ประชาสัมพันธ์ งานไถ่ชีวิต วัว – ควาย ประจำปี ๒๕๕๔ ปีที่ ๒๐

ในห้อง 'ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสัตว์' ตั้งกระทู้โดย กองธรรมพระศรีฯ, 26 ธันวาคม 2010.

  1. กองธรรมพระศรีฯ

    กองธรรมพระศรีฯ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +31
    “กองธรรมพระศรีอารย์ กองธรรมนำสุข พ้นทุกข์นิพพานัง”<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ประชาสัมพันธ์ งานไถ่ชีวิต วัว – ควาย ประจำปี ๒๕๕๔ ปีที่ ๒๐ <o:p></o:p>
    ณ จังหวัดนครพนม (อำเภอศรีสงคราม อำเภอบ้านแพง) วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๔<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    กองธรรมพระศรีอาร์ยฯขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมในการช่วยชีวิตวัว-ควายที่จะถูกฆ่าจากโรงฆ่าสัตว์ เพื่อมอบให้เกษตรกรอำเภอบ้านแพง ตำบลนาเข (หมู่ ๒) จังหวัดนครพนม ในวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๔๔<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    แม้ว่าบ้านเมืองจะตกอยู่ในสภาพที่เรียกว่า ข้าวยากหมากแพง การทำมาหากินฝืดเคือง ผู้คนทุกข์ยากลำบากทั่วทั้งแผ่นดิน แต่งานช่วยชีวิตก็ยังคงดำเนินต่อไป เพราะเราไม่เคยตั้งเป้าว่าปีหนึ่งจะได้เงินบริจาคเท่าไร? ต้องช่วยชีวิตได้กี่ตัว? ดังนั้นใครที่ยังมีความสามารถจะทำได้ และมีความตั้งใจก็ทำต่อไป ใครมีน้อยก็ทำน้อย หรือร่วมอนุโมทนาไป เพราะชีวิตที่จะถูกฆ่า และที่จะรอดก็ยังรอความช่วยเหลืออยู่ เพียงแค่หนึ่งชีวิตก็มีค่ามาก จนไม่มีอะไรเปรียบแล้ว หากสามารถช่วยให้เขารอดได้แบบตลอดรอดฝั่ง ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ผมได้ทำอยู่และจะพยายามรักษาไว้ตลอดไป<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การประชาสัมพันธ์ มี ๒ ทางคือ ๑. ส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งมีอยู่ ๑,๗๐๐ รายชื่ออยู่ทั่วประเทศ และต่างประเทศ ๒. ทางอินเตอร์เน็ต นับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ จนถึงต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ ใช้เวลา ๒ เดือนเศษ ก็จะมีการบริจาคผ่านเข้ามาทางบัญชี โดยการผ่านธนาคารและทางธนานัติ และบางท่านก็รวบรวมฝากกันมาให้ถึงสถานที่ทำการกองธรรมพระศรีอาร์ยฯ<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผมจะนำเงินบริจาคที่ได้มาซื้อวัว-ควายออกจากโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตอำเภอศรีสงครามมี ๒ โรง ในปีใหม่คือปี ๒๕๕๔ จะทดลองเปลี่ยนที่ซื้อเป็นโรงฆ่าสัตว์อำเภอใกล้เคียงดูบ้าง ซึ่งก็ต้องไปสำรวจและสืบดูอีกครั้ง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ขั้นตอนการไปซื้อออกจากโรงฆ่าสัตว์เป็นจุดสำคัญ (Climax) ของเรื่อง เพราะจะไปเจอวัว-ควายในสภาพและสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่กดดันจิตใจ ยิ่งไปซื้อในเวลากลางคืน ใกล้เวลาที่เขาจะฆ่าก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันมากขึ้น การจะเข้าไปโรงฆ่าไหนต้องดูขนาดจำนวนวัว-ควายให้มันใกล้เคียงกับเงินที่เรามีอยู่ <o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    