ประวัติหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต หนึ่งในกองทัพธรรมสายหลวงปู่มั่น

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย อักษรชนนี, 2 มีนาคม 2007.

  1. อักษรชนนี

    อักษรชนนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +2,144
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต
    บางส่วนจากหนังสือ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    โครงการหนังสือบูรพาจารย์ เล่ม ๙
    เรียบเรียงโดย รศ.ดร. ปฐม - รศ. ภัทรา นิคมานนท์
    ๑๒๔
    เรื่องจากหลวงปู่บุญญฤทธิ์

    <TABLE id=table1 align=left border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>
    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต เป็นศิษย์สำคัญองค์หนึ่งของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่ทั้งพระและโยมในวงพระธุดงคกรรมฐานรู้จักท่านเป็นอย่างดี
    เรื่องราวของหลวงปู่บุญฤทธิ์ น่าสนใจและน่าเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ในอดีตท่านเป็นนักศึกษาปริญญาจากต่างประเทศ เป็นข้าราชการหนุ่มที่มีอนาคตสดใส แต่ด้วยความเลื่อมใสปฏิปทาพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงลาออกจากราชการแล้วออกบวชและปฏิบัติธรรมแบบถวายชีวิตต่อพระศาสนา ออกธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาโดยตลอด
    ท่านเป็นศิษย์กรรมฐานของ พระอาจารย์กู่ ธมฺมทินฺโน ท่านพ่อลี ธมฺมธโร และออกป่าติดตาม หลวงปู่ชอบ ฐานสโม นานถึง ๙ ปี
    ในช่วงหลัง ท่านได้รับบัญชาจากคณะสงฆ์ธรรมยุตให้ท่านไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ จนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลา ๓๐ กว่าปีแล้ว
    นานๆ ท่านจึงจะกลับมาเยี่ยมเมืองไทยสักครั้งหนึ่ง ทำให้ลูกศิษย์ลูกหาในเมืองไทยได้มีโอกาสกราบไหว้ และศึกษาธรรมปฏิบัติจากท่านนำความปลาบปลื้มและความชุ่มชื่นหัวใจเป็นอย่างยิ่ง (พวกเราได้กราบท่านครั้งหลังสุดในงานถวายเพลิงศพหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท ที่อำเภอสามโคก ปทุมธานี เมื่อ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๗ นี้เอง ดูหลวงปู่ท่านชรามาก แต่ดูท่านสดใสมาก นั่งรถเข็นให้ศิษย์ที่เป็นฝรั่งเป็นผู้เข็น - ปฐม)
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ ได้เปิดเผยเรื่องราวต่างๆ ที่ท่านไปอยู่ปฏิบัติธรรมกับ หลวงปู่ชอบ ในป่าเขาทางภาคเหนือ ทำให้พวกเราได้ทราบปฏิปทาและความมหัศจรรย์ต่างๆ ของหลวงปู่มากยิ่งขึ้น
    เรื่องของ หลวงปู่บุญฤทธิ์ นี้ ผมนำข้อมูลมาจาก ๒ แหล่ง คือบทความในหนังสือโลกทิพย์ ฉบับที่ ๑๓๐ ฉบับแรกของเดือนมิถุนายน ๒๕๓๑ ซึ่งเขียนโดยคุณดำรงค์ ภู่ระย้า กับอีกแหล่งหนึ่งเป็นข้อเขียนของ คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต
    เนื้อหาที่ผมนำเสนอในที่นี้ อยากให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบทั้งเรื่องราวของหลวงปู่บุญฤทธิ์ ผู้เป็นศิษย์ กับปฏิปทาของหลวงปู่ชอบผู้เป็นพระอาจารย์ ไปด้วยกัน เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวอย่างที่พูดกันนั่นแหละครับ
