เรื่องเด่น ป่วยหนัก โรคร้าย บรรเทาได้ด้วยการปล่อยสัตว์ที่กำลังจะโดนฆ่า

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย Apinya Smabut, 6 ตุลาคม 2018.

  1. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    059_n.jpg?_nc_cat=100&ccb=1-5&_nc_sid=730e14&_nc_ohc=iBw_coqdD-4AX_Xqnx6&_nc_ht=scontent.fbkk5-5.jpg
    เว็บพลังจิต ขอเชิญร่วมบุญมหากุศลไถ่ชีวิตสัตว์ใหญ่ หรือสัตว์ที่จะถูกฆ่าแน่ ๆ กับหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน ครั้งที่ ๓ ปี ๒๕๖๔
    ปิดรับ 30 กันยายน 2564 เวลา 23.55 น.
    รายละเอียดเพิ่มเติม

    https://palungjit.org/threads/766152/


    ป่วยมานาน อยากหาย

    ถาม : ข้าพเจ้าเป็นคนที่ไม่แข็งแรง เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่เสมอ หากข้าพเจ้าต้องการบรรเทาอาการเจ็บป่วยให้น้อยลง ทั้งในชาตินี้และชาติต่อ ๆ ไป ด้วยปัจจัยที่จำกัด อยากทราบว่าการทำบุญอย่างใดจึงจะให้ผลแก้กรรมเรื่องเจ็บป่วยนี้ได้มากกว่ากัน ?
    ตอบ : ปล่อยชีวิตสัตว์ อย่างเช่น ปล่อยปลาที่เขากำลังจะฆ่าเดือนละตัว ทำเป็นประจำทุกเดือนจนกว่าจะตาย

    -------------------------------------------------------------------------------------


    อานิสงส์การปล่อยสัตว์ให้รอดชีวิต

    ถาม : ตอนนี้มีเคราะห์กรรมเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องทำบุญอะไรที่ว่ามีอานิสงส์สูงมากเพื่อที่จะให้เจ้ากรรมนายเวร ?

    ตอบ : สิ่งนี้จริง ๆ แล้วไม่ใช่ว่าทำบุญที่มีอานิสงส์สูง แต่ว่าทำให้ถูก คือว่าการเจ็บไข้ได้ป่วยส่วนใหญ่ เป็นเศษกรรมปาณาติบาต คือ การเคยฆ่าคนฆ่าสัตว์มาก่อนในอดีต อันนี้ต้องใช้ชีวิตให้เขา อย่างเช่นว่า ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยไก่ที่เขาจะฆ่า ต้องเป็นที่เขาจะฆ่ากินด้วยนะ หรือไม่ก็ที่เขาจะทำร้ายที่ให้ถึงแก่ชีวิต เราช่วยให้เขารอดชีวิตไปได้ กุศลตัวนี้จะไปบรรเทาเบาบางกรรมที่ทำให้เจ็บป่วยลดงไปได้เยอะ

    อาตมาเองสมัยเป็นฆราวาส ป่วยเรียกว่าหัวอาทิตย์ถึงท้ายอาทิตย์เลย แล้ววันหนึ่งหลวงพ่อวัดท่าซุงก็แนะนำให้ว่า "แกเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขาไว้เยอะ เศษกรรมตัวนี้จะทำให้ป่วยบ่อย แกควรจะไปปล่อยปลาเดือนละตัวสองตัวก็ได้ เป็นปลาที่เขาขายเพื่อฆ่าไปทำอาหาร"

    ก็กราบเรียนท่านว่า "หลวงพ่อครับ..การปล่อยปลาเป็นการต่ออายุไม่ใช่หรือครับ ? ผมเองก็ไม่อยากจะอยู่ แล้วจะไปปล่อยทำไม ?" ท่านบอกว่า "แกอย่าเพิ่งเข้าใจผิดอย่างนั้น การปล่อยปลาจะเป็นการต่ออายุก็ต่อเมื่ออุปฆาตกรรม คือ กรรมที่เราเคยฆ่าคนฆ่าสัตว์ใหญ่ในอดีตตามมาทัน ช่วงนั้นจะมาตัดรอนชีวิตของเราลง ถ้าอย่างนั้นการปล่อยชีวิตเขาถึงจะเป็นการต่ออายุของเรา

