บุญที่ถูกลืม.. (พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย น้ำเชี่ยว, 29 มีนาคม 2010.

  1. น้ำเชี่ยว

    น้ำเชี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +318
    บุญที่ถูกลืม.. (พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล)

    “คุณนายแก้ว” เป็นเจ้าของโรงเรียนที่ชอบทำบุญมาก เป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าทอดกฐินอยู่เนือง ๆ <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    ใครมาบอกบุญสร้างโบสถ์วิหารที่ไหน ไม่เคยปฏิเสธ เธอปลื้มปิติมากที่ถวายเงินนับแสนสร้างหอระฆังถวายวัดข้างโรงเรียน <O:p></O:p>
    แต่เมื่อได้ทราบว่านักเรียนคนหนึ่ง<O:p></O:p>
    ไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน
    ค้างชำระมาสองเทอมแล้ว
    เธอตัดสินใจไล่นักเรียนคนนั้นออกจากโรงเรียนทันที
    <O:p></O:p>
    “สายใจ”พาป้าวัย ๗๐ และเพื่อนซึ่งมีขาพิการไปถวายภัตตาหารเช้าที่วัดแห่งหนึ่ง
    ซึ่งมีเจ้าอาวาสเป็นที่ศรัทธานับถือของประชาชนทั่วประเทศ <O:p></O:p>

    เช้าวันนั้นมีคนมาทำบุญคับคั่ง จนลานวัดแน่นขนัดไปด้วยรถ
    เมื่อได้เวลาพระฉัน ญาติโยมก็พากันกลับ
    <O:p></O:p>
    สายใจพาหญิงชราและเพื่อนผู้พิการเดินกะย่อง<O:p></O:p>
    กะแย่งฝ่าแดดกล้าไปยังถนนใหญ่
    เพื่อขึ้นรถประจำทางกลับบ้าน ระหว่างนั้นมีรถเก๋งหลายสิบคันแล่นผ่านไป
    แต่ตลอดเส้นทางเกือบ ๓ กิโลเมตร
    ไม่มีผู้ใจบุญคนใดรับผู้เฒ่าและคนพิการขึ้นรถเพื่อไปส่งถนนใหญ่เลย
    <O:p></O:p>
    เหตุการณ์ทำนองนี้มิใช่เป็นเรื่องแปลกประหลาดในสังคมไทย <O:p></O:p>

    “ชอบทำบุญแต่ไร้น้ำใจ” เป็นพฤติกรรมที่พบเห็นได้ทั่วไปในหมู่ชาวพุทธ <O:p></O:p>
    ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า
    คนไทยนับถือพุทธศาสนากันอย่างไร จึงมีพฤติกรรมแบบนี้กันมาก
    เหตุใดการนับถือพุทธศาสนา จึงไม่ช่วยให้คนไทยมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์
    โดยเฉพาะผู้ที่ทุกข์ยาก
    การทำบุญไม่ช่วยให้คนไทยมีเมตตากรุณาต่อผู้อื่นเลยหรือ
    <O:p></O:p>
    หากสังเกตจะพบว่าการทำบุญของคนไทยมักจะกระทำต่อสิ่งที่อยู่สูงกว่าตน <O:p></O:p>

    เช่น พระภิกษุสงฆ์ วัดวาอาราม พระพุทธเจ้า เป็นต้น
    <O:p></O:p>
    แต่กับสิ่งที่ถือว่าอยู่ต่ำกว่าตน เช่น คนยากจน หรือสัตว์น้อยใหญ่
    เรากลับละเลยกันมาก (ยกเว้นคนหรือสัตว์ที่ถือว่าเป็น
    “พวกกู” หรือ “ของกู”)<O:p></O:p>

    แม้แต่เวลาไปทำบุญที่วัด เราก็มักละเลยสามเณรและแม่ชี
    แต่กุลีกุจอเต็มที่กับพระสงฆ์
    <O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    นั่นแสดงว่าที่เราทำบุญกันมากมาย ก็เพราะหวังประโยชน์ส่วนตัวเป็นสำคัญ <O:p></O:p>
    ดังนั้นยิ่งทำบุญด้วยท่าทีแบบนี้ ก็ยิ่งเห็นแก่ตัวมากขึ้น <O:p></O:p>
    ผลคือจิตใจยิ่งคับแคบ ความเมตตากรุณาต่อผู้ทุกข์ยากมีแต่จะน้อยลง <O:p></O:p>
    ไม่ต้องสงสัยเลยว่า การทำบุญแบบนี้กลับจะทำให้ได้บุญน้อยลง <O:p></O:p>
    แน่นอนว่าประโยชน์ย่อมเกิดแก่ผู้รับอยู่แล้ว เช่น หากถวายอาหาร อาหารนั้นย่อมทำให้พระสงฆ์มีกำลังในการศึกษาปฏิบัติธรรมได้มากขึ้น<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    แต่อานิสงส์ที่จะเกิดแก่ผู้ถวายนั้นย่อมไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
    เพราะเจือด้วยความเห็นแก่ตัว ยิ่งถ้าทำบุญ 100 บาท เพราะหวังจะได้เงินล้าน
    บุญที่เกิดขึ้นย่อมน้อยลงไปอีกเพราะใช่หรือไม่ว่านี่เป็นการ
    “ค้ากำไรเกินควร”<O:p></O:p>
    บุญที่ทำในรูปของการถวายทานนั้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเงินก็ตาม <O:p></O:p>