    เรื่องราวที่นำเสนอ จึงมีหลายตอนติดต่อกัน ก็คงต้องขอร้องให้อดทนอ่านกันหน่อยก็แล้วกัน นะครับ !
    โดยส่วนตัว ผมเรียกท่านว่า หลวงปู่บุญฤทธิ์ แต่เพื่อไม่ให้สับสน จึงขอใช้คำแทนท่านว่า พระอาจารย์บุญฤทธิ์ ตามที่ คุณดำรงค์ ภู่ระย้า กับ คุณหญิงสุรีพันธุ์ ท่านใช้เรียกขานก็แล้วกันนะครับ
    เรื่องของหลวงปู่บุญฤทธิ์ นั้น คุณดำรงค์ ภู่ระย้า เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามว่า
    “...ตลอดชีวิตในการศึกษาเล่าเรียนมาระดับสูง มีความสามารถในทางโลกหลายๆ อย่าง สามารถประกอบอาชีพการงานให้เกิดความร่ำรวยได้เป็นอย่างดี
    แต่...ทำไม พระภิกษุรูปหนึ่งจึงหลบหนีชีวิตทางโลกเข้ามอบร่างของตนเองสู่แนวทางธรรม ต้องการบวชอุทิศชีวิตแก่พระพุทธศาสนาอย่างสิ้นเชิง ?”
    จากข้อคำถามของคุณดำรงค์ข้างต้น ผมขอตัดย่อมาถึงคำบอกเล่าของพระอาจารย์บุญฤทธิ์เอง ถึงเรื่องราวเบื้องต้นของท่าน ดังนี้
    “อาตมาตอนเป็นนักเรียน ก็ได้รับการศึกษา (ทางพุทธศาสนา) มาบ้างแล้ว เวลานั้นเรียนอยู่ที่โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล กรุงเทพฯ
    พอได้เรียนรู้ก็เกิดชอบใจ แต่เวลาได้มองเห็นความประพฤติของพระภิกษุก็เกิดสงสัยว่า เอ...ทำไมไม่เหมือนกับที่เราศึกษาเล่าเรียนมา นักธรรมตรีก็สอนไว้ดีมาก (แต่พอ) มองเห็นการปฏิบัติของพระเณร มันไม่เข้ากับหลักการศึกษานั้นเลย !
    แต่อาตมาก็ไม่ละเลยในการศึกษาธรรมะในพระพุทธศาสนา สมัยเป็นเด็กนั้นขยันมากนะ
    ต่อมา ได้ศึกษาพระพุทธศาสนา (จากหนังสือ)ของอาจารย์ เรียกท่านว่า บาทหลวง (ในศาสนาคริสต์) เพราะมีความสนิทสนม สามารถเข้าได้ถึงห้องท่านเลยทีเดียว
    สาเหตุที่ได้ศึกษา อ่านหนังสือพระพุทธศาสนาแล้วเกิดความเข้าใจดี ก็ของท่านบาทหลวงนี้แหละ ค้นห้องสมุดของท่าน ก็ไปเจอหนังสือเล่มดังกล่าว
    หนังสือตำราเป็นภาษาฝรั่งเศส โอ...เขาอธิบายดีมาก มีคำพูดคำโวหาร ก็เข้าใจดี เหมือนกับอ่านวิสุทธิมรรคนั่นแหละ แต่เป็นเหตุผลภาษาธรรมดาๆ และก็เข้าใจง่าย
    ดูอย่างในปัจจุบันนี้ซี...ทำไมคนไทย อยู่กับพระพุทธศาสนาอยู์ใกล้ครูบาอาจารย์ ทำไมจึงไม่ค่อยจะเข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าก็มิทราบ ?
    เวลาพวกฝรั่งเขาได้อ่านตำราเป็นภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษทั้งที่เขาไม่เคยเห็นพระสงฆ์ ไม่เคยรู้จักประเพณีเลย ครั้นได้อ่านตำราพุทธศาสนา ทำไมเขาเข้าใจได้ ?
    อันนี้แหละ ทำให้อาตมาคิดพิจารณาและก็มั่นใจว่าพวกต่างชาตินั้น ถ้าจะไปสอนหลักพระศาสนากับเขาละก็อย่า - อย่าไปสอนเขาเลยไม่สำเร็จผลหรอก
    แต่ที่สอนเขาได้ก็เพราะเขาภาวนาไม่เป็นเท่านั้น ที่เขาสนใจขณะนี้คือ การภาวนา
    ส่วนนักเทศน์ นักอะไรๆ นั่น อย่าเลย ! เขารู้ดีหมดแล้ว ไม่สำเร็จ !
    ดังนั้น หลังจากได้ศึกษาเล่าเรียนมา ก็สนใจมากในเรื่องภาวนากรรมฐานนี่ชอบใจ อยากพิสูจน์ให้สำเร็จด้วยดี
    นี่ชีวิตสมัยนักเรียนนะ ได้ศึกษาเล่าเรียนมาทั้งทางโลก และก็ทางธรรม ควบกันมาตลอด ทำให้เข้าใจหลักพระพุทธศาสนาพอสมควร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 7289.jpg
      7289.jpg
      ขนาดไฟล์:
      97.6 KB
      เปิดดู:
      645
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 มีนาคม 2007
  2. อักษรชนนี

    อักษรชนนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +2,144
    ๑๒๕
    การเข้ามาทางธรรม
    พระอาจารย์บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต ท่านศึกษาเล่าเรียนมาระดับสูงจากต่างประเทศ มีความรู้ดีทั้งภาษาฝรั่งเศส และภาษาอังกฤษ จบมาแล้วท่านได้ทำงานในกระทรวง และถูกย้ายให้ไปประจำอยู่ที่จังหวัดหนองคาย ทำให้ท่านได้เข้าสู่ทางธรรม ดังที่ท่านเล่าให้ฟัง ดังนี้ : -
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 17356.jpg
      17356.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.5 KB
      เปิดดู:
      253
  3. อักษรชนนี

    อักษรชนนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +2,144
    ๑๒๖
    เห็นหลวงปู่ชอบครั้งแรก
    ท่านพระอาจารย์บุญฤทธิ์ ท่านสละชีวิตราชการตั้งแต่ยังหนุ่มแน่น นำตัวเข้าบวช ณ วัดศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย เมื่อบวชแล้วท่านก็แสวงหาครูอาจารย์ผู้สอนกรรมฐาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 17665.jpg
      17665.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.8 KB
      เปิดดู:
      263
  4. อักษรชนนี

    อักษรชนนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +2,144
    ๑๒๗
    ไปจำพรรษากับหลวงปู่ชอบ
    <TABLE id=table2 align=left border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>
    ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    หลังจากได้พบพระป่าที่วัดเจดีย์หลวงในครั้งนั้นแล้ว พระอาจารย์บุญฤทธิ์ ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ท่านเล่าเรื่องต่อไป ดังนี้ : -
    อาตมาเดินทางกลับกรุงเทพฯ ได้มาพักอยู่ที่วัดบรมนิวาส
    ก็ที่วัดนี้ อาตมาได้มาพบกับท่านพ่อลี ธมฺมธโร ท่านมาพักถวายธรรมแด่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ติสฺสเถร (ติสฺโส อ้วน)
    วันหนึ่ง อาตมาหาโอกาสเข้าไปปรนนิบัติท่านพ่อลี ธมฺมธโร ก็ได้ถามขึ้นว่า
    “ท่านอาจารย์ครับ พระอาจารย์ชอบน่ะ คือใครครับผม?”
    “โอ ! นั่นแหละลูกศิษย์มีอภิญญาของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต....ถามทำไมล่ะ เคยเห็นท่านหรือ ?”
    อาตมาตอบท่านไปว่า “ครับ เคยเห็นท่านที่วัดเจดีย์หลวง... ถ้างั้นกระผมกราบลาท่านอาจารย์ไปเชียงใหม่อีก ขอไปปฏิบัติกับท่านอาจารยชอบ”
    กราบลาแล้ว ก็เป็นอันเก็บบาตร กลด สิ่งต่างๆ อีกครั้ง ขึ้นไปเชียงใหม่ ที่รีบเร่งเพราะได้ยินคำว่า “อภิญญา”
    เรื่อง อภิญญา ฌานสมาบัติ พระนิพพาน นี่ต้องใจมาก ก็เราบวชเข้ามาก็พึงหวังความจริงข้อนี้
    ก่อนออกเดินทาง ท่านเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส ท่านก็ทักท้วงว่า
    “อ้าว ! จะไปไหนละ นี่ก็จวนจะเข้าพรรษาแล้ว ท่านจะไปไหน ไม่อยู่จำพรรษาด้วยกันหรือไงกัน ?”
    อาตมาก็เรียนท่านไปว่า “กระผมจะไปจำพรรษากับท่านอาจารย์ชอบ ครับ !”
    “เฮ้ย ! เดี๋ยวก็ถูกหามออกมาจากป่าหรอกนะ ไข้ป่าจะเล่นงานเอา อย่าไปเลย”
    อาตมาไม่ฟังเสียง เดินทางแน่วไปเลย ขึ้นรถไฟไปเชียงใหม่ จิตใจเวลานั้นไม่มีการย่อท้อ หามออกจากป่าก็ช่าง ตายก็ช่าง ขอให้ได้ศึกษาอยู่กับท่านให้ได้อภิญญาก็แล้วกัน มันต้องเรียนเอาให้ได้
