ประสบการณ์ ที่เจอมา .

ในห้อง 'คอมพิวเตอร์ & อินเตอร์เน็ต' ตั้งกระทู้โดย คนดี, 14 สิงหาคม 2005.

  1. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    สวัสดีครับ ทุกท่าน .. ผมเป็นสมาชิกใหม่ครับ..

    วันนี้จะมาเขียนประสบการณ์ของผมที่พ่านมานะครับ ว่ามีอะไรบ้าง ..
    เมื่อก่อนหน้านี้ผมไม่รู้เรื่อง การทำสมาธิ เลยเพราะไม่ค่อยสนใจมากนัก และผมไม่ค่อยสนใจเรื่องกรรมฐาน เพราะคิดไปเองว่าเป็นเรื่องของพระสงฆ์องค์เจ้าครับ
    คนปถุชนอย่างผมคงจะทำไม่ได้ครับ เพราะคิดอย่างนั้นตลอดเวลา เลยไม่มีโอกาศ .
    โดยปกติแล้วผมสนใจ เรื่องของงานมากกว่า แต่ไม่รู้เป็นอย่างไร คือผมมีจิตผูกพันธ
    กับทางธรรมอย่างบอกไม่ถูกครับ เวลาได้ยินเสียงท่านพระสงฆ์สวดอภิธรรมในงานศพ
    หรืองานบุญต่างๆ ผมจะรู้สึกเสียวๆ ที่หน้าอก .. และยิ่งลึกไปกว่านั้น .. อื่มมม ..
    เวลาที่ผมได้ยินเสียงเสียงของการสวด(ที่เป็นบทเพลง) ผมถึงกับน้ำตาไหลเลยที่เดียว
    ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ทั้งๆที่ผมแปลเสียงสวดนั้นไม่ออกเลย ...

    (ขอให้ท่านผู้รู้ กรุณาตอบผมด้วยครับ จักขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ)..

    และผมยังมีประสบการณ์อย่างอื่นอีกมากมาย ที่อยากจะมาถามท่านผู้รู้อีกครับ...
    โดยเฉพาะ เรื่องของกายทิพย์ จิตสัมพัสพิเศษ เกิดขึ้นได้เองโดยที่ไม่ได้ทำกรรมฐานมาก่อน (เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาจริงๆครับ) แล้วจะมาเล่าประสบการณ์เหล่านั้นอีกทีครับ.
    ขอขอบคุณครับ..
     
  2. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ประการณ์ที่ได้เจอมา..

    อีกครั้ง ต่อมา คือผมได้มีโอกาศไปนอนที่สวน คืนนั้นมีอะไรที่แปลกๆ ที่สวนของผมอยู่ใกล้ๆ กับพระธาตุ ครับ ..
    คืนนั้นเป็นเดือนสะหว่างมาก(เดือนออก) อื่มมม ตอนนั้น คลิ้มๆ ใกล้หลับ แต่ยังไม่ได้หลับ จึงมองพ่านรอยแตกที่ฝาบ้านทีสวน ...
    มองมาทาง พระธาตุ เห็นคนกลุ่มหนึ่ง ใส่ชุดขาวกำลังเดินขึ้นเขาพระธาตุ อยู่ประมาณ 4-5คนได้ ที่แปลกคือ
    พวกที่เขามาเกือบๆเที่ยงคืน สังเกตดู เป็นคนอวุโสทั้งนั้นเลย .. เห็นชัดมาก ... ผมไม่กล้าเล่าไห้คนสวนฟัง
    กลัวคนสวนไม่กล้ามาเฝ้าสวน...อื่มมมม ... พวกเขาเดินเท้ามา ไม่เห็นรถ หรือ ใครมาส่งเลย
    เดินเรียงแถวขึ้นเขาพระธาตุ ประมาณ 5-6 นาทีก็หายไป พอดีตอนนั้นผมหิวน้ำ ขว้ากระปุกน้ำที่อยู่ข้างๆมาดื่ม พอมองมาอีกทีไม่รู้พวกเขาหายไปไหน? .. ..

    พระธาตุแห่งนี้ ไม่มีแม่ชี ผมอยากทราบว่า คนที่ใส่ชุดขาวเป็นใคร แล้วทำไมถึงมาดึกๆ อย่างนี้... ? ..
     
  3. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ประสบการณ์ที่ได้เจอมา .... ที่สอง ...

