ผู้ชนะอย่างหาประมาณไม่ได้

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 29 ตุลาคม 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    พระอาจารย์ เล่าให้ฟังว่า "ท่านอุปกาชีวก เป็นบุคคลแรกที่ได้พบ พระพุทธเจ้า หลังจากที่ตรัสรู้แล้ว เป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่เรียกพระพุทธเจ้าว่า อนันตชินะ แปลว่า ผู้ชนะอย่างหาประมาณไม่ได้

    ตอนนั้นพระพุทธเจ้าจะเสด็จไป ป่าอิสิปตนมฤคทาย อุปกาชีวกเดินผ่านมาพอดี สงสัยว่าไฟไหม้ราวป่าหรืออย่างไร เพราะมีแสงสว่างไปหมด ก็คือฉัพพรรณรังสี จึงเข้าไปดูแล้วพบพระพุทธเจ้า ชอบใจมากเลยเข้าไปถาม

    "ดูก่อนท่านผู้เจริญ...อินทรีย์ของท่านผ่องใสยิ่งนัก ท่านชอบใจธรรมะของผู้ใด ใครเป็นครูบาอาจารย์ของท่าน ?" พระพุทธเจ้าตอบว่า "เราเป็นสวยัมภู" คือเป็นผู้รู้เอง

    ท่านอุปกาชีวกถามพระพุทธเจ้าว่า "ถ้าจะไปหาท่าน จะให้บอกว่าไปหาใคร ?" พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ให้เรียกเราว่าอนันตชินะ คือ ผู้ที่ชนะอย่างหาประมาณไม่ได้"

    ในพระไตรปิฎกอธิบายว่า อุปกาชีวกแลบลิ้นสั่นศีรษะแล้วหลีกไป ทุกวันนี้ อรรถกถาอธิบายว่า อุปกาชีวกไม่เชื่อพระพุทธเจ้า ถ้าไม่เชื่อพระพุทธเจ้าแล้วตอนหลังอุปกาชีวกย้อนกลับไปบวชเพื่ออะไร ?

    เราลองไป ทิเบต ทุกวันนี้ ถ้าเขาเคารพใครมากๆ เขาจะแลบลิ้นให้ พวก เมารี ที่ ออสเตรเลีย เขาก็แลบลิ้นให้ ส่วนการสั่นศีรษะของ แขก แปลว่า ใช่เลย เวลาพระไทยไปเมืองแขก แขกเขาเลี้ยงอาหารที่เรียกว่า อังคาส ด้วยมือ ก็คือ จะมีคนนั่งอยู่ข้างๆ คอยเติมให้ คนไทยก็สั่นหัวไม่เอา แขกยิ่งเติมใหญ่เลย เพราะการสั่นหัวของเขา คือเอาอีกหรือใช่เลย

    เพราะฉะนั้น..อุปกาชีวกแลบลิ้นคือแสดงความเคารพ ที่สั่นหัวก็คือเชื่อ แต่กิเลสยังบังหน้าอยู่ ไม่มีโอกาสขอฟังธรรม จะรีบเดินทางไปแต่งงานก่อน เพื่อนของอุปกาชีวกยกลูกสาวให้ ตอนนั้นตัณหาราคะนำหน้า อุปกาชีวกจึงไม่ได้คิดที่จะบวช ไม่ได้คิดที่จะฟังธรรม จะรีบไปแต่งงาน"

    "พอแต่งงานแล้วอุปกาชีวกไปอยู่อาศัยบ้านของผู้หญิง คือ การแต่งงานมี อาวาหมงคล กับ วิวาหมงคล ถ้าผู้ชายไปอยู่บ้านผู้หญิง คืออาวาหมงคล แต่ถ้าผู้หญิงไปอยู่บ้านผู้ชาย คือวิวาหมงคล

    อุปกาชีวกไปอยู่บ้านเพื่อนที่กลายเป็นพ่อตา ก็เท่ากับไปกินๆ นอนๆ ที่บ้านเขา เมียก็บ่นบ้าง ด่าบ้าง เกิดมาทั้งทีหาความดีก็ไม่ได้ ทรัพย์สมบัติก็ไม่มี พี่น้องเพื่อนฝูงที่เป็นคนรวยก็ไม่มี พรรคพวกเพื่อนฝูงที่เป็นคนใหญ่คนโตก็ไม่มี ท้ายสุดอุปกาชีวกทนไม่ไหวบอกว่า ตัวท่านเองมีเพื่อนที่ยิ่งใหญ่มาก ตอนนี้เป็นศาสดาเอก ภรรยาถามว่าใคร ?

    อุปกาชีวกบอกว่า ท่านฟังข่าวเพื่อนคนนี้อยู่ตลอด ไปไหนมีรัศมีออกอยู่คนเดียว ชื่อว่า พระอนันตชินะ เมียก็ประชดบอกว่า มีเพื่อนก็ไปพึ่งเพื่อนสิ อุปกาชีวกก็เดินทางไปหาพระพุทธเจ้า

    ตอนช่วงเช้าพระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า "ถ้ามีบุคคลมาถามหาพระอนันตชินะ ให้พามาหาเรา" อุปกาชีวกก็ถามหาชื่อนี้จริงๆ พระพุทธเจ้าท่านเทศน์อุปกาชีวกฟัง ท่านก็เลยบวช"


    สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๔



    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2894&page=4




    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...