    ท่านพระอาจารย์บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต ท่านอยู่ในกรุง ทำงานเป็นข้าราชการหลายปี ชีวิตที่เคยอยู่ในความสะดวกสบาย มีน้ำมีไฟสะดวกทุกอย่าง ไม่เคยเดือดร้อนในการอยู่การกิน
    เมื่อต้องไปอยู่ป่าก็จะทำให้เกิดความลำบาก แล้วขณะนี้ ความตั้งใจของพระภิกษุหนุ่ม มุ่งสู่ป่าดงพงไพร ไปอยู่กับพระอาจารย์ผู้ยิ่งยงในการธุดงค์ ใช้ชีวิตแบบป่าๆ อยู่กับ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
    หลายคนตั้งปัญหาถามว่า “มันจะไหวหรือท่าน ? แน่ใจหรือท่าน ?”
    พระอาจารย์บุญฤทธิ์ บอกกับตัวท่านเองในขณะนั้นว่า “ไม่ลองจะรู้หรือ ! จะหามออกจากป่าอย่างสิ้นท่า หรือว่าจะอยู่ป่าอย่างสะดวกสบายเย้ยกิเลสตัณหา ก็จะรู้กันคราวนี้แหละ”
    พระอาจารย์ เล่าความรู้สึกและเหตุการณ์ในตอนนั้นว่า
    “ใครๆ เขาห้ามปรามกัน เพราะเกรงว่าอาตมาจะตายเสียก่อน เพราะถ้าไปอยู่กับท่านหลวงปู่ชอบ ละก็ต้องบุกหนักทีเดียว ท่านชอบไปอยู่ป่ากับพวกกะเหรี่ยงพวกยาง
    อาหารการกินก็ไม่ค่อยจะมี กินใบหญ้าใบไม้ แล้วก็ปลาร้าลูกหนูแดงๆ น่ะ
    อาตมาอยากได้อภิญญา ไม่ฟังเสียง แล่นไปจังหวัดเชียงใหม่ ก็ไปพบกับ หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม พระผู้มีพลังจิตสูงองค์หนึ่ง
    เวลานั้นอาตมาไม่รู้ ก็ได้รับการทักท้วงจากท่านว่า “อย่าเพิ่งไปเลย รอหน้าแล้งก่อนเถอะ เวลานี้อากาศชื้น ลำบากมาก เธอจะทนไม่ได้”
    ไม่ฟังเสียง ไปอย่างเดียว เดินทางไปถึงวัดป่าห้วยน้ำริน แวะกราบนมัสการ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ท่านก็ห้ามอีกว่า “อยู่ที่นี่ก่อน อย่าเพิ่งไป !”
    แหม...อาตมาไม่ฟังเสียงท่านผู้เป็นครูบาอาจารย์เลย ตั้งใจไปให้ได้ไม่ย่อท้อ ลำบากก็ช่าง เป็นการทรมานตัวเอง ที่มีโอกาสพบท่านที่วัดเจดีย์หลวงอยู่แล้ว แต่ก็พลาดโอกาสเมื่อวันวิสาขบูชา มิหนำซ้ำยังนึกปรามาสท่านเสียอีก
    ฉะนั้น ต้องทำโทษตัวเอง ทรมานให้มันรู้สึกที่ไม่รู้จักอะไรเป็นอะไร
    นั่น คิดอย่างนั้น ก็ทำให้เกิดกำลังใจจะเดินทางไปกราบท่านให้จงได้
    ญาติโยมได้กราบเรียนถามถึงความยากลำบากในครั้งนั้นรวมทั้งก่อนพบองค์หลวงปู่ชอบนั้น ท่านมีความเคารพศรัทธามากน้อยแค่ไหน
    พระอาจารย์บุญฤทธิ์ ท่านเล่าดังนี้ : -
    “อ้าว! ก็จิตมันรู้ได้ทันทีว่า ที่ครูบาอาจารย์ท่านทักท้วงมาตั้งแต่กรุงเทพฯ จนมาถึงเชียงใหม่ ท่านผู้เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ก็ทักท้วงอีก ทำให้อาตมายิ่งแน่ใจในปฏิปทาของท่านหลวงปู่ชอบ ว่าจะต้องเป็นชีวิตที่ลำบากยากแค้นมาก และสถานที่ที่ท่านไปอยู่บำเพ็ญภาวนานั้นจะต้องเป็นสถานที่กันดาร ไปมาลำบาก ขึ้นเขาลงห้วย ยากตลอดทั้งไปและอยู่ทีเดียว
    อาตมาคิดปลงตก ตายเป็นตาย ขอไปตายกับท่านเพื่อเอาอภิญญาให้ได้ จะได้รู้ว่าคนมีอภิญญาน่ะมันเป็นลักษณะไหนกันแน่..."
    ๑๒๘
    สภาพความเป็นอยู่ที่ผาแด่น
    พระอาจารย์บุญฤทธิ์ เล่าเรื่องการไปอยู่จำพรรษากับ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่ ผาแด่น อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ในครั้งนั้นต่อไป ดังนี้
