ปุจฉา ท้าทายชาวพุทธ..พระพุทธเจ้า หมายถึงอะไร?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย moondark999, 6 พฤศจิกายน 2011.

  1. moondark999

    moondark999 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +41
    ส่วนหนึ่งของพระสูตร มีสิ่งที่พระพุทธเจ้าแสดงมาน่าสงสัยอย่างมากๆถึงมากที่สุด ดังนี้

    ดูก่อนอานนท์ ถึงจิต เจตสิต ก็ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ของๆตน หากว่า จิต เจตสิต เป็นเราหรือของๆเรา ก็จะบังคับได้ตามประสงค์ว่า จิตของเราจงเป็นอย่างนี้ จงเป็นอย่างนั้น จงสุขสำราญทุกเมื่อ อย่าทุกข์ อย่าร้อนเลย ดั่งนี้ ก็จะพึงได้ตามปรารถนา นี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เขาจะคิดอะไรเขาก็คิดไป เขาจะอยู่จะไปก็ตามเรื่องของเขา เพราะเหตุ ร่างกายจิตใจ เป็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ของๆตน ให้ปลงธุระเสีย อย่าเข้าใจถือเอาว่าเป็นตัวตนและของๆตน เถิด



    ดูก่อนอานนท์ มรณะสัญญา พิจารณาความตายก็ดี อัตฐิกะสัญญา พิจารณากองกระดูกก็ดี ปฏิกูลสัญญา พิจารณาร่างกายนี้ โดยเป็นของพึงน่าเกียจน่าสะอิสะเอียนเต็มไปด้วยหมู่หนอนและสัตว์ทั้งหลายมีประการเป็นอันมาก ตามลำไส้น้อย ลำไส้ใหญ่ ตามเส้นเอ็นทั่วไปในร่างกาย และเต็มไปด้วยเครื่องเน่าเหม็น มีอยู่ในร่างกายนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง ร่างกายนี้นับว่าเป็นของเปล่า ไม่มีอะไรเป็นของเราซักสิ่งซักอัน เกิดมาสำคัญว่าเป็นสุข ความจริงก็หากสุขอย่างนั้นเอง ถ้าจะให้ถูกแท้ต้องกล่าวว่า เกิดมาเพื่อทุกข์ เกิดมาเพื่อเจ็บ เกิดมาไข้ เกิดมาเป็นพยาธิ เจ็บปวด เกิดมาแก่ เกิดมาตาย เกิดมาพลั่กพรากจากกัน เกิดมาหาความสุขมิได้ ความสุขนั้นถ้ามาพิจารณาให้ละเอียดแล้วมีน้อยเหลือประมาณ ไม่พอแก่ความทุกข์ นอนหลับนั้นแลนับว่าเป็นความสุข แต่เมื่อมาพิจารณาดูให้ละเอียดแล้ว ซ้ำเป็นทุกข์ไปเสียอีก ถ้าผู้ใดพิจารณาเห็นตามดั่งเราตถาคตแสดงมานี้ เป็นนิมิตอันหนึ่ง ครั้นจดจำแน่นอนในตนแล้ว ก็เป็นเหตุให้ได้มรรคผลนิพพานในปัจจุบันนี้โดยไม่ต้องสงสัย[/SIZE]