    แต่ถ้าหากว่าในช่วงนั้นไม่มีอุปฆาตกรรม เราเองได้ปล่อยชีวิตเขาให้รอดไป ให้ได้รับความสุข ให้ได้รับความสะดวกสบาย ต่อไปทำอะไรก็สบายก็ง่ายไปหมด" อาตมาเลยปล่อยตามคำสั่งครูบาอาจารย์มาจนถึงทุกวันนี้

    -------------------------------------------------------------------------------------

    ถาม: อานิสงส์ของการปล่อยสัตว์ใหญ่....?
    ตอบ: อันดับแรกได้เมตตาบารมี เราไปปล่อยเขาให้มีชีวิตรอด ได้รับความสุข ความสะดวกสบาย ต่อไปเราทำอะไรก็จะสะดวกสบายไปด้วย

    และมีอานิสงส์พิเศษในเรื่องของการปล่อยชีวิตสัตว์ ถ้าสัตว์ที่ปล่อยเป็นสัตว์ที่เขาขายเพื่อเอาไว้ฆ่าเป็นอาหาร บังเอิญช่วงนั้นเรามีอุปฆาตกรรมเข้ามา แล้วเราได้ปล่อยสัตว์แบบนี้ ก็จะเป็นกุศลช่วยต่อชีวิตให้เราด้วย ตัวหนึ่งเท่ากับหนึ่งปี สมมติว่าคุณปล่อยปลา ๑๐ ตัว ก็จะมีอายุต่อไป ๑๐ ปี

    แต่ถ้าหากว่าไม่มีอุปฆาตกรรมเข้ามารบกวน อานิสงส์นี้ก็จะทำให้เรามีความสุข สะดวกสบาย เรื่องเคราะห์กรรมใหญ่ ๆ ถ้าเราปล่อยพวกไก่พวกเป็ดที่เขาจะฆ่า เคราะห์กรรมเหล่านั้นก็จะเบาไป

    ถ้ากรรมหนักถึงแก่ชีวิต...ให้ปล่อยสัตว์ใหญ่ เช่น แพะ แกะ วัว ควาย ก็จะเป็นการต่อชีวิตของเราได้ เรียกว่า ยิ่งกรรมหนัก...ยิ่งปล่อยสัตว์ใหญ่ ยิ่งได้เปรียบ

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕


    -------------------------------------------------------------------------------------

    ถาม : เราปล่อยปลาชนิดไหน เขาห้ามกินปลาชนิดนั้น ?
    ตอบ : เขาห้ามกินปลาตัวนั้น ไม่ใช่ห้ามกินชนิดนั้น เขาบอกว่าห้ามกินชนิดนั้นเพื่อให้พ้นไปเลย ต่อไปก็ปล่อยอย่างที่เราไม่ชอบเข้าไว้ ปล่อยอย่างที่เราไม่ชอบจะได้ไม่ต้องไปกิน อย่างปล่อยปลาปั๊กกะเป้าอย่างนี้ มีคนเอามาขายหรือเปล่า ?

    ถาม : แล้วฝากไปปล่อยได้ไหมคะ ?
    ตอบ : ได้จ้ะ เรามีส่วนอยู่แล้ว เพราะว่าปัจจัยเป็นของเรา เงินทองเป็นของเรา ปล่อยได้ด้วยตัวเองยิ่งดี ที่หน้าวัดท่าซุงที่เต็มไปหมดนั้น เกิดจากฝีมือของอาตมาเริ่มไว้ก่อน ตอนแรกก็ซื้อไปปล่อยแต่บ่อที่อยู่ข้างร้านป้ากิมกี (ร้านอาหารในวัดท่าซุง)