    “...เออ! มันชอบใจคำว่า อภิญญา ท่านพ่อลีพูดจบ อาตมาก็อยากมาให้ถึงเชียงใหม่เลย
    โอ! ก็เป็นดังที่เขาเล่าลือกันจริงๆ อาตมาดั้นด้นไปจนพบกับท่าน...
    ครั้งนั้นอาตมาไปพบท่านที่ผาแด่น ก็กะอุบายไว้ว่า ไปพบกับหลวงปู่ท่านให้เข้าพรรษาพอดี เพื่อว่าท่านจะได้ไล่เราหนีไม่ได้ ก็มันเข้าพรรษาแล้วนี่นะ
    วางแผนก็ลงล็อกเลยโยม ท่านก็รู้ด้วยจิตแน่ๆ ท่านเห็นหน้าก็ยิ้ม พูดนิดๆ หน่อยๆ
    จากนั้นท่านก็แนะให้ไปพักเลือกเอาสถานที่เหมาะๆ อยู่ภาวนากับท่าน...”
    พระอาจารย์พูดถึงสภาพของผาแด่น ดังนี้ : -
    “เคยได้ยินแต่คนอื่นเล่าถึงความทุกข์ยากลำบากกันดารก็ได้พบครั้งนี้เอง
    ความจริงแล้วมันลำบากยิ่งกว่าคิดเสียอีก โอ...รสชาติมันเหลือหลาย
    อาตมาได้ไปเรียนรู้หมดแล้ว โยมคงไปไม่ไหวนะเวลานี้ (ท่านเล่าให้ฟังเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐) ที่ภูผาแด่น ปัจจุบันมันก็ดีมากแล้ว ไม่ลำบาก ความเจริญคงเข้าถึงกันหมด ไม่มีความยากลำบากเช่นครั้งก่อน
    ตอนนั้น มันสามารถจะทำได้ ปฏิบัติได้ ก็เพราะว่าศรัทธาในองค์ท่าน และก็คิดจะปฏิบัติให้ได้อภิญญาด้วยนะ สู้สุดชีวิตเลย
    เออ ! มันสบายดีเหมือนกัน ถ้าหากเราสามารถปล่อยวางได้...”
    “ระยะแรกที่ได้ไปอยู่ในป่าดงพงไพร โดยเฉพาะที่ผาแด่น มีความยุ่งยากลำบากและกันดาร
    ก็เหมือนตอนเช้า อาตมาเดินตามหลังหลวงปู่ไปบิณฑบาตจากชาวบ้าน ซึ่งก็เป็นพวกยาง เป็นชาวบ้านป่ากลุ่มหนึ่ง ที่เชิงเขา
    ได้รับอาหารบิณฑบาตที่เขาใส่มา ก็อาตมาเป็นพระชาวกรุงนี่ เห็นครั้งแรกก็แทบสะอึก
    อะไรรู้ไหมล่ะ ?
    อาหารเขาง่ายๆ นะ เขาเอาบอนมาปอก แล้วก็ตำกับน้ำ เอาเกลือใส่ปะแล่มๆ บ้าง ใบไม้บางชนิดตำกับเกลือ ใส่น้ำขลุกขลิกบ้าง
    เกลือกับพริกตำแล้วเอาน้ำใส่โหรงเหรง ดูแล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะเอารสชาติแบบไหนกัน
    บางคราวไปเจอเอาลูกหนูหมักดองด้วยเกลือ เขานำเอามาปรุงอาหารแต่ละครั้งก็เหม็นคลุ้งไปหมด
    แรกๆ อาตมารู้สึกพะอืดพะอม มองดูหลวงปู่ท่านนั่งฉันหน้าตาเฉย เอ ! จะทำอย่างไรดี
    ข้าวเหนียวนั้นไม่มีปัญหาอะไรหรอก กับข้าวนี่ซี มันแสนจะทรมาน ที่สุดก็กล้ำกลืนฉันบ้าง
    หลวงปู่ชอบ ท่านสอนเสมอๆ ว่า “อาหารบิณฑบาตได้มาก็ฉันไปตามมีตามได้ ฉันพอประทังให้ธาตุขันธ์อยู่ได้ ก็นับได้ว่าดีแล้ว มีพลังในกาบำเพ็ญธรรมต่อไป”
    เอาละ – คิดอย่างนั้นนะ ท่านฉันได้ เราก็ต้องฉันได้ !
    อาตมาฉันได้ประมาณหนึ่งเดือน ธาตุขันธ์มันไม่เคย ท้องร่วงถ่ายตลอดทั้งเดือน
    ทำไงดี?นอนหอบซี่โครงบานๆ มันอ่อนเพลีย ถ่ายมากเหลือเกิน แต่ก็ไม่เป็นไร สู้ได้ !
    วันหนึ่งพวกยางเขาทำพิธีอะไรก็ไม่รู้ในหมู่บ้านเขา เสร็จแล้วงานนี้มีไก่มาถวายเป็นอาหาร พอได้ไก่มา หลวงปู่ท่านก็สั่งพระที่อยู่ด้วยว่า
    “เก็บไว้ให้บุญฤทธิ์ ยามาแล้วคราวนี้”
    ท่านพูดแล้วให้พระไปตามอาตมา ซึ่งพักปักกลดอยู่ก็ไกลพอสมควร เดินไปมาหากันราวๆ กิโลเมตรกว่าๆ
    อาตมาเดินมารับไก่นั้นเป็นอาหารเช้าในวันนั้น
    มันก็แปลกมาก พออาตมาฉันไก่ที่หลวงปู่บอกว่าเป็นยา อาตมาก็ฉันหมด โรคท้องร่วงก็หายมาตั้งแต่บัดนั้นเลยทีเดียว
    อันนี้เป็นเรื่องอัศจรรย์มากนะ เออ! ไก่เป็นยาก็ดีเหมือนกันนะโยม”
    ๑๒๙
     