    ดูก่อนอานนท์ คำที่ว่าให้ปล่อยวางจิตใจนั้น คือว่า ให้ละความโลภ ความโกรธ ความหลง ปลงเสียซึ่งการร้ายและการดีที่บุคคลนำมากล่าว มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ นินทาสรรเสริญ สุขทุกข์ อย่ายินดีอย่ายินร้าย แม้ปัจจัยเครื่องบริโภคเป็นต้นว่า อาหารการกิน ผ้าผ่อนเครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่ที่นอน เภสัชสำหรับแก่โรค ก็ให้ละความโลภ ความโกรธ ในปัจจัยเหล่านี้เสีย ให้มีความมักน้อยในปัจจัย แต่มิใช่ว่าจะห้ามเสียว่า ไม่ให้กิน ไม่ให้นุ่งห่ม ไม่ให้อาศัยสถานที่ ไม่ให้กินยูกกินยา เช่นนั้นก็หามิได้ คือ ให้ละความโลเลในปัจจัยเท่านั้น คือว่า เมื่อได้อย่างดีอย่างประณีต ก็ให้บริโภคอย่างดีอย่างประณีต ได้อย่างเลวอย่างต่ำช้า ก็ให้บริโภคอย่างเลวทรามต่ำช้า ตามมีตามได้ ไม่ให้ใจขุ่นมัวด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง อย่างนี้แลชื่อว่าปล่อยวางใจเสียได้ ถ้ายังเลือกปัจจัยอยู่ คือ ปล่อยให้ความโลภความโกรธความหลง เข้าครอบงำเพราะเหตุปัจจัยสี่ อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ ชื่อว่า ยังถือจิตถือใจอยู่ ยังไม่ถึงพระนิพพานได้เลย ถ้าละความโลภ โกรธ หลง ในปัจจัยนั้นได้แล้ว จึงชื่อว่าทำตัวให้เหมือนดั่งแผ่นดิน เป็นอันถึงพระนิพพานได้โดยแท้ มีคำสอดเข้ามาในที่นี้ว่าเหตุไฉนจึงไม่ให้ถือใจ เมื่อไม่ให้ถือเช่นนั้น จะให้เอาใจไปไว้ที่ไหน เพราะว่าไม่ใช่ของคนอื่น เป็นใจของตัวแท้ๆที่จะเป็นอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะมีใจนี้เอง ถ้าไม่มีใจนี้แล้วก็ตายเท่านั้น จะให้วางใจเสียแล้วจะรู้จะเห็นอะไร มีคำวิสัชนาไว้ว่า ผู้ที่เข้าใจว่าใจนั้นเป็นของๆตัวจริง ผู้นั้นก็เป็นคนหลง ความจริงมีใช่จิตของเราแท้ ถ้าหากเป็นจิตของเราแท้ก็คงบังคับได้ตามประสงค์ว่า อย่าให้แก่อย่าให้ตาย ก็คงจะได้สักอย่างเพราะเป็นของตัว อันที่แท้จิตใจนั้น หากเป็น ลม อันเกิดอยู่สำหรับโลก ไม่ใช่จิตใจของเรา โลกเขาตั้งแต่งไว้ก่อนเรา เราจึงเข้ามาอาศัยอยู่กับด้วยลมจิตใจ ณ. กาลภายหลัง ถ้าหากว่าเป็นจิตใจของเรา เราพาเอามาเกิด ครั้นเกิดขึ้นแล้วจิตใจนั้นก็หมดไป ใครจะเกิดขึ้นมาได้อีก นี่ไม่ใช่จิตใจของใครสักคน เป็นของมีอยู่สำหรับโลก ผู้ใดจะเกิดก็ถือเอา ลม นั้นเกิดขึ้น ครั้นได้แล้วก็เป็นจิตของตน ที่จริงเป็นของสำหรับโลกทั้งสิ้น ที่ว่าจิตใจของตนนั้น ก็เพียงให้รู้ซึ่งการบุญการกุศล การบาป การอกุศล และเพียงให้รู้ ทุกข์ สุข สวรรค์ และพระนิพพาน ถือไว้ให้ถึงที่สุดเพียงพระนิพพานเท่านั้น ถ้าถึงพระนิพพานแล้ว ต้องวางจิตใจคืนไว้แก่โลกตามเดิมเสียก่อน ถ้าวางไม่ได้เป็นโทษ ไม่อาจถึงพระนิพพานได้ มีคำแก้ไว้อย่างนี้

    เพราะเหตุ ร่างกายจิตใจ เป็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่ของๆตน