    เรื่องนี้ผมได้เจอมานานแล้ว ตอนไปทำงานที่โคราช ...
    ตอนนั้นผมเข้าไปทำงานใหม่ๆ ได้ไปพักโรงแรม แห่งหนึ่ง ประมาณ 17 ปีที่พ่านมา
    อื่มมมม ไม่ขอออกนามชื่อโรงแรมนะครับ .. เข้าพักเวลาประมาณ 5โมงเย็น หลังจากเซ็กอินเข้าพัก แล้วผมก็ไปอาบน้ำเปลื่ยนเสื้อผ้า ลงมารับประทานอาหารเสร็จ ผมก็ออกไปเที่ยวที่ตลาดย่าโม และแวะไปกราบเท้าท่านสุรนารี และแวะไปเที่ยวที่คลังพาซ่า จนดึกประมาณ 10.30 PM ผมก็กลับที่พักโรงแรม เวลานั้นร้อนมาก ผมก็อาบน้ำอีกครั้งหนึ่ง จนถึงเวลา ประมาณ 11.00 PM ผมก็เข้านอน (ที่โรงแรมเขามีกระจกรอบๆ เตียงนอนครับ) ผมนอนไม่หลับนึกถึงงานวันพรุ้งที่ผมจะเข้าไปทำงาน ตื่นเต้นมากๆครับ เลยนอนคิดไปเรื่อยๆ มองกระจกอยู่ คือที่โรงแรมเขามีหลอดไปสีอ่ะครับผม เลยไม่ได้ปิดหลอดไฟนั้นครับ เป็นแบบสีชมฟูอ่อนๆ ก็เปิดทิ้งไว้ครับ มองกระจกและคิดไปเรื่อยๆ ถึงงานวันพรุ้งนี้ ว่าจะต้องเจอ สาวๆ สวยๆแน่นอน เจอเพื่อนร่วมสายงานอีกเยอะ และที่แน่ๆเจ้านายต้องใจดีแต้ๆ ขณะที่ผมคิดอะไรเพลินๆอยู่ จึ๊กกก .!!
    ความคิดของผมหยุดทันทีเลย เห็นอะไรบางอย่างกำลังลอยออกจากห้องน้ำ เห็นในกระจกเงา ... ที่ผมนอนหันหน้าเข้าหาผนัง แล้วคิดว่าตัวเองคงตาฝาดไป ...
    ไม่ใช่แน่ ผมกระพริบๆๆตาถี่ๆ สองสามครั้ง ไม่กล้ากระดุกระคิกตัว... ตัวผมเริ่มเกร็ง
    และมองไปเรื่อยๆ มีแต่หัว ไม่มีตัวเลย ... ผมยาวมาก ... ลอยๆๆไปทางประตู ..
    แล้วก็หายไปตรงที่ประตู ต่อหน้าต่อตาเลย... ผมก็ลุกขึ้นมาทันที ...
    เก็บเสื้อผ้า ยัดใส่กระเป๋านะสิครับ อยู่ทำไมให้ซ้ำอุรา ดีมิดี เดี๋ยวบร้าไม่ได้ทำงานซะงั๊น เหอ เหอ ... รีบออกมา จนเสื้อผ้าชุดใส่นอนไม่ต้องเปลี่ยน ...
    พนักงานโรงแรม ถามว่าพี่รีบไหนหรอค่ะ .... ผมตอบทันที ... แหะแหะ.. เจ้านายเรียกด่วนครับ ... ตกลงคืนนั้นยังจำติดตา ... และนั่งดื่มกาแฟ จนเช้า... แหล่ะคร้าบ.
     
  4. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ประสบการณ์ที่ได้เจอมา....สาม...

