บุโรพุทโธศูนย์กลางแห่งพลังจักรวาล

'บุโรพุทโธ'ศูนย์กลางแห่งพลังจักรวาล

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>'บุโรพุทโธ' ศูนย์กลางแห่งพลังจักรวาล</TD></TR><TR><TD vAlign=top>3 สิงหาคม 2550 22:01 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [/IMG] การเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียของคณะสงฆ์จ.ลำพูน ที่มีผมร่วมเดินทางไปด้วยนั้น เราบินไปกับสายการบิน "การูดา" อันเป็นสายการบินแห่งชาติของอินโดนีเซีย ออกจากสนามบิน
สุวรรณภูมิ เวลา ๐๒.๓๐ น. ใช้เวลาบิน ๓ ชั่วโมงก็ถึง สนามบินซูการ์โน-ฮัตตากรุงจาการ์ตาเมืองหลวงของอินโดนีเซีย สนามบินแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ท่านประธานาธิบดีซูการ์โนและท่านรองประธานาธิบดีฮัตตาซึ่งเป็นผู้นำในการเรียกร้องเอกราชจากประเทศเนเธอร์แลนด์
จากนั้นเราบินต่อด้วยสายการบินในประเทศของ "การูดา" เช่นกัน(การูดาแปลว่า"ครุฑ" อันเป็นตราสัญลักษณ์ของประเทศนี้)ใช้เวลาบิน ๑ ชั่วโมง ถึงสนามบินอะดิซุทจิปโต เมืองยอกจาการ์ตาอันเป็นเมืองที่ พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธประดิษฐานอยู่คณะของเราได้เข้าพักที่บ้านพักของลูกชายอดีตท่านสุลต่านรัฐนี้ ซึ่งเป็นบ้านพักขนาดใหญ่ มีห้องพักหลายห้อง บริเวณบ้านกว้างขวางมาก รวมทั้งมีผู้คอยบริการอีกหลายคน เรียกว่าสะดวกสบายกว่าพักตามโรงแรมมากทีเดียว
ที่น่าแปลกใจมากคือ ท่านเจ้าของบ้านแห่งนี้เป็นชาวมุสลิมแต่ท่านก็ไม่รังเกียจชาวพุทธอย่างเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีพระสงฆ์ไทย ๘ รูป ในคณะนี้ด้วย ท่านบอกว่าขอให้พักตามสบาย ถือว่าเป็นบ้านของเราก็แล้วกัน จะสวดมนต์ภาวนา หรือประกอบพิธีทางศาสนาอย่างไรก็ได้ ตามอัธยาศัย ขณะที่เราไปพักนั้น ท่านเจ้าของบ้านอยู่ที่บ้านพักอีกแห่งในกรุงจาการ์ตา
เมื่อพบกับบรรยากาศเช่นนี้ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นมาก และเท่าที่พบเห็นตามถนนหนทาง หรือตามสถานที่ต่างๆ ชาวอินโดนีเซียเป็นคนที่น่ารักมาก พวกเขาไม่มีความรู้สึกรังเกียจคนต่างชาติต่างศาสนา ทุกคนมีใบหน้าที่เป็นมิตรไมตรี ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา เวลาจะขอถ่ายภาพ เขาก็ยินดีให้ถ่าย โดยไม่มีการเบือนหน้าหนีกล้องแต่ประการใด ทำให้เรามีความสุขมาก ตลอดเวลาที่พักอยู่ในอินโดนีเซีย
เวลาของอินโดนีเซีย ไม่ต่างไปจากเวลาในเมืองไทย ฉะนั้น จึงไม่ต้องปรับเวลาแต่ประการใด ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ๑บาท เท่ากับ ๒๐๐ รูเปีย กินข้าวกันมื้อหนึ่งจ่ายเงินเป็นแสนขึ้นไปเรียกว่าเป็นเศรษฐีกันเลยทีเดียว พืชผักผลไม้ บ้านเรือนผู้คน ตลอดจนสภาพสิ่งแวดล้อมต่างๆ ดูแล้วก็ไม่แตกต่างไปจากเมืองไทย โดยเฉพาะเหมือนกับปักษ์ใต้บ้านเรา อย่างไรก็อย่างนั้น
การเดินทางมาสักการบูชา พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ ในครั้งนี้ก็เพื่ออัญเชิญวัตถุมงคล องค์จตุคามรามเทพรุ่น"ล้านนา" ชุดพิเศษพิธี "บุโรพุทโธ" เพื่อสมนาคุณแก่กรรมการผู้ร่วมทุนจัดสร้างประกอบพิธี อธิษฐานจิตขอพร ณ ฐานองค์ พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธที่เชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางแห่งพลังจักรวาลโดยเฉพาะในช่วงเที่ยงวันที่มีพระอาทิตย์อยู่ตรงปลายยอดพระมหาเจดีย์พอดี หากดูจากภาพมุมสูง จะเห็นว่า พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ องค์ใหญ่ที่อยู่ตรงกลางนั้นเหมือนกับพระอาทิตย์ มีดวงดาวต่างๆ ที่เป็นเจดีย์องค์เล็ก ตั้งเรียงรายเป็นวงกลม เป็นภาพที่เหมือนกับ จักรวาล ที่มีโลกของเราเป็นบริวารอยู่ด้วย
เหนือสิ่งอื่นใดที่นี่เป็นผลงานการสร้างขึ้นมาของ กษัตริย์ราชวงศ์ไศเรนทรา ผู้นับถือพระพุทธศาสนา ในสมัยศรีวิชัย เมื่อกว่า ๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว ซึ่งขณะนั้นพระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงสุด ก่อเกิดพลังศรัทธาอย่างมหาศาล ถึงกับสามารถสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ขึ้นมาได้ หากขาดพลังศรัทธาอันมหาศาลแล้ว ก็ย่อมจะไม่มี มรดกทางพระพุทธศาสนาที่ได้กลายเป็นมรดกโลกในทุกวันนี้
ที่น่าสนใจคือฐานพระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ มีภาพแกะสลักจากหินลาวา อายุกว่า ๑,๒๐๐ ปี เป็นภาพของ องค์จตุคามรามเทพจำนวนหลายภาพและหลายปางด้วยกัน การประกอบพิธีขอพรจากที่นี่จึงย่อมก่อเกิด "พลัง" อันศักดิ์สิทธิ์ประจุในองค์จตุคามฯ รุ่นนี้อย่างแน่นอน
จตุคามรามเทพ รุ่น "ล้านนา" พิธีบุโรพุทโธมีจำนวนสร้างเพียง ๙๙๙ องค์เท่านั้น ศรัทธาสนใจติดต่อได้ที่ วัดสันโป่ง อ.ลี้ จ.ลำพูน โทร.๐-๕๓๙๗-๙๕๕๖,๐๘-๙๗๕๕-๙๙๕๗,๐๘-๙๗๐๐-๑๙๙๔หรือที่ www.jatukarm-lanna.com/

0 แล่ม จันท์พิศาโล 0​

-->
การเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียของคณะสงฆ์จ.ลำพูน ที่มีผมร่วมเดินทางไปด้วยนั้น เราบินไปกับสายการบิน "การูดา" อันเป็นสายการบินแห่งชาติของอินโดนีเซีย ออกจากสนามบิน
สุวรรณภูมิ เวลา ๐๒.๓๐ น. ใช้เวลาบิน ๓ ชั่วโมงก็ถึง สนามบินซูการ์โน-ฮัตตากรุงจาการ์ตาเมืองหลวงของอินโดนีเซีย สนามบินแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ท่านประธานาธิบดีซูการ์โนและท่านรองประธานาธิบดีฮัตตาซึ่งเป็นผู้นำในการเรียกร้องเอกราชจากประเทศเนเธอร์แลนด์
จากนั้นเราบินต่อด้วยสายการบินในประเทศของ "การูดา" เช่นกัน(การูดาแปลว่า"ครุฑ" อันเป็นตราสัญลักษณ์ของประเทศนี้)ใช้เวลาบิน ๑ ชั่วโมง ถึงสนามบินอะดิซุทจิปโต เมืองยอกจาการ์ตาอันเป็นเมืองที่ พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธประดิษฐานอยู่คณะของเราได้เข้าพักที่บ้านพักของลูกชายอดีตท่านสุลต่านรัฐนี้ ซึ่งเป็นบ้านพักขนาดใหญ่ มีห้องพักหลายห้อง บริเวณบ้านกว้างขวางมาก รวมทั้งมีผู้คอยบริการอีกหลายคน เรียกว่าสะดวกสบายกว่าพักตามโรงแรมมากทีเดียว
ที่น่าแปลกใจมากคือ ท่านเจ้าของบ้านแห่งนี้เป็นชาวมุสลิมแต่ท่านก็ไม่รังเกียจชาวพุทธอย่างเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีพระสงฆ์ไทย ๘ รูป ในคณะนี้ด้วย ท่านบอกว่าขอให้พักตามสบาย ถือว่าเป็นบ้านของเราก็แล้วกัน จะสวดมนต์ภาวนา หรือประกอบพิธีทางศาสนาอย่างไรก็ได้ ตามอัธยาศัย ขณะที่เราไปพักนั้น ท่านเจ้าของบ้านอยู่ที่บ้านพักอีกแห่งในกรุงจาการ์ตา
เมื่อพบกับบรรยากาศเช่นนี้ทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นมาก และเท่าที่พบเห็นตามถนนหนทาง หรือตามสถานที่ต่างๆ ชาวอินโดนีเซียเป็นคนที่น่ารักมาก พวกเขาไม่มีความรู้สึกรังเกียจคนต่างชาติต่างศาสนา ทุกคนมีใบหน้าที่เป็นมิตรไมตรี ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา เวลาจะขอถ่ายภาพ เขาก็ยินดีให้ถ่าย โดยไม่มีการเบือนหน้าหนีกล้องแต่ประการใด ทำให้เรามีความสุขมาก ตลอดเวลาที่พักอยู่ในอินโดนีเซีย
เวลาของอินโดนีเซีย ไม่ต่างไปจากเวลาในเมืองไทย ฉะนั้น จึงไม่ต้องปรับเวลาแต่ประการใด ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ๑บาท เท่ากับ ๒๐๐ รูเปีย กินข้าวกันมื้อหนึ่งจ่ายเงินเป็นแสนขึ้นไปเรียกว่าเป็นเศรษฐีกันเลยทีเดียว พืชผักผลไม้ บ้านเรือนผู้คน ตลอดจนสภาพสิ่งแวดล้อมต่างๆ ดูแล้วก็ไม่แตกต่างไปจากเมืองไทย โดยเฉพาะเหมือนกับปักษ์ใต้บ้านเรา อย่างไรก็อย่างนั้น