    ร่างกายนี้นับว่าเป็นของเปล่า ไม่มีอะไรเป็นของเราซักสิ่งซักอัน

    อันที่แท้จิตใจนั้น หากเป็น ลม อันเกิดอยู่สำหรับโลก ไม่ใช่จิตใจของเรา

    โลกเขาตั้งแต่งไว้ก่อนเรา เราจึงเข้ามาอาศัยอยู่กับด้วยลมจิตใจ ณ. กาลภายหลัง


    ..ปุจฉา..คำว่า..เรา..ในความหมายของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า หมายถึงอะไร?
    คือ องค์ประกอบส่วนไหนของชีวิต แล้วเราจะสังเกตได้จากอะไร ขณะที่เรากำลังมีชีวิตอยู่

    แล้วทำไม? พระพุทธเจ้าจึงเรียกจิตใจของสัตว์?ว่า..ลม..ลมจิตใจ ทำไมไม่เรียกอย่างอื่น


    ปุจฉาท้าทายชาวพุทธ พิสูจน์หน่อยสิ ว่าท่านรู้จัก..ตัวตน..ของๆท่านเอง


    .....พระจันทร์มืด999.....
     
  2. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    ถามเพื่อ ?? ท้าทายเพื่อ ?? เพื่อ ?? แล้ว ??
     
  3. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    พระพุทธเจ้า หมายถึง พระธรรมครับ
    (ผมเข้าใจตามประสาของผมน่ะฮะ)
     
  4. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    พระพุทธเจ้า หมายถึง พระพุทธเจ้า นั้นละครับ ไม่ถูกให้ถีบ
     
  5. mojito544

    mojito544 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2011
    โพสต์:
    365
    ค่าพลัง:
    +2,345
    พระพุทธเจ้า คือ พระผู้ตรัสรู้เองโดยชอบแล้ว สอนผู้อื่นให้รู้ตาม,ท่านผู้รู้ดีรู้ชอบด้วยตนเองก่อนแล้ว สอนประชุมชนให้ประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
     
  6. phusak

    phusak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +105
    อันที่จริงแล้วบทความดังกล่าวมิได้ปรากฎในพระสูตร หากแต่เป็นบทความในหนังสือที่โบราณาจารย์ท่านได้แต่งขึ้นภายหลัง ชื่อคิริมานนทสูตร โดยแต่งขยายความเพิ่มเติมจากอาพาธิสูตรในพระไตรปิฎก (กล่าวถึงการป่วยของภิกษุชื่อคิริมานนท) อีกทั้งสำนวนต่างๆก็ดูจะไม่ใช่พุทธโอวาทโดยตรง หากแต่เป็นสำนวนความเห็นของผู้แต่งหนังสือเสียมากกว่า แต่เนื่องจากหนังสือดังกล่าวมีเนื้อหาอันเป็นประโยชน์อยู่มากมายหลายประการ จึงเป็นที่นิยมเผยแพร่สืบต่อกันมาหลายปี ดังนั้นผู้ที่ได้อ่านหนังสือคิริมานนทสูตรจึงควรพิจารณาด้วยโยนิโสมนสิการตามสมควร
     
  7. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    พระพุทธเจ้า ก็คือ มนุษย์ผู้หนึ่ง ที่ รู้แล้ว ตื่นแล้ว เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
     
  8. charoenthai

    charoenthai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +13
  9. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    คำตอบมีอยู่ในมิลลินทร์ปัญหา อ่านใหห้ดี อ่านให้ละเอียด ๆ นะครับ
     
  10. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,142
    ค่าพลัง:
    +1,962
    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาญ ไม่เที่ยง แปรปรวน ควรหรือที่จะยึดมั่น พึงใช้ปัญญาพิจารณาตามชอบ


    อ้าวใครพิจารณาได้ว่าไงเท่ากับผลของปัญญาที่มีอยู่ปัจจุบันในตน แต่เดี๋ยวตำราใดที่เรียนให้วางทิ้งไปเสียก่อนแล้วลองใช้ปัญญาตัวเองตรองเอาเองไม่ใช่เล่นเอาแบบพวกตำราทั่วไปคือ พวกมากลากไป
     
