น้ำท่วม'วิทยาลัยสงฆ์วังน้อย'พระเณรเดือดร้อนกว่า๗๐๐รูป

• 1

<SCRIPT type=text/javascript src="http://www.komchadluek.net/js/slides.min.jquery.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript> $('#slides').slides({ preload: false, preloadImage: 'images/loading.gif', effect: 'fade', crossfade: true, fadeSpeed: 500, play:4500, pause: 1500, hoverPause:true, generateNextPrev: false, generatePagination: false, animationStart: function(current){ $('.caption').animate({ bottom:-35 },100); if (window.console && console.log) { // example return of current slide number console.log('animationStart on slide: ', current); }; }, animationComplete: function(current){ $('.caption').animate({ bottom:0 },200); if (window.console && console.log) { // example return of current slide number console.log('animationComplete on slide: ', current); }; }, slidesLoaded: function() { $('.caption').animate({ bottom:0 },200); } }); </SCRIPT>

• 

น้ำท่วม'วิทยาลัยสงฆ์วังน้อย'พระเณรเดือดร้อนกว่า๗๐๐รูป

น้ำท่วม'วิทยาลัยสงฆ์วังน้อย'พระเณรเดือดร้อนกว่า ๗๐๐ รูป : โดย บุญนำพา


วัดชูจิตธรรมาราม ตั้งอยู่บนเนื้อที่ ๒ ตำบล คือ ต.ชะแมบ และ ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ในบริเวณเดียวกันกับ มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย (มวก.) อันเป็นสถานศึกษาพระพุทธศาสนาของพระภิกษุสามเณร ซึ่งมาจากทุกภาคของประเทศ โดยได้เปิดรับพระภิกษุสามเณรเข้ามาศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา นักธรรมตรี โท เอก และภาษาบาลี ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๑๖ เป็นต้นมา จนถึงทุกวันนี้ ที่ผ่านมาได้มีพระภิกษุสามเณรจบการศึกษาไปแล้วกว่า ๑ หมื่นรูป ส่วนใหญ่ได้ทำงานอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาตลอดมา เป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยได้บำเพ็ญประโยชน์ในทุกด้านแก่พระศาสนาและประเทศชาติเป็นอเนกอนันต์ จนเป็นที่รู้จักกันดีในวงการศาสนาทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ

สถานศึกษาของพระภิกษุสามเณรแห่งนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงวางเสาเอกก่อสร้างเป็นวิทยาลัยสงฆ์ เรียกว่า วิทยาลัยสงฆ์วังน้อย ยุคแรกอาคารเรียน หอสวดมนต์ หอพัก และโรงครัว สร้างด้วยไม้เบญจพรรณ ฝากั้นด้วยหญ้าแฝก หลังคามุงด้วยหญ้าแฝก ได้ใช้มาเป็นระยะเวลา ๓ ปีก็หมดสภาพ จึงได้จัดหาเงินทุนก่อสร้างอาคารเรียนถาวรขึ้น รวมทั้งที่พัก กุฏิอาจารย์ และโรงครัว

ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๒๐ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จฯ ไปทรงเปิดอาคารเรียน และทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระนามาภิไธยเป็นนามวิทยาลัยสงฆ์วังน้อยว่า มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย และได้พระราชทานอักษรพระนามาภิไธยย่อ มวก. พร้อมด้วยพุทธสุภาษิต "วชิรูปมจิตฺโตสิยา" แปลว่า "พึงเป็นผู้มีจิตแกร่งประดุจเพชร

มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย (มวก.) จึงนับเป็นวิทยาเขตแห่งแรกของ มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย (มมร.) ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่จะรู้จักกันในนาม วิทยาลัยสงฆ์วังน้อย

เมื่อพระภิกษุสามเณรนักศึกษามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ผู้บริหารจึงได้ก่อสร้างหอฉัน โรงครัว และอาคารต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย พร้อมกับได้ก่อตั้ง วัดชูจิตธรรมาราม ขึ้นภายในวิทยาลัย เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๒๐ โดยชื่อวัดนี้ได้ตั้งตามนามสกุลของ นายฉบับ-นางสงวน ชูจิตารมย์ ผู้บริจาคที่ดิน วัดแห่งนี้จึงเป็นที่สังกัดของพระภิกษุสามเณรที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย (มวก.) ได้อยู่จำพรรษา ซึ่งบางปีมีมากถึง ๑,๐๐๐ รูป นับเป็นสถาบันสงฆ์ที่มีพระภิกษุสามเณรจำพรรษามากที่สุดในประเทศไทย ขณะเดียวกันก็มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ของพระภิกษุสามเณรซึ่งล้วนเป็นนักศึกษาของมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย (มวก.) เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้มีพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันทำบุญถวายในโอกาสต่างๆ ตลอดมา

จากเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดน้ำท่วมทั่ว จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๔ มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย (มวก.) ก็ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ด้วย โดยมวลน้ำก้อนใหญ่ได้ไหลเข้าท่วมบริเวณวัดชูจิตธรรมารามทั้งหมด ตั้งแต่คืนวันที่ ๑๖ ตุลาคม สร้างความเดือดร้อนให้พระภิกษุสามเณร และบุคลากรด้านต่างๆ เป็นอันมาก พระกิตติสารมุนี เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม และรองอธิการ มวก. จึงได้ตัดสินใจย้ายพระภิกษุสามเณรนักศึกษกว่า ๗๐๐ รูป ออกจากบริเวณวัด เนื่องจากระดับน้ำได้สูงขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งต้องตัดกระแสไฟฟ้า หากอยู่ต่อไปจะยิ่งลำบาย โดยพระภิกษุสามเณรส่วนหนึ่งได้กลับไปพำนักตามวัดในจังหวัดต่างๆ และอีกส่วนหนึ่งได้ย้ายไปอยู่ที่วัดมกุฎคีรีวัน บนเขาใหญ่

ณ วันนี้ ถึงแม้ระดับน้ำจะเริ่มลดลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังท่วมขังอยู่มากพอสมควร ท่านเจ้าคุณพระกิตติสารมุนี จึงตัดสินใจกู้วัดคืน เพื่อรอรับพระภิกษุสามเณรนักศึกษาทั้งหมดได้กลับมาอยู่ที่นี่ จะได้ศึกษาเล่าเรียนตามปกติต่อไป

ในการกู้วัดนี้จะต้องสูบน้ำออกออกจากบริเวณวัดและอาคารเรียน ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะค่าเช่าเครื่องสูบน้ำและน้ำมัน รวมทั้งการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วมขังมาเป็นเวลานาน รวมทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม สำหรับพระภิกษุสามเณรอีกด้วย โดยก่อนหน้าที่น้ำจะท่วมถึง ทางวัดได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง ที่ทางวัดได้เตรียมไว้ไปช่วยเหลือชาวบ้านละแวกวัดจนหมดสิ้น ทำให้ที่วัดในเวลานี้ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย

พุทธศาสนิกชนที่ประสงค์จะร่วมทำบุญถวายภัตตาหารพระภิกษุสามเณรนักศึกษา และร่วมบูรณปฏิสังขรณ์อาคารต่างๆ รวมทั้งบริเวณวัด ติดต่อได้ที่ท่านเจ้าคุณ พระกิตติสารมุนี โทร.๐๘-๑๘๑๗-๔๓๒๐, ๐๘-๓๖๙๙-๖๙๖๑ หรือบริจาคผ่าน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาวังน้อย บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "วัดชูจิตธรรมราม" เลขที่บัญชี ๒๔๙-๐-๑๕๓๑๑-๗ หรือธนาคารทหารไทย จำกัด สาขาวังน้อย บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "วัดชูจิตธรรมราม" เลขที่บัญชี ๕๑๐-๒-๐๓๕๗๙-๖ ท่านที่ผ่านบริจาคผ่านธนาคาร โปรดส่งชื่อไปให้ทางวัดทราบ เพื่อจะได้ออกใบอนุโมทนาบัตร ส่งให้ท่านต่อไป

 

ขอให้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วด้วยเถิด...สาธุ
...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...

 

กราบอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
กับทุกท่านที่ได้ร่วมกันทำบุญสร้างกุศล
ทุกอย่างที่ มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัยสงฆ์วังน้อย
ตลอดจนทำบุญสร้างกุศลทุกอย่างด้วยครับ
กระผมจะส่งปัจจัยไปร่วมทำบุญด้วยครับ
อนุโมทนาบุญและขอเชิญร่วมทำบุญด้วยกันครับ
นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
นิพพานัง ปรมัง สุขขัง

 

หลังน้ำลด ผู้มีใจเป็นกุศลทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อม เราท่านทั้งหลายจะได้มีโอกาสทองในการบูรณะปฏิสังขรวัดขนานใหญ่ สาธุ
<center></center>

 

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ ขอให้นำ้ลดเร็วไวด้วยเทอญ

เพิ่งกลับมาจากไทย ตอนกลับไปก็ไปทำบุญหลายวัดซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เห็นได้ชัดว่าคนไทยมีน้ำใจช่วยเหลือกันจริงๆคะ ขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนคะ

 

ขอให้ผ่านวิกฤติน้ำท่วมไปได้เร็ว ๆ

หางานนอกเวลา หางานเสริม | รายได้เสริม รายได้พิเศษ

 

ขอให้น้ำลดไวไวนะครับ

 

ขอให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
(ภาพประกอบถ่ายช่วงต้นเดือนตุลาคม54)