ปฏิบัติธรรม...ข้ามปี “เจริญสติรับปีใหม่”

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย aprin, 15 ธันวาคม 2010.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศในห้องนิพพานชิมลอง ซึ่งพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เป็นผู้นำในการร่วมกันภาวนาเจริญสติ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    กิจกรรมยอดฮิตในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลายต่อหลายคนคงไม่พ้นปาร์ตี้ กิน ช้อป ท่องเที่ยว แต่ที่สวนโมกข์กรุงเทพฯ มีอีกทางเลือกมาชวนฉลองด้วยการสวดมนต์และเจริญสติภาวนาข้ามปี ณ วัด ศาสนสถาน หรือศูนย์กลางชุมชนทั่วทั้งประเทศ ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ถึงเช้าวันที่ 1 มกราคม 2554

    สำหรับงาน “เทศกาลเจริญสติรับปีใหม่...ชีวิตใหม่” จัดขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 ปี

    นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า วธ.ได้กำหนดให้ปี 2554 เป็นปีแห่งความสุขของปวงชนชาวไทย มีการส่งเสริมให้ประชาชนได้ประกอบศาสนกิจตามศรัทธาและศาสนาของตน เฉพาะพุทธศาสนิกชนนอกจากจะสนับสนุนส่งเสริมให้มีการประกอบศาสนกิจในวันพระ และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแล้ว ในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ ได้กำหนดให้เป็นเทศกาลส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ด้วยการสวดมนต์เจริญสติที่วัด ศาสนสถาน และชุมชนทั่วทั้งประเทศไทย พร้อมกับจัดให้มีการสวดมนต์ภาวนาเจริญชัยมงคลตามมหาวิหารสำคัญ

    ด้านพระอาจารย์ มิตซูโอะ คเวสโก ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการจัดงานครั้งนี้ ว่า เป็นสิ่งที่ดีที่จะได้ปล่อยวางสิ่งเก่าๆ และความรู้สึกที่ไม่สบายใจ ทำให้จิตใจทั้งหลายได้เริ่มต้นด้วยจิตใจที่ดี เพราะถ้าได้ปฏิบัติธรรมก็จะมีแต่บุญกุศลและเป็นประโยชน์ โดยที่วัดป่าสุนันทวนาราม บ้านท่าเตียน จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการปฏิบัติธรรมข้ามคืนในวันปีใหม่และวันสำคัญในพระพุทธศาสนาเป็นประจำทุกปี

    “เราต้องนึกถึงพุทธภาษิต ว่า ให้เคารพความเพียร แม้แต่นาทีเดียวก็มีคุณค่า แค่ปฏิบัติคืนเดียวยังมีประโยชน์มากกว่าไม่ได้ปฏิบัติเลยเป็นร้อยปี ถ้ายังไม่เคยปฏิบัติยิ่งดี ลองปฏิบัติสักครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าทำได้ดีเราก็จะภูมิใจและอยากจะปฏิบัติต่อไปในภายภาคหน้า” พระอาจารย์ มิตซูโอะ แนะนำวิธีคิดสำหรับผู้ที่เริ่มปฏิบัติ

    อาจารย์ ผ่อง เซ่งกิ่ง หัวหน้าชุมชนบ้านช่าง เป็นหนึ่งในศิลปินของกลุ่มจิตรกรไทย บอกว่า ถ้าได้เข้ามาปฏิบัติแล้วก็จะเป็นประโยชน์ อย่างน้อยจิตก็จะสงบ เพราะปกติเราวุ่นวายกันทุกวัน โดยเฉพาะในโลกบริโภคนิยม วัตถุนิยม ถ้าจิตได้หยุดบ้าง หยุดเที่ยวหนึ่งวัน หยุดบริโภคหนึ่งวัน อยู่กับตัวเองสักหนึ่งวัน เพราะคนเราตกอยู่ในอำนาจของความคิด ท่านพุทธทาสฯ หรือพระอาจารย์ต่างๆ ท่านก็สอนมาโดยตลอดให้อยู่กลมกลืนกับโลก ไม่ไปละโมบ ไม่ไปเบียดเบียน ซึ่งเมื่อได้ปฏิบัติก็จะได้รู้จักตนเอง บางทีคนเราอยู่ในโลกปัจจุบันไม่ค่อยได้รู้จักตนเอง

