น้ำพริกหมูหน่อกะลาทางเลือกคนชอบน้ำพริก

ในห้อง 'เมนูอาหารและวิธีการทำอาหาร' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 7 พฤษภาคม 2011.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    น้ำพริกหมูหน่อกะลาทางเลือกคนชอบน้ำพริก

    หน่อกะลา พันธุ์ไม้ท้องถิ่น นำมาทำ น้ำพริกหมูหน่อกะลา ทางเลือกคนชอบน้ำพริก เพิ่มความแปลกใหม่ และรสชาติที่แสนอร่อย




    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]


    <table align="center" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="5">
    </td> </tr> </tbody></table>

    หน่อ กะลาเป็นพันธุ์ไม้ท้องถิ่นของชุมชนชาวเกราะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นิยมนำมาประกอบอาหารหลายอย่าง เช่น ทอดมันหน่อกะลา ซึ่งในปัจจุบันได้รับความนิยมมาก โดยหน่อกะลาเป็นพืชล้มลุกต้นเทียมเกิดจาดกาบใบ ใบเดี่ยว ความสูงของต้นประมาณ 1-2 เมตร อยู่ในวงศ์เดียวกับไม้จำพวก ข่าและขิง เพื่อเป็นการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น "แหม่ม" นางสาวกรรณิกา เขียวชอุ่ม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี จึงได้คิดค้นเมนู "น้ำพริกหมูหน่อกะลา" สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในเมนูน้ำพริก เพิ่มความแปลกใหม่ และรสชาติที่แสนอร่อยขึ้นมา โดยมี ผศ.สุชาดา ประภาวัฒน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำ

    แหม่ม บอกว่า น้ำพริกมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่ง "น้ำพริก" คือ การนำสมุนไพร พริก กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง นำมาโขลก บดรวมกัน เพื่อให้สำหรับจิ้มหรือรับรับประทานคู่กับผักสดผักต้ม ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องเคียงที่เพิ่มอรรถรสในการรับประทาน ดังนั้นน้ำพริกจึงเป็นที่นิยมของคนไทย ซึ่งแต่ละภาคมีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น ภาคใต้เรียกว่า "น้ำชุบ" ภาคอีสาน เรียกว่า "ป่น" หรือ "แจ่ว" แต่ไม่ว่าชื่อจะแตกต่างกันแค่ไหน ส่วนประกอบหลักๆ ของน้ำพริกก็มีส่วนผสมที่คล้ายคลึงกัน จากที่เคยรับประทานหน่อกะลาขณะที่เคี้ยวจะได้กลิ่นน้ำมันหอมของต้นกะลา รสชาติซ่านิดๆ ที่ปลายลิ้น จึงได้นำหน่อกะลามาเป็นส่วนประกอบหลักในน้ำพริกหมูหน่อกะลา ซึ่งเมื่อนำหน่อกะลามาประกอบอาหาร จะมีคุณสมบัติในการดูดซับรสชาติของอาหารได้ดี ที่สำคัญยังเป็นการสร้างเมนูตัวใหม่ให้กับชาวเกราะเกร็ด นอกจากทอดมันหน่อกะลาที่มีขายและได้รับความนิยม เป็นสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านบริเวณเกราะเกร็ด

    ส่วนผสมของ "น้ำพริกหมูหน่อกะลา" ประกอบด้วย หมูบด 100 กรัม ตะไคร้ 10 กรัม ใบมะกรูด 5 กรัม กระเทียม 10 กรัม หอมแดง 10 กรัม พริกป่น 5 กรัม หน่อกะลา 60 กรัม น้ำปลาร้า 10 กรัม น้ำมันพืช 25 กรัม วิธีทำก็เหมือนการทำน้ำพริกทั่วๆ ไป โดยเริ่มจาก 1. รวนหมูบดให้สุก ตักขึ้นพักไว้ 2.นำหน่อกะลาไปต้ม 3 นาที พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ หั่นเป็นท่อนเล็กๆ พักไว้ 2. คั่วตะไคร้ กระเทียม หอมแดง และหน่อกะลา ให้หอมแล้วจากนั้นนำไปโขลกให้ละเอียด 3. นำหมูที่รวนมาโขลกกับตะไคร้ กระเทียม หน่อกะลาและหอมแดงที่โขลกไว้แล้ว 4. นำส่วนผสมในข้อที่ 3 มาผัดในกระทะ ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่น้ำปลาร้า (ถ้าไม่รับประทานก็ไม่ต้องใส่) ใส่พริก ใบมะกรูด ปรุงรสด้วยน้ำปลา ตามชอบ เสร็จสิ้นกระบวนการ แค่นี้ก็จะได้น้ำพริกหน่อกะลาแสนหอมชวนให้ลิ้มลอง รับลองว่าข้าวเปล่า 1 จานคงไม่พอ รับประทานคู่กับผัก เช่น แตงกวา ถั่วพู

    จากสูตรส่วนผสมดังกล่าวจะได้น้ำพริกหมูหน่อกะลาทั้งหมด 100 กรัม คนที่ไม่ทานหมูก็สามารถดัดแปลงเป็นเนื้อสัตว์ชนิดอื่น เช่น ไก่สับ เนื้อสับ น้ำพริกหมูหน่อกะลาสามารถเก็บไว้ได้ในอุณหภูมิตู้เย็น 1 เดือน ถ้าจะรับประทานสามารถนำออกมาเว็บ น้ำพริกหมูหน่อกะลาเป็นผลงานวิจัยที่คิดค้นขึ้น นำมาเผยแพร่สูตร โดยไม่ได้ผลิตจำหน่าย แต่ผู้ที่สนใจสามารถนำสูตรไปผลิตเพื่อจำหน่ายหรือทำรับประทานในครอบครัวได้ ซึ่งเจ้าสูตรไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ และยังยินดีให้คำแนะนำ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 085-2003041 ​



    -http://www.innnews.co.th/nanajobs.php?nid=277206-

    .

     

แชร์หน้านี้

Loading...