ผมขอถามหน่อยใครก็ได้.....ตายแล้วเกิดใหม่จริงหรือ

ผมขอถามหน่อยใครก็ได้..... นรก..สวรรค์มีจิงหรือไม่..ในช่วงหลังความตายแล้ว..มีหลายคนเคยเล่าว่าเวลาตายแล้วต้องลงนรกไปชดใช้กรรม...ที่เคยทำไว้ตอนเป็นมนุษย์...พอชดใช้กรรมเสร็จก็จะกลับมาเกิดใหม่.....แล้วแต่จะเกิด..มาเป็นอะไร ทีนี้ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ..พี่น้อง....ถ้าเราในทางวิทยาศาตร์โลกเป็นส่วนหนึ่งของระบบแกแลคซี่...เมื่อถึงอายุขัยของมันแล้วจะต้องระเบิด..หรือถูกดาวเคราห์พุ่งชนจนสิ้นสุดของเผาพันธุ์มนุษย์ชาติของการมีสิ่งมีชีวิต...แล้ว..ไอ้ที่ว่าต้องกลับมาเกิดใหม่เนี่ย...ตูเองอยากรู้ว่าจะไปเกิดที่ไหน....แกลแล็คซี่ไหน..แล้วมันจะมีที่ให้ลงหรือเปล่า.....จะเกิดมาเป็นแบคทีเรียก็ไม่ได้......หรือว่าก็สิ้นสุดของนรก..สวรรค์ด้วย......ครับ....ใครก็ได้ช่วยชี้แนะด้วยครับfficeffice" /><O></O>
<O> </O>

 

ในจักรวาลที่คุณนึกถึง มีสรุยะจักรวาลนี้รวมอยู่ด้วยหรือเปล่า

ถ้ามี

คุณเห็นว่าสุริยะจักรวาลนี้มีมนุษย์อย่างเราๆ เกิดๆ ตายๆ วิวัฒนการได้ อยู่หรือเปล่า

ถ้ามี

ก็ในเมื่อจักรวาลนี้กว้างใหญ่ อีกทั้งสุริยะจักรวาลที่ให้กำเนิดชีวติได้นี้ก็มีให้เห็น
ต่อหน้าต่อตา

คุณจะยังสงสัยหรือว่า จักรวาลทั้งหมดไม่มีระบบดาวใดเลยที่ให้กำเนิดระบบการ
มีชีวิตได้ ก็ในเมื่อตอนนี้คุณก็ประจักษ์อยู่

อย่าห่วงไปเลยว่าสุริยะจักรวาลนี้จะดับ แล้วไม่มีที่ไป

ถ้าคิดว่าชีวิตนี้เกิดมาแล้ว ถ้าน้อมใจเชื่อพุทธศาสนาได้ ก็ลองปฏิบัติดู
แล้วเอาให้สำเร็จเสียในชาติที่เห็นนี้เถิด ไม่เสียเวลา ไม่ประมาทด้วย
มีแต่กำไร เพราะชีวิตเรา หลังจาก กิน อ่าน เขียน ทำงาน นั่ง นอน ดูหนัง
หรือ ทำอะไรๆ ก็แล้วแต่ความชอบ มันก็มีเวลาว่างอยู่ดี เอามาใช้ เอามา
ปฏิบัติเล่นๆ จะเป็นอะไรไป สนุกออก

 

เห็นด้วยกะความคิดเห็นข้างบนค่ะ

เเล้วเเต่ความเชื่อค่ะ เเต่เราว่าคงอีกนานค่ะตอนนี้มีโอกาศทำดีทำไรได้ก็ทำไป เกิดมาในศาสนาพุธทั้งทีจะสงสัยให้เหนี่ยให้บ้าไปทำไมเล่า อยากรู้ก็ไปถามพวกคริสต์ซิค่ะเผื่อเค้ารู้อ่ะก็พระเจ้าสร้างโลกมิใช่รึ...เวลาทำดีมีน้อยเน้อจะบอกให้รีบๆทำซะเด๋วตายไปก็จะได้รู้เองเเหละว่ามันมีจริงอย่างที่พระพุธเจ้าท่านว่าหรือไม่ ถ้าทำไม่ดีปรามาศไว้เยอะๆ หรือก็ทำชั่วไว้ ลองดูดิเผื่อรู้ 555 เเต่ถ้ารู้เเล้วก็ไม่ต้องมาขอบคุณนะค่ะ อิอิ (เเซวๆ)

