ประสบการณ์ พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ และ ครูผึ้งพระปัจเจกโพธิ์

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ransang, 16 มกราคม 2016.

  1. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ประสบการณ์ พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ และ ครูผึ้งพระปัจเจกโพธิ์


    ขอเชิญลูกหลานสายหลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สายครูผึ้งพระปัจเจกโพธิ์ ร่วมกันเผยแพร่ประสบการณ์
    พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์และบารมีครูบาอาจารย์สายพระปัจเจกโพธิ์ เช่น ครูผึง หลวงปู่ปาน ให้เป็นที่ประจักษ์และแผ่กว้างไพศาลออกไป เพื่อสืบทอดต่อเนื่องกันต่อไป อีกทั้งยังให้ผู้คนทั้งหลายนำไปเป็นตัวอย่างสวดและภาวนาเพื่อผลแห่งพระคาถาจะได้สงเคราะแก่ผู้นำไปใช้และผู้ศรัทธาจริง ๆ อย่างเช่นประสบการณ์ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ของ[FONT=Arial,MS Sans Serif]..นายประยงค์ ตั้งตรงจิตร เจ้าของห้างขายยาตราใบโพธิ์.[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    หลายคนแปลกใจว่า คุณประยงค์ เอาเงินมาจากที่ไหนกันมาทำบุญมากมายทีละหลาย ๆ ล้าน ซึ่งเวลานั้นค่าของเงินแพงมาก เงิน 1 ล้านบาท หากเทียบในเวลานี้ก็น่าจะเกิน 10 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย หากเทียบกับกิจการขายยาของท่าน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเชื่อว่า คุณประยงค์ต้องมีของดีอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น จะร่ำรวยอย่างรวดเร็ว การค้าก็ไปได้ดี แถมมีเงินทำบุญตลอด ไม่ขาดมือเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจมาก ดังนั้นผมขอนำบทความที่เขียนโดย พระธรรมปิฎก เจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร (ในสมัยนั้น) มาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันครับ

    นายประยงค์ ตั้งตรงจิตร เจ้าของห้างขายยาตราใบโพธิ์ หน้าตลาดท่าเตียน พระนคร เศรษฐีใจบุญบริจาคทรัพย์ส่วนตัวทำบุญบำรุงประเทศชาติ ศาสนา เกือบ 20 ล้านบาท มีดีอย่างไรหรือ จึงมีเงินมาก และกล้าทำบุญได้ถึงเพียงไหน จริงอยู่เอกชนบางคนอาจมีเงินมากกว่านายประยงค์ แต่ที่จะกล้าทำบุญมากเหมือนอย่างนายประยงค์ หาได้ยากที่สุด

    นายประยงค์ มีดีที่มองเห็นง่าย ๆ คือ

    1.มีเงินมากเข้าขั้นเศรษฐี
    2.ทำบุญมากเหมือนอนาถบิณฑิกเศรษฐี สมัยพุทธกาล

    แต่ว่านายประยงค์มีดีที่ตรงไหนจึงมีเงินมากเข้าขั้นเศรษฐี และมีดีที่ตรงไหนจึงทำบุญได้มากเหมือนอนาถบิณฑิกเศรษฐีสมัยพุทธกาล เป็นเรื่องที่น่าคิดน่าพิจารณา เพราะว่าถ้ารู้ตรงนี้ของนายประยงค์แล้ว ก็จะได้ถือเอาเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อความร่ำรวยของเราบ้าง

    นายประยงค์กับข้าพเจ้าเป็นศิษย์วัดพระเชตุพน พระนคร ด้วยกัน อาจารย์ปกครององค์เดียวกัน คือ ท่านเจ้าคุณวิเชียรธรรมคุณาธาร แต่ว่าเป็นคนละรุ่น แม้เช่นนั้นก็รู้จักกันดี นายประยงค์เคยทำบุญแก่ข้าพเจ้าเป็นส่วนตัวก็มี เคยทำบุญแก่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร จ.สมุทรสงคราม ที่ข้าพเจ้าเป็นเจ้าอาวาสก็มี ข้าพเจ้าพยายามศึกษาของดีของนายประยงค์อยู่ จึงได้พบของดีของนายประยงค์ ตามที่ข้าพเจ้าแน่ใจว่า ของดีที่ทำให้นายประยงค์ร่ำรวย และทำบุญได้มากอยู่ที่ตรงนี้แน่ แต่อาจไม่ตรงกับความรู้สึกนึกคิดของผู้อื่นก็ได้

    นายประยงค์พิมพ์หนังสือเรื่องหนึ่งแจกถึง 8 ครั้ง รวมจำนวนถึง 17,000 เล่ม ถ้านายประยงค์ยังมีชีวิตอยู่ ก็จะต้องพิมพ์หนังสือเรื่องนี้แจกต่อไปอีก เหตุที่นายประยงค์พิมพ์หนังสือเรื่องนี้แจกหลายครั้งหลายหนนั้น ปรากฎอยู่ในคำนำในหนังสือที่พิมพ์แจกครั้งที่ 8 หนังสือนั้นมีชื่อว่า พระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์

    ข้อความสำคัญในหนังสือนั้น มีคาถาอยู่บทหนึ่งที่ชื่อว่า คาถาพระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์ และมีคำอธิบายประกอบคาถา ข้าพเจ้าเชื่อว่านายประยงค์ต้องนับถือคาถาบทนี้มาก และเชื่ออานุภาพของคาถาบทนี้ว่า ให้ผลแก่ตนสมความตั้งใจ จนถึงทำให้ร่ำรวยมีเงินทำบุญได้มากตามศรัทธา จึงได้ระลึกถึงเพื่อนร่วมชาติอยากให้ได้ประสบความสำเร็จเช่นตนบ้าง ข้อนี้เองเป้นเหตุให้นายประยงค์พิมพ์เรื่องนี้แจกหลายครั้งหลายหน เป็นจำนวนเกือบสองหมื่นเล่ม

    คาถาพระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์จะศักดิ์สิทธิ์จนถึงทำให้คนร่ำรวยได้จริงหรือไม่ จะได้พิจารณากันในแง่เหตุผล จะไม่พูดถึงแง่ความขลังทางไสยศาสตร์

    นายประยงค์เขียนอธิบายประกอบคาถาไว้ว่า ผู้ที่ปฏิบัติถูกต้องตามพระคาถานี้ ต้องเป็นผู้ที่ใส่บาตรแก่พระภิกษุสงฆ์เสมออยู่เป็นนิตย์ แม้แต่ 1 องค์ขึ้นไปทุก ๆ วันมิให้ขาด รักษาศีล 5 หรือศีล 8 ต้องรักษาศีล 2 ข้อ ที่สำคัญที่สุดให้ได้แน่นอนก่อนปฏิบัติพระคาถานี้ คือ ศีลข้อ 2 ของศีล 5 คือ อทินนาทาน เว้นจากการลักทรัพย์ หรือหยิบฉวยสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่อนุญาติมาเป็นสมบัติของตน กับศีลข้อ 5 ของศีล 5 คือ เว้นจากการดื่มสุรายาเมาทุกชนิด กับห้ามใช้ในทางมิจฉาชีพทุกชนิด และการพนันต่าง ๆ ด้วย หรือถ้าผู้ใดรักษาศีล 5 ได้ทั้งหมดก็ยิ่งดี

    และหมั่นสวดมนต์ และว่าพระคาถานี้ด้วย (คาถาพระปัจเจกโพธิ์โปรดสัตว์) เวลาเช้าตื่นนอนว่า 3-5-7-9 จบ เมื่อจะใส่บาตรให้ระลึกถึงพระรัตนตรัย คือ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และพระปัจเจกะโพธิ์ แล้วหาน้ำที่สะอาดมากรวด เพื่ออุทิศส่วนบุญและกุศลไปถึงปู่ย่าตายาย บิดามารดา และญาติมิตรที่ล่วงลับไปแล้ว ตลอดถึงผู้มีพระคุณทั้งหลาย เมื่อกรวดน้ำแล้วเอาน้ำที่กรวดไปจำเริญ (เท) รดที่โคนต้นไม้แล้วปรารถนาเอาตามความประสงค์ เวลาค่ำบูชาพระ สวดมนต์แล้ว ว่าพระคาถานี้อีก 3-5-7-9 จบ เวลาเข้านอนกราบพระในที่ ๆ นอน แล้วว่าพระคาถานี้อีก 3-5-7-9 จบ และถ้าใครปฏิบัติดังนี้ทุกวันเป็นนิตย์ จะมีลาภและความสุขความเจริญ จะเห็นคุณในไม่ช้าเพียงเวลา 6 เดือนก็ทราบได้ ถ้าใครทำนานได้หลายปีก็จะมีความสุขยิ่งขึ้นไป ทั้งชาตินี้และชาติหน้า