    “ถ้าเราพูดถึงการปฏิบัติธรรมจะฟังดูเป็นศาสนธรรมมาก จะดูแข็ง กระด้าง บางคนก็ไม่เข้าหาเลย แต่เราบอกว่าให้รู้จักตัวเอง ให้รู้จักหยุด ให้รู้จักอยู่กับที่ ก็จะทำให้นิ่ง เมื่อนิ่งก็จะมีสมาธิ การมีสมาธิก็จะทำให้เริ่มรู้จักตัวเอง เรียกว่า มีสติแบบชิมลางก็ได้นะ แล้วความวุ่นวายก็จะลดลง ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ต้องเริ่มจากตัวเองก่อน” อาจารย์ ผ่อง อธิบายถึงการปฏิบัติ ส่วนอาจารย์ อลงกรณ์ หล่อวัฒนา ศิลปินอีกท่านของกลุ่มจิตรกรไทย เป็น 1 ใน 14 ท่าน ที่ได้มีส่วนในการวาดภาพจิตรกรรมปริศนาธรรมประจำสวนโมกข์กรุงเทพ พ.ศ.2553 บอกว่า การได้ทำสมาธิเหมือนการได้เริ่มต้น เราจะเห็นความคิดเรา เห็นลมหายใจเรา ตัวสติจะเป็นตัวเห็น พอเห็นจะเกิดตัวรู้ ตัวรู้นี้ถ้าเราฝึกฝนไปบ่อยๆ เขาเรียกว่าปัญญา

    “ถ้าเราฝึกบ่อยๆ ตัวจิตที่ได้รับการฝึกฝนจะดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างสมัยก่อนจะเป็นคนขี้โมโห โมโหทีสามสี่วัน เพราะเรามีอัตตาในตัวเรา พอเราฝึกมาเราก็รู้ว่าโกรธแล้วตัวเองเป็นทุกข์ จึงเริ่มมีสติว่าแล้วเราจะทำอย่างไรดี เลยคิดว่าต้องโกรธให้น้อยลง พอเราเริ่มรู้ตัว จากที่โกรธเป็นวันจึงลดลงเป็นชั่วโมง จากนั้นก็ทันกัน พอจะโกรธเลยเริ่มรู้ตัวว่าโกรธ ความโกรธจึงสั้นลง” อาจารย์ อลงกรณ์ ทิ้งทาย

    ทั้งนี้ หากผู้ใดสนใจ ขอเชิญร่วมงาน “เทศกาลเจริญสติรับปีใหม่...ชีวิตใหม่” ระหว่างวันที่ 16-21 ธันวาคมนี้ ที่สวนโมกข์กรุงเทพ (บริเวณสวนรถไฟ) มีกิจกรรมทางพุทธศาสนาต่างๆ ที่น่าสนใจ เป็นเสมือนการชิมลางปฏิบัติธรรม ก่อนที่จะสวดมนต์เจริญจิตภาวนาข้ามปี รายละเอียดกิจกรรมในแต่ละวันติดต่อได้ที่ 0-2936-2800 หรือทาง www.bia.or.th

    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000175807
     
  2. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    ร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี รับศักราชใหม่ด้วยการเจริญสติ

    นับเวลาถอยหลังในวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 31 ธ.ค. 53 – 3 ม.ค. 54 เพื่อร่วมเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับศักราชใหม่ หลายคนต่างเตรียมคิดหาสถานที่ร่วมกิจกรรมอันเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต สวนโมกข์ กรุงเทพฯ ซึ่งได้ร่วมกับหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ กรุงเทพมหานคร กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และโครงการศูนย์สื่อ ศิลปะ มหรศพเพื่อปัญญา โดยการสนับสนุนของ สสส.จัดงานเทศกาลเจริญสติรับปีใหม่... ชีวิตใหม่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสปีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ ปี ระหว่างวันที่ 16 – 21 ธ.ค. 53

    ตลอดงานยังมีนิทรรศการแนะนำเส้นทางและ 50 สถานที่ปฏิบัติธรรมทั่วไทย รับปีใหม่...ชีวิตใหม่ , ติดตั้งและสมโภช “ภาพกิจกรรมฝาผนังปริศนาธรรมชุดใหญ่”ของสวนโมกข์กรุงเทพ, แสดงภาพจิตกรรมไทยชุดงอกเงยด้วยธรรม งดงามด้วยศิลป์, เสวนา ดนตรี ละครบันเทิงธรรม จากหลายศิลปิลป์ และหมู่คณะ, การเลือกหาหนังสือธรรมะ จากหลากหลายสำนัก, ทำบุญหนังสือดี สื่อธรรมะแด่น้องน้อย ให้กับห้องสมุดในพื้นที่ประสบภัย

    รวมทั้งยังมีพระอาจารย์ฝึกสอนและนำเจริญจิตภาวะนาอาทิ พระโสภณ ฉันทธัมโม จากสวนธรรมะสากล สงขลา , พระศรีญาณโสภณ ปิยโสภณ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก กทม. , คณะปฏิบัติธรรมวัดแห่งสติกับหมู่บ้านพลังประเทศไทย, พระราชปัญญาวิสารัท (หลวงพ่อเหลือง) วัดกระดึงทอง บุรีรัมย์, พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) สถาบันวิมุตตยาลัย กรุงเทพฯ ฯลฯ

    เทศกาลเจริญสติ... รับปีใหม่ ... ชีวิตใหม่ ในช่วง 1 สัปดาห์ที่พุทธสนิกชนจะได้เดินทางเข้ามาปฏิบัติธรรมเจริญภาวนา ในห้องนิพพานชิมลอง หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ เพื่อเปิดรับรับสิ่งดีๆเติมเต็มความสุขที่แท้จริงให้กับชีวิต และร่วมเจริญจิตภาวนาข้ามปี ณ วัด ศาสนสถาน หรือศูนย์กลางชุมชนทั่วประเทศ ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.53 ต่อเช้าวันที่ 1 ม.ค.54

    “ท่านพระอาจารย์พุทธทาส ได้กล่าวอวยพรพรว่า ปีใหม่ทั้งทีขอให้มีชีวิตใหม่ อย่าให้อายหัวเผือกหัวมัน เพราะหัวเผือกหัวมันพอข้ามปี หัวมันก็ยังโตขึ้น เราเกิดเป็นมนุษย์ ทั้งทีต้องทำให้ดียิ่งขึ้น สมกับความเป็นมนุษย์ ทุกคืนวันที่ 31 ธ.ค. ท่านจะบอกว่ามาร่วมกันแล้วสวดมนต์ภาวนาให้นึกถึงว่าปีที่ผ่านมาได้ทำอะไรบกพร่องไว้ก็ต้องจะไม่ทำอีก อยากทำอะไรสิ่งดีๆก็ต้องตั้งใจมุ่งมั่น”นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการหอจดหมายเหตุฯกล่าว

    กฤษศพงษ์ ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวว่า ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ กระทรวงวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2554 นี้ถือว่าเป็นปีมหามงคล เพราะต้องการให้ทุกศาสนาได้ประพฤติ ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอน ความเชื่อที่เคราพนับถือ เป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดมาตั้งแต่อดีตเพื่อให้สอดคล้องกับขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ กระทรวงฯจัดทำต้อนรับปีใหม่ด้วยวิธีพุทธ เมื่อเราทำสิ่งใดก็ตาม เราจะนึกถึงสิ่งที่ดีงามเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ที่ผ่านมาเรามักจะลืมเลือนสิ่งที่ล้ำค่านี้ไป แต่ไปยึดฉลองปีใหม่กับความเฮฮา ดื่มสุรา ซึ่งล้วนและผิดศิลธรรมทั้งสิ้น

    กระทรวงฯโดยกรมการพุทธศาสนาต้องการที่จะผลักดันให้วันที่ 31 ธ.ค. นี้ เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยการเจริญภาวนาข้ามปี เพื่อเตือนสติของตนว่าสิ่งที่ทำมาเป็นอย่างไรบ้าง และจะเกิดการแก้ที่จุดไหนต่อไป สนับสนุนให้เริ่มศักราชใหม่ด้วยการให้ 30 , 000 วัดทั่วประเทศร่วมสวดมนต์ข้ามปีด้วย เพื่อเตือนสติในชีวิตใหม่ นำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าเราไม่มีหลักธรรมในใจ ความหายนะก็จะตามมา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทรวงฯได้กระตุ้นให้เด็ก เยาวชน เห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว

    “ส่วนวัดในกรุงเทพมหานคร ได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ในเทศกาลเจริญสติ... รับปีใหม่ ชีวิตใหม่ เพื่อต้องการให้คนในกรุงเทพฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการฝึก ปฏิบัติและร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพราะเชื่อว่าบุญกุศลจะช่วยให้ชีวิตเรามีความเจริญรุ่งเรืองได้”เจตน์ โศภิษฐ์พงศธร โฆษกกรุงเทพมหานครกล่าว

    ผอ.เยียรยงค์ ไชยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพกล่าว อีกทั้งยังมีในส่วนของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) หลายคนได้โทรศัพท์มาสอบถามกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่า มีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง สถานที่ไหนน่าสนใจ มีโปรแกรมเที่ยวอย่างไร ทุกคำถามล้วนได้ยินแต่เรื่องเที่ยวทั้งนั้น อาจจะเป็นคำถามตามมาว่า จะไปเที่ยวที่ไกลๆให้เหนื่อยทำไม เราหากิจกรรมดีๆทำเพื่อต้อนรับปีใหม่ จะเห็นได้ว่าในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ทุกปี กรุงเทพฯจะกลายเป็นเมืองร้าง หลักจากได้มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่ผ่านมาแล้วนั้นยอดของประชากรในเขตกรุงเทพฯล้วนลดลงครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งเป็นการหมุนเวียนเศรษฐกิจของประเทศ

    ในปีนี้จึงอยากให้เข้ามาร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ปฏิบัติธรรม และยังได้รับคำอวยพรจากท่านพระอาจารย์พุทธทาสว่า ปีใหม่นี้ขอให้ได้รับสิ่งดีๆที่มนุษย์พึ่งจะได้รับ

    ภายในงานนั้นยังมีตัวแทนกลุ่มจิตกรไทยรวม 14 คนที่ร่วมถ่ายทอดเรื่องราว แฝงด้วยหลักธรรมทั้งสิ้น อาทิ ภาพตากับยาย ซึ่งเป็นศิลปะไทย , พระเจ้าสร้างโลก, รามะธิเบตร ลิงล้างหู ฯลฯ ที่ร่วมนำมาจัดแสดงในงานด้วย

    ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของหน่วยงานต่างๆแล้วยังมีโอกาศได้รับพรดีๆเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ต้อนรับเทศกาลปีใหม่จากพระอาจารย์มิตซูโอะ ควาสโก วัดป่าสุนันทวนาราม บ้านท่าเตียน จ.กาญจนบุรี ได้อธิบายว่า ชีวิตของเรานี้เป็นทุกข์ได้เกิดจากเหตุการณ์ที่ทำให้เราไม่สบายใจล้วนมีปัจจัยดังต่อไปนี้ ความแก่ เจ็บ และ ตาย ของเรา ญาติพี่น้อง บุคคลรอบข้างซึ่งผลที่ปรากฏในปัจจุบันเรียกว่ากรรมเก่า พ่อ แม่ พี่ น้อง ประเทศชาติ เหตุการณ์ต่างๆล้วนเป็นสิ่งที่ปรารถนา และไม่ปรารถนา โดยเฉพาะมนุษย์มักคิดถึงแต่ความไม่สบายใจ เราไม่ควรหวั่นไหวต่อเรื่องราวต่างๆ ไม่ยินดี ยินร้าย หมายความว่า พระพุทธเจ้าที่มีพรมวิหาร 4 เมตตา กรุณามุทิตา อุเบกขา ที่ตรัสรู้ ก็ย่อมหนีไม่พ้นสิ่งที่ไม่ปรารถนาได้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้เหมือนลมข้างกาย ถ้าเราใช้ชีวิตยอมรับกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ก็จะเกิดประโยชน์ ให้เข้าใจว่าอดีตล้วนเป็นเช่นนั้นเอง จงทำจิตใจให้อยู่กับปัจจุบันเป็น สันทิฏฐิโก

