ปรมาจารย์แห่งนิกายเซนคือ...

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย piyaa, 27 พฤศจิกายน 2009.

  1. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    พระโพธิธรรม


    <table class="noprint metadata plainlinks ambox ambox-content" style=""><tbody><tr><td class="mbox-image">
    </td><td class="mbox-text" style="">
    </td> </tr> </tbody></table> [​IMG] ภาพพระโพธิธรรม วาดโดยโยะชิโตชิ (ค.ศ. 1877)


    พระโพธิธรรม (สันสกฤต: โพธิธรฺม, เทวนาครี बोधिधर्म; อักษรโรมัน (NLAC): bōdhidharma; จีน: 菩提達摩, พินอิน: Pútídámó , Dámó; เวด-จิลส์ : Tamo; ญี่ปุ่น : ダルマ ดะรุมะ; เวียดนาม: Bồ-đề-đạt-ma) แต่ในนิยายกำลังภายในเรียก ตักม้อ หรือ ตั๊กม้อ เป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา นิกายมหายาน มีประวัติไม่ชัดเจนนัก แต่เชื่อกันว่ามีตัวตนอยู่จริง และเป็นผู้สถาปนาวัดเส้าหลิน ในจีน ทั้งยังได้เผยแพร่วิชามวยจีนในหมู่พระเณรของวัดเส้าหลิน จนมีชื่อเสียงมาจวบจนทุกวันนี้
    ตำนานระบุว่า ท่านเกิดเมื่อราว พ.ศ. 520 เดิมเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 3 ของพระเจ้าแผ่นดิน แคว้นคันธารราช ประเทศอินเดีย ใกล้เมืองมัทราสในปัจจุบัน มีนัยน์ตาสีฟ้า ตั้งแต่พระชนอายุยังเยาว์ ทรงปราดเปรื่องและแตกฉานในคัมภีร์ของทุก ๆ ศาสนา ตลอดจนวรรณคดี อักษรศาสตร์โบราณ นับเป็นปราชญ์เอกแห่งยุค
    เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ พระองค์สามารถนั่งฌานสมาบัติชั้นสูง อยู่เบื้องพระบรมศพของพระบิดานานตลอดถึง 7 วัน หลังจากนั้น จึงไปศึกษาแสวงธรรมอยู่กับพระปรัชญาตาระเถระ ผู้เป็นพระสังฆปรินายกองค์ที่ 27 และเป็นพระธรรมทูต เดินทางไปเมืองจีน เมื่อราว ค.ศ. 526 ได้เดินทางไปยังเมืองกวางตุ้งของจีน เข้าเฝ้าจักรพรรดิอู่ตี้ และไม่นานต่อมาได้ก่อตั้งอารามขึ้นในเมืองลั่วหยาง และใช้เวลาปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานถึง 9 ปีในการเพ่งผนังถ้ำ
    ฝ่ายมหายาน ถือว่าพระโพธิธรรมเป็นพระมหาเถระองค์ที่ 28 ที่สืบสายโดยตรงมาจากพระพุทธเจ้า และยังเป็นผู้สถาปนานิกายเซนขึ้นด้วย และเนื่องจากคำสอนของท่านจะเน้นไปที่การเข้าฌาน แนวทางคำสอนของท่านจึงมักจะเรียกกันว่า ฌาน (สันสกฤต : [ธฺยาน] ध्यान : dhyan ) ในภาษาจีนเรียกว่า 'ฉาน' และภาษาญี่ปุ่นว่า 'เซน'
    ประวัติชีวิตของท่านมักจะถือเป็นตำนาน ขาดหลักฐานที่แน่นอน เช่น ตำนานหนึ่งเล่าว่า ท่านได้ตัดหนังตาทิ้ง เนื่องจากโมโหที่เผลอหลับไปขณะทำสมาธิ เมื่อหนังตานั้นตกถึงพื้น ก็เติบโตกลายเป็นต้นชา และตำนานยังเล่าต่อว่า ด้วยเหตุดังกล่าวภิกษุนิกายเซนจึงนิยมดื่มน้ำชา เพราะจะได้ไม่ง่วงเวลาทำสมาธิ
    ท่านมรณภาพเมื่อ พ.ศ. 1079 และมีการสร้างสถูปขึ้นในเมืองเหอหนาน ภายหลังรัชสมัยจักรพรรดิไท่จง ในราชวงศ์ถั
     

แชร์หน้านี้

Loading...