    คำว่า 3-5-7-9 จบ หมายความว่า ผู้ใดยินดีปฏิบัติ (กล่าว) พระคาถากี่จบก็ได้ เช่นจะว่า 3 จบ 5 จบ 7 จบ 9 จบ เป็นต้น แต่การว่าคงต้องว่าเสมอกันไป จะว่าน้อย ๆ มาก ๆ สลับกันไปไม่ได้จะไม่เกิดผลเลย แต่พยายามว่าจบที่น้อยไปหามากเป็นดี ทำให้เห็นผลเป็นระยะแล้ว จึงค่อยกระเถิบมากขึ้นเป็นลำดับ (ถ้าจะว่าครั้งละ 3 จบ ก็ต้องว่าครั้งละ 3 จบเรื่อยไป ถ้าจะเพิ่มขึ้นเป็นครั้งละ 5 จบ ก็ต้องว่าครั้งละ 5 จบเรื่อยไป จะกลับลดลงมาว่าครั้งละ 3 จบ เช่นนี้จะไม่เกิดผล เพราะเป็นการปฏิบัติลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไม่สม่ำเสมอ แสดงถึงความย่อหย่อนในการปฏิบัติจึงไม่เกิดผล)

    คำอธิบายประกอบคาถาของนายประยงค์เช่นนี้ ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นเรื่องของการปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่องบุญกิริยาวัตถุ 3 ประการ คือ ทานมัย ศีลมัย ภาวนามัย อย่างสม่ำเสมอเป็นนิตย์ไม่ขาดตกบกพร่อง ตรงกับคำที่ว่า ให้ทาน รักษาศีลเป็นนิตย์ก็คือ ศีลมัย การกล่าวพระคาถาเป็นนิตย์ ก็คือภาวนามัย ผู้ใดปฏิบัติในบุญกิริยาวัตถุ 3 ประการได้เป็นนิตย์ไม่ขาดตกบกพร่องเช่นนี้ ก็จะต้องเจริญแน่นอน

    นายประยงค์มีของดี คือ ได้ปฏิบัติในบุญกิริยาวัตถุ 3 ประการเป็นนิตย์มานับด้วยจำนวนสิบ ๆ ปีขึ้นไป นายประยงค์จึงประสบสมตามความปรารถนา คือ เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ และมั่นในการบำเพ็ญบุญโดยมิได้ท้อถอย เพราะว่าได้ประจักษ์แจ้งในผลบุญของตนแล้ว

    ศิษย์ของข้าพเจ้าผู้หนึ่ง ประสบความขัดข้องเรื่องการเงินเป็นจำนวนมาก ถ้าแก้ไม่ตก ชีวิตอาจจะต้องยุ่งยากอย่างที่สุด ข้าพเจ้าแนะให้ปฏิบัติตามหนังสือพระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์ ของนายประยงค์ เธอตั้งใจปฏิบัติด้วยความเชื่อมั่นไม่ท้อถอย ไม่เกิน 4 เดือน ได้ผลอย่างที่เธอไม่เคยคาดฝันมาก่อนเลย ความขัดข้องเรื่อองการเงินผ่านพ้นไป ในปัจจุบันนี้เธอมีชีวิตอยู่ในขั้นที่พอเรียกได้ว่าไม่เดือดร้อน เธอก็ปฏิบัติอยู่เป็นนิตย์ และได้เห็นผลของการปฏิบัติอยู่เรื่อย ๆ

    ของดีนายประยงค์ตามที่ข้าพเจ้ากล่าวมานี้ ท่านผู้อื่นอาจจะเห็นว่าไม่ใช่ของดีก็ได้ แต่ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าเป็นของดีนายประยงค์แน่ นอกจากทาน ศีล ภาวนาแล้ว จะมีอะรไเล่าที่จะทำให้บุคคลประสบความเจริญได้ แม้แต่ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ต้องสำเร็จด้วยผลของทาน ศีล ภาวนา มิใช่หรือ

    ถ้าท่านมีของดี คือ ตั้งมั่นอยู่ในทาน ศีล ภาวนาเป็นนิตย์จริง ท่านก็ต้องได้รับผลดีจริง เช่นนายประยงค์ ตั้งตรงจิตร ฉะนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2016
  3. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    หุ่นขี้ผึ้งองค์ต้นแบบ "ครูผึ้งพระปัจเจกโพธิ์"

    ครูผึ้งทางเวียงนาคราชได้เริ่มสรัางตั้งแต่ปลายปี 2557 เป็นต้นมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ช่วงนี้หลาย ๆ คนเฝ้าติดตามเรื่องปากท้องกันมากมายรวมถึงผมด้วยเช่นกัน พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์และพระคาถาเงินล้านผมพยายามท่องให้ขึ้นใจมิได้ขาดตามที่อาจารย์สั่งสอน ผมกำลังเรียบเรียงเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งประสบการณ์ที่ได้รับจากการสวดพระคาถาและประสบการณ์ที่ได้รับความเมตตาจากครูผึ้งและหลวงปู่ปาน รวมถึงหลวงพ่อฤาษี ด้วยครับ
     
