นี่แหละกรรม! กรรม..ของอาจารย์เถรผู้กระทำอวิชชา

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Faithfully, 6 กันยายน 2010.

  1. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    [​IMG]


    นี่แหละกรรม! อาจารย์เถร.. ผู้มีกรรม จาก หนังสือ แปลกรายสัปดาห์

    ชาวพุทธเรานั้น.. ปฏิบัติตามคำสั่งสอนแห่งสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่ว่า.. “..กรรมอันมนุษย์.. ได้ประกอบขึ้นนั้น คือ เครื่องบ่งชี้ว่า บุคคลผู้นั้นเป็นคนอย่างไร.. ผู้ทำกรรมดีย่อมได้รับผลดี ผู้ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลชั่ว.. ดุจล้อเกวียนหมุนทับรอยโคกระนั้น.. กรรมย่อมส่งผลทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ดังนั้น.. จึงพึงหมั่นสร้างแต่กุศลกรรมหรือกรรมดี เพื่อให้เกิดความเจริญผาสุกแก่ตนเองและสังคม..”


    นายพลับ.. หรืออดีตหลวงตาพลับ ที่ชาวบ้านกุดเจ้าเรียกกันว่า “ตาเถร” เพราะแม้ครองผ้าเหลือง แต่ละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ.. โดยเฉพาะการฉันสุรา แม้ท่านพระครูเจ้าอาวาสจะเรียกไปตักเตือน แต่หลวงตาพลับกลับไม่เชื่อฟัง..
    “ท่านพลับ.. ฉันในฐานะเจ้าอาวาสวัดกุดเจ้า.. ขอร้องให้ท่านพลับหยุดฉันเหล้า เพราะนอกจากจะผิดศีลแล้ว ยังเสียสมณสารูปอีกด้วย ชาวบ้านติเตียน..ทำให้พระสงฆ์ส่วนใหญ่พลอยเสียหายไปด้วย..”

    “ท่านเจ้าอาวาส.. ท่านก็รู้นี่ครับว่า การฉันสุราเป็นเพียงผิดศีลปาจิตตีย์.. ปลงอาบัติได้ แม้ชาวบ้านจะติเตียนก็ชั่งหัวชาวบ้านปะไรเล่า.. ป่วยการมาบอกผม เพราะผมเลิกไม่ได้..”

    “ชาวบ้านติเตียนก็ถูกของเขา.. เพราะเราอาศัยภัตตาหารจากชาวบ้านเขาดำรงชีวิตอยู่ เราเป็นภิกษุผู้ขอภัตตาหารจากชาวบ้าน จึงไม่ควรทำตัวเป็นขี้ปากชาวบ้าน..”

    “ผมไม่ได้บิณฑบาต.. ลูกผมมันทำภัตตาหารมาถวายทุกวัน ดังนั้น.. ผมจึงไม่ได้อาศัยชาวบ้านแบบที่ท่านพูดมา.. ผมไม่เลิกฉันสุรา.. ท่านจะทำอะไรผมได้..”

    ท่านเจ้าอาวาส.. พยายามขอร้อง แต่แล้วในที่สุด.. ก็ต้องตัดสินใจแจ้งเรื่องให้ท่านเจ้าคณะจังหวัดส่งตำรวจพระมาจัดการ ตำรวจพระที่เป็นพระหนุ่มอาศัยอำนาจที่ได้รับตาม พ.ร.บ. การปกครองคณะสงฆ์ กุมตัวมาให้ท่านเจ้าอาวาสทำการสึก.. หลังจากสึกแล้ว หลวงตาพลับได้กลับเป็นฆราวาส ตั้งสำนักทำเสน่ห์ รู้จักกันในชื่อ “สำนักตาเถร

    อดีตพระพลับหรืออาจารย์เถร.. ในเบื้องลึกแล้ว แค้นเคืองท่านเจ้าอาวาสเป็นอย่างยิ่ง หลังจากถูกสึกได้กล่าวคำอาฆาต ท่านเจ้าอาวาสไว้ว่า..


    “มึงระวังตัวไว้เถิด.. ไอ้มานพ (ชื่อท่านเจ้าอาวาสเมื่อยังเป็นฆราวาส) วันหนึ่ง.. มึงต้องเจอกับกู กูจะทำให้มึงรู้จักไอ้พลับว่า.. เป็นศิษย์มีครูเหมือนกัน..”