    เกี่ยวกับเรื่องรถครับ...
    เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นมานานแล้ว เหมียนนนกันครับ รู้สึกว่าจะไปร่วมฉลองกับเพื่อนตอนรับปริญญาที่กรุงเทพนะครับ เรื่องเกิดขึ้นตอนกลับบ้านครับ หลังจากฉลองเสร็จเพื่อนก็พาเที่ยวกรุง แหะแหะ เด็กนอกเที่ยวกรุงก็มันจิครับท่าน เที่ยวใด้สามวัน สองคืนก็จุใจล่ะครับ ตอนขากลับ ผมได้ไปตีตั๋วที่หมอชิต ยืนรอคิวอยู่ แต่มีเหตุ อันใดไม่รู้มาดลใจ
    ไห้ไปซื้อน้ำซื้ออาหาร ขนมเพื่อมาทานในรถ (ปกติผมไม่ชอบทานอาหารในรถ เพราะผมเป็นคนที่เมารถง่ายและไม่ชอบทานยาแก้เมารถ) แต่วันนั้นผมอยากทานขนมในรถ
    เลยไปซื้อมา และเจอพระสงฆ์องค์หนึ่ง แห๋มม จะไปจังหวัดเดียวกันเสียด้วย เลยนั่งคุยกันพักหนึ่ง ผมเลยถามเจ้าพระคุณท่านตีตั๋วหรือยัง ท่านบอกว่ายัง เอ่อถ้างั๊นผมไปตีตั๋วไห้นะ ผมก็ยังไม่ได้ตีตั๋วเลย พอดีมาซื้อ อาหารขนมเสียก่อน ผมเลยไปตีตั๋ว อ้าว
    คิวเต็มซะแระ แห๋มมม ไปแป๊บบเดียวเอง (30นาที) .. เลยไม่ได้ไปกับรถคันนั้นไปอีกบริษัทหนึ่ง ว๊าวว โชคดีจัง พอดีกับผู้โดยสารสองท่านพอดี "รถจะออกอีก 10 นาที
    นะพี่" เด็กรถบอก ครับๆ ผมก็รีบไปบอกเจ้าพระคุณท่านที่จะไปด้วยกัน รถคันที่ผมไปออกช้ากว่า คันแรกไป 5 นาที ตามๆกันไป ผมก็นั่งคุยกับเจ้าพระคุณท่านเรื่อยๆ
    จนถึงจังหวัด ลำปาง ก็ไม่มีอะไร จนมาถึงทางโค้ง ปางระ ลำปาง...
    เห็นไฟเหมือนกับฟ้าแล๊บบ แปล๊บๆๆๆ ... รถคันที่ผมตามมา ก็ชลอความเร็วลง ..
    เห็นรถคันที่ผมไปจองคิวครั้งแรก คิดแล้วขนลุกครับ รถคันนั้นชนกับรถบรรทุกชุง
    ซึ่งเกิดอุบัติยางแตกก่อนแล้ว เป็นทางโค้ง รถคันแรกเลยไม่เห็น ชนเต็มๆ รถคันที่ผมมาด้วย จอดช่วยเหลือและเปิดไฟขอทางเอาไว้ โหห สถาพไม่อยากบรรยายเลย
    น่ากลัวมาก บางคนหัวขาด ... ขอพอแค่นี้แหล่ะครับท่าน...
    เดี๋ยวมีหย๋องงง มากก่านี้ ... เหอ เหอ ...
     
  5. torelax9

    torelax9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +527


    เป็นปีติ ครับ ระวังนะเกิดบ่อยเดี๋ยวได้ฌาน ไม่รู้ด้วยนะ อิอิ
    ---------------------------
    ปีติ มีประเภท ๕ คือ

    ๑. ขุททกาปีติ มีอาการขนพองสยองเกล้าและน้ำตาไหล
    ๒. ขณิกาปีติ มีแสงสว่างเข้าตาคล้ายแสงฟ้าแลบ
    ๓. โอกกันติกาปีติ มีอาการร่างกายกระเพื่อมโยกโคลง คล้ายเรือที่ถูกคลื่นซัด บางท่าน
    ก็นั่งโยกไปโยกมา อย่างนี้เรียก โอกกันติกาปีติ
    ๔. อุพเพงคาปีติ มีกายลอยขึ้นเหนือพื้น บางรายก็ลอยไปได้ไกลหลายๆ กิโลก็มี
    ๕. ผรณาปีติ อาการเย็นซ่าซาบซ่านทั้งร่างกาย และมีอาการคล้ายกับร่างกายใหญ่
    สูงขึ้นกว่าปกติ


    http://www.palungjit.org/smati/k40/kasin10.htm

    ------------------------------------------------------------------------------------

    เล่าต่อๆ อยากฟัง
     
  6. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอบคุณมากครับ คุณ Torelax 9...ที่ตอบให้ครับ เป็นอาการ ของปิติ หรอครับ อื่มมม ...

    และขอบคุณ คุณ Torelax9.. อีกครั้งหนึ่งนะครับผม ที่ฝากลิ้งดีๆ มาให้ผมอ่านครับ ...

    (ภาพผู้หญิงมีใส้) อ่ะจึ๊กกก ... สวยดีครับ ... เหมือนกับคำโบราญ ท่านว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง .. แต่การเห็นมองทะลุเนื้อหนัง ก็จะสามารถ พิจารณา ตนเองได้ เป็นการปลงสังขารอย่างหนึ่งเหมือนกัน ... ครับ...
     
  7. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ประการณ์ที่ได้เจอมา..สี่...

    เรื่องนี้คงเป็นของความฝันกึ่งตื่นก็ว่าได้ครับ ...