    ปล่อยไปปล่อยมาหลวงพ่อบอกว่า "แกดูบ้างหรือเปล่า ว่าปลาจะไม่มีที่หายใจอยู่แล้ว ?" อาตมาก็เพิ่งจะรู้ ...(หัวเราะ)... พอเอาอาหารไปโยน เออ...ใช่..ขึ้นมาคลั่กไปหมด ก็เลยไปซื้อปล่อยที่แม่น้ำข้างหน้าวัด

    คราวนี้ปกติจะซื้อแต่ปลาดุก เพราะเป็นปลาที่อดทนทรหดมาก แต่ปรากฏว่าที่ซื้อมาเป็นปลาดุกเลี้ยง พอปล่อยลงแม่น้ำ นอกจากจะหากินไม่เป็นแล้ว ยังเอาตัวไม่รอดอีกต่างหาก โดนพวกปลากระแหทึ้งหนวดจนเกลี้ยงเลย ดึงหนวดไปกินหมด ปลากระแห (ปลาตะเพียนที่มีครีบแดง ๆ) เขาเรียกว่าตะเพียนแดงก็มี กระแหแดงก็มี พวกนี้ไวมาก

    ถาม : ตัวเล็ก ๆ หรือเปล่าครับ ?
    ตอบ : โตสักฝ่ามือเรานี่ มาถึงก็โฉบคว้าหนวดเขาไปกินเลย เจ้าพวกนั้นโดนถอนหนวดไปสด ๆ ร้อน ๆ ก็เจ็บตายชัก เลยหนีกันมาออกันอยู่ริมฝั่ง พอเจอเข้าไปงานเดียวก็เข็ด...

    จากนั้นก็เลยต้องไปหาว่า พื้นเดิมแถวนี้มีปลาอะไรบ้าง ? จะไปถามซื้อพวกปลากระแหก็ไม่ได้ เพราะว่าปลาพวกนี้ใจเสาะ เขาว่าแค่เห็นตะวันก็ตายแล้ว เห็นท้องฟ้าก็ตาย..ความจริงไม่ใช่หรอก พอพ้นน้ำขึ้นมาไม่มีอากาศหายใจ พวกนี้จะตายง่ายกว่าชนิดอื่น ไม่อึดเหมือนเขา สืบหาจนกระทั่งได้ความว่า ปลาของพื้นบ้านที่นี่ มีพวกปลาเสือ ปลาแรด แล้วก็ปลาสวาย ปลาเทโพ พวกปลาสวายจะหาง่ายที่สุด

    ก็เลยตั้งใจซื้อปลาสวายปล่อย คราวนี้จะซื้ออย่างที่หลวงพ่อบอก คือ ตัวสองตัว พอไปเจอนอนตาปริบ ๆ ทั้งกาละมังก็ต้องยกกาละมัง มีเท่าไรก็ต้องเอาเท่านั้น ปล่อยไปปล่อยมาก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันแตกลูกแตกหลานหรือไปชวนใครมาอยู่ด้วย ถึงได้เยอะขนาดนั้น เกิดจากการริเริ่มของอาตมาเอง ๗ - ๘ ปี เท่านั้น ไม่นานหรอก

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๔


    -------------------------------------------------------------------------------------

    ถาม : คนที่เป็นเบญจเพส จำเป็นต้องบวชแก้เคล็ดทุกคนไหมครับ ?
    ตอบ : ไม่จำเป็น อาจจะเป็นการทำอะไรสักอย่างเป็นการสะเดาะเคราะห์ก็ได้ เช่น ถวายสังฆทาน ปล่อยชีวิตสัตว์ เป็นต้น

