ปฏิบัติธรรม ศีลต้องบริสุทธิ์หรือไม่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 道教พินอิน, 8 ตุลาคม 2008.

  1. 道教พินอิน

    道教พินอิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +510
    มีหลายคนบอกว่า การที่จะปฏิบัติธรรมได้ศีลต้องบริสุทธิ์จริงหรือเปล่าครับ
     
  2. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ถ้ายังรักษาศีลได้ไม่ตลอดเวลา ก็เอาแค่ระยะเวลาที่เราปฏิบัติก่อนก็ได้จ้า

    หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ขยับขยาย ทำแล้วไม่ฝืนตัวเอง ทำแล้วสบายใจ

    จะทำได้นาน ไม่ต้องฝีนตัวเองมากจ้า
     
  3. ForeverYoung

    ForeverYoung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +135
    การปฏิบัติธรรมสามารถเริ่มได้ทุกขณะเลยครับ แม้แต่ในขณะที่เรายังมีศีลไม่บริสุทธิ์ก็ตาม
    เพราะการปฏิบัติธรรมคือการกระทำเพื่อจะลดละเลิกกิเลสที่มีอยู่ในตน
    ทุก ๆคนล้วนเป็นคนที่เคยกระทำความผิดมาแต่เดิมด้วยกันทั้งนั้น การเริ่มกระทำดีจากจุดที่ต่อมาจากการกระทำที่ไม่ดีนั้นสามารถทำได้ เหมือนการก้าวเดินบันไดขั้นแรก สามารถจะต่อขึ้นไปก้าวที่สองได้
    ท่านที่ยังไม่ได้อยู่ในศีลก็ขอให้เพียรทำให้ศีลบริบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ จนได้อย่างน้อยมีศีลของมนุษย์คือศีลห้า
    ส่วนการปฏิบัติเพื่อทางหลุดพ้นนั้น ย่อมมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการดูแลศีลของตนให้บริบูรณ์ เพราะศีลเป็นสิ่งที่ทำให้ห่างไกลจากกิเลส
    ก็ อรหโตไงครับ ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ยิ่งห่างไกลจากกิเลสเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าไกล้คำสอนของพระพุทธองค์มากยิ่งขึ้น ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเป็นเรานั่นแหละครับ
     
  4. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,094
    ศีลทั้ง 5 ข้อแรก ต้องปฏิบัติให้บริสุทธิ์ เป็นอย่างน้อย และไม่เรียกว่าหักดิบเลย

    เพราะ เรื่องเล็กน้อยทางกายที่จะห้าม และมีเจตนาทางใจเป็นใหญ่

    ไม่งั้น ผล การปฏิบัติ นั้นจะสูญเปล่าไปครับ หรือ ไม่ได้อะไรดีขึ้น

    ...สำหรับ อย่างผู้ที่มีอาชีพฆ่าสัตว์ หละครับ คิดว่าต้องทำอย่างไรดี

    อันนี้เลือกเอาเองละกันครับ เพราะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นครับ ชีวิตใครๆก็รัก

    และแค่ศีล 5 เรายังไม่มีปัญญารักษา เรื่อง ตัดกิเลส หรือ ความก้าวหน้า

    ของสมาธินี่ ไม่ต้องพูดถึงเลย

    อนุโมทนาครับ
     
  5. เกิดมาหล่อ

    เกิดมาหล่อ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +0
    ถูกต้อง
     
  6. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ขึ้นอยู่กับความเศร้าหมองที่เกิดขึ้นในการไม่ละศีลนั้น บางทีความเศร้าหมองที่เกิดขึ้น หากพิจารณาโดยแยบคาย ก็หาเหตุของทุกข์เจอเหมือนกัน ^-^
     
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    จริง

    เช่น

    นั่งสมาธิ ถ้าคุณ นั่งสมาธิไป แล้ว ยกซดไป กึ่มไป แบบนี้ไม่ได้

    แต่ถ้าเมื่อเย็นวานต้องพาลูกน้อง ลูกค้าไปสังสรรตามหน้าที่ ก็ต้อง
    ดื่มๆมา แต่วันนี้สร่างเมาแล้ว ณ เวลานี้คุณไม่ได้ดื่มอีก ตอนนี้
    คือจังหวะที่ศีลบริสุทธิอยู่ ก็ทำสมาธิได้

    จะเห็นว่า เรื่องศีล ไม่ใช่เรื่องที่ทำผิดแล้ว เราจะต้องเอาใจไป
    คิด ไปครองว่า ฉันเป็นคนทุศีล โดยตลอดจนตัดโอกาสตัวเอง

    ตอนที่สังสรร ต้องทานเหล้า ตอนนั้นให้รู้ตัวว่าศีลขาด ใจเศร้าหมอง
    ลงให้รู้ แต่ต้องเอนเทอร์เทนต่อได้ ไม่ใช่กินเหล้าไปหัวเราะกับเพื่อน
    แต่น้ำหูน้ำตาไหลเพราะห่วงใยศีล

    หลังจากเลิกสังสรร ตอนนี้จังหวะชีวิตสามารถดำเนินศีลได้ ก็ให้รักษา
    ศีล ณ เวลานี้ไปเลย ถ้าหากมีศีลบริสุทธิอยู่ในปัจจุบัน ก็เอาเวลาขณะ
    นั้นแหละปฏิบัติธรรม

    ศีล จะต้องใช้ในขณะปฏิบัติธรรม แต่ต้องเข้าใจว่า มันเป็นเรื่อง ขณะ
    หรือ ช่วงเวลา ในช่วงหนึ่งๆ อย่าไปเล็งผลเลิศว่าจะต้องดีทั้งชีวิต ไม่
    ตกบกพร่อง ไปเห็นความเที่ยง แล้วหมายให้เที่ยงเสียก่อนจะศึกษาจบ

    ความเที่ยงแท้ นั้นจะมาหลังจากการศึกษาจบ หากกำลังศึกษาอยู่อย่าไป
    ถือมั่นจนไปทำอะไรให้มันเที่ยง นั้นคือโดนกิเลสหลอก นั่นคือผิดศีลอยู่
    เรียกว่า สัลลัพตปรามาส

    * * * *

    แต่ถึงอย่างไร ศีล ก็จำเป็นมาก หากตอนสังสรร ก็อย่าให้เกินเลยไป
    มาก ไปเห็นว่า โอ้หนอตอนนี้รักษาศีลไม่ได้แล้ว ไหนๆ ก็ไหนๆ ไป
    เสพกามสุขเพิ่มเติมแบบนี้แหละจะแย่ ผิดศีลอยู่ก็ต้องเอาแต่พอดี อย่า
    ให้เกินเลยไปมาก เพราะตอนจะตัดเข้ามรรคผล สิ่งที่ทำไม่ดี ที่ผิดศีล
    เอาไว้มันจะผุดขึ้นมาให้เห็นในรูปแบบต่างๆ เพื่อขวางกั้นไว้ ดังนั้น หาก
    ทำไว้เยอะ สะสมไว้เยอะ ก็จะมีสิ่งรกรุงรังที่ต้องก้าวข้ามเยอะเป็นเงาตาม
    ตัว
     
  8. นิรันตรพินทุ

    นิรันตรพินทุ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +10
    เห็นกระทู้นี้นานแล้ว แต่ไม่อยากแสดงความเห็นอะไร

    เพราะว่า ในมุมของผมแล้ว ศีลก็คือการปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว
    เลยเห็นว่าคำถามชวนเข้าใจผิด

    ลองมองว่า ศีลคืออะไรกันบ้างสิ
     
  9. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อ้อ ขอต่ออีกนิด สำหรับคนที่เข้ามาอ่าน แล้วเป็นลักษณะพวกเล็งผลเลิศ

    ก็อาจจะเข้าใจผิด เรื่อง การอดมรรคผลนิพพาน

    รู้สึกว่า กรรมหนัก ที่ปิดการได้รับ มรรคผลนิพพาน นั้นมีแต่ กรรมหนัก 4 อย่าง
    เท่านั้น เช่น ทำสังฆ์แตกแยก ทำปิตุฆาติ ทำมาตุฆาติ ทำร้ายพระพุทธเจ้า
    อันนี้ก็ตรองดู แต่ถ้าอ่านให้ชัดๆนะ