    จุดหมายสูงสุดอยู่ที่การลดความยึดติดถือมั่นในตัวกูของกู
    ยิ่งลดได้มากเท่าไรก็ยิ่งเข้าใกล้นิพพานอันเป็นประโยชน์สูงสุด
    <O:p></O:p>
    แต่หากทำบุญเพราะหวังแต่ประโยชน์ส่วนตน
    อยากได้เข้าตัวมาก ๆ แทนที่จะสละออกไป
    <O:p></O:p>

    ก็ยิ่งห่างไกลจากนิพพาน
    หรือกลายเป็นอุปสรรคขวางกั้นนิพพานด้วยซ้ำ
    <O:p></O:p>

    อันที่จริงอย่าว่าแต่นิพพานเลย แม้แต่ความสุขในปัจจุบันชาติ ก็อาจเกิดขึ้นได้ยาก เพราะจิตที่คิดแต่จะเอานั้นเป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์<O:p></O:p>
    อันที่จริงถ้ามองให้กว้างกว่าการทำบุญ ก็จะพบปรากฏการณ์ในทำนองเดียวกัน นั่นคือคนไทยนิยมทำดีกับคนที่ถือว่าอยู่สูงกว่าตน แต่ไม่สนใจที่จะทำดีกับคนที่ถือว่าต่ำกว่าตน เช่น ทำดี กับเจ้านาย คนรวย ข้าราชการระดับสูง นักการเมือง<O:p></O:p>

    ทั้งนี้ก็เพราะเหตุผลเดียวกันคือคนเหล่านั้นให้ประโยชน์แก่เราได้ (หรือแม้เขาจะให้คุณได้ไม่มาก แต่ก็สามารถให้โทษได้ )
    <O:p></O:p>
    ประโยชน์ในที่นี้ไม่จำต้องเป็นประโยชน์ทางวัตถุ อาจเป็นประโยชน์ทางจิตใจก็ได้ <O:p></O:p>
    เช่น คำสรรเสริญ หรือการให้ความยอมรับ<O:p></O:p>

    ประการหลังคือ เหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยขวนขวายช่วยเหลือฝรั่งที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างเต็มที่
    <O:p></O:p>
    แต่กลับเมินเฉยหากคนที่เดือดร้อนนั้นเป็นพม่า มอญลาว เขมร หรือกะเหรี่ยง<O:p></O:p>

    ใช่หรือไม่ว่าคำชื่นชมของพม่าหรือกะเหรี่ยง ความหมายกับเราน้อยกว่าคำสรรเสริญของฝรั่ง
    <O:p></O:p>
    บุคคลจะได้ชื่อว่าเป็นคนใจบุญ ไม่ใช่เพราะนิยมทำบุญกับสิ่งที่อยู่สูงกว่าตนเท่านั้น <O:p></O:p>

    หากยังยินดีที่จะทำบุญกับสิ่งที่เสมอกับตนหรืออยู่ต่ำกว่าตนอีกด้วย แม้เขาจะไม่สามารถให้คุณให้โทษแก่ตนได้ ก็ช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ
    <O:p></O:p>
    ทั้งนี้เพราะมิได้หวังผลประโยชน์ใด ๆ
    นอกจากความปรารถนาให้เขาพ้นทุกข์ นี้คือกรุณาที่แท้ในพุทธศาสนา
    <O:p></O:p>

    การทำดีโดยหวังผลประโยชน์ หรือยังมีการแบ่งแยกและเลือกปฏิบัติอยู่ ย่อมไม่อาจเรียกว่าทำด้วยเมตตากรุณาอย่างแท้จริง
    <O:p></O:p>
    ในแง่ของชาวพุทธ การช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ยากเดือดร้อน
    ทั้ง ๆ ที่เขาไม่สามารถให้คุณให้โทษแก่เราได้ เป็นเครื่องฝึกใจให้มีเมตตากรุณา และลดละความเห็นแก่ตัวได้เป็นอย่างดี
    <O:p></O:p>

    ยิ่งทำมากเท่าไร จิตใจก็ยิ่งเปิดกว้าง อัตตาก็ยิ่งเล็กลง
    ทำให้มีที่ว่างเปิดรับความสุขได้มากขึ้น ยิ่งให้ความสุขแก่เขา
     
  2. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ทำดีไม่ต้องกลัวไม่มีใครรู้ใครเห็น แคร์อะไรกับการออกทีวี ตาทิพย์หูทิพย์ของเทวดาของพรหมโน่นท่านดูเราอยู่!
     
  3. linake119

    linake119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +578
    เห็นด้วยอย่างยิ่ง ตอนนี้ก็เลยต้องฝึกตัวเองให้เป็นผู้ให้มากขึ้น ให้ความช่วยเหลือแม้แต่กับคนที่ไม่ใช่ญาติเราเอง เล็กน้อยๆ ช่วยๆกัน สังคมก็อยู่ได้ เราก็อยู่ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...