    ถาม : เบญจเพส ตามโบราณเขาแนะนำให้ทำอะไรครับ ?
    ตอบ : ส่วนใหญ่ให้สะเดาะเคราะห์ วิธีสะเดาะเคราะห์ก็อาจจะเช่นว่า เข้าวัดทำบุญใหญ่ อาบน้ำมนต์ ทำบังสุกุลตายบังสุกุลเป็น ปล่อยนกปล่อยปลา พูดง่าย ๆ ว่า ทำอะไรสักอย่างที่ให้เรารู้สึกว่า เราได้ทำสิ่งที่ดี ๆ เป็นบุญใหญ่ให้กับตัวเอง ทำให้กำลังใจของเราสูงขึ้น

    -------------------------------------------------------------------------------------

    แก้ชง

    ถาม : มีโยมมาปรึกษาเรื่องปีชงครับ ควรจะตอบเขาว่า ?
    ตอบ : ก็เลิกชงสิ ให้คนอื่นชงให้กินแทน...! เรื่องของปีชงเป็นความเชื่อตามคติแบบของจีน ถ้าเป็นแบบของไทยเราก็สอนให้เขาสะเดาะเคราะห์ถวายสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลาไป ถ้าจะเอาแบบจีนก็ต้องไปไหว้เจ้า เขาระบุว่าองค์ไหน ที่ไหน ไหว้แล้วแก้ชงปีอะไร เราก็ไปตามนั้น

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๘


    -------------------------------------------------------------------------------------

    ถาม : (การปล่อยปลา)
    ตอบ : อย่าไปซื้อที่เขาเตรียมไว้ให้เรา ให้ไปซื้อในตลาด การที่เราจะปล่อยชีวิตสัตว์ต้องเป็นสัตว์ที่เขาจะฆ่า ไม่ใช่เขาเตรียมไว้ให้เราปล่อย เขาเตรียมไว้ให้เราปล่อยได้แค่เมตตาบารมี ดีไม่ดีก็จะไปสนับสนุนให้เขาทรมานสัตว์ แต่ถ้าไปซื้อในตลาด เราไม่ซื้อเขาตายแน่ ประเภทนั้นอานิสงส์ได้เต็ม

    ถาม : ควรซื้อจำนวนเท่าไรคะ ?
    ตอบ : ได้เท่าไรก็เอาแค่นั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อจนหมดเงิน เอาแค่ที่ตลาดเขามี ถ้าหากว่าหมดแล้วยังมีเงินเหลือก็ซื้อแม่ค้าไปปล่อยด้วย...!

    พวกปลาในตลาดถ้าเราดูไม่เป็นบางทีก็ลำบาก อย่างพวกปลาช่อนส่วนใหญ่จะโดนเอาเข็มร้อยมาลัยจิ้มต้นคอ เขาจะทิ่มให้ปลาชา จะได้ไม่เคลื่อนไหวมาก ไม่อย่างนั้นปลาช่อนชอบกระโดด ถ้าเป็นกบก็มักจะโดนหักขาหลัง

    คนอื่นได้ปล่อยตัวอะไรบ้างไม่รู้ อาตมาปล่อยตะกวดมาแล้ว เขาจับมัดมือไขว้หลังไว้ ไม่รู้ทำผิดคิดร้ายอะไรมากมายนัก ถ้าข้ามไปทางฝั่งลาวหรือทางฝั่งพม่า เขามักจะขายสัตว์เป็น ๆ ขายเป็นตัว ๆ เลย หมูไก่ก็มาเป็นตัวเลย เพราะฉะนั้น...พวกสัตว์ป่าถ้าไม่ใช่โดนยิงตายก็จะจับมาทั้งตัว โดยเฉพาะพวกตะกวด พวกแลน พอถึงเวลาก็มัดมือไขว้หลังนอนแอ้งแม้งอยู่ คลานไม่ได้ ได้แต่ทำตาปริบ ๆ พอเห็นก็ซื้อไปปล่อยก่อน ส่วนจะโดนจับมาอีกเมื่อไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    อาตมากินไปเยอะแล้วก็ปล่อยเขาบ้าง สมัยที่อยู่ที่เกาะพระฤๅษีใหม่ ๆ บิณฑบาต ๗ วันจะต้องได้พวกตะกวดผัดกระเพรามา ๖ วัน ชาวบ้านเขาล่ากันเป็นปกติ