    นี้ขนาดกรรมหนักสุดหนักนะ ยังตัดรอนได้แค่ การได้มรรคผล ไม่ได้ ห้ามการ
    ปฏิบัติเลยแม้แต่น้อย

    คิดอีกรอบ ก็แปลว่า ปฏิบัติไปเหอะ ถ้าต้องการปฏิบัติ ก็ปฏิบัติได้ทันที มีความ
    สุขกับการได้ปฏิบัติก็พอนิ ไม่เห็นต้องเลงผลเลิศเลย

    ถ้าหากปฏิบัติแล้ว ใจเล็งอยู่ที่ผล ให้รู้ลงปัจจุบันไปเลยครับว่า มีอยาก หรือ
    ตัณหาแทรกอยู่ รู้เฉยๆ นะ อย่าไปเกลียดใจตัวเอง ตามรู้ตามดูเนืองๆ แบบ
    เฉยๆ จิตมีโลภะ ให้รู้ว่า จิตมีโลภะ รู้ไปซื่อๆ แบบนี้ก็ยกการปฏิบัติได้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2008
  10. รถถัง

    รถถัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +12

    เห็นด้วยครับเพราะเรายังไม่ใช่พระอริยะเจ้าจึงไม่สามารถถือศีลเป็นอัตโนมัติอย่างท่านได้
     
  11. kikinlala

    kikinlala เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    4,939
    ค่าพลัง:
    +8,843
    ..คำถามคงไม่ค่อยเคลียร์ เข้าใจว่าไปปฏิับัติธรรมนะ ก็ต้องมีศีล 5 (ขึ้นไป) ให้ครบ
     
  12. bigboom007

    bigboom007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +570
    จากคำสอนของครูบาอาจารย์หลายๆท่าน บอกว่าคนจะปฏิบัติธรรมนั้นก็เพื่อกำจัดกิเลสอย่างหยาบ ศิล5 ก็เข้าข่ายกิเลสอย่างอยาบ จึงต้องปฏิบัติมิฉะนั้นก็ไม่ใช้นักปฏิบัติครับ คุณต้องเข้าใจคำว่าการปฏิบัติเพื่อกำจัดกิเลส ตัณหา โมหะ โทสะ ไม่ใช้เพื่อพอกพูนกิเลส ตัณหา โมหะ โทสะ
     
  13. 道教พินอิน

    道教พินอิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +510
    ขอบคุณครับ พอดีผมมีศีลแล้วครับ แต่ชอบทลึ่งหน่อยครับ เลยไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่ครับผม
     
  14. ผู้รู้แจ้ง

    ผู้รู้แจ้ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +42
    มนุษย์ที่รู้เท่าทันจิต จะไม่ปฏิบัติอะไรที่ทำให้เป็นบาป ... หากวันนี้ตามจิตไม่ทัน ให้ตามให้ทัน แล้วจึงปฏิบัติ...
     
  15. มหาญาณทศภูมิ

    มหาญาณทศภูมิ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +1
    การรักษาศีลให้บริสุทธิ์ทำได้ค่อนข้างยาก สำหรับผู้ที่ยังละสีลัพตปรามาสไม่ได้ ศีลจึงด่างพล้อยบ้างเป็นธรรมดา แต่ในขณะที่มีการเจริญภาวนา ศีลจำเป็นต้องบริสุทธิ์ เพื่อการสัมปยุตขององค์มรรค
     
  16. 道教พินอิน

    道教พินอิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +510
    เอ้าเว้าแปลกๆ หุหุหุ มาแนวไหนเนี่ย
     
  17. mongkut

    mongkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +251
    ไม่มีใครศีลบริสุทธิ์ ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติธรรมหรอกนะครับ

    การปฏิบัติธรรมก็คือการทำให้ ทาน ศีล ภาวนา มีกำลังบริสุทธิ์นั่นเอง
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ต้องถามก่อน ศีล บริสุทธิ์ คืออะไร คืออย่างไร เราอาจจะคิดว่า ต้องถือศีล 5 ครบ
    ถือ ศีล 8 ครบ คำถามก็คือ แล้วถือศีลเท่าไรกันแน่จึงจะเรียกว่า บริสุทธิ์

    ความเป็นจริงแล้ว ความบริสุทธิ์ ของศีล นั้นมีอยู่ ตลอดเวลาแต่เราไม่เห็นมันเอง
    ตัวอย่างเช่น นั่งอ่านข้อความกระทู้ตอนนี้ ก็บริสุทธิ์ เพราะไม่ได้ไป ฆ่าใคร ไม่ได้ไปลักขโมย ไม่ได้ไปกินเหล้ายา ไม่ได้ไปโกหก
    รวมถึง บริสุทธิ์กว่า ศีล 8 เสียอีก เพราะยังไม่ได้ไปทำอะไรละเมิดศีล 8 เลย
    รวมถึง บริสุทธิ์ กว่า ศีล 225 ของพระเสียอีก เพราะยังไม่ได้ไปละเมิดศีลอะไรเลย

    เพราะฉะนั้น ความบริสุทธิ์ของจิตใจ นี้เราให้ดูในปัจจุบันกาล แต่สิ่งที่จะไม่บริสุทธิ์ คือ เมื่อ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เคลื่อนไปสัมผัสกับสิ่งภายนอก ทำให้เกิดกิเลส ที่กระเพื่อมขึ้นมา
    เช่น นั่งอยู่เฉยๆ ก็ปกติดี พอตาไปเห็น ภาพ ยั่วยุในอินเตอร์เน็ต ก็เกิดกิเลสขึ้น
    นั่งอยู่เฉยๆ ก็ปกติดี ไปอ่านข้อความ ไม่ถูกใจ ก็โมโหขึ้น ก็นำไปสู่การโต้แย้ง
    นั่งอยู่เฉยๆ ดีๆ นึกอยากสนุก ก็ไปจิบเบียร์ดื่มสุรา

    นี่ ใจเดิม นั้นที่ปกติของเรามีอยู่ตลอดเวลา แต่เราไม่พิจารณาไม่สังเกตุมันเอง

    ทีนี้ ก็เมื่อทราบดีว่า ศีลนั้น จิตใจคนมีศีลอยู่แล้ว แต่ หลงไปตามสิ่งเร้าภายนอก
    เพราะฉะนั้น การจะปฏิบัติธรรม ก็ควรเลือก ตอนที่ จิตใจ ไม่ได้โดนสิ่งเร้าใดๆ
    เมื่อไม่โดนสิ่งเร้า แล้ว เราก็อย่าเร้าตัวเองด้วยการ คิดไปจินตนาการไป นั่งอยู่เฉยๆ ดีๆ ก็จินตนาการไปเรื่องที่ไม่ดี จินตนาการคิดไป ในเรื่องที่เป็นอกุศล แบบนี้ก็เรียกว่า ใจไม่ปกติเช่นกัน ก็ไม่มีศีลเพราะตัวเอง เร้าตัวเอง พอไม่เร้าตัวเอง จิตใจของเราก็นิ่งอยู่ ตั้งมั่นอยู่

    ก็เกิดอะไร ก็เกิด องค์สมาธิ ขึ้นมา นี้จึงเรียกว่า ศีล เป็นพื้นฐานให้สมาธิ

    ก็ขออธิบายให้ฟังเท่านี้ แต่ให้ทวนอ่าน แล้วพิจารณาให้เข้าใจ แล้ว ทำศีล หรือ สังเกตุศีลที่อยู่ในใจที่มีอยู่แล้วของตนให้ดี
     
  19. 道教พินอิน

    道教พินอิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +510
    อาจารย์ขันธ์ลืมอะไรไปหรือป่าวครับผม ดูดีๆนะ อย่าลืมนะ
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    คุณ เราไม่ต่างกัน เวลาผมพูดอะไร ผมไม่เคยแก้ไข และกลับคำ ไม่จำเป็นต้องลืมหรือจำอะไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...