มีอยู่ครั้งหนึ่งที่จังหวัดลำปาง ผมเข้าไปในโรงฆ่าสัตว์อำเภอห้างฉัตร ไปเจอวัวพ่อพันธุ์ที่เขาขนมาขาย รูปร่างสวย มันยืนน้ำตาไหลอยู่ตัวเดียวบนรถปิ๊กอั้บที่ขนมา เขาเอามาขายเพราะว่า ให้มันผสมพันธุ์จนอวัยวะเพศอักเสบ แล้วไม่ยอมรักษาเพราะเป็นเรื่องยุ่งยากและค่าใช้จ่ายสูง และใช้มันจนคุ้มทุนแล้ว เลยเอามาขายให้โรงฆ่าสัตว์ ผมซื้อออกมาพร้อมตัวอื่นๆและตั้งใจจะรักษามันเต็มที่ไม่ว่าจะเสียค่าใช้จ่ายเท่าไร? ให้ชาวบ้านเลี้ยงไว้ พยายามติดต่อคณะสัตวแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลสัตว์เพื่อทำการผ่าตัด เขาล้มลงนอนอยู่เป็นอาทิตย์ด้วยความทรมาน ไม่ทันได้ผ่าตัดก็ตายเสียก่อน ขณะที่อยู่ในโรงฆ่าไข้ขึ้นสูงตลอด เราก็ได้แต่ให้ยาแก้ปวด แก้อักเสบ ในที่สุดเขาไม่กินอะไรแม้แต่น้ำ ทนไม่ไหวตายก่อน ซึ่งผมก็รู้สึกโล่งใจ เพราะการตายบางทีคือการปลดปล่อยเขาจากภพเดรัจฉาน หมดเวรเสียที ส่วนเรื่องไปเจอวัวท้องแก่บ้าง ควายแม่ลูกอ่อนจะเข้าสู่โรงเชือด เจอกันเมื่อไรผมก็ไม่เคยปล่อยให้หลุดไปทุกครั้ง จะต้องต่อรองกันจนถึงที่สุด แต่ท่านทั้งหลาย ผมอยากให้ท่านลองเข้าไปนั่งในใจของเขาแล้วคิดว่าถ้าเป็นเรา มันจะรู้สึกอย่างไร? คิดให้ละเอียด ช้าๆ ใช้ความรู้สึกมากกว่าความคิดว่า ถ้าเราถูกกระทำเช่นนั้นจะรู้สึกอย่างไร? สิ่งเหล่านี้มันเหมือนยาเสพติดที่อยู่ในหัวใจของผม เมื่อฤดูแห่งการยื้อชีวิตคือ เดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม มาถึง ผมจะรู้สึกว่า ภารกิจของเราเริ่มแล้ว ผู้ที่รอคอยก็กำลังรอคอยอยู่ มันเป็นงานที่สำคัญและยิ่งใหญ่กว่างานทั้งหลายทั้งปวง ที่ผมพร้อมที่จะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ราคาวัว-ควายทุกวันนี้พุ่งสูงจนน่าตกใจ เป็นเพราะเหตุว่า ทางฝั่งลาวด้านตรงข้ามกับจังหวัดมุกดาหาร คือสุวรรณเขต มีโรงงานผลิตเนื้อกระป๋องส่งไปจำหน่าย ยุโรป อเมริกา จึงมีพ่อค้ามากว้านซื้อ ส่งข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่โรงเชือดนี้ ทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นมาก และยิ่งเรามาซื้อในโรงฆ่าสัตว์ ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะมันไม่ใช่ที่ซื้อ มันเป็นที่สำหรับฆ่า เขาจึงโก่งราคาเราเต็มที่ แต่ผมคิดอยู่เสมอว่า เราไม่ได้มาค้ามาขาย เรามาช่วยชีวิต มาฉุดกระชากความเป็นความตาย ซึ่งก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่าต้องเจอสภาพนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การต่อรองก็ยังต้องมีอยู่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็มีจุดอ่อนในตัวเองบนเวทีของการต่อรองซื้อชีวิต จุดอ่อนของเราคือความเมตตาสงสาร เมื่อเหยียบเข้าไปในโรงฆ่าใด้แล้วเรื่องไม่ซื้อไม่มี จุดอ่อนของเจ้าของโรงฆ่าสัตว์คือ ความโลภ ราคาที่เขาเสนอมาเราก็รู้ว่าเขาบวกมาเต็มที่ หากเราไม่ตกลง เขาก็เสียดายใจแทบขาด เพราะจะหาคนซื้อแทนเรา ไม่มี<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ผมยอมรับว่าผมทนไม่ได้ เมื่อเข้าไปแล้วมองเห็นวัว-ควาย แต่ตกลงราคาไม่ได้แล้วเดินออกมา มันเป็นสิ่งที่ทรมานจิตใจ ในบางครั้งบางตัวสื่อความรู้สึกกับเราได้ เขาแสดงออกอย่างชัดเจนเหมือนเป็นคน เช่นหลายปีมาแล้วที่โรงฆ่าสัตว์อำเภอเถิน จังหวัดตาก แม่ควายท้องแก่น้ำตาไหลพรากมาคุกเข่าคู้ขาหน้าลงขอชีวิตเบื้องหน้า ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองในภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า ลำคอตีบตันเป็นอย่างไร? ก็รู้จักดีในวันนั้นเอง นี่แหละคือเหตุแห่งการเกิดมโนปณิธานที่จะทำงานนี้จนชีวิตจะหาไม่<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เรื่องในโรงฆ่าสัตว์มันมีมากเกินกว่าจะพรรณา เราจะพูดแบบสรุปได้ไหมว่า ที่สุดแห่งความชั่วคือการฆ่า ที่สุดของความเลวเท่าที่มนุษย์จะทำได้ เมื่อซื้อแล้วก็ควรรีบขนออกมาให้หมดทันทีจะเป็นการดีที่สุด เพราะหากไปซื้อกลางคืน เช้าท่านจะเจอรุ่นใหม่เข้ามาอีก มีอยู่ครั้งหนึ่งที่โรงเชือดของนาย<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:smarttags" /><st1:personName w:st="on" ProductID="สมาน อำเภอศรีสงคราม">สมาน อำเภอศรีสงคราม</st1:personName> เราตกลงซื้อไว้หมดแล้วตอนกลางคืน พอเช้าผมไปขนออก เจอรุ่นใหม่มีควายแม่ลูกอ่อนมา ๑ คู่ ลูกมันอายุประมาณไม่เกิน ๒ เดือน มันยืนชะเง้อมองรถขนควายของเราออกจากคอกในโรงฆ่าจนสุดสายตา ภาพนี้ไม่ได้หลุดสายตา ผมมองเขาอยู่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีเสียง ภายนอกนั้นเงียบงัน แต่ภายในใจนั้นดังโครมคราม ผมขนจนเสร็จแจกเรียบร้อย ขับรถกลับกรุงเทพฯเย็นนั้น ภาพแววตาควายแม่ลูก สองตัวนั้นตามรบกวนผมตลอดการเดินทาง จนเมื่อเวลาประมาณ ๔ ทุ่มเศษ ผมขับรถถึงอำเภอปากช่อง ผมทนความรู้สึกที่เสียดแทงจิตใจนี้ไม่ได้อีกต่อไป จึงโทรศัพท์หาอาจารย์สมานชัยกลางดึก ปลุกเขาขึ้นมาแล้วขอให้ช่วยไปเจรจาซื้อควายแม่ลูกคู่นี้ในวันรุ่งขึ้น เราช่วยได้แต่ลูกของมัน แม่มันไปเสียตั้งแต่คืนนั้นแล้ว ผมต้องการจะโอบเขาทั้งสองมือ แต่บางครั้งมันก็อยู่ปลายมือ กรรมได้ลิขิตไว้เช่นนั้น<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    นี่คือเรื่องของการซื้อวัว-ควาย เมื่อผ่านขั้นตอนนี้มาแล้วก็มาสู่การแจกชาวบ้านที่ได้รับการคัดเลือกในด้านของความซื่อสัตย์และความพร้อมที่จะดูแล เช่น คอก สถานที่เลี้ยง คนเลี้ยง เป็นต้น สิ่งที่เป็นปัญหาที่ต้องมาจัดการคือ วัว-ควายที่เราซื้อมาจากโรงฆ่าก็มีทั้งวัว-ควายแก่ เป็นหมัน ป่วย ดุ ดื้อเลี้ยงยาก ตัวผู้ เป็นต้น ซึ่งเวลาเราซื้อเราไม่มีคำว่าเลือก ทุกชีวิตมีค่าหมด ส่วนใหญ่เป็นประเภทที่มนุษย์ผู้มีใจสูงทั้งหลายไม่ต้องการ ส่วนผู้รับนั้นเล่า ใครก็อยากได้ แต่ควายตัวเมียที่ยังเป็นสาวไม่เป็นหมัน เป็นแม่พันธุ์ที่ดีพร้อมจะตกลูกให้ทุกปีจะได้มีรายได้ หากไม่ท้องตามธรรมชาติก็หาวิธีผสมเทียมจนท้อง ส่วนตัวผู้และทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมา ไม่มีใครอยากได้ ซึ่งต้องมาแก้ปัญหากันต่อไป เช่น ใครได้ตัวผู้ หรือตัวเมียเป็นหมัน ปีหน้าแถมตัวเมียสาวๆให้หนึ่งตัว บางทีถึงขนาดต้องจ้างเลี้ยงกันเป็นปี เช่น วัวแก่, วัวตัวผู้ เป็นต้น ก่อนแจกก็ต้องเซ็นสัญญาระหว่างผู้ให้ผู้รับ ซึ่งมีสาระสำคัญคือ ตัวเมียแม่ + ลูกตัวที่หนึ่ง หรือ คู่แรกอาจมีตัวผู้ด้วย + ลูกตัวที่หนึ่ง ผู้รับต้องเลี้ยงไปจนตลอดชีวิต ห้ามฆ่า ห้ามขาย เป็นต้น และทำการฝังไมโครชิฟที่บริเวณด้านซ้ายใต้ผิวหนังช่วงคอ และบันทึกตัวเลขไมโครชิพไว้ในสัญญา ซึ่งเป็นประวัติวัว-ควายไปพร้อมกัน และเป็นสิ่งจำเป็นในการติดตามผลการตรวจสอบจำนวน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การไปตรวจเยี่ยม นอกจากไปตรวจดูจำนวนว่าครบไหม? เป็นตัวเดียวกันหรือเปล่า เพราะเคยปรากฏว่าแอบเอาตัวใหญ่ไปขาย แล้วซื้อตัวเล็กมาแทน จะดูจำนวนอย่างเดียวไม่ได้ เวลาไปตรวจเยี่ยมต้องเอาแพทย์อาสาไปด้วย พบเจ็บป่วยต้องรักษา โรคที่พบบ่อยคือ โรคพยาธิ ท้องอืด เท้าเปื่อย เขาก็เจ็บป่วยเป็นทุกข์เหมือนเรา แต่พูดไม่ได้ ยาของเขามีอย่างเดียวคือ ทน ทน ทน ไปเจอบางคอกไม่มีหลังคา ก็ต้องเจรจาให้แก้ไข ท่านลองคิดดูว่าเวลาฝนตก วัวควายถูกผูกไว้ยืนตากฝนทั้งคืน มันจะเป็นอย่างไร? ทำอย่างไรก็ให้ได้เจอแบบนั้นแหละ เรียกว่า กฎแห่งกรรม เกิดไปภพหน้าฉันใด บุคคลเหล่านี้ไม่มีที่หลบแดดหลบฝน เป็นทุกข์เดือดร้อนตลอดไป<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สำหรับการตรวจเยี่ยมครั้งสุดท้ายที่ผมเดินทางไป เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๓ ใช้เวลา ๖ วัน ได้รับความสำเร็จ ผมรู้สึกปลื้มใจ ดีใจ ไม่ต้องให้ใครมามอบรางวัล เพราะพบว่าพวกเขามีความสุข เห็นวัว-ควาย ๒ ตัวแม่ลูกนอนชะเง้อคออยู่ในสระน้ำหลังอาคารเรียนโรงเรียนบ้านเอื้องก่อนาดี มองดูผมอย่างมีความสุข รู้สึกเป็นสุขที่ช่วยเขาได้จริง ทุกจุดที่ไปตรวจอยู่ครบเรียบร้อยดี สะดวกสบายไม่เท่ากันตามวาสนาของใครของมัน <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การติดตามผลกับการติดตามปัญหาเป็นงานเดียวกัน ไม่มีวันจบสิ้น ไม่เกิน ๓ เดือนก็ต้องตรวจเยี่ยมกันครั้งหนึ่ง นี่แหละที่เรียกว่ายาก เงื่อนไขสำคัญที่รักษาชีวิตไว้ได้คือสิ่งนี้ หากเราทอดทิ้งให้เขาแก้ปัญหากันเอง ผู้รับก็จะกล้าขายวงเวียนชีวิต วัว-ควายก็จะเข้าสู่วงจรเดิมคือ เข้าไปอยู่ในโรงฆ่าตามเดิม<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    วัว-ควายของเราเวลานี้มีอยู่ใน ๑๗ โรงเรียน ๖ อำเภอของจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ในการดูแลของสำนักงานเขตการศึกษาเขต ๒ อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม และอีก ๖ หมู่บ้าน อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม คือ หมู่ ๑ – หมู่ ๖ ปี ๒๕๕๔ นี้จะปล่อยวัวควายให้หมู่ ๒ ตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนมเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีความพร้อม และประสานงานง่ายสะดวกในการตรวจสอบ และสำหรับการไถ่ชีวิตปี ๒๕๔๔ ที่จะถึงนี้ จะมีการแจกทุนการศึกษาให้นักเรียนโรงเรียนบ้านเข อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนมด้วย<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การที่ผมสามารถช่วยชีวิตเขามาได้ก็ดี สามารถติดตามดูแลจนพวกเขามีชีวิตรอดมีความสุข และการที่ได้ช่วยผู้ด้อยโอกาศที่ได้รับประโยชน์จากวัว-ควายก็ดี เป็นเพราะได้รับความร่วมมือจากทุกท่านในหลายด้าน โดยเฉพาะการบริจาคเงิน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    “บุญใด กุศลใด อันเกิดขึ้นในครั้งนี้ ขอทุกท่านที่มีส่วนร่วมและช่วยเหลือผลักดัน จงมีส่วนในอานิสงค์นี้ ให้เห็นผลทันตา หากความเกิดยังมีอยู่เพียงใด