  5. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    โดยส่วนตัวนั้นได้รับผลจากการภาวนาพระคาถาเงินล้านเป็นช่วง ๆ เนื่องจากวิบากของผมก้เยอะพอสมควร บางครั้งต้องภาวนาพระคาถาอื่นเพื่อแก้ไขเป็นเรื่อง ๆ ไป สำหับการภาวนาพระคาถาเงินล้านนั้นผมเคยภาวนาติดต่อกัน 7 วันวันละมากกว่า 20 จบ เป็นช่วง ๆ ก็จะได้รับอานิสงค์มีเงินพิเศษ มีงานพิเศษเข้ามาพอให้มีเงินจับจ่ายใช้สอยแก้ปัญหาไปเป็นครั้งคราว ซึ่งเป็นเรื่องที่ยืนยันได้แน่นอนว่าพระคาถานั้นได้ผลจริง ขึ้นอยู่กับเราเองที่จะพยายามและจะตั้งมั่นกระทำได้แค่ไหน

    พระคาถาเงินล้านและพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์นั้นเป็นพระคาถาที่ต้องทำตามระเบียบค่อนข้างเคร่งครัดจึงจะส่งผลดังนั้น ต้องพยายามกันนะครับถ้าอยากเห็นผลกับตัวเอง
     
  6. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ช่วงนี้ทางคณะเวียงนาคราชของท่านอาจารย์ได้มอบหมายให้ศิษย์ในคณะท่านหนึ่งเป็นตัวแทนบอกบุญสร้างรูปเหมือนครูผึ้งขนาดหน้าตัก 30 นิ้วเพื่อจะได้ร่วมกันสร้างถวายวัดหรือสถานอันควรตามแต่เจ้าภาพ อดใจรออีกสักนิดจะได้เห็นแน่นอนและองค์ใหญ่นี้จะมีความแตกต่างจากองค์ห้อยคอ องค์ 5 นิ้ว และองค์ 15 นิ้วบางประการถ้าผมจำที่ท่านอาจารย์เล่าไม่ผิด ต้องคอยชมกันนะครับ
     
  7. jarawoot

    jarawoot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,762
    ค่าพลัง:
    +6,940
    " ประวัติการสร้างรูปหล่อ “ครูผึ้ง”
    อานิสงส์คาถาพระปัจเจกโพธิ์….โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
    ............................................................................................................
    ***ในปัจจุบันนี้ภาวะทางเศรษฐกิจย่ำแย่ ตามบริษัทห้างร้านต่างๆ ต่างคนต่างบ่นกันพึมพำ ชาวบ้านหรือก็หนักใจ เมื่อพูดถึงเรื่องจนก็ทำให้นึกถึง

    พระคาถาปัจเจกโพธิ์ “วิระทะโย พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหมฯ”

    คาถาบทนี้มีความสำคัญมาก พวกเราทุกคนควรจะทำให้ได้เป็นพื้นฐานไว้ก่อน คาถาบทนี้ทำขึ้นน้อยๆ ถ้าเงินมันขาดมือจะชดใช้กันทัน ถ้าหากทำขึ้นเต็มอัตรา เงินจะเหลือใช้ แต่ต้องทำเป็นสมาธินะ การทำสมาธินี่ไม่ต้องนั่งก็ได้ ถ้าว่างตอนไหนก็นึกว่ามันเรื่อยไป ขายของอยู่ ทำงานอยู่ พอว่างนิดก็ว่าไป เดินไปนึกขึ้นได้ก็ว่าไป

    คาถาวิระทะโย นี้ใครทำเป็นสมาธิได้ ถ้าทำถึงอุปจารสมาธิ ตอนนี้เงินไม่ขาดตัวแน่ ถ้ามีความจำเป็นมากจริงๆ มัก ะหาได้ทัน ถ้าเข้าถึงขั้นปฐมฌานตอนนี้ละขังตัว ไม่ใช่พอใช้นะ เหลือใช้เลย แต่ต้องทำได้ตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไปนะ

    คาถาบทนี้มีคนใช้ได้ผลมาเยอะแล้ว คนที่ใช้ได้ผลคนแรกสุดคือ นายห้างขายยาตราใบโพธิ์ ที่ว่าเป็นคนแรกเพราะอะไร เพราะตอนนั้น หลวงพ่อปาน ท่านไปเรียนมาจาก ครูผึ้ง ซึ่งอยู่จังหวัดนครศรีธรรมราชได้มาจากพระธุดงค์องค์หนึ่ง และพระธุดงค์องค์นี้ท่านก็บอกมาว่าเป็น คาถาของพระปัจเจกพุทธเจ้า

