ผลของการให้ทานด้วยความโกรธ

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 14 สิงหาคม 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    ถาม : เรื่องการให้ทานด้วยความโกรธจะมีผลเป็นอย่างไรบ้าง ?

    ตอบ: มีผลเหมือนกัน แต่ว่าการที่เราทำบุญด้วยความโกรธถ้าเกิดเป็นคนรวยก็จริงแต่จะหน้าหงิกอยู่ตลอด ถ้าหากว่าได้ขึ้นไปสู่สุขคติภูมิส่วนใหญ่จะไปเกิดเป็นอสูร

    อสูรนี่มีความเป็นทิพย์เหมือนกับเทวดา แต่หน้าตาสวยสู้เทวดาไม่ได้ เพราะว่าตัวโกรธมันตัดไปซะ อย่างนางปัญจปาปา อันนั้นทำบุญด้วยความโกรธกำลังอารมณ์เสียพ่อใช้งานอยู่ เป็นลูกสาวนายช่างปั้นหม้อ พระปัจเจกพระพุทธเจ้ามาบิณฑบาตดินจะเอาไปปอุดข้างฝา ฝามันแตกลมหนาวก็เข้าได้ กำลังโมโหพ่อ ปั้นดินได้ก็ทุ่มโครมใส่บาตรให้ เกิดมาชาติใหม่กลายเป็นคนมีเนื้อเป็นทิพย์เพราะทำบุญด้วยดิน ใครจับเนื้อแกนี่หลงทุกรายเลย แต่หน้าแกหงิกดูไม่ได้เลย (หัวเราะ) นั่นแหละทำบุญด้วยโทสะ

    ถาม : (ไม่ชัด) การที่เราไปทำทานกันมากเกินไปไม่น่าจะส่งผลดีต่อพระพุทธศาสนา (ที่เขาว่ากัน) เรื่องของทานบารมี เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำ เมื่อได้ฟังความเห็นที่ไม่ได้เป็นความเห็นของพระสงฆ์ในศาสนาแล้วเราควรใส่ใจหรือไม่อย่างไร ?

    ตอบ: เอาปัญญาตรองดูก็รู้ สิ่งที่เราทำไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล ภาวนา อย่างที่ว่าคือ หมายเอาสุขปัจจุบันอย่างหนึ่ง กับสุขในอนาคตอย่างหนึ่ง คราวนี้ทั้งสองอย่างนี่ กว่าที่คนเราจะสร้างบารมีให้กำลังใจสูงถึงขนาดรับธรรมะแท้โดยส่วนเดียวได้น่ะมันยาก ในเมื่อไม่สามารถรับธรรมะแท้โดยส่วนเดียวได้ก็ต้องมีเครื่องยึดเหนี่ยวอย่างอื่น ซึ่งจะออกมาในรูปของวัตถุมงคลต่างๆ

    ส่วนใหญ่ก็ให้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แต่ว่าบางสำนักของเขาการสร้างวัตถุมงคลของเขาออกมาอาจจะมีรูปลักษณะแปลกๆ อย่างพวกปลัดขิกบ้าง นั่นของเขาๆ เรียนมาตามสายครูบาอาจารย์ จริงๆ แล้วดูถูกไม่ได้เลยนะ เพราะว่าที่ทำแล้วมีผลจริงๆ ก็เยอะแยะไป อย่างของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ นี่หนึ่งในห้าเสือสงครามโลกเลยนั่นแหละ ปลักขิกของหลวงพ่ออี๋วายน้ำเล่นได้อย่างกับปลา ของหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก นี่บินแข่งกับเฮลิคอปเตอร์เลย แล้วคุณว่าเขาทำไม่ได้ผลเหรอ ?

    คราวนี้คนเราตอนแรกๆ เหมือนกับเด็กหัดเดินต้องมีที่ให้ยึดให้เกาะก่อน เราจะไปบอกให้วิ่งเลยซิร้อยเมตร เอาเหรียญโอลิมปิกมาให้ได้ มันเป็นไปได้มั้ยล่ะ ? มันก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นคนที่เขาว่ามาจริงๆ เจตนาเขาดี แต่เขาไม่ได้ดูว่ากำลังของคนไม่เท่ากัน เขาก็เลยตำหนิเอาเสียตั้งแต่แรกว่าทำผิด ถ้าหากว่าคนทุกคนเขารู้ว่าอะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษจริงๆ ต่อให้พระไม่ทำอะไรออกมาเลย จิตของเขาก็มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่แล้ว แต่เนื่องจากว่ายังไม่มี เราจะต้องหาอุบายอะไรบางอย่างมา เพื่อให้จิตของเขามีอนุสสติมีการเกาะในด้านที่ดี ต่อให้เป็นรูปปลัดขิกก็จริงแหละ แต่เขาต้องนึกถึงคนให้ หลวงพ่ออี๋ให้ก็ต้องนึกถึงหลวงพ่ออี๋ หลวงพ่อยิดให้ก็ต้องนึกถึงหลวงพ่อยิด อย่างนี้ก็จะเป็นสังฆานุสสติ ใจเขามีส่วนของความดีเกาะอยู่ ถ้าตายตอนนั้นอย่างน้อยสุขคติก็จะเป็นของเขา

    ก็น่าคิดเหมือนกัน แต่พวกนี้จริงๆ แล้วน่าจะยังไง ? ชี้ให้ดูยอดเจดีย์แล้วเราก็รื้อเจดีย์ออกให้ฉัตรตกใส่กบาลมัน มันจะเอาแต่ยอดไม่ได้ดูฐานเลย ดูซิว่าถ้าไม่มีองค์เจดีย์นี่ฉัตรจะตั้งอยู่ได้มั้ย เอะอะจะเอาแต่เพชรยอดมงกุฏ ไม่เอาพื้นเลย พวกนี้ต้องให้เกิดในสมัย พระศรีอาริย์ สมัยพระศรีอาริย์นี่เทศน์ทีเดียวไปกันเป็นแสนๆ เลย





    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ




    .
     
  2. Candle

    Candle เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +909
    สาธุ โมทนาครับ เห็นด้วยกับหลวงพี่อย่างยิ่งครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...