ปวดตรงหว่างคิ้วมากเวลานั่งสมาธิ???

เวลานั่งสมาธิจะปวดตรงหว่างคิ้วมากๆไม่รู้เพราะอะไร ทีแรกก็นึกว่าอุปทานไปเอง แต่ลองสังเกตซักระยะรู้สึกว่ามันจะไม่ใช่อุปทาน ปวดอย่างงี้ทุกวันเวลาที่นั่งสมาธิ อยากทราบว่ามันเป็นอะไรทำไมถึงปวดคะแล้วทำยังไงถึงจะหายปวดได้ ผู้รู้ช่วยทีนะคะ นั่งไม่ได้เลยเดี๋ยวนี้ แรกๆก็นั่งไปซักพักจะปวด หลังๆแค่หลับตาก็ปวดขึ้นมาแล้ว
กรุณาช่วยทีค่า i need help plz T^T

 

ผมก็เคยเป็นเหมือนกัน
สาเหตุน่าจะเกิดจากเราตั้งใจทำเกินไปทำให้เกิดความเครียดจึงปวดระหว่างคิ้ว
ให้ปรับอารมณ์ใหม่ครับ ไม่ต้องเครียดหรือตั้งใจเกินไปทำใจสบายๆ เวลาทำสมาธิ

ขอให้ก้าวหน้าครับ

 

พิณเสียงจะเพราะ เส้นเสียงต้องไปตึงเกินไป หรือหย่อนเกินไป

ตึงเกินไปก็เจ้บปวด และจะขาดเอาได้
หย่อนเกินไปก็ไม่เกิดเสียง ไม่มีผลสัมฤทธิ์

วางจิตเป็นกลาง สบายๆ ไม่บีบรัดตัวตัวเอง กำหนดจิตที่จิต ไม่ใช่ที่กาย วางสายพิณให้เป็นกลาง น่าจะดีขึ้น

หากอะไรที่อยากมี อยากได้ อยากเป็น ยิ่งคิด ยิ่งไม่มี ไม่ได้ ไม่เป็น เป็นเรื่องจริงธรรมดาโลก ต่อเมื่อปล่อยใจสบาย จะบังเกิดผลไม่คาดคิด เพราะหากเราจะได้ จะมี จะเป็น ยังไงเสีย เราย่อมได้ ย่อมมี ย่อมเป็นเช่นนั้น อยู่แล้ว ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

เช่น พระอานนท์ ตระหนกที่ตนเองไม่ได้เป็นพระอรหันต์เพียงผู้เดียว ทั้งที่รับใช้ใกล้ชิดพระพุทธองค์กว่าใคร คืนนั้นนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย แต่อยู่ดีๆ ก็คิดว่า ช่างมันเถอะ เพียงวางเท่านั้น พระอานนท์ก็ผ่อนคลาย บรรลุพระโพธิญาณ เป็นพระอรหันต์ในที่สุด

 

จริงๆ คำถามนี้ถูกถามบ่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงๆ

รบกวนเข้าไปอ่านกระทู้อื่น จะช่วยตอบคำถามนี้ได้ ยกตัวอย่างคำตอบ

กระทู้การปิดตาที่สาม หน้า 57 โดยคุณมังกรบูรพา 01-06-2009, 12:14 AM

หากมีอาการปวด หน่วง ๆ บริเวณหน้าผาก ให้ตั้งใจฝึกสมาธิ
ในสายที่ตัวเองชำนาญ เนื่องจากกำลังของสมาธิ จะช่วยแทง
ทะลุ ให้จุดนี้เปิดง่ายขึ้น

อาการปวด หรือหน่วง หรือขนาดเสียวลึก ไชเข้าสมอง ก้าวหน้าได้
ระดับหนึ่งครับ แต่...ถ้าจะเอาอาการทางกายภาพ เป็นเครื่องบ่งชี้
ต้องฝึก จนถึงเสียวสุด ๆ จิ๊ดไชสมองสุด ๆ และ จะเป็นตลอดวัน/คืน
แม้ไม่ได้ฝึกอะไร จะนั่งรถ เดินทาง เล่นเน็ท (เป็นตลอดเวลา)

หากทนอาการ ตามที่บอกไม่ได้ ต้องใช้กำลังสมาธิครับ ไม่ต้องเจ็บตัว
สำหรับสาเหตุละออง หรือคลื่น ไม่ต้องสนใจครับ เห็นแค่ชั่วครั้งคราว
อยู่ที่โฟกัสสายตา ในขณะนั้น ๆ ไม่ได้เห็นทั้งวัน ทั้งคืนครับ

แนะให้ฝึกนั่งต่อไปครับ ตัดความอยากมี อยากเป็น อยากเห็น ด้วยนะครับ

และอีกคำตอบหนึ่งจาก ข้อความดั้งเดิมจากกระทู้ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทยของคุณสุวิ เจ้าของกระทู้ โดยคุณ Sinderking เป็นผู้ถาม เมื่อวันที่ 26 พ.ค.52

อาการของคุณSinderking
1. ปวดท้ายทอย ถ้าอยู่เฉยๆ มันจะตึงๆมึนๆ หากเพ่งมาก หรือมีสมาธิมาก มันจะปี๊ดและร้อนและหนักมาก ฝึกสมาธิลำบากมากๆครับ [เป็นแบบนี้ตั้งแต่เปิดจักระ]
2. หายใจออกข้างเดียว บางทีมันก็ให้หายใจทางขวา บางทีมันก็ให้หายใจทางซ้าย เวลาหายใจรู้สึกเข้าปอดข้างเดียวด้วย คนเขาทักว่าจมูกผมช้ำใน หมอปัจจุบันทักว่าเป็นภูมิแพ้ข้างในบวมช้ำ [คล้ายๆกันแหละครับ]
ที่บอกเป็นโรคกรรมเพราะกินยาหมอปัจจุบันมันก็เอาไม่อยู่ครับ ฝึกพลัง ออกกำลังกายก็เอาออกไม่หมด ขอบพระคุณครับ

คำตอบของคุณสุวิ
คำตอบที่๑
เมื่อเวลาเพ่งไปที่หน้าผาก ทิศทางของพลังจะขึ้นมาจากลำตัวผ่านกระดูกสันหลัง ไปที่ท้ายทอยแล้วไปที่กลางหน้าผาก แต่เราไปหยุดที่หน้าผาก พลังจึงสะสมที่หน้าผากแล้วล้นทะลักมาที่ด้านหลังท้ายทอยนี้
จุดนี้โบราณเรียก กำด้น หากพลังมาออกันที่จุดนี้มาก จนบล๊อก ทางเดินเลือดลมจากกระดูกสันหลังกับศีรษะละก็อาการปวดหัว หงุดหงิด จะค่อยๆสะสมมากขึ้นๆ จนปวดวินาศสันตะโร
อาการดังกล่าวมีชื่อเรียกเฉพาะตัว เรียกว่ากำเดากำเริบ มีอาการปวดหัว ตาแดง ฯลฯ

วิธีแก้ง่ายๆ
หยุดการเพ่งหน้าผาก หายาแก้กำเดากำเริบมากิน เช่น ยาเขียว ผลาธิกะ
(เลี่ยงยาที่เข้าพริกไทย เพราะจะทำให้อาการนี้เพิ่มขึ้น)
แต่คำแนะนำนี้คงไม่ถูกโฉลกไม่ถูกใจแน่ๆ เพราะผู้ถามพยายามฝึกสมาธิเพื่อเปิดตาที่สาม เพ่งแล้วเพ่งอีก ไม่ได้เรื่องเลย ซ้ำมีอาการกำเดากำเริบเป็นของแถม จะให้หยุดง่ายๆๆด้ไง การฝึกก็ไม่ก้าวหน้าซิ ให้พิจารณาสิ่งที่กล่าวนี้

เวลาเรามองสิ่งใด จะมีผู้มอง ผู้ถูกมอง และทิศทางผ่านของการมอง(สิ่งที่ใช้ในการมอง)
ผู้มองคือจิต อยู่ที่ตำแหน่งลึกเข้าไปในหน้าผาก
ทิศทางการมอง จะมองผ่านหน้าผากออกมา ไปที่เป้าหมายการมอง
นี่จึงครบองประชุมของการมอง มีผู้มอง ผู้ถูกมอง และสิ่งที่ใช้มอง
ที่คุณฝึกมันไม่ครบองค์ประชุม

คำตอบที่ ๒
คุณคงทีปัญหาโรคสะสมที่โพรงจมูก
พลังที่ฝึก ไปออสะสมกันที่หน้าผากเลยมาคลุมที่จมูกด้วย
พลังจึงชะล้างรักษาโรคให้คุณ ทำให้มีอาการที่จมูก ทนไปซักพัก อาการจะค่อยๆดีขึ้น

เราอาจเร่งความเร็วในการรักษาได้ โดยกำหนดพลังเข้าไปที่ไซนัสโดยตรง และให้พลัง มีการหมุนเวียนถ่ายเท ตลอดเวลา
อาจใช้มือเป็นทางผ่านก็ได้ ไม่ใช้มือก็ได้ ทำตามความถนัด

 

หากนั่งสมาธิอีกแล้วปวดตรงบริเวณหว่างคิ้วอีก ก็ให้กำหนดจิตจับตรงบริเวณที่ปวดนะคะ กำหนดว่าปวดหนอ ๆ ไปเรื่อย ๆ พิจารณาให้เห็นทุกข์ตรงนั้น โดยที่จิตไม่ต้องปรุงแต่ง (ฟุ้งซ่าน) ไ้ม่นานก็จะคลายไปเอง และจะได้คำตอบเองค่ะ

 

ระบบประสาทอัตโนมัติซิมพาเทติกทำงานมากขึ้น ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้น

เร็วขึ้น เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังลดลง มือเท้าเย็น นั่นเป็น เพราะความตึงเครียดจ้ะ

คือคุณกำลังเคร่งเครียดกับมันมากเกินไป ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ใช่ผลดีกับร่างกายเลย(อาจจะ

ขัดแย้งกับความเห็นของบางท่านต้องขออภัย) วิธีปฏิบัติที่ดีนั้น หากคุณ ไปลองศึกษาจาก

หลายๆ ตำรา หลายๆสำนักคุณจะพบว่า เค้าจะพูดเรื่องนึงที่เหมือนกันคือ "การผ่อนคลาย"

เพราะความผ่อนคลายนี่แหละเป็นหัวใจสำคัญอีกข้อหนึ่งของการฝึกสมาธิ .....

แต่หากรักที่จะเพ่งก็ลองเปลี่ยนจุดที่เพ่งดูนะ อาจเลื่อนมาเป็นกลางกระหม่อม และท้ายทอย

ถ้าเพ่งที่กลางกระหม่อมจะเสียวลงมาตามรอยต่อของกระโหลก

ถ้าเพ่งท้ายทอยจะปวดขมับ ก็ลองเลื่อนลงมาเพ่ง ตันเถียนตามสายเต๋าก็ได้

วิธีที่เราลองแล้วว่าผ่อนคลายที่สุดคือ อานาปานะสติ ของพระพุทธเจ้าเรานี่แหละจ้ะ ^^

 

คือว่า เพ่ง ไม่เป็นอะคะ -*- อยากลองเพ่งเวลานั่งสมาธิดูเหมือนกัน แต่ทำไม่เป็นค่ะ จะบอกว่าที่ปวดตรงหว่างคิ้วนี่คือไม่ได้เพ่งเลยนะคะ มันปวดขึ้นมาเองค่ะ

 

ลองไปอ่านที่นี่ตั้งแต่ต้นครับ
กดดู

 

ลองย้ายไปจับลมหายใจเข้าออกที่ท้องดูนะ ^-^

 

อืม....งั้นก็ต้องขอทราบนิดนึงนะจ๊ะ

ไม่ทราบว่าคุณ lilbz ฝึกสมาธิด้วยวิธีไหน??

ถึงได้ตั้งใจจนตึงเครียดแบบนี้....^^

 

คือว่า.... ขอโทษนะคะ T^T เพิ่งเข้ามาปฏิบัติในทางนี้ได้เดือนกว่าๆเองอะคะ เลยยังไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ ยังไงพี่ผู้มีประสบการณ์มากกว่ากรุณาช่วยชี้แนะทีนะคะ ขอบคุณค่ะ แล้วอีกอย่างบีเป็นประเพศที่ว่า กำหนดลมหายใจไม่ได้เลยค่ะ เวลาลองกำหนดทีไร จะรู้สึกเหมือนว่าตัวเองหายใจติดๆขาดๆค่ะ คืออย่างเช่นว่าถ้าหายใจเข้าก็เข้ามากเกินไป ออกก็ออกมากเกินไป ไม่มีอะไรที่พอดีซักอย่างเลยค่ะ เลยอยากถามว่าจะแก้ไขยังไงคะ ในเมื่อรู้ตัวว่ากำหนดเอาที่ลมหายใจไม่ได้เหมือนกันค่ะ -*- ปกติเวลานั่งสมาธิก็จะเอาแค่ว่าทำให้จิตเรานิ่งมากที่สุด ไม่เพ่ง ไม่กำหนดลมหายใจ เอาแค่กะนั่งให้แล้วรู้สึกสบายอะคะ บางทีเหมือนกับว่าตัวเราดำดิ่งลงไปเรื่อยๆในวังวนของความมืดที่ไๆม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับว่าตัวเราดิ่งตกลงไปในที่ๆไม่มีที่สิ้นสุดอะคะ บางทีก็เหมือนเห็นแสงสีส้มๆเข้ามา แต่มาทางเดียวคือเข้ามาแต่ทางตาซ้าย ตาซ้ายคือจะเห็นสีส้มๆออกแดงๆชัดเจน ยังมาไม่ถึงตาขวาค่ะ ก็เห็นเหมือนกันนะคะตาขวาแต่ไม่ชัดเท่าตาซ้ายค่ะ ยังไงรบกวนพวกพี่ๆช่วยมาให้คำชี้แนะด้วยนะคะ

ps. ต้องขอขอบคุณพวกพี่ๆมากค่ะที่เข้ามาให้ความชี้แนะ ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากๆนะคะ -/\- (ที่พิมๆไปอาจจะมีเบลอเล็กน้อยก็ต้องขอโทษไว้ก่อนนะคะ เพราะว่ากินยานอนหลับมาค่ะ กินมา 2 เม็ด มาตื่นเอาเวลานี้ ปกติ 2 เม็ดต้องถึงเช้า เลยลุกไปกินอีกเม็ด เพราะเป็นโรคนอนไม่หลับค่ะ ไม่ทราบว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ชอบนอนตอนกลางคืนไม่หลับซะที)

 

ก็ทีแรกก็บูชาพระคเนศ เสร็จแล้วก็มาท่องบทสวดชินบัญชร เสดก็นั่งสมาธิ เสดละค่อยแผ่เมาตตาอะคะ ตอนที่นั่งสมาธิก็คือจำทำจิตใจให้ว่างและสงบที่สุดเท่าที่ทำได้คะ คือไม่มอง ไม่เพ่ง ไม่นึก (ทำแบบนี้แปลกไปมั้ยคะ เห็นคนอื่นจะทำแบบว่าเพ่งมั่ง ให้นึกถึงหน้าตัวเองมั่ง) แต่สำหรับของตัวเองแล้ว แค่นั่งให้จิตใจสงบเฉยๆค่ะ ไม่ให้ฟุ้งซ่าน นั่งให้มีสติค่ะ เอ่... อธิบายอย่างี้เข้าใจรึป่าวอะค่ะ -*- ตอนนี้จะบอกว่า ชักเบลอหน่อยๆอะคะ เพราะกินยานอนหลับไป 2 เม็ดแล้ว แต่มาตื่นเอาเวลนี้ เลยกินไปอีกเม็ดนึง -*- คืออยากให้ร่างกายได้พักผ่อนให้เต็มที่อะคะ เลยกินไป นานๆกินทีค่ะ ยานอนหลับนี่ ถ้าหลับไม่ได้จิงๆก็ต้องพึ่งยานอนหลับค่ะ อย่างที่บอกค่ะ เป็นโรคนอนตอนกลางคืนไม่หลับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ยังไงคุยกันใน msn มั้ยคะหรือยังไงดี??

 

ไอ้หนูเอ้ย คุณ Lilbz ไม่ได้ดูถูกนะคะ แต่กำลังเรียกด้วยความเอ็นดู

เอ้อ...
เริ่มใหม่นะเจ้าคะคุณ Liฯ ชื่อเรียกยากจัง

เอาเป็นว่ากำหนดดูลมหายใจ ตามคำสอนของพระพุทธเจ้านะจ๊ะ แต่ให้กำหนดจิตโดยการนับ 1 หายใจเข้า หายใจออกนับ 1
หายใจเข้านับ2 หายใจออกนับ2
หายใจเข้านับ3 หายใจออกนับ3

ทำไปถึง5 แล้วถอยหลัง
หายใจเข้านับ5 หายใจออกนับ5
หายใจเข้านับ5 หายใจออกนับ5
เข้าไจ๋

ทั้งนี้เพราะให้เรามีสติจดจ่ออยู่ที่ลมหายใจก่อน จากนั้นพอชินไปแล้ว อยากฝึกสมาธิขั้นเทพแบบอื่นๆ ค่อยทำนะจ๊ะ เพราะมันต้องวางพื้นเรื่องความนิ่ง
มีสติระลึกรู้ตัวทั่วพร้อมก่อน จึงจะดูแต่ลมหายใจได้ หรือทำอะไรที่มีขั้นตอนยากกว่านั้นก็ทำได้ เพียงมีสติให้มั่นก่อน

ที่ผ่านมาของคุณทุกอย่างเป็นอุปทานก็ว่าได้
ต่อมาเรื่องการสวดมนต์ ปรกติคุณเป็นคนนิสัยเช่นไร ใจร้อนหรือไม่??? ใช่เปล่า??
สวดมนต์พระศรีคเนศ (พระพิฆเนศ) แล้วมาสวดชินบัญชร ว้าว ว้าว ก่อนนอน แล้วมันจะไปหลับได้จะได