    กิตติศัพท์อาจารย์เถรเป็นที่รู้จักของคนที่เป็นเมียน้อยได้เป็นอย่างดี เพราะอาจารย์เถรนิยมทำเสน่ห์ให้กับบรรดาเมียน้อย เพื่อให้ผัวหลง.. และเปลี่ยนฐานะเป็นเมียหลวง เมื่อผัวอเปหิเมียหลวงออกจากตำแหน่ง.. อาจารย์เถรลงนะหน้าทองเป็นยอด แต่การลงของอาจารย์เถร.. ต้องลงแบบสองต่อสอง และเล่าลือกันวงในว่า เมียน้อยรายไหนได้ลงนะหน้าทองจากอาจารย์เถรแล้ว.. เป็นสำเร็จทุกราย ซึ่งก็ต้องยอมเปลืองตัวให้อาจารย์เถร..

    มันเหมือนสวรรค์เล่นตลก.. หลวงพ่อมานพเจ้าอาวาสวัดกุดเจ้า ท่านมีวิชาทางถอดถอนคุณไสยที่พวกมนต์ดำทำมา.. หลายครั้งคนที่ถูกอาจารย์เถรทำเสน่ห์ใส่.. ถูกนำตัวมาให้หลวงพ่อมานพช่วยถอดถอน ท่านก็ทำให้จนหาย.. ทำให้อาจารย์เถรเกิดความเคียดแค้นหนักขึ้นไปอีก..

    “ไอ้มานพนะไอ้มานพ.. จับกูสึกจนกูต้องมาเป็นฆราวาสแล้ว ยังจะตามมาราวีกู.. ด้วยการถอดถอนคุณไสยเสน่ห์ยาแฝดที่กูทำเสียอีก.. รู้ก็รู้ว่าเป็นอาชีพของกู แต่มันก็ยังรับทำให้ มึงกับกูอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้..”

    อาจารย์เถร.. เดินทางไปหาอาจารย์เขมร ที่เป็นผู้สอนวิชาให้ถึงเมืองศรีโสภณ ไปเล่าเรื่องให้กับอาจารย์ตัวเองฟัง.. อาจารย์เขมรจึงให้ทำพิธีครอบ เพื่อให้เรียนวิชาปล่อยคุณไสยทำร้ายหลวงพ่อมานพ จนในที่สุด.. อาจารย์เถรก็สำเร็จวิชา เดินทางกลับมาบ้านกุดเจ้าอย่างเงียบ ๆ

    “ไอ้มานพ.. คราวนี้แหละ.. มึงไม่รอดแน่ ! ”

    อาจารย์เถร.. เร่งทำคุณไสยใส่หลวงพ่อมานพ แต่มิอาจทำอันตรายหลวงพ่อมานพได้.. หลายครั้งที่หลวงพ่อมานพถามผีที่อาจารย์เถรปล่อยมาว่า มาจากไหน.. ใครทำ.. ผีก็บอกให้ว่า มาจากอาจารย์เถร.. ถ้าเป็นอาจารย์ฆราวาสด้วยกัน เมื่อรู้ว่าของมาจากไหน ก็จะส่งของกลับคืนเจ้าของแบบดาบนั้นคืนสนอง.. แต่หลวงพ่อมานพกลับไม่ทำ แต่จับวิญญาณนั้นใส่กระบอกไม้ไผ่ ปิดปากกระบอกด้วยผ้ายันต์ ทำพิธีเผาส่งวิญญาณไปผุดไปเกิดตามยถากรรม..

    แทนที่อาจารย์เถรจะรามือ แต่กลับเร่งมือหนักขึ้น.. ในที่สุดวันสำคัญก็มาถึง.. วันแรม 15 ค่ำวันเดือนดับ.. อาจารย์เถรทำพิธีเสกหนังควายให้เข้าไปในท้องของหลวงพ่อมานพ.. เมื่อเสกจนเหลือเท่ากับเม็ดถั่วเขียวแล้ว จึงปล่อยออกไปหาหลวงพ่อมานพ..<O:p>
    ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา และเมตตาธรรม แห่งหลวงพ่อมานพ.. คุณไสยที่ปล่อยออกไปใส่หลวงพ่อมานพ.. มิอาจทำอันตรายหลวงพ่อมานพได้ แต่กลับย้อนมายังอาจารย์เถร.. แต่อาจารย์เถรก็ส่งกลับไปอีกจนครบ 3 วาระในคืนเดียว สุดท้าย.. ของกลับอย่างแรง! ทำให้แม้รับได้แต่ก็เล่นเอาป่วยไปหลายวัน ทำให้อาจารย์เถรเคียดