ขออภัยทุกท่านถ้าผมลงกระทู้ผิด Page นะครับ ผมมีคำถามคาใจอยู่หลายเรื่องดีเดียวครับในชีวิตทีผ่านๆ มา บางเรื่องก็พอจะลำดับเหตุการณ์และกล้าพอที่จะเล่าให้ใครๆฟังได้ อย่างเรื่องนี้ที่ผมกำลังจะเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์บางอย่างและขอคำชี้แนะจากทุกท่านด้วยครับ มีอยู่วันหนึ่งผมมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวกันกับเพื่อนๆ ที่บริษัทเก่า โดยเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวแพกันที่จังหวัดกาญจนบุรีกัน โดยในขณะนั้นได้จองที่พักไว้เป็นแพผูก ที่เรือของเจ้าของแพจะลากเราไปผูกตามจุดต่างๆ เมื่อถึงเวลาก็จะลากแพเรากลับมาส่งฝั่งตามที่ตกลงกันไว้ ในช่วงที่ผูกแพไว้ที่เกาะกลางน้ำแห่งหนึ่งนั้นเอง เพื่อนๆ ก็ออกไปเล่นน้ำกันเป็นกลุ่มๆ มีทั้งเกาะห่วงยาง ลอยตัวสวมชูชีพและไปติดต่อเรือ banana boat ฯลฯ ในขณะนั้นผมเองไม่อยากไปเล่นไกลๆ เพราะกลัวน้ำลึกๆ ด้วย และถ้าไปเช่าเรือ ก็ต้องใช้เงินเพิ่มจากเดิม จึงตัดสินใจเล่นกระโจนน้ำใกล้ๆ แพนั่นเอง ซึ่งในการกระโจนน้ำเล่นนั้นผมจะไม่สวมชูชีพเพราะเห็นว่าเราว่ายน้ำเป็น และกระแสน้ำก็ไหลเอื่อยนิ่งๆไม่เชี่ยว การกระโจนน้ำนั้นกินเวลานานทีเดียว ในช่วงนั้นดวงอาทิตย์หลบไปในหมู่เมฆจึงไม่มีแดดตกกระทบในบริเวณดังกล่าว ส่วนเพื่อนๆ ก็เล่นน้ำกันเป็นกลุ่มๆ สนุกสนานซึ่งก็อยู่ไม่ห่างบริเวณแพไปมากนัก และแล้วในจังหวะนึงผมก็กระโจนน้ำ เหมือนกับทุกครั้งก่อนหน้า ในครั้งนี้เมื่อผมลืมตาขึ้นในน้ำและเพื่อจะวกตัวกลับขึ้นมาเหนือน้ำ แต่สิ่งที่พบคือ ในน้ำนั้นมันไม่เห็นผิวน้ำเลย ทั้งๆที่ในน้ำก็ยังพอมองเห็นบริเวณรอบๆตัวอยู่ ผมพยายามเพ่งมองไปทั้งเหนือศรีษะ ด้านซ้าย ขวา หน้า หลัง และด้านล่าง และแม้กระทั่งมองหาแพตัวเอง ก็ไม่เห็นเช่นกัน หรือว่าเราจะดำลึกไป อันนี้ก็ไม่แน่ใจ จะปล่อยให้ตัวลอยขึ้นผิวน้ำเอง ประสบการณ์ทีผ่านมาก็บอกตัวเองได้เลยว่าอย่าทำอย่างนั้นเลย เมื่อหมดหนทางจริงๆ ก็นึกได้ว่าเรายังกลั้นหายใจอยู่นี่ยังพอมีลมในปากอยู่บ้าง จึงตั้งสติเตรียมจับทิศทางของฟองอากาศที่จะเกิดขึ้นในเวลาที่ผมคายออกมา และในวินาทีที่ผมเริ่มคายฟองอากาศออกมานั้นเอง ผมก็จับตามองฟองที่เกิดขึ้นด้วย แต่ผมเกือบจะไม่พบฟองอากาศด้วยเนื่องจากมันไม่ได้ลอยขึ้นไปเหนือศรีษะ แต่มันกลับ มุดลอดตัวผมไปใต้ขา (นึกในใจ อ้าว .. ถ้างั้นผมก็หัวทิ่มอยู่น่ะสิเนี่ย) จึงกลับตัวแล้วรีบตะเกียกตะกายตามฟองน้ำที่หนีผมไปค่อนข้างไกลแล้วนั่นเอง สำลักน้ำไปหลายอึกทีเดียว ฟองน้ำที่ลอยหนีไปก็หายไปแล้ว จนเกือบท้อใจที่จะตาม แต่ก็แข็งใจว่ายไปในทิศทางที่ตนเองพอจะจำได้ จนในที่สุดผมก็โผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาสำเร็จ ในแบบเฉียงๆ กับผิวน้ำ เหมือนกับว่าผมจะจับทิศทางของแรงดึงดูดโลกไม่ได้เลยอย่างนั้นแหละ เพราะคิดว่าน่าจะโผล่แบบตั้งฉากกับผิวน้ำ (ในใจคิดว่าคงเป็นแนวเดียวกันกับที่ตนเองกระโจนลงมาแน่เลย เพราะแนวกระโดดปกติจะทำมุมกับผิวน้ำอยู่แล้ว.. แต่ครั้งนี้มันพุ่งลงไปลึกเกินเท่านั้นเอง) ในตอนนั้นผมรีบมองหาแพของตนเอง ปรากฎว่าแพของตนเองนั้นอยู่ไกลจาที่ตนเองอยู่น่าจะเกือบๆ ห้าสิบเมตรทีเดียว ผมจำเป็นต้องแข็งใจว่ายน้ำกลับไปยังแพ ซึ่งคาดว่าตนเองคงโดนกระแสใต้น้ำพามาส่งเสียไกลเชียว ที่น่าแปลกคือ เมื่อผมกลับมาถึงยังแพแล้วนั้น ทุกอย่างดูผิดไปจากเดิมที่จำได้ ว่าเพื่อนๆ ลงเล่นน้ำกันเกือบหมดแพ แต่ในเวลานี้ทุกคนกลับขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวกันเกือบครบทุกคนแล้ว กับข้าวที่หุงหา และเตรียมกันไว้ก็ทานกันไปเกือบหมดชุดสุดท้ายแล้ว เหลือผมคนเดียวที่ยังไม่ได้ทาน (คือผมทานอาหารเจจึงต้องเตรียมอาหารแยกจากท่านอื่น) พี่ๆ ที่ไปด้วยกันก็ทักมาว่า คิดว่าขึ้นมาแล้วตั้งแต่แรกเสียอีกเลยเอากับข้าวผมบางส่วนที่เป็นเจ ไปให้คนอื่นๆทานกันแล้วดีที่ยังเหลือผัดผักบุ้งเหลืออยู่จานนึงผมจึงจัดแจงอาบน้ำและแต่งตัวออกมาทานข้าวกับผัดผักบุ้ง ซึ่งก็เป็นคนสุดท้ายนั่นเอง จากเรื่องที่เล่ามาข้างต้น ผมเคยนำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้หลวงพี่ท่านนึงที่วัดจุฬามณี (จังหวัดอยุธยา) สมัยตอนบวชฟัง ท่านก็บอกว่าเขาเรียกว่า "หลงน้ำ" ผมจึงได้นำชื่อที่เรียกนี้มาลงเป็นชื่อกระทู้นั่นเอง สำหรับคำถามที่ผมจะสอบถามทุกท่านที่ได้ติดตามเนื่อเรื่องที่ผมเล่ามาแล้วข้างต้่นทั้งหมดนั้น คือ 1) เนื่องจากผมกลั้นหายใจในน้ำได้ไม่นานจึงเป็นเรื่องน่าแปลกมากที่จะทำเวลาได้นานขนาดที่เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ลงเล่นน้ำกันนั้น กลับขึ้นแพกันไปหมดแล้ว จึงเป็นไปได้ไหมว่าคนเราจะสามารถกลั้นหายใจได้นานกว่าปกติในเวลาที่ตื่นเต้นหรือฉุกเฉินจริงๆ หรือเวลามันผิดเพี้ยนไป (เพราะความรู้สึกตอนอยู่ในน้ำนั้นมันไม่ได้นานอะไรเท่าไรนัก) 2) เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนเราเมื่อกระโจนไปกระแทกผิวน้ำแล้วอาจจะมีอาการช๊อคหรือสลบไปชั่วขณะตอนอยู่ในน้ำ แล้วเมื่อได้สติจึงเริ่มต้นค้นหาทางขึ้นผิวน้ำซึ่งที่รอดมาได้เพราะยังมีอากาศอยู่ในปากที่อมไว้ อืมมแล้วคนที่ช๊อคหรือสลบไปนี่สามารถอมลมไว้ในปากได้หรือไม่ครับ 3) เป็นไปได้หรือไม่ว่าขณะที่เราใช้สติพิจารณาอะไรสักอย่าง (อย่างตัวอย่างนี้ใช้สติเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า) มันอาจจะใช้เวลาที่นานมากถึงขนาดที่ตัวเราเองลืมดูเวลาที่เดินไป อาทิการนั่งสมาธิแป๊บเดียวแต่เมื่อได้สติเวลากลับเดินไปเยอะแล้ว อันนี้ผมเองก็ไม่ชำนาญและยังอ่อนเรื่องกรรมฐานมากจึงขออภัยอีกครั้งครับเพราะผมไม่ทราบจริงๆ (ถ้ามีอาจารย์กรรมฐานจริงๆ กับเขาได้ก็ดีน่ะสิ) จึงเรียนถาม และขอคำแนะนำทุกท่านหรือเพื่อนๆ ที่ได้อานกระทู้นี้ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ Saintzone@hotmail.com