    -------------------------------------------------------------------------------------

    ถาม : ก่อนวันเกิดนี่จะมีเคราะห์หรือคะ ?
    ตอบ : ประมาณก่อนเกิดเดือนหนึ่งและหลังเกิดเดือนหนึ่ง จะเป็นช่วงรอยต่อของกรรม เพราะฉะนั้น..ช่วงนั้นถ้ามีอะไรดีหรือร้ายเข้ามา จะหนักกว่าเวลาอื่น เขาให้ทำบุญกันเอาไว้ก่อน

    อย่างของอาตมารู้ว่าของจะหาย เพราะว่าตอนนี้ราหูกำลังจะออกพ้นไปจากราศีเกิด ก็ไปปล่อยนกส่งท่าน แล้วต้องไปปล่อยที่วัดเชียงมั่นด้วยนะ ที่อื่นไม่ปล่อย เพราะสนิทกับคนขายที่นั่น การปล่อยนกมีอานิสงส์ป้องกันของหายได้

    -------------------------------------------------------------------------------------

    ถาม : ปล่อยปลาอานิสงส์เหมือนกันไหมคะ ?
    ตอบ : ไม่เหมือนเพราะว่าปลาเขาจะเอาไปฆ่า การปล่อยปลาจึงมีอานิสงส์ต่อชีวิต ส่วนนกนี่เขาไม่ฆ่าหรอก เขาเก็บไว้ให้เราปล่อย แต่ว่าถ้าเป็นปลาเขาตั้งใจเอามาขายให้เราปล่อยนี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง

    อย่างท่านอาจารย์วิโรจน์ วัดสระพัง ถึงเวลาก็มาชวน "อาจารย์เล็ก..ปล่อยปลาด้วยกันไหม ?" อาตมาบอกว่า "ไม่เอาหรอก..ปล่อยอย่างคุณจะไปได้อะไร เล่นไปสั่งเขาตีอวนมาที ๓ - ๔ ตัน ปลาอยู่ในบ่อยังสบายกว่าโดนเขาลากขึ้นมาตั้งเยอะ" แต่ว่าไปแล้วทำอย่างท่านอาจารย์วิโรจน์นั้น จะมีอานิสงส์ได้บริวารมาก

    -------------------------------------------------------------------------------------

    ถาม : ถ้าการปล่อยปลา ไถ่โคกระบือ ช่วยในเรื่องอุปฆาตกรรม หรือโรคภัยไข้เจ็บได้ แล้วถ้าผมชอบให้อาหารสัตว์ มักบริจาคค่าอาหารให้มูลนิธิหรือหน่วยอาสาที่รับดูแลแมวหมา บุญนี้จะส่งผลอย่างไรครับ ?
    ตอบ : เกิดชาติไหนก็ตาม ร่อนเร่พเนจรขนาดไหนก็ตาม ก็จะมีคนเลี้ยง

    ถาม : ถ้าเราช่วยเหลือผู้อื่น โดยที่เขาไม่ได้รับรู้ว่าเราได้ช่วยเขา ชาติต่อไปเขาจะมาช่วยเหลือเราตามกฎแห่งกรรมไหมครับ ?
    ตอบ : ช่วย...แต่ช่วยแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่าละเมอช่วยนะ เช่น เขาอาจจะเตะหมาทีหนึ่ง ปรากฏหมาตัวนั้นตั้งใจจะกัดเรา พอโดนเขาเตะเข้าพอดีก็เลยเลิกกัดเรา เขาก็ไม่ได้เจตนาช่วยเรา แต่เราก็พ้นภัยไปแล้ว