 

จขกท.เขายังเพิ่งเริ่มต้นหนะครับ
สัมมาทิฐิก็เลยยังไม่งอกเงย

ขอท่านผู้รู้ทั้งหลาย ที่มีจริตชอบสอน ชอบอธิบาย
ช่วยชี้แนะเขาด้วยนะครับ
เอาแบบให้เขาเห็นตามความเป็นจริงให้ได้เลยนะครับ
ผมเชื่อว่าท่านทำได้ เพราะพวกเราเอง บางคน ก็เริ่มเหมือนเขาผู้นี้นี่แหละ
แต่อาจจะเมื่อหลายปี หรือหลายสิบปีก่อนโน้น
ผมเชื่อว่า พวกเราเองมาถึงวันนี้ ยังเข้าใจได้เลย
แล้วทำไมเขาจะเข้าใจไม่ได้หละครับ
ขอแค่อดทนกับความสงสัย และข้อซักถามของเขาหน่อยเท่านั้นเอง

ส่วนผม เข้าใจแล้ว แต่ไม่มีจริตทางนี้ ครับ

โมทนาสาธุกับธรรมทานของทุกๆท่านที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยนะครับ

(แม้ว่ากระทู้นี้จะโพสต์ผิดห้องก็ตาม)

 

ท่านเจ้าของกระทู้ครับ
ศาสนาพุทธนี้แหละ สอนให้เชื่อในสองเรื่อง
คือกฏแห่งกรรม และการเวียนว่ายตายเกิด
ศึกษา ค้นคว้าดูเถิดครับ
สั่งสมบารมีมาด้านไหน เดี๋ยวต่อของเดิมเอง
สิ่งใดไม่ถูกจริต ไม่ถูกอัธยาศัย วางไว้ อย่าเก็บมารกรุงรัง
ชอบหรือถนัดทางไหนก็ทำอย่างนั้นครับ

 

โลกหรือจะเป็นจักรวาล มันเกิดขึ้นได้ แล้วมันก็ดับไป ...แล้วทำไมมันจะเกิดขึ้นมาอีกไม่ได้ล่ะคับ (ถ้าจะเอาวิทยาศาสตร์ล่ะก็... เขาก็มีข้อมูลว่ามีดาวใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา รวมถึงแกแลกซีต่างๆ อีกมากมาย) เอาเวลาไปปฏิบัติอย่างคุณเล่าปังบอกดีกว่านะคับ ... อีกอย่างถ้าเราคิดว่าตายไปแล้วสูญ แล้วก็ทำชั่วต่างๆนาๆ เพราะคิดว่าไม่มีนรก ..แต่ผมว่าไม่ต้องรอตายหรอกคับ คนอื่นๆเขาก็รังเกียจ สาปแช่ง... สู้ทำดี ปฏิบัติดี ก็ไม่ต้องรอสวรรค์เหมือนกัน คนอื่นเขาก็สรรเสริญ จิตใจเราก็สบาย ไปไหนก็ไม่ถูกตราหน้าว่าชั่วร้าย...

 

คิดไปไกลดีเหมือนกัน

เอาอย่างนี้นะ โลกเรานี่เกิดขึ้นมานาน ส่วนใครเป็นคนสร้างโลกนี้คงพิสูจน์ทราบกันไม่ได้หรอก น้ำแต่ละหยดมาจากไหน ดินแต่ละเม็ดมาได้อย่างไร หินแต่ละก้อนใครเป็นคนสร้างและเกิดขึ้นมาได้อย่างไร อณูของอากาศที่มีอยู่ในโลกนี้มันมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นอากาศหนักหรืออากาศเบาหรืออากาศเฉื่อย แม้กระทั่งแสงสว่างจากดวงอาทิตย์นี่ใครเป็นผู้สร้างกันแน่ คำถามเหล่านี้คงไม่มีใครตอบได้หรอก