การเดินทางมาสักการบูชา พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ ในครั้งนี้ก็เพื่ออัญเชิญวัตถุมงคล องค์จตุคามรามเทพรุ่น"ล้านนา" ชุดพิเศษพิธี "บุโรพุทโธ" เพื่อสมนาคุณแก่กรรมการผู้ร่วมทุนจัดสร้างประกอบพิธี อธิษฐานจิตขอพร ณ ฐานองค์ พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธที่เชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางแห่งพลังจักรวาลโดยเฉพาะในช่วงเที่ยงวันที่มีพระอาทิตย์อยู่ตรงปลายยอดพระมหาเจดีย์พอดี หากดูจากภาพมุมสูง จะเห็นว่า พระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ องค์ใหญ่ที่อยู่ตรงกลางนั้นเหมือนกับพระอาทิตย์ มีดวงดาวต่างๆ ที่เป็นเจดีย์องค์เล็ก ตั้งเรียงรายเป็นวงกลม เป็นภาพที่เหมือนกับ จักรวาล ที่มีโลกของเราเป็นบริวารอยู่ด้วย
เหนือสิ่งอื่นใดที่นี่เป็นผลงานการสร้างขึ้นมาของ กษัตริย์ราชวงศ์ไศเรนทรา ผู้นับถือพระพุทธศาสนา ในสมัยศรีวิชัย เมื่อกว่า ๑,๒๐๐ ปีมาแล้ว ซึ่งขณะนั้นพระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงสุด ก่อเกิดพลังศรัทธาอย่างมหาศาล ถึงกับสามารถสร้างสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ขึ้นมาได้ หากขาดพลังศรัทธาอันมหาศาลแล้ว ก็ย่อมจะไม่มี มรดกทางพระพุทธศาสนาที่ได้กลายเป็นมรดกโลกในทุกวันนี้ ที่น่าสนใจคือฐานพระมหาเจดีย์บุโรพุทโธ มีภาพแกะสลักจากหินลาวา อายุกว่า ๑,๒๐๐ ปี เป็นภาพของ องค์จตุคามรามเทพจำนวนหลายภาพและหลายปางด้วยกัน การประกอบพิธีขอพรจากที่นี่จึงย่อมก่อเกิด "พลัง" อันศักดิ์สิทธิ์ประจุในองค์จตุคามฯ รุ่นนี้อย่างแน่นอน

จตุคามรามเทพ รุ่น "ล้านนา" พิธีบุโรพุทโธมีจำนวนสร้างเพียง ๙๙๙ องค์เท่านั้น ศรัทธาสนใจติดต่อได้ที่ วัดสันโป่ง อ.ลี้ จ.ลำพูน โทร.๐-๕๓๙๗-๙๕๕๖,๐๘-๙๗๕๕-๙๙๕๗,๐๘-๙๗๐๐-๑๙๙๔หรือที่ www.jatukarm-lanna.com/

</TD></TR></TBODY></TABLE>
------------------
Ref. http://www.komchadluek.net/2007/08/04/j001_129650.php?news_id=129650