    เรื่องนี้ด่วนมาก่อนเพราะ จำได้สดๆร้อนเมื่อสองปีก่อน ตอนที่ผมลงทุนซื้อแป๊บน้ำ จะทำประปาภูเขาเมื่อนำ เอาน้ำมาใช้ในสวนเกษตรของผม ใช้รถโฟร์วิลขนเพราะเป็นเขาชันมากและบางจุดก็ขึ้นยาก เป็นทางลูกรังตลอดสายทางขรึโหดสุดๆ วันแรกก็ยังไม่ได้ขนแป๊บน้ำหรอกครับ ขนแต่เสื้อผ้า เต้นท์ อาหารแห้ง ข้าวสาร ที่สำคัญปืนแก๊บ
    พกไปด้วยกันพวกสัตว์ร้ายต่างๆได้ในเวลากลางคืน ... พอมาถึงจุดที่จะเริ่มต้นการวางแป๊บน้ำ ที่น้ำตก ผมก็ไห้คนงานเริ่มกลางเต้นท์ จัดที่จัดทางปัดกวาดพื้นที่ไห้สะอาด
    ที่แน่ๆผมไม่ลืมสิ่งของที่เตรียมมาด้วย คือข้าวสาร ข้าวตรอก ดอกไม้ ธูปเทียน เอามาไห้วบนบานศาลกล่าวเอาไว้ที่ ศาลเพียงตา(ที่ไห้คนงานทำไห้ข้างต้นไม้) ขอฝากเนื้อฝากตัวกับเจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าพระคุณปู่เขาเขียวลำเนาไพร เจ้านางไม้ต่างๆฯลฯ เสร็จ
    ผมก็บอกถึงการมาของผม โดยการอธิฐานจิต บอกไปพอเป็นพิธี ../..
    หลังจากนั้น ผมกับคนงานก็ช่วยกันทำกับข้าว ( แหะแหะ ผมชอบทำกับข้าวครับ) ..
    ทำกับข้าวไป คุยไป เรื่องงาน ว่าจะทำอย่างไง เริ่มอย่างไร ผมแบ่ง คนงานออกเป็น 5 ทีมทีมล่ะ 6 คน ...ทีมที่หนึ่งจะขนแป๊บน้ำกับรถโฟร์วิลสองคัน ...
    ทีมที่สอง จะทำการวัดระดับสายน้ำโดยใช้เข็มวัดความดัน .. ทีมที่สาม.. จะรับช่วงต่อแป๊บน้ำจากรถถึงน้ำตก ...ทีมที่สี่ .. สเวย์ทางเดินของน้ำ.. ทีมที่ห้า.. จะรับถมดินแป๊บน้ำ ... ทีมที่หก... ตรวจเวร..และทำกับข้าว... (จะพลัดเปลี่ยนกันครับ).. พอทำรายการและคุยกันเสร็จ กับข้าวสุกแล้ว แล้วก็รับประทานอาหารเย็นกัน..
    (ไปถึงตอน 3.25 นาทีโดยประมาณครับ)(ทำความสะอาดกางเต้นท์และทำกับข้าว ประมาณ สองชั่วโมง) ..
    ก็ได้พักผ่อนเอาแรงกันครับ สุมไฟไว้กันยุงและสัตว์ คืนนั้นที่ป่าผมพักอยู่เงียบมาก
    เพื่อนๆ คนงานก็หลับหมด และผมได้ยินเสียงกระดิ่ง คล้ายๆกับเสียงของกระดิ่ง ของคนที่เสี้ยงสัตว์แถวบ้านที่เขาผูกเอาไว้ที่คอ ของโค .... ตอนเที่ยงๆ จะมาต่อนะครับ..
     
  8. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,780
    ค่าพลัง:
    +7,482
    อืมประสบการณ์ของคุณคนดี นี่มหัศจรรย์จริงๆ อย่าลืมมาเล่าต่อนะครับ ผมรออ่านอยู่ ...
     
  9. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    สวัสดีครับ ครับ คุณ NINe พอดีตอนเที่ยงผมมีงานเยอะครับ เลยไมได้เข้ามาครับ ..
    ยินดีที่ได้รู้จักครับผม ..
    แหะแหะ ผมว่าประการณ์สะหย๋องมากกว่านะครับ .. ^_^ ..
     
  10. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ต่อเลยนะครับ ... คือทีมที่หกจะมาวันพรุ้งพร้อมกับอุปกรณ์อ่ะครับ เลยเหลืออยู่ห้าทีม กางเต้นท์
    กัน หกเต้นท์ เต้นท์ล่ะหกคน ต่างก็ใช้พระของขลังกัน และอีกเต้นท์หนึ่งที่เหลือ ผมไห้คนงานแบ่งกันไป เฉลี่ยกัน สรุปว่าเต้นท์ของผมนอนสามคน สะดวกหน่อยสำหรับคือแรก ... "ในความคิดของผม" คืนที่สองต้องแออัดอย่างแน่นอน แต่ซ้ำบายๆกันคืนแรกก็พอ .. พอถึงดึกคืนแรกนั้น
    ได้ยินเสียงกระดิ่ง โหก้องป่าเลย ผมคิดในจิต ใครเอาสัตว์เลี้ยงมาไว้ที่ป่าเนี่ย หนวกหูซะมัดยาดเรย เอ่ใครหน๊อตอนแรกนึกว่าพวกชาวเขา เขาคงมาเลี้ยงแถวไร่ของเขามั๊ง ไม่ได้คิดมากอะไร ประมาณสัก หนึ่งชั่วโมงก็หายไป อื่มมม "ผมคิดในใจว่าสัตว์เลี้ยงคงจะหลับแล้ว" นอนสบายแล้วล่ะเรา คิดไปเพลินๆ ง่ะอีกแระ คราวนี้ เสียงของสัตว์ (คือเต้นท์ของผมมีแบบสองชั้น ชั้นด้านนอกไม่ได้รูดซิบเหลือแต่ชั้นข้างในจะเป็นแบบมุ้งลวด) เห็นข้างนอกหมดเลยเพราะ สุ้มไฟเอาไว้ เห็นน้ำตกชัดเจนมาก ผมชอบ .. พอได้ยินเสียงของสัตว์กำลังมาที่น้ำ เอ่.. ผมอุทานในใจ บร้าแน่ๆที่เจ้าของสัตว์จะพาสัตว์เลี้ยงมาดื่มน้ำในเวลากลางคืนดึกๆเช่นนี้
    เจ้าเพื่อนคนงานก็นอนโกน โหห .. ผมนึกอยากเห็นสัตว์เลี้ยงพวกนี้ และเจ้าของคือใคร .
    อยากรู้เพราะที่น้ำตกห่างจากหมู่บ้านก็หลายกิโลเมตร ..
     
  11. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ผมก็ค่อยๆนั่งและมองดู เสียงเท้าดังมาก สังสัยเยอะแน่ๆ ผมคิดในใจไม่ต่ำกว่า 30 ตัวแน่นอน
    มาแล้วกำลังลงมาดื่มน้ำ กิน อ่ะจึ๊กกก !! ไม่ใช่โค หรือกระบือ หรือบับฟอร์โร่วอลเตอร์ แต่อย่างใด ผมไม่แน่ใจจึงขยี้ตาดูอีกครั้ง จริงๆด้วย มันคืออีเก้ง ทั้งตัวผู้ -เรดี้ด้วย เยอะมาก อื่มมม ..
    สัตว์ป่านี่นาผมอุทาน ตาเหลียกตาค้าง เพราะไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน เอ่...มาได้อย่างพร้อมกัน
    ผมนึกคำๆหนึ่งของคุณ พ่อที่ท่านบอกเอาไว้ สัตว์ป่าทุกตัวย่อมมีเจ้าของ พอนึกได้คำนี้ ทันทีเลย ... เจ้าของสัตว์ป่าฝูงนี้ มาแล้วว เดินตามหลังตัวสุดท้าย ผมจ้องตาเขม็ง มือข้างขวาถือไม้ มือข้างซ้ายถือลูกประคำ เห็นชัดมาก เพราะอยู่ห่างไปไม่ถึง 20 เมตร ผมยาวลากดินเลย ผมไม่รู้ทำอย่างไงก็จ้องดูอย่างนั้น จนพวกสัตว์ดื่มน้ำกันอิ่มหมดก็กลับไปที่เดิม ...
     
  12. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ผมอธิฐานจิต ต่อเจ้าป่าปู่จ้าวเขาเขียว ผมไม่มีเจตนาจะมาล่าสัตว์แต่อย่างใด หลังจากนั้นผม ก็ค่อยๆหันข้างล้มตัวลงนอน ไปงีบหนึ่ง พอตื่นขึ้นมาจะว่าตื่นก็ไม่เชิง รู้สึกตัวแต่ไม่อาจลืมตาขึ้นมาได้ หูได้ยินชัดเจน เสียงคุยกันมาจากต้นไม้ที่ผมไห้คนงานทำศาลเพียงตา ที่ผมพักอยู่ใกล้ๆ
    เสียงนั้นมีทั้งผู้หญิง และคนอวุโส บอกกับคนหนึ่ง เสียงห้าวๆ ว่าเขาเป็นแขกบ้านแขกเรือน(เป็นภาษาพื้นบ้านท้องถิ่น) ว่าจะเอาพวกเขาเป็นทาสไม่ได้ "บริเวณของใครของมัน"อย่ามาเบียดกันเลย ... ผมกลัวมากตอนนั้น ... เสียงเย็นมากจนรู้สึกได้ .. ฟังต่อไป ... แล้วพวกนี้เป็นใครมาจากไหน .... สองของคนทั้งสองก็ตอบไปอีกว่า "พวกเขาเป็นลูกหลานคนสำคัญของเรา" โดยเฉพาะ ที่พักอยู่ข้างๆกับเรา จงไปหาที่อื่นเถอะ ... พูดเพียงแค่นี้...ก็เงียบไป .. จนสะหว่าง โดยที่ไม่มีภัยใดๆเกิดขึ้นเลย ..