  5. อักษรชนนี

    อักษรชนนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +2,144
    เดี๋ยวจะมาต่อตอนที่สองนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 7453.jpg
      7453.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.6 KB
      เปิดดู:
      102
    • 17394.jpg
      17394.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.8 KB
      เปิดดู:
      122
  6. อักษรชนนี

    อักษรชนนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +2,144
    เกศาหลวงปู่บุญฤทธิ์ ครับ ได้รับแจกในวันสรงน้ำแสดงมุฑิตาจิตท่านครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 7452.jpg
      7452.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.8 KB
      เปิดดู:
      119
  7. Fullmoonman

    Fullmoonman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +1,221
    โมทนาครับ

    ผมก็ไปงานมุฑิตาหลวงปู่บุญฤทธิ์มา อยู่ใกล้ด้วยดีมากครับ..บรรยากาศสวนทิพย์ก็ดีมาก..แต่ก่อนก็ไม่รู้จักหรอกครับรู้จักทางเวปแล้วรู้ว่ามีการทำบุญตักบาตรพระกรรมฐานที่ธรรมศาสตร์รังสิตก็ไปเลย...แล้วเห็นหลวงปู่ครั้งแรกก็เย็นวาบไปทั้งวัน..เป็นสังฆานุสติไปเลยจำภาพท่านได้ติดตาจนทุกวันนี้
     
  8. toottoo

    toottoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +3,255
    สาธุ ๆ ๆ

    พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไปทำบุญกราบหลวงปู่ที่วัดบรมฯ หลวงปู่มีสง่าราศีมาก เรียกว่ารัศมีจับเลยทีเดียว เย็นตาเย็นใจชุ่มชื่นใจ อันนี้คงจากพลังเมตตาเจโตวิมุตติของหลวงปู่โดยแท้

    [​IMG]
     
  9. จันทรุปราคา

    จันทรุปราคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +659
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยเทอญ

    รักหลวงปู่จริงๆ ท่านเคยเมตตามาที่บ้าน
    ที่ยังจดจำคือหลังจากท่านกลับไป...
    หมู่มวลดอกไม้ที่แห้งเพราะอากาศร้อน ชูช่ออกดอกไสว
    ต้นวาสนา5ต้นที่ว่าออกดอกยากหนักหนา ก็ผลิ-ดอกออกมาเป็นครั้งแรก
    5ช่อยาวย้วยหอมอบอวนไปหมด5กอ

    หวยงวดนั้นออก 55 เฮะๆ ไม่ได้ซื้อ
    (f)
     

แชร์หน้านี้

Loading...