    ถาม : ระหว่างคนที่ทำบุญ ทำความดี แต่ไม่ได้ประกาศบอกกล่าวให้ผู้อื่นรู้ กับคนที่ทำความดี และประกาศบอกกล่าวให้ผู้อื่นรู้ อย่างไหนส่งผลดีกว่ากันครับ ?
    ตอบ : ถ้าวางกำลังใจให้ถูก การประกาศบอกคนอื่นทำให้เขาได้อนุโมทนาด้วย ถือว่ามีผลดีกว่า แต่ถ้าทำกำลังใจไม่ถูก ไปประกาศเพื่อจะอวดว่าเราสร้างความดี ก็มีโทษมากกว่า

    -------------------------------------------------------------------------------------

    "ตอนเด็ก ๆ ที่โดนฉีดยาบ่อยจนกลัวเข็ม เพราะว่าเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นประจำ มารู้ตอนโตแล้ว หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า “แกเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขามาทุกชาติ เศษกรรมปาณาติบาตจะทำให้ป่วยบ่อย ให้ไปปล่อยสัตว์ที่เขาจะฆ่า อย่างเช่นปลาในตลาด เดือนละตัวสองตัว ให้ทำเป็นประจำแล้วจะบรรเทากรรมตรงนี้ได้”

    อาตมาทำครั้งแรกวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๒๙ แล้วก็ปล่อยติดต่อกันมาทุกเดือนจนบัดนี้ เพิ่งจะมีปีนี้ที่รู้สึกว่าอาการป่วยห่างไป คำว่าห่างคือมีเวลาให้หายใจบ้าง ก็น่าดูเหมือนกันนะ เกือบ ๓๐ ปีกว่ากรรมจะยอมถอยให้หน่อย ตอนแรกก็ไม่ยอมปล่อย เพราะว่าการปล่อยชีวิตสัตว์เป็นการต่ออายุ อาตมาไม่ต้องการจะอยู่ แล้วจะปล่อยไปทำไม ? หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ”แกอย่าเพิ่งเข้าใจผิด การปล่อยชีวิตสัตว์จะเป็นการต่ออายุต่อเมื่อเรามีอุปฆาตกรรม”

    อุปฆาตกรรม คือ กรรมเก่าที่เคยฆ่าคน ฆ่าสัตว์ใหญ่ในอดีตตามมาทัน อาจจะทำให้เราถึงแก่ชีวิต ถ้าอย่างนั้นจะเป็นการต่อชีวิตของเรา แต่ถ้าไม่มีกรรมเก่าเข้ามา การปล่อยชีวิตเขาให้รอด ให้ได้รับความสุข ความสะดวกสบาย ต่อไปทำอะไรก็จะสะดวกสบายไปด้วย อาตมารู้สึกว่าระยะหลังทำอะไรก็สะดวกขึ้น มีคนช่วยงานมากขึ้น งานบางอย่างไม่น่าจะมีคนช่วย อยู่ ๆ ก็มีมาพอดี สรุปว่าปล่อยชีวิตสัตว์มาจนนับจำนวนไม่ถ้วน เพราะถ้าจะไปปล่อยทีละตัวสองตัว ก็เห็นตัวอื่นรอชะตากรรมเดียวกันอยู่ พอไปจึงมักจะเหมาหมดตลาดเลย

    ถ้าเอาคำของหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นเกณฑ์ว่าเป็นทหารมาทุกชาติ ก็น่าจะใช่ เพราะว่าชาตินี้จริง ๆ ไม่ได้คิดจะไปเป็นทหารก็ยังต้องไปเป็น เป็นไปทำไมวะ ? เคยดูย้อนหลังไปก็สารพัด แต่ละชาติ ทำดีแค่ไหนก็เสมอตัว พลาดเมื่อไรก็หิ้วหัวมาได้เลย ความจริงน่าจะลองเกิดอีกสักชาติ ว่าตัวเองจะต้องเป็นทหารอีกหรือเปล่า ? จะได้หายสงสัย