    ท่านผู้อ่านครับ ... ท่านว่าเสียงนั้นคืออะไรครับ ...
     
  13. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ยังมีอีกเยอะที่ผมเจอมา มีหลายอย่างมากๆ เป็นประสบการณ์จริง ผมไม่ได้มีความรู้เลยเรื่องการเรียน ต่างๆ ผมมีประสบการณ์ชีวิต และสายการงาน ที่ผมไปศึกษามาเกือบทั้วประเทศไทย
    เหลือแต่ภาคใต้เท่านั้นที่ไม่ได้ไปหาประสบการณ์ ... ไม่มีโอกาศได้ไปเลย ..
    ผมอยากไปเที่ยวดู หาก เพื่อนๆหรือพี่ท่านใดไปเที่ยวมา ก็มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ ..^_^
     
  14. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ประสบการณ์ที่ได้เจอมา .... ห้า... พรุ้งนี้ผมจะมาเขียนไห้ท่านได้อ่านกันนะครับ..
    เรื่องนี้เจอท่านชีประขาวในความฝันครับ... ว่าท่านได้แนะนำผมอย่างไรนะครับ ..
    สำหรับคืนนี้ ผมขอราตรีสวัสดิ์ ทุกท่านขอไห้ท่าน บรรลุธรรมโดยเร็ววันนะครับ ฝันดีครับผม
     
  15. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    โอ๊ยยย เหนื่อยวันนี้ ....
    ไปช่วยเพื่อนบ้านย้ายของมาครับ เลยไม่มีโอกาศได้เขียน ... เอาเริ่มประสบใหม่ครับ ...
    ผมจะเขียนประสบการณ์เกียวกับ ความฝันครับ ...
     
  16. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    เอ่ ...จะมีใครมาว่าเราเปล่าเน๊ออ เล่นเขียนคนเดียว กลัวทางเว็บมาสเตอร์ ว่าเป็นข้อความ ขยะคอมเมอร์ริดตี้ ...
    แต่เป็นประสบการร์อ่ะเน๊อะ คงจะมีประโยนช์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยอ่ะเน๊อะ .. ^_^ ..
     
