ปริศนาธรรม..จากพิธีกรรมในงานศพ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย คือ~ว่างเปล่า!, 28 ธันวาคม 2008.

  1. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    ปริศนาธรรม จากพิธีกรรมในงานศพอุบายการสอนธรรมะอันแยบคาย


    [​IMG]



    ศาสนพิธี ประเพณี พิธีกรรมต่าง ๆ การกระทำแต่ละขั้นตอนนั้น โบราณ ท่านได้สอนธรรมะไว้ใน พิธีกรรม เหล่านั้นไว้ด้วยอุบายอันแยบคาย เช่น ประเพณี พิธีกรรมใน งานศพ

    การ รดกัน ที่มือของผู้ตาย ซึ่งบางท่านเข้าใจว่าเป็นการขอ อโหสิกรรม ความจริงแล้วมุ่งเตือนสติผู้ที่มาร่วมงานว่าผู้ที่ตายทุกคนไปแต่มือเปล่าไม่ได้อะไรติดตัวไปเลย แม้แต่น้ำที่เทลงฝ่ามือก็ไหลร่วง

    เอาเงินเหรียญ ใส่ปาก ก็เพื่อจะเตือนให้รู้ว่า แม้แต่บาทเดียวก็เอาไปไม่ได้ เพราะ สัปเหร่อ บางคนเขายังควักออกมา

    มัดตราสังข์ สามเปราะ มัดที่คอ หมายถึง บ่วงรักลูก มัดที่มือ หมายถึง บ่วงรักสามี-ภรรยา มัดตรงข้อเท้า หมายถึง บ่วงรักทรัพย์สมบัติ ติดอยู่สามบ่วงนี้ ไป นิพพาน ไม่ได้ ต้องเวียนว่ายอยู่ใน สังสารวัฏฏ์ ไม่มีจบสิ้น

    เคาะโลง รับศีล ไม่ใช่ให้ คนตาย มารับศีล แต่เพื่อเป็นการบอกคนที่มาร่วมงานว่าเอาแต่มัวเมาประมาทขาดสติ ไม่สนใจใน หลักธรรมคำสอน เมื่อตายไปหมดโอกาสทำความดี จะเคาะจนโลงแตกก็ลุกขึ้นมาไม่ได้

    จุดตะเกียง หรือ จุดเทียน ไว้ หน้าศพ เตือนให้รู้ว่าการเกิดของคนเราต้องการแสงสว่าง ต้องมี พระธรรม เป็น ดวงประทีป ช่วยส่องทาง เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต

    สวดอภิธรรม มักสวดเป็น ภาษาบาลี คนเป็นฟังไม่รู้เรื่อง จึงนึกว่าสวดให้ คนตาย แต่จริง ๆ แล้วเป็นการ สวด เพื่อสอนคนที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะได้นำหลักธรรมไปปฏิบัติให้เกิดผลดีในชีวิตประจำวัน ดังนั้นแม้จะฟังไม่เข้าใจแต่เพื่อให้การฟังสวดอภิธรรมเกิดผล ควรสำรวมส่งจิตไปอยู่กับ เสียงพระสวด ให้จิตสงบนิ่งอยู่กับเสียงพระสวดก็เกิดสมาธิจิตได้

    บวชหน้าไฟ มักเข้าใจว่า เป็นการบวชจูงผู้ตาย ขึ้นสวรรค์ ความจริงนั้น ไม่ใช่ เพราะการบวชหน้าไฟเป็นการ ปลงธรรมสังเวช เบื่อหน่ายต่อชีวิตใน โลกียวิสัย ไม่ประสงค์จะอยู่ในเพศฆราวาส มุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น เข้าสู่ มรรคผลนิพพาน

    การนิมนต์พระจูงออกหน้าศพ เพื่อจะสอนคนที่ยังอยู่ให้ได้สำนึกว่า ตอนที่ยังอยู่ต้องเดินตามหลังพระ หมายความว่าได้เดินตาม พระธรรมคำสอน ของพระนั่นเอง จึงอยู่ดีมีสุข มีความเจริญก้าวหน้า

    การ เวียนซ้าย 3 รอบ หมายถึง การ เวียนว่ายตายเกิด อยู่ใน ภพทั้งสาม อันมี กามภพ รูปภพ อรูปภพ ด้วยอำนาจ กิเลสตัณหาอุปทาน ก็จะเป็นทุกข์ไม่จบสิ้น ฉะนั้นต้องทวนกระแสกิเลส เป็นการสอนธรรมชั้นสูง จึงได้พาศพเวียนซ้าย

    การใช้ น้ำมะพร้าว ล้างหน้าศพ เพื่อชี้ให้เห็นว่า น้ำมะพร้าวเป็นน้ำสะอาด บริสุทธิ์ ผู้เข้าสู่ มรรคผลนิพพาน ต้องชำระจิตให้สะอาดด้วยน้ำพระธรรม

    การแปรรูป หลังจากเผาแล้ว มีการเก็บ อัฐิ และมีการเขี่ย ขี้เถ้า ผู้ตายให้เป็นรูปร่าง กลับไปกลับมาเพื่อจะบอกว่า ได้กลับชาติใหม่แล้ว ตามวิบากของกรรมต่อไป

    ------
    ที่มา:
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=all4u&month=27-01-2006&group=1&gblog=12
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,792
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,020
    ตายเเล้วเอาอะไรไปไ่ม่ได้จริงๆครับ ติดไปเเค่ชั่วเเละดี
     
  3. ภพพระ

    ภพพระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +14
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้และเพื่อนสมาชิกทุกคนด้วยครับ
     
  4. Gearknight

    Gearknight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +234
    ถ้าจะไปพระนิพพานก้ละชั่วดีเสียอย่าไปยึดมั่นถือมั่นว่ามันต้องเป็นแบบนี้
     
  5. ปิยธรรมโม

    ปิยธรรมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    473
    ค่าพลัง:
    +349
    กระทู้ดี-เตือนสติได้ดีแท้
    อนุโมทนาครับ..สาธุ
     
  6. lagunaram

    lagunaram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +697
    โห...พึ่งเข้าใจก็วันนี้เองค่ะ เป็นปริศนาธรรมที่หลายๆคนอาจจะลืมเลือนไปแล้ว ดิฉันก็พึ่งรู้วันนี้เองค่ะ
     
  7. JibBieable

    JibBieable Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +87
    ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ

    ___________________________________________________

    พอได้อ่านก็ทำให้นึกถึงผู้ใหญ่ท่านนึงซึ่งได้ล่วงลับไปไม่นานมานี้ พอนึกถึงน้ำตาก็ไหลอาบแก้มทุกครั้ง แบบนี้จะทำให้คนที่เรานึกถึงมีห่วงรึเปล่าคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...