  11. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    "เรา" ก็คงจะหมายถึง"สมมุติื"มั่ง คงจะสังเกตไม่ได้ว่า"เรา"
    เำิกิดเริ่มมาจากตรงไหน องค์ประกอบไหนของชีิวิตจึงจะเรียกได้ว่าคือ"เรา"
    คงคล้ายๆกับ"ลม" ที่รู้ว่ามีอยู่ สัมผัสได้ในบางคราว
    แต่ไม่รู้ว่า ต้นลม ปลายลมนั้นอยู่ตรงไหน
    จะจับให้มั่นคั้นให้ตายว่ามีเป็นรูปเป็นเช่นนั้นเช่นนี้อยู่ตลอดเวลาไม่ได้

    เคยอ่านเจอข้อเขียนทำนองว่า
    ด้วยความไม่รู้ จึงเกิดยึดมั่นไปว่า"จิต"นั้นเป็นเรา
    ซึ่งก็ยังอ่านเจออีกว่า การไปยึดร่างกายว่าเป็นเรา
    ก็ยังดีกว่า ยึดจิตว่าคือเรา
    เพราะกายยังสังเกตให้เห็นในความไม่เที่ยง
    ให้รู้ว่าไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตนของเราได้ง่ายกว่า

    ว่าแต่ว่า"จิต"มันคืออะไรหล่ะ แม้มันอาจจะคล้ายๆลม
    แต่ก็คงไม่ใช่เป็นเพียงแค่สายลม และก็คงไม่ใช่สสาร
    คน สัตว์ สิ่งมีชีวิต ล้วนปรุงแต่ง"จิต"ให้สืบต่ออัตตา
    ในรูปลักษณ์ต่างๆกันไปเรื่อยๆ

    แต่ต้นกำเินิดแรกของ"จิต" เกิดมาจากลมที่ตรงไหนน้า

    ;aa59
     
  12. รักหมดใจ

    รักหมดใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +290
    เราคือตัวตนหนึ่งแห่งมายาการ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • X3593573-26.jpg
      X3593573-26.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.4 KB
      เปิดดู:
      907
  13. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอสั้น ๆ งง สรุปให้ทีมึน ขอแบบเข้าใจง่าย ผมชอบ
     
  14. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    จะตอบไปเพื่ออะไรกัน บางอย่างควรตอบ บางอย่างไม่ควรตอบ เพราะความไม่รู้ อีกเรื่องหนึ่งคนตั้งกระทู้มีเจตนาอะไรกัน? หวังดีหรือหวังร้ายกันแน่ แต่อย่างไรซะ..ชาวพุทธทุกท่านอย่าพึงไขว้เขวเพราะเจตนาของใครบางคน...
     
  15. SP6580

    SP6580 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +1,552
    1-1=0 มีหนึ่งไม่มีสอง เหมือนหลวงปู่หมุนบอกไง ไม่ใช่ท่านบอกว่าท่านเก่งที่หนึ่งน่ะ เพราะมีหนึ่งก็ยุ่งอยู่แล้ว มีสองตายชักเลยจบยากเข้าไปอีก การลบจิต การลบเราไม่ใช่ของง่ายเลย ยิ่งสงสัยยิ่งอยู่ยาว พาไปเรื่อยไม่จบสักที
     
  16. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    เอา ออกให้หน่อยดิ มึนขอบอก ลายตามึน พี่น้อง พยายามไม่จ้องแต่จ้องทุกที
     
  17. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    ไม่อยากตอบหรอกตอบแล้วพวกเอ็งจะร้อง
     
  18. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    อยากหายมึน ก็จ้องตรงกลางจะได้หายมึนเวลาเผลอมอง หุหุหุ
     
  19. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    ปวดหัววะน้องเบทร์ ลายตา ถั่วต้อมมม
     
  20. ยมยักษ์

    ยมยักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +35
    จะไปอั้นทำไม ตอบเลย เดี๋ยวคาใจ อย่าตีหัวเข้าบ้านอยากรู้
     

แชร์หน้านี้

Loading...