  17. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ความฝันนี้ ผมได้ฝันไปว่าเจอท่านหนึ่ง เป็นท่านชีประขาว (ขอเรียกท่านว่าชีประขาวนะครับ เพราะท่านนุ่งขาวห่มขาวครับ ) ในฝันผมเจอท่าน ณ ที่ๆหนึ่ง คล้ายๆในถ้ำ มีหินเยอะมากมีน้ำหยดออกจากหินอีกด้วย มีหินสวยมาก คล้ายๆกับเพชร แสงสี แพรวพราว และผมเห็นท่านเดินมาทางผม ท่านทักทายผมด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรไมตรี ไม่มีท่าทางที่จะสังสัยในตัวผมเลยแม้แต่น้อย ท่านบอกว่า " ถึงเวลาแล้ว" ในความฝันผมงงมากที่ท่านบอกอย่างนั้น
    ผมจึงถามไป " ถึงเวลาอะไรหรอครับท่าน" ท่านชีประขาว ก็ตอบอีก " ท่านถึงเวลาที่จะต้องรู้ว่าท่านเป็นใคร และจุดประสังค์ที่ท่านจะต้องรู้เพื่อ ปราบมาร " ผมงงมากเหมือนไก่ตาแตกเลยทีเดียว ผมคิดในใจว๊าววว ผมคงเป็นหมอคง เฮ้ยย ไชอิ๋ว ซะแน่แท้ ทันทีที่คิดอย่างนี้ ท่านชีประขาวดันรู้สิ่งที่ผมคิด ขึ้นมาอีก ไม่หรอกท่าน ไชอิ๋วเป็นเทพอีกเมืองหนึ่ง เน๊ะ รู้อีก ..
    ในความฝันผมก็ถามไปอีก "แล้วผมคือใครกันล่ะ " ท่านชีประขาวก็ตอบไปเฉยเลย " ท่านคือหนึ่งในเทพปราบมาร เทพปราบมารทั้งหมด มีหนึ่งหมื่นองค์ หนึ่งในพันของประชากรมนุษย์โลกเมื่อ 4 หมื่นปีก่อน มีประชากรโลกเป็นมนุษย์จริง 400 ล้านคน ต้องคอยคุมไม่ไห้มารต้อง
    มีญานไปรบกวนเหล่าเทพชั้นสูง ผมแปลกใจมาก มารมีญานด้วยหรอ ญานคืออะไร หรือจะเป็นวิญญาญ ผมคิดอย่างนั้น ท่านชีประขาวก็ตอบกับมาว่า ไม่ใช่วิญญาญหรอก มนุษย์นี้
    แหล่ะ ลองพิจารณาดีสิ เมื่อ 4 เหมื่นปีก่อนมีมนุษย์โลกจริง แค่ 400 ร้อยล้านคน แล้วมนุษย์
    เพิ่มมา ในปีปจุบันเป็น 6,500 ล้านคนได้อย่างไง เป็นเพราะมนุษย์มีปาบต่อสัตว์ โลกทั้งหลาย เบียดเบียนต่อสัตว์อื่น สัตว์เหล่านั้นเลยมาเกิดเป็นมนุษย์ ฆ่ากัน เบียนกัน เมื่อไม่นานมานี้ มีท่านเจ้ามาโปรด ก็ยังดี แต่ดีไม่นาน ก็มีมารมากั้น มารเหล่านั้นกำลังแข็ง กำลังแกร่ง
    โหหห ท่านบอกหรือ เทศน์กันแน่เนี๊ย! ผมคิดในใจ ท่านก็บอกว่า "บอกไห้ทานรู้" จึ๊ก คิดในใจก็ไม่ได้ แล้วท่านบอกว่า ท่านจงรีบปฏิบัติเสียนะ กรรมฐาน และเรียนรู้การถอดจิตกายทิพย์ไห้
    ได้อีกไม่นาน ท่านจะได้ใส่ชุดนี้ เมื่อถึงเวลา ...ท่านชีประขาวชี้ไปที่หินก้อนหนึ่ง โหห ท่านจะผมใส่ชุดหินหรอครับท่าน ท่านชีประขาวบอกไม่ใช่ ท่านดูดีๆสิ ข้างในหิน พอมองอีกที โหห ชุดอะไร คล้ายๆลิเก มีสร้อยอะไรไม่รู้ ผมถามท่านชีประขาว ว่าแล้วเมื่อไรผมจะได้ใส่ล่ะครับ
    อีกไม่นานหรอก ... ที่จะได้ใส่ ท่านจงจำเอาไว้อย่าเอาสายต่างๆมาปฏิบัติ เป็นทางจิต ท่านจงพิจารณา ในการปฏิบัติ แล้วท่านจะได้พบกับเรา ในยามที่ท่านมีจิตแข็งแรงดี ...
    แล้วผมก็ตกใจตื่น อื่มมมม .. ตั่งแต่วันนั้นเป็นต้นมาผมก็ฝึกทำสมาธิ ครับ..
     
  18. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ไปเที่ยวมาทั่วแล้ว ขอไห้เพื่อนๆ สมาชิก หลับฝันดีนะครับ ..
    ผมขอตัวไป ทำสมาธิ ก่อนนะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับทุกๆท่าน ...
     
  19. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    อื่มมมม ... เรียนถามผู้รู้ครับ.

    คือว่าเมื่อคืนเป็นวันศิล ผมได้ไปทำสมาธิ ที่บ้านสวนมาครับ ...
    แรกๆก็เงียบดีครับ สงบ แต่พอทำไปสัก 2-3 ชั่วโมง ช่วงที่จิตสงบมาก ..
    บังเอิญหูของผมได้ยิน อะไรบ้างอย่าง คล้ายๆกับคนร้องไห้
    (เป็นบ้านสวนอีกสวนหนี่ง) ติดกับทุ่งนาและบ้านร้างครับ ... คนที่ร้องไห้ไม่มีการสะอึก
    ร้องไห้นานมาก ผมคิดว่าวิญญาญ แต่ผมแผ่เมตตาไห้ ก็ไม่สงบครับ เพื่อนๆของผม ทั้งสามคน กลัวมาก เลยครับ ผมตั่งจิตอธิฐานขอไห้เขาพ้นจากความทุกข์เวทนา แต่
    ไม่มีการตอบสนองตอบใดๆ สุดท้าย ต้องขอไห้เขาสงบ(ทางจิต)แล้วจะทำบุญไปให้ แค่นั้นเงียบไปเลยครับ ...อยากทราบว่าวิญญาญ นั้นเป็นวิญาญ ชนิดไหนกันครับ .. ?
    ขนาดแผ่เมตตายังไม่ยอมรับ ... เป็นวิญญาญ อาฆาตหรือเปล่าครับ.. (คนที่ถูกฆ่าตายอ่ะครับ) .... หรือว่า เป็นผีบ้านร้างที่สิงอยู่ (เพราะเสียงมาจากบ้านร้างหลังนั้นอ่ะครับ)
    ... เรียนถามผู้รู้ทุกท่านนะครับ..
     