ขอให้เกิดทันศาสนาพระศรีอาริยเมตไตรย์ด้วยเทอญ”<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    การประชาสัมพันธ์จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ เป็นต้นไป และจะรวบรวมเงินต้นเดือนมีนาคมเดินทางไปซื้อ ในวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๔ ที่จังหวัดนครพนม จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ท่านใดต้องการปกป้องชีวิตจากการฆ่าปลดปล่อยพวกเขาสู่อิสรภาพให้มีชีวิตใหม่ที่มีความสุขและได้รับการดูแลตลอดไป ร่วมบริจาคได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๔<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    โอนเข้าบัญชี ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอโศก ประเภทบัญชีออมทรัพย์<o:p></o:p>
    เลขที่บัญชี 032-2-58355-6<o:p></o:p>
    ชื่อบัญชี นายพงษ์ชัยทัศน์ วณิชย์กุล เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตไตรย์<o:p></o:p>
    โทร 0-2261-1313, 08-0613-3397 โทรสาร 0-2261-1313<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสุขุมวิท 23 ประเภทบัญชีออมทรัพย์<o:p></o:p>
    เลขที่บัญชี 204-1-19819-5<o:p></o:p>
    ชื่อบัญชี นายพงษ์ชัยทัศน์ วณิชย์กุล เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตไตรย์ <o:p></o:p>
    โทร 0-2261-1313, 08-0613-3397 โทรสาร 0-2261-1313<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หรือ สั่งจ่ายธนาณัติ นายพงษ์ชัยทัศน์ วณิชย์กุล 18/6 ซอยสุขุมวิท 23 <o:p></o:p>
    แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 ปณ. ประสานมิตรเท่านั้น<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>
    หลังจากการไถ่ชีวิตโค-กระบือ จะมีการรายงานผลถึงจำนวนวัว-ควาย ยอดเงินบริจาค ปัญหา อุปสรรค และรายละเอียดค่าใช้จ่ายอีกครั้งเช่นที่ทำมาทุกปี<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    “กองธรรมพระศรีอารย์ ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข”<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    รายชื่อผู้ร่วมรับผิดชอบโครงการ<o:p></o:p>
    • อ.สมานชัย สุวรรณอำไพ ผู้ประสานงาน 089-710-9953<o:p></o:p>
    • อ.ศิริศักดิ์ หาดทวายกาญจน์ รองผอ.สำนักงานเขตการศึกษา เขต ๒ จังหวัดนครพนม<o:p></o:p>
    081-973-6574<o:p></o:p>
    • นายพิภพ เรือนหลวง สัตวแพทย์อาสา 083-347-9027, 087-305-9929<o:p></o:p>
    • นายโง่น เจ้าของโรงฆ่าสัตว์ 081-675-3787<o:p></o:p>
    • นายสมาน เจ้าของโรงฆ่าสัตว์ 081-369-3755<o:p></o:p>
    • นางประหยัด นันทเสน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๒ ตำบลนาเข 086-019-0817<o:p></o:p>
     
  2. suppysuppy

    suppysuppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +9,812
    ขอร่วมทำบุญด้วย 40 บาทค่ะ

    รายการที่ 1110RR2132F5B0
    วัน-เวลาที่ทำรายการ 28/01/2554 - 17:21:32
    สถานะ สำเร็จ
    วัน-เวลาที่หักบัญชี 28/01/2554 - 17:21:32
    เลขที่บัญชีผู้รับเงิน 0322583556
    จำนวนเงิน 40.00 บาท
    ค่าธรรมเนียม 0.00 บาท

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...