    ตามปกติครูผึ้งท่านรักษาศีลอยู่แล้ว ก่อนที่พระธุดงค์จะไป ท่านได้ให้คาถาบทนี้และบอกว่า “ตอนเช้าทุกวันควรใส่บาตร ก่อนจะใส่บาตรก็ให้ว่าคาถาบทนี้หนึ่งจบ แล้ววิธีใส่บาตรมีอยู่ ๒ อย่าง ถ้าไม่มีพระจะมา ให้ใช้ข้าวสารตักแทนก็ได้ แต่ว่าเดี๋ยวนี้เราใช้สตางค์ใส่บาตรแทนก็ได้ เงินนั้นให้ใช้เป็นค่าอาหาร มากน้อยตามกำลัง ไม่จำเป็นต้องไปรอพระมา ถ้าเห็นว่ามันมากพอสมควร ก็เอาไปถวายพระ บอกท่านว่าเป็นค่าอาหาร แล้วท่านจะนำไปใช้ค่าอาหาร หรือเอาไปใช้ก่อสร้างก็เป็นเรื่องของท่าน แต่เรามีเจตนาเป็นค่าอาหารแล้วกัน เท่านั้นก็พอ” นี้คือเกร็ดประวัติที่มาที่ไปของพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์

    เมื่อนึกย้อน...การที่จะสร้างพระพุทธรูป รูปเหมือนครูบาอาจารย์ องค์เทพ ใช่ว่าจะนึกอยากจะสร้างจะสร้างกันง่ายๆ ถึงจะมีเงินทองที่จะจ้างช่างปั้นจ้างโรงหล่อเททอง...ถ้าไม่มีวาระเหตุและบุญวาสนาบารมีสัมพันธ์กันนั้น จะมีเหตุทำให้ไม่สามารถจัดสร้างได้...แต่กระนั้นขึ้นอยู่กับ “การปฏิบัติตนปฏิบัติใจ” ที่ถูกต้องหรือเปล่าเป็นหลักสำคัญ เมื่อมีการประมวลของจิต...ดังที่เกริ่นไว้บางส่วน ทำให้มีจิตที่ตั้งมั่นจะสร้างรูปหล่อครูผึ้งไว้ให้ลูกหลานสายบารมีสักการบูชา...ต่อมาได้ตั้งจิตอธิษฐาน “ขออนุญาตต่อครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะสมเด็จพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ปฐมต้น พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ ลป.ปาน ครูผึ้ง” ในการจัดสร้างหน้าตัก 15 นิ้วและ 5 นิ้ว ขอให้เกิดนิมิตถึงรูปร่างหน้าตาบุคลิกของครูผึ้งด้วยเถิด....

    ระหว่างที่อธิษฐานเกิดนิมิต “เห็นกายพรหมองค์หนึ่งมีรัศมีสว่างจ้าเป็นประกายเฉดสีขาวคล้ายเพชร แต่มีลักษณะพิเศษคือประกายที่เห็นนั้นเป็นแท่งผนึกคริสตัลเล็กๆกระจายออกมารอบทิศทางสวยงามมาก...มีความรู้ว่านี้คือ ครูผึ้ง ท่านอยู่ชั้นพรหมสุทธาวาส” ตั้งจิตกกราบขอพระบารมีองค์ท่านในเรื่องการจัดสร้าง..เห็นท่านยิ้ม หลังจากนั้นผ่านมาหลายวัน ไม่เกิดนิมิตขึ้นมาเลย....เริ่มมีความคิดว่าจะอนุญาตให้สร้างหรือไม่นี้....พอเริ่มมีอาการของความคิดกลับมีนิมิตขึ้นมาเห็น “ภาพหน้า ลพ.สด วัดปากน้ำ และภาพทั้งองค์ของ ลพ.พุธ ฐานิโย”กว่าจะตีความหมายออกเล่นเอางงไปพักใหญ่...

    คิดว่าน่าจะเป็นนิมิตให้ช่างปั้นจะได้ปั้นได้ใกล้เคียงเหมือนตัวจริงในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่....จึงตัดสินใจ โทรติดต่อช่างให้ลงมือปั้นจนกระทั่ง....ได้รูปเหมือนต้นแบบครูผึ้งที่สมบูรณ์แบบ...ตามนิมิตที่เกิดขึ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...