  20. คนดี

    คนดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +4
    ...เริ่มได้ผลแล้ว...

    อ๋อ...รู้แล้วตุ้งนานลืมมาโพส ... เลยเรา.. (เพราะไม่ค่อยมีโอกาศมา) เขาเรียกว่านิวณ์ทางใน นั่นเอง ..
    หลังจากปฏิบัติ กรรมฐานมา พ่านเรื่องราวสั้นๆ (แต่ไม่ทราบว่าปฏิบัติสายไหน )
    เพราะไม่ยึดหมั่นอาจารย์ใดอาจารย์หนึ่ง เป็นหลักแน่นอน

    ว่าไปว่ามาก็แปลกอยู่หลายๆท่านชอบยึดทางนิมิต หลงน๊าท่านน๊า นิมิตนั่นเป็นทางนิมิตหลอก สร้างมาจากจิต หาใช่จริงไม่เลย อื่มมเขาเรียกว่าปฐมณานเปล่าน๊า
    แต่ก็มีหลายท่านที่ไม่หลง การได้นิมิต ไม่ได้หมายถึงเข้าสู่ณานชั้นสูง ยังมีความหลงอยู่ในจิต แปลกมากๆ มีอีกหลายอย่างที่เป็นต้องศึกษาไห้ซึ้ง

    เมื่อไม่นานมานี้ผมทดลองถอดกายทิพย์ทางจิต โดยพ่านระหว่างคิ้วและทดลองส่งโทรจิตพร้อมๆกันไปหาญาติ ที่เชียงใหม่ (ตอนนี้ผมอยู่ที่ชลบุรีอยู่)
    ปรากฏว่าได้ผลจริง อีกสามวันต่อมา ญาติโทรมาว่าได้เห็นผมลักษณะครึ่งหลับครึ่งตื่นว่าได้เห็นผมมาที่ห้องนอน อยู่ปลายขอบเตียงริมเท้าของญาติ ซึ้งผมก็ใช้โทรจิตไห้ณานของผมเกิดขึ้นเช่นนั้นจริงๆ เพราะผมคิดถึงญาติทางโน้น ..

    ยังไม่รวมกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมในขณะนี้ มีสิ่งที่ไม่น่าเชื่ออีกมากมาย หลังจากที่ผมลองปฏิบัติกรรมฐานมา ผมมาเผ้าญาติที่โรงพยาบาล ล่าสุดผมเห็น สิ่งหนึ่งไม่แน่ใจเพราะผมไม่เคยเห็นมาก่อน คือผมเห็น แสงไฟเล็กๆเท่าหัวไม้ขีดไฟนับ40-50ดวงรอบๆตัวพยาบาล และบุคคลอื่นในโรงพยาบาล ตอนกลางวันเวลา บ่ายโมง 37 นาที หลังจากผมเห็นดวงไฟแล้วผมมอง ที่นาฬิกาทันที ที่แปลกคือดวงไฟสีไม่เหมือนกัน ของนางพยาบาลบางท่านก็เป็นสีขาวไสๆ แต่บางท่านก็เป็นสีแดงก่ำ
    เกิดขึ้นประมาณ 5 นาทีแล้วหายวับไปทันที ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
    ผมไม่กล้าเล่าไห้ใครฟัง เดี๋ยวเขาจะหาว่าผมสติไม่ดีเสียเปล่าๆ ผมเริ่มมีการเห็นแปลกๆ มีความรู้สึกแปลกๆ อะไรก็แปลกไปหมด ผมรู้ว่าใครกำลังต้องการความช่วยเหลือ ในรัศมีใกล้ๆ ประมาณ หนึ่งกิโลเมตร อื่มมม ผมเริ่มอ่านใจคนออกว่าเขากำลังเป็นแบบไหน เศร้า หรือดีใจ หรือแช่งอะไรในใจ ทั่งๆที่ผมมองจากด้านหลังของเขา มีอะไรที่อยากเล่าอีกเยอะ ผมจะมาเล่าวันต่อวันนะครับหากผมได้มีโอกาสเข้ามาอีกครับ คืนนี้หลับฝันดีทุกๆท่านเลยนะครับราตรีสวัสดิ์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...