายงานตัว ผมได้รับบรรจุเข้ารับราชการ ก่อนตัดบัญชี เพียง 2 วัน ผมทำงานที่นี่ได้ 3 ปี กว่าแล้วครับ และมีความสุขกับงานที่ทำมาก ทุกวันนี้ผมก็สวดเกือบทุกวัน ถ้ามีเวลามากก็สวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก+พระคาถาชินบัญชรด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2009
  12. Omjai_N

    Omjai_N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +174
    อนุโมทนาค่ะ เรื่องราวของท่านอ่านแล้วปลื้มจริง ปาฏิหารย์จะเกิดกับผู้ที่ศรัทธาค่ะ
     
  13. ohmylove

    ohmylove สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    ขออนุโมทนาด้วยคนค่ะ
    เราก็เป็นคนหนึ่งที่สวดมนต์บทพาหุงมหากาฯ นี้มาได้ประมาณ 10 ปีแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งอยู่ชั้น ปวช. จนตอนนี้จบป.ตรีมาได้ประมาณ 4 ปีแล้วค่ะ ขอบอกว่า ดีจริง ๆ ทั้งเรื่องการเรียน และการมีสติ อย่างตอนที่จบมาใหม่ ๆ นั่งรอยังไม่มีงานทำ สวดมนต์และขอให้มีงานที่ดี ๆ เงินเดือนเยอะ ๆ เข้ามาก็เข้ามาได้ดั่งใจเลยค่ะ
    ตอนนี้ที่จะสวดประจำเลยก็จะมีบทพาหุงมหากาฯ + ชินบัญชร +แผ่เมตตา + กรวดน้ำ (สำหรับวันธรรมดา) ส่วนถ้าเป็นวันพระ ก็จะสวด บทพาหุงมหากาฯ + ชินบัญชร +พระไตรปิฎก + มหาเมตตาใหญ่ + แผ่เมตตา + กรวดน้ำ รู้สึกว่าจิตใจแจ่มใสขึ้น จะทำอะไรก็มีสติรู้ตลอด ขอให้ทุก ๆ ท่านหันมาสวดมนต์กันเยอะ ๆ นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2009
  14. บัณฑิต ธัมโม

    บัณฑิต ธัมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +396
    ขออนุโมทนาด้วย...
    ขอประชาสัมพันธ์เปิดห้องสนทนาธรรมใหม่เป็นแหล่งที่บัณฑิตทั้งหลายมาพานพบกัน

    http://udompon.com/chat/flashchat.php
     
  15. nutagul

    nutagul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +159
    สาธุครับ ผมก็สวดก่อนนอนครับเป็นศิริมงคลอย่างยิ่งสร้างกำลังใจได้อย่างอัศรรย์
     
  16. C H A M P

    C H A M P สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +1
    จะทดลองปฏิบัติตาม

    ถ้าได้ผลแล้วจะนำมาบอกนะครับ
     
  17. pum_anatta

    pum_anatta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +805
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    เคารพนับถือหลวงพ่อจรัญมากๆค่ะ พยายามสวดมนต์ทุกคืนด้วย
    ^_^
     
  18. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    อนุโมทนาสาธุค่ะ อ่านแล้วปลื้มแทนจริงๆค่ะ สวดบทพาหุงทุกคืนค่ะ ไม่เคยขาดเลย สวดจนขึ้นใจแล้วค่ะ
     
  19. vilawan

    vilawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,432
    อนุโมทนาคะ

    หลายสิบปีก่อนพี่ชายได้หนังสือสวดมนต์ของหลวงพ่อจรัญมา
    ข้าพเจ้าเปิดอ่านดูแล้วชอบเรื่องเล่าที่อยู่ในหนังสือ ก็เปิดอ่านไปเรื่อยจนจบ
    แต่ความที่ไม่เคยสวดมนต์ และถ้าต้องไปนั่งในห้องพระก็ทำไม่ได้ เพราะกลัว
    เงียบและสงบเกินไป แต่ข้าพเจ้าสนใจเนื้อหาและคำแนะนำที่หลวงพ่อเชิญชวน
    ให้สวดพาหุงมหากา ขนาดสมเด็จพระนเรศวรยังทรงสวดมิได้ขาด ก็สนใจ
    จึงได้เปิดหนังสือนี้นั่งอ่านที่โต๊ะรับแขกทุกเช้าก่อนไปทำงาน
    ปี 2540 ที่ประเทศต้องผจญกับภาวะฟองสบู่แตกนั้น
    ครอบครัวของเราไม่มีผลกระทบอะไร โดยส่วนตัวของข้าพเจ้าเชื่อว่า
    เป็นผลแห่งอานิสงฆ์การสวดมนต์ตามที่หลวงพ่อท่านแนะนำคะ
    ทุกวันนี้ไม่ต้องเปิดหนังสือก็จำได้คะ และสามารถไปนั่งสวดมนต์ห้องพระได้
    โดยไม่มีความกลัวอีกแล้ว
     
  20. onpilin

    onpilin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +234
    อนุโมทนา สาธุค่ะ จะนำไปสวดด้วยเหมือนกัน ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่นำมาฝากด้วยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...