    ความหมายของคำว่าทหารคือคนหนุ่ม ดังนั้น..จะอ่อนแอไม่ได้ ต้องแข็งแรงอยู่เสมอ ไปนึกถึงพลเอกอิสรพงศ์ หนุนภักดี ท่านว่า “ไอ้น้องโว้ย..พี่เหนื่อยฉิบหา..เลย ขอนอนหน่อยเถอะ” อยู่ต่อหน้าลูกน้องทำเป็นเก่ง ลับหลังเข้าที่พักนายทหารได้ แผ่หลาสี่สลึงเลย"

    -------------------------------------------------------------------------------------

    ถาม : ลูกไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วขาดสารอาหารจนเจ็บป่วย จะทำอย่างไรให้เขากิน เพราะป่วยตลอดเลยค่ะ ?
    ตอบ : เรื่องป่วยเป็นเรื่องปกติจ้ะ ถ้ามีโอกาสก็ให้เขาปล่อยพวกสัตว์ที่เขาจะฆ่า อย่างปลาหรืออะไรก็ได้ เดือนละตัวสองตัว ก็จะบรรเทาตรงนี้ได้

    ถาม : ปล่อยปลาหรือคะ ?
    ตอบ : เอาที่เขาฆ่าจริง ๆ นะ ไปในตลาดเลย อย่าไปเอาตามที่เขาเอามาให้เราปล่อย เรียกว่าแลกชีวิตกัน ปล่อยไปเรื่อย ๆ ถ้าลูกป่วยเราก็ไปปล่อยแทนลูก ส่วนเรื่องจะไม่กินเนื้อสัตว์อะไร เรื่องปกติ ปล่อยเขาเถอะ หาพวกโปรตีนเกษตรหรือไม่ก็ถั่วให้เขากินแทน

    ถาม : เขาไม่ยอมให้เข้าปากเลยค่ะ ?
    ตอบ : ให้กินพวกนมถั่วเหลืองแทนก็ได้ เรียกว่าไปกังวลแทนลูก ไม่เป็นไร..ถ้าลูกเขารู้ว่าร่างกายขาด เดี๋ยวเขาก็ตะกายหาเอง

    -------------------------------------------------------------------------------------

    ถาม : หนูเจ็บป่วยบ่อย ไม่ค่อยหาย คุณหมอบอกว่าให้ไปทำสังฆทานและอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เจ็บป่วยค่ะ ลองทำแล้ว แต่เหมือนเดิม
    ตอบ : ต้องไปปล่อยปลาที่เขาจะฆ่าทุก ๆ เดือนจ้ะ อาตมาทำมา ๒๕ ปีอาการจึงดีขึ้น แล้วหนูทำมากี่วันแล้วจ๊ะ ?

    การที่เราเจ็บไข้ได้ป่วย เกิดจากเศษกรรมปาณาติบาตที่เคยไปฆ่าเขาไว้ ไม่ว่าในอดีตจะฆ่าคนหรือสัตว์ก็ตาม หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า ในอดีตอาตมาเป็นทหารฆ่าเขาไว้เยอะ จึงทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย ให้ไปปล่อยสัตว์ที่เขาจะฆ่า อย่างเช่นปลาในตลาด ส่วนสัตว์ที่เขาไม่ได้ฆ่า เราไปปล่อยจะได้แค่ตัวเมตตาเฉย ๆ

    ปล่อยชีวิตสัตว์ที่กำลังจะถูกฆ่าเท่ากับคืนชีวิตให้เจ้ากรรมนายเวรเขาไป หลวงพ่อท่านบอกว่าให้ทำทุกเดือน ๆ จะบรรเทาได้ อาตมาทำมาต่อเนื่องไม่เคยขาดเลย ไม่ได้ทำน้อย ๆ ด้วยนะ เจอก็เหมาหมดตลาดเลย ผ่านมา ๒๕ ปี จึงได้หมอที่ถูกยาถูกโรค ไม่ต้องกังวลจ้ะ เกเรไว้มาก โดนทุกคนแหละ