จะยอมปรับใหม่ไหมเนี่ย

พระพุทธมาก่อน เราๆ ท่านๆ รู้ดี
สวดบทขออโหสิต่อพระรัตนตรัย (อิมินา สักกาเรนะฯ)
นโมฯ
บทบูชาคุณพระรัตนตรัย ((พุทธธัง สะระนัง คัจจามิฯ (กราบครั้งที่1 ข้าพเจ้าบูชาคุณพระพุทธคคุณ) ไปจนจบบท)
อาราธนาศีล
รับศีลห้า
แล้วต่อด้วยบทแผ่เมตตาตนเอง และผุ้อื่น จบแล้ว จะสวดบทบูชาพระศรีฆเนศ ก็ให้สวดตอนนี้

ส่วนบทชินบัญชร ไปสวดตอนเช้า หลังบทแผ่เมตตา แล้วต่อด้วยบทบูชาพระศรีฆเนศ นะจ๊ะ

เพราะชิญบัญชร เป็นบทร้อน มีฤทธิ์ร้อน ยิ่งทำให้นอนไม่หลับ ถ้าเป็นไข้อยู่ก็จะทำให้ไข้ไม่ลดนะจ๊ะ

ดังนั้นก่อนนอนขอให้สวดมนต์ฤทธิ์เย็น เช่น พาหุงมหากา ฯลฯ ต่อจากนโมฯ แล้วค่อยต่อด้วยอาราธนาศีล
แล้วต่อด้วยทำสมาธิตามที่แนะ จนจิตสงบมีสติควบคุมเห็นตัวเองได้ทั้งวันแล้ว จึงค่อยฝึกสมาธิจิตพิศดารแบบอื่น เช่น กสิณ เป็นต้น แล้วแต่จิต แต่ถ้ายังเป็นอย่างที่เป็นอยู่ ก็ทำอย่างที่แนะไปก่อน

ส่วนถ้าสวดมนต์แล้วไม่หลับจริงๆ ให้ท่องอิติปิโส...สัตถาเทวมนุสานัง พุทธโธ ภัควาติ (จบเฉพาะท่อนนี้ท่อนเดียว) เท่าอายุบวกหนึ่ง ก็จะหลับไปโดยปริยาย เวลาสวดให้นอนลงเลย เอามือไว้ข้างตัว แล้วสวด นับนิ้วเอา

ขอท้าเลยว่า ถ้าสวดได้ครบอายุ แฟ้มบุคคลจะขอปรมมือให้ 5555555+ แล้วคุณจะห่างไกลจากยานอนหลับแน่นอน

 

อ่ออออออออ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง ไอ่เราก็สวดบทชินบัญชรมาตั้งกะยังเด็กๆ ประมาณป.3ได้ มาจนถึง ณบัดนาวนี่แหละ -*- โดนท่านแม่บังคับให้สวดบทนี้ด้วยกัน เลยชินสวดมาซะนาน เหะๆๆ ขอบคุณมากค่ะที่ชี้แนะ แล้วจะทำดูนะคะ ^^ ว่าแต่ หนูชื่อ บี อะ -*- มีแต่คนว่าชื่อนี้อ่านยาก ฮาๆๆๆๆ

 

หนูบีจ๊ะ

ดิฉํนไม่ได้ให้คุณรู้สึกต่อต้านต่อคำสอนของแม่นะคะ บุญใดก็ไม่สู้รุ้รักษาคำสอนของพ่อแม่ ด้วยเป็นการกตัญญูเวทิตา ในพระไตรปิฎกยกให้ท่านเป็นยิ่งกว่าพระอรหันต์ในบ้าน พระองค์ยกว่า ทำบุญกับพ่อแม่ เหนือกว่าทำบุญกับพระพุทธองค์ และอริยสงฆ์เสียอีก ไปเปิดอ่านดูได้ ดิฉํนไม่ได้โม้!!! นะจ๊ะ

ดังนั้นขอให้คุณสวดบทชินบัญชรต่อไป แต่ขอให้ย้ายเวลาไปสวดตอนเช้า จะเป็นการอัดพลังเข้าตัวคุณ ให้คุณมีกำลัง เมตตา ปกป้อง เข้าไจ๋

ขอให้ด้วงจิตของหนูบีมีความสุขจ๊ะ

 

อ่อค่ะพี่ ขอบคุณค่ะ ^^ สวดอย่างที่พี่บอก เพียงแต่เปลี่ยนมาสวดบทชินบัญชรตอนเช้า รับทราบค่ะ -/\-