เมื่อโลกของเราพร้อมด้วยธาตุต่างๆ ที่เหมาะที่จะเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ไม่มีเท้า สัตว์สองเท้า สัตว์สี่เท้า หรือสัตว์ที่มีหลายเท้าก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นในเผ่าพันธุ์ของตนเอง และเติบโตขยายพันธุ์ไปอย่างไม่สิ้นสุด ทุกชีวิตที่เกิดมาล้วนแล้วแต่มีรูปแบบที่เหมือนผู้ให้กำเนิดทุกประการ อาจจะมีบ้างที่ข้ามสายพันธุ์ แต่พวกที่ข้ามสายพันธุ์ส่วนใหญ่จะเป็นหมัน ไม่สามารถสืบทอดทายาทได้

มากล่าวถึงเรื่องภพเรื่องชาติ เรื่องของผลแห่งบุญและผลแห่งกรรม อันนี้พระพุทธองค์ได้สอนไว้หมดแล้วในพระไตรปิฎก การเกิดนั้นมีจริง เพราะเมื่อมีดับย่อมจะมีเกิดเป็นของคู่กัน แต่ก็ใช่ว่าเคยเกิดเป็นคนแล้วจะไม่มีสิทธิ์เกิดเป็นอย่างอื่นได้ ทุกอย่างผลัดเปลี่ยนกันได้ในภพแห่งโลกานี้

ถ้าจะถามว่าสักวันหนึ่งหากโลกล่มสลายไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอยู่เลยโดยฉับพลันกระทันหัน แต่ว่าดวงจิตหรือวิญญาณยังคงอยู่ ก็คงแว๊ปไปในที่ที่เหมาะสมด้วยปัจจัยแห่งธาตุทั้งสี่นี้ทันที การเดินทางของดวงจิตนั้นเดินเร็วมาก ประมาณว่าแค่คิดได้ก็ไปถึงได้แล้ว และที่แน่นอนว่าในกาแล๊กซี่ของเรานั้น ก็คงมีดาวอีกดวง หรืออีกหลายดวง ที่มีสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับโลกเรานี้ และนั่นเองคือจุดนัดพบกับดวงจิตทุกดวง เพื่อพร้อมใจลงไปจุติกันในที่แห่งนั้น

จิตพวกเรา ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ ก็เคยมาจากที่อื่นเหมือนกัน จำไม่ได้รึ?

 

ทุกอย่างมีวัฏจักรของมันเองครับ

ผมว่าวิญญาณก็น่าจะมีเช่นกัน

 

มีจริงสิครับ นอกเสียจากว่าคุณจะตัดเชื้อคือกิเลสตัณหาที่เป็นสาเหตุทำให้ไปเกิดใหม่ได้ คุณก็จะไปนิพพานแทน เห็นเจ้าของกระทู้ถามมาในเชิงวิทยาศาสตร์ ก็จะขอตอบอิงหลักการทางวิทยาศาสตร์สักหน่อยนะครับ แต่คำถามเป็นเชิงการตั้งข้อสังเกต ผมก็จะขอตอบเป็นเชิงอนุมานเอานะครับ

เรื่องนรกสวรรค์อยู่ตรงไหน คนตายไปแล้วจะมาเกิดใหม่ที่ไหน ในเมื่อเมื่อถึงเวลาโลกและระบบสุริยะจักรวาลก็ต้องแตกดับไปนั้น ก็น่าจะตอบปัญหานี้ได้ด้วยความเข้าใจในเรื่องของ "มิติ" น่ะครับ (ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมิติต่างๆดูนะครับ ทั้งโลกต่างมิติ หรือ การเหลื่อมล้ำของมิติเวลา)

ส่วนโลกและระบบสุริยะจักรวาลแตกดับไปก็สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ครับด้วยวิถีธรรมชาติ และก็ในจักรวาลที่กว้างใหญ่นี้เราจะทราบได้อย่างไรว่า จะไม่มีดวงดาวที่มีลักษณะเหมือนกับโลกใบนี้ล่ะครับ(อาจจะมีสิ่งมีชีวิตหรือมีมนุษย์อยู่ในสภาพสิ่งก่อสร้างและอารยธรรมแบบต่างๆอยู่บนดาวหลายๆดวงในจักรวาลทั้งหลายก็ได้ครับ)

 

ตายแล้วเกิดมีจริงครับ ทันทีด้วย เกิดเป็นอะไรก็แล้วแต่ข้อมูลที่ป้อนเข้าไป
dhanvas@hotmail.com

 

ขอโทษนะคะ ขอถามนิดค่ะว่าอยากทราบจริง ๆ เพื่อความรู้ หรือเพื่อต้องการนำไปแย้งกับความคิดเห็นส่วนตัวคะ ถ้าหากว่าต้องการทราบเพื่อเป็นความรู้ คุณสามารถดูได้จากคำสอนของหลวงปู่ฤาษีลิงดำในเวปนี้ค่ะ ซึ่งท่านจะบอกไว้ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้
แต่ถ้าต้องการเพื่อนำไปแย้งกับความคิดส่วนตัวล่ะก้อ อย่าไปคิดให้ไกลนักเลยค่ะ เราจะตายเมื่อไรก็ไม่รู้ เอาแค่ว่าเราจะอยู่อย่างไร จะทำอย่างไรไม่ให้เดือดร้อนตัวเองและผู้อื่น และถ้าต้องเกิดใหม่จริง ในชาตินี้เราควรจะทำอย่างไร เพื่อให้เกิดเป็นคนดี และเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นมากที่สุด แค่นี้ดีกว่าไม่ปวดหัวดี

 

เกิดมาเพื่อค้นหาแก้ว เมื่อเจอแก้วแล้วทำไมไม่เอาแก้วไป
มีเกิดแล้วต้องมีดับ มีดับแล้วจะต้องมีเกิด ถ้าไม่เชื่อกฎแห่งกรรม ไม่เชื่อผลแห่งกรรมดีหรือชั่ว ไม่เชื่อการเกิดแกเจ็บตาย ตายไปชีวิตจะมืดบอดเอาจริงๆน๊า.....แล้วจะแก้ไขอะไรไม่ได้......จะไปทำบุญที่นรกก็ทำไม่ได้...รับกรรมอย่างเดียว เพราะฉะนั้นมีแต่โลกมนุษย์นี่แหล่ะที่ทำบุญสุนทานได้ ทาน ศีล ภาวนา ไว้เป็นอาหารมื้อต่อไปในโลกหน้าจะไม่ดีกว่าเหรอ....มัวแต่สงสัย.....แล้วไม่ทำอะไร....เท่ากับว่าประมาทไม่ได้สะสมซึ่งเสบียงเพื่อใช้ในการเดินทางเลย...คนเราเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้เหมือนกับรถที่เติมนำมันไว้พร้อมแล้วเดินทาง(นำมันก็เปรียบเสมือนบุญเก่า) ระหว่างเดินทางเราก็คอยเติมนำมัน อยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้มันเดินทางต่อไปได้เพื่อให้ถึงจุดหมาย แต่ถ้าไม่เติมนำมันหมด ( ก็เหมือนหมดบุญนั้นแหล่ะ ) แล้วจะเดินทางไปได้อย่างไร

 

คุณลองไปหาหนังสือเรื่องไอส์ไตพบ พระพุทธเจ้าเห็นมาอ่านนะครับ
อาจจะได้คำตอบ ทั้งเรื่องของวิทยาศาสตร์ และพุทธศาสนา
ส่วนเรื่องการ เกิดดับนั้น ต้องศึกษาเรื่องของจิตครับถ้าพูดไห้คุณเข้าใจ จิตก็คือความคิดของคุณนั้นหละ จิตเกิดดับอย่างไร ต้องศึกษานะครับ
เมื่อรู้เรื่องจิตเกิดดับแล้ว จะเข้าใจเรื่องตายและเกิดเอง
ขอไห้ศึกษาต่อไปครับ

 

ผมเจ้าของกระทู้ครับ........

ผมต้องขอโทษด้วยที่..ตั้งคำถามโง่ๆ...ผมก็พอที่จะเข้าความของคำว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จีรังยั่งยืน......แต่ความดีซิที่ยั่งยืน..ต้องหมั่นทำ และสำหรับคุณสมาชิกwatasit<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_925277", true); </SCRIPT> ที่ว่า...คนเราเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้เหมือนกับรถที่เติมนำมันไว้พร้อมแล้วเดินทาง(นำมันก็เปรียบเสมือนบุญเก่า) ระหว่างเดินทางเราก็คอยเติมนำมัน อยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้มันเดินทางต่อไปได้เพื่อให้ถึงจุดหมาย แต่ถ้าไม่เติมน้ำมันหมด ( ก็เหมือนหมดบุญนั้นแหล่ะ ) แล้วจะเดินทางไปได้อย่างไร ทำให้ผมอยากจะทำความดีครับ.... T_T ขอบพระคุณที่ชี้แนะ<!-- / message -->

 

ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกฏธรรมชาติ

 

จขกท. เจ๋ง

คนเราต้องมองความเป็นจริง ครับ

 

เมื่อคุณอ่านคำตอบของข้าพเจ้าแล้ว ก็ขอให้คุณคิดว่า เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าเล่าสู่คุณได้อ่านได้ศึกษาว่า

นรก,สวรรค์ มีอยู่จริง
บนดาวที่ชื่อว่าโลกนี้ เป็นปากทางหรือเป็นช่องทางหรือเป็นประตูที่จะก้าวไปสู่สถานที่ใดใดก็ได้ นรกอยู่ ในใต้พิภพ หรือใต้โลกเรานี้แหละ คุณและคน 99.99 ส่วนใน 100 ส่วน ไม่สามารถมองเห็นได้
สวรรค์มีอยู่หลายแห่ง นี้ไม่ใช่เรียนแบบตามศาสนาพุทธนะขอรับ เอาตามที่ข้าพเจ้าประสบมา
จักรวาลมีขอบเขต สุดขอบจักรวาล คือสวรรค์ชั้นหนึ่ง ดวงจันทร์ ชั้นหนึ่ง ดวงอาทิตย์ชั้นหนึ่ง ดาวพุธ ชั้นหนึ่ง ฯลฯ ยังมีอีกมาก หลายท่านอาจจะคิดว่าข้าพเจ้ามั่ว ไม่มั่วนะคุณ เรื่องจริงนะ
ส่วนที่คุณกล่าวว่า ในทางวิทยาศาสตร์ จะมีการระเบิดของดวงดาวในระบบสุริยะจักรวาลนั้น ไม่เป็นความจริง นั้นเป็นความเพ้อฝันของคนบางกลุ่มที่คิดไปเองว่า ระบบสุริยจักรวาลเกิดจากระเบิดและรวมตัวของกลุ่มก๊าซ ฯลฯ
ดวงดาวทุกดวง ไม่มีการระเบิดอย่างเด็ดขาดและแน่นอน ฯลฯ
มนุษย์เมื่อตายไป ดวงจิตที่ติดหลงบางดวงจิต ก็จะไปแฝงหรือสถิตย์อยู่ ณ.สิ่งที่ตัวเขาติดหลง นั้นแหละเขาได้เกิดใหม่อย่างหนึ่งละนะ
ดวงจิตที่กระทำความดี ก็จะพ้นจากแรงดึงดูดของวัฏจักร คำว่า วัฏจักรในที่นี้ หมายถึง พ้นจากแรงดึงดูดของ
"การครองเรือน ,ทาน,
กตัญญู ,เจรจา
สรรพอาชีพ,ประพฤติ
ระลึก ,ดำริ
หมายความว่า ดวงจิตของเขา ไม่ตัองการ ไม่ติดหลง ในเรื่องที่ได้กล่าวไป ดวงจิตหรือวิญญาณของเขาก็ถูกดึงดูดไปสู่สวรรรค์ชั้นต่างๆ ตามแต่ความดี หรือถ้าจะกล่าวเปรียบเป็นมวลของสสาร ดวงจิตก็จะถูกดึงดูดไปสู่สวรรค์ชั้นต่างๆ ตามแต่มวลของสสารแห่งดวงจิตของเขา (อธิบายยาก ทำความเข้าใจสักหน่อยนะ) เช่นมวลของสสารแห่งดวงจิตของเขา มีความเป็นน้ำมาก ก็จะไปสู่สวรรค์ชั้นที่มีน้ำมาก (นี้ยกตัวอย่างเท่านั้น เพื่อจะได้เข้าใจว่าดวงจิตหรือดวงวิญญาณไปสู่สวรรค์ได้อย่างไร

และในทางตรงกันข้าม ถ้าความชั่วในดวงจิตหรือวิญญามีมาก ติดหลง ในหลักที่ได้กล่าวไป เขาก็จะถูกดึงดูดไว้ที่โลก ถ้ามีความติดหลงมาก จนกลายเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย แรงดึงดูดจากใต้พิภพก็จะดึงดูดดวงจิตของเขาไปสู่ใต้พิภพ ซึ่งก็คือนรก นั่นเอง

สุดท้ายจะเล่าให้ฟัง ว่า
ข้าพเจ้าไปบิ๊กซีสาขาเชียงราย บ่อย ทุกอาทิตย์ เวลาจอดรถเสร็จก็จะก้าวข้ามรั้วเป็นประจำ วันหนึ่งขณะก้าวข้ามรั้วราวเหล็ก ก็มีแสงพุ่งจากใต้พื้นดินขึ้นมา และระยะหลังก็เกิดขึ้นทุกครั้งที่ข้าพเจ้าก้าวข้าม
ข้าพเจ้ามีประสาทสัมผัสพิเศษทางตา มองเห็นสิ่งมีชีวิต สามารถเคลื่อนที่ได้ เวลามันเคลื่อนที่มันจะหมุนเป็นวงกลม เวลาข้าพเจ้าก้าวข้ามมันก็ดึงดูดข้าพเจ้า โดยเปล่งแสงออกมาพ้นจากพื้นดินเป็นลำใหญ่ ข้าพเจ้ามองเห้นได้อย่างชัดเจน แต่คนอื่นข้าพเจ้าไม่รู้นะ เขาอาจจะมองเห็นแสงที่พุ่งจากใต้พื้นดินเหมือนข้าพเจ้าก็ได้ อันน้เล่าให้อ่านเล่นขอรับ

 

ก็มีอยู่ 10002 โลกธาตุ (2โลกธาตุเป็นโลกล้าง)ดั่งปรากฎในบทสวดมิใช่หรือครับ
วิธีพิสูจน์ภพภูมิหลังความตาย ก็มีอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าทำความเพียรถึงหรือไม่ ทำจริงย่อมพิสูจน์ได้จริงครับ

ป.ล.ใครก็ได้ช่วยตามจิตแพทย์ที มีตัวประหลาดจะเปล่งแสงอีกแล้วครับ

 

ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์บนโลกเรามีการทำวิจัยเรื่องคนที่สามารถละลึกชาติได้
โดยทำการสำรวจและพบว่ามีคนที่ละลึกชาติได้เป็นจำนวนมากและสืบประวัติ
อดีตชาติของตัวเองแล้วก็ตรงตามที่เจ้าตัวบอก ยังไงลองหาข้อมูลดูนะครับ
ผมก็ได้ยินมาอีกที จาก ดร. ท่านนึงที่ออกทีวี

นี่ก็สามารถยืนยันได้ทางหนึ่งว่าการเวียนว่ายตายเกิดเป็นเรื่องจริง
แต่ผมปฏิบัติและเริ่มเห็นและสัมผัสบางสิ่งบางอย่างที่แต่ก่อนไม่เคยรู้
ไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้เริ่มที่จะเชื่อและปฏิบัติมากขึ้นครับ

 

ขออนุโมทนากับ จขกท.ด้วยนะครับที่มีปณิธานที่ดี
ขอให้ทำได้จริงๆนะครับ
แต่ถ้าทราบอะไรที่ลึกซึ้งก็เป็นสิ่งที่ดี
จะได้ตอบข้อสงสัยในตัวเองได้
ผมแนะนำให้หาหนังสือมาอ่านครับ
ส่วนตัวนะแนะนำหนังสือคู่มือมนุษย์ครับ
จะลองค้นในเน็ทดูก่อนก็ดีครับ
ผมก็ี่เคยเป็นอย่างนี้(good)