    ถาม : นอกจากปลาแล้ว เป็นอย่างอื่นได้ไหมคะ ?
    ตอบ : ได้ แต่ให้เป็นสัตว์ที่เขาจะต้องฆ่า นี่ขนาดอาตมาได้หมอ ได้ยาดีขึ้นมา ก็ยังปล่อยอยู่ทุกเดือน ตอนนี้ปล่อยวัวเพิ่มให้เขาด้วย เดือนละตัวเป็นอย่างน้อย แต่วัวแพงไปหน่อย ตัวหนึ่งราคาเป็นหมื่น

    -------------------------------------------------------------------------------------

    แถมท้าย

    สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับความเจ็บไข้ได้ป่วย ดวงตก ไม่อยากเจ็บป่วย อยากหายจากโรคภัยทั้งหลาย หรือ อยากจะทำอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นบ้าง

    เพราะการที่เรามีการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น ไม่ว่าจะร้ายแรงมากน้อยแค่ไหน และไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใดก็แล้วแต่ ล้วนแต่เกิดขึ้นเพราะกรรมจากปาณาติบาตทั้งนั้น เป็นกรรมที่เราได้เคยไปฆ่าสัตว์ หรือ ฆ่าคนมาก่อนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นในชาตินี้หรือในอดีตชาติก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เราเป็นคน หรือ ทำตอนที่เราเคยเกิดไปเป็นสัตว์ กรรมเหล่านั้นไม่ได้หายไปไหน ตราบเท่าที่เรายังไม่ได้ชดใช้ กรรมนั้นก็ยังรอส่งผลเราอยู่

    และเมื่อมาถึงในชาตินี้ เศษกรรมที่เรายังไม่ได้ชดใช้ เมื่อมีโอกาสกรรมเหล่านั้นจะส่งผลให้เราพบกับความทุกข์ ทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วย คือ ตัวกรรมจะเป็นตัวชักนำสิ่งต่าง ๆ เข้ามาจนหาทางทำให้เราเจ็บป่วยจนได้นั่นแหละ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งความเจ็บป่วยทั้งหลายนั้น ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากกรรมที่เราไปเบียดเบียนสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ทั้งนั้น

    ซึ่งการที่จะบรรเทากรรมเหล่านั้นได้ ท่านจะต้องทำด้วยการช่วยเหลือชีวิตสัตว์ที่กำลังจะโดนฆ่าให้ได้ครับ เช่น ปลาที่เขาขายเพื่อฆ่าเป็นอาหาร หรือ จะเป็น ไก่ เป็น วัว ควาย และอีกมากมาย ฯลฯ

    คือ ยิ่งปล่อยสัตว์ใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งได้เปรียบ ยิ่งปล่อยมากยิ่งเป็นผลดีแก่ตัวเราเอง เพราะถือได้ว่าเป็นบุญมหาศาล ผลบุญตรงนี้จะไปช่วยบรรเทาเบาบางกรรมเก่าของเราได้โดยตรง ยิ่งทำมากยิ่งดี และหากเราสามารถช่วยเหลือชีวิตอื่น ๆ ได้มากกว่าที่เราเคยฆ่า เราก็จะสามารถพ้นจากกรรมเก่านั้นได้เร็วขึ้น เพราะผลบุญที่มีกำลังมากนั้น จะช่วยพาเราให้หนีกรรมเก่าที่มีกำลังน้อยกว่านั้นไปได้นั่นเอง

    กรรมเราไม่สามารถลบล้างได้ แต่สามารถสร้างกรรมดีหรือบุญให้มีกำลังมากกว่าเพื่อที่จะหนีกรรมเก่านั้นไปได้ครับ และการช่วยเหลือชีวิตสัตว์นั้น เป็นการแก้กรรมในเรื่องของความเจ็บป่วยได้โดยตรง ดังนั้น ใครที่กำลังประสบกับปัญหาเรื่องความเจ็บป่วย ก็ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะครับ


    -----------------------------------
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 เมษายน 2019

แชร์หน้านี้

Loading...