    ในความสุขที่แท้จริงแล้วนั้นพุทธศาสนิกชนทั้งหลายล้วนหวังเข้าสู่ นิพพาน เรียกได้ว่าเป็นความสุขที่แท้จริง จึงทำให้เกิดการเจริญภาวนาสติขึ้นอยู่สม่ำเสมอ เมื่อเปรียบเทียบกับความสุขที่ไม่แท้จริง จะหวนนึกคิดจมปักอยู่แต่เรื่องราวในอดีตและอนาคต แม้ว่าจะแสวงหาความสุขเป็นหมื่นเป็นแสนปี ก็จะไม่มีความสุข เราควรเอาใจใส่ในปัจจุบันให้มากที่สุดยึด อิทธิบาท 4 ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา เพิ่มการเจริญสติ

    สติเรารู้ในลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ไม่ควรที่จะไปยินดี ยินร้าย นั้นหมายถึง อย่านึกคิดและปรุงแต่ง คิดถึงความรู้สึกที่พอใจ และไม่พอใจ ใครจะนินทา สรรเสริญเราต้องทำใจให้สงบ เช่น หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ เราจะรับรู้สติด้วยลมหายใจเข้าออกทุกครั้ง สติปัญญาล้วนอยู่เหนืออารมณ์ รู้จักควบคุมความคิด ปล่อยวาง อารมณ์ที่สงบ

    อีกวิธีหนึ่งคือการนั่งสมาธินั้นเป็นการสัมผัสประสบการณ์ รัก เมตตา แก่ตนเอง หากคนไทยรวม 65 ล้านคนมีเมตตาในตนเองก็จะทำให้เราสบายใจ จงอย่าเข้าใจว่ารักตนเองคือการเห็นแก่ตัว เราต้องมีจิตใจที่แน่วแน่มี จิตใจที่สงบ ไม่ยินดียินร้ายต่อเรื่องใดๆ เพราะสมองของมนุษย์เปรียบเสมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อเราตั้งใจทำสมาธิเราก็ต้องปิดคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องคำนวณใดๆทั้งสิ้น ดั่งพระพุทธเจ้าท่านได้เปรียบเทียบเอาไว้ จิตของเรานี้อาศัยอยู่ในถ้ำ คือจิตของเราอยู่ในร่างกายต้องบังคับไม่ให้ออกไปนอกบ้าน คือไม่ให้คิด ไม่ยินดี ยินร้าย เรื่องในอดีต พยายามทำลมหายใจให้เป็น กัลยาณมิตร

    การทำจิตใจที่จะต้องเจริญอานาปานสติ เปลี่ยนเป็นผู้ที่มีเมตตา มีความรักตัวเอง วันนี้เรามีความรู้สึกรักคนนี้ คนนั้น บางคนก็ได้รับความเสียใจที่ไม่ได้รับความรักที่เราต้องการตอบแทนกลับมาชีวิตของเราก็จะเป็นทุกข์ เพระพยายามฝากชีวิตไว้กับคนอื่น ลองจินตนาการดูว่า เมื่อเราต้องการน้ำ แต่มีแต่น้ำแข็งก็ดี ใจที่ได้นำแข็งซึ่งเป็นสิ่งเดียวกัน น้ำแข็งพาความร้อนสัมผัสกับความร้อน น้ำแข็งก็จะละลาย ทุกข์อยู่ที่ไหนต้องเจริญสติ สัมปชัญญะอยู่ที่นั้น แทนที่เราจะส่งจิตออกไปข้างนอกเพื่อโกรธ ทุกข์ใจ ทำให้ไม่สบายใจ

    ไม่คิดน้อยใจ ไม่คิดโกรธ ไม่คิดกลัวไม่ขี้เกียจ ไม่ฟุ้งซ่านเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วก็พยายามควบคุมสติโดยการฝึกลมหายใจเข้า ลมหายใจออก สามารถปล่อยว่างละลายหายไปได้ตัวเราเอง จะพบกับความสุขได้ เพราะธรรมชาติของจิตใจของมนุษย์นั้นมีแต่ความสุขและสงบ

    เราต้องยิ้มน้อยๆ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ หายใจเข้าสบาย หายใจออกสบาย ทำใจสบายๆ เพื่อต้อนรับปีใหม่และปีต่อ ๆ ไป

    Daily News Online > สถานการณ์-ความคิดเห็น > ร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี รับศักราชใหม่ด้วยการเจริญสติ
     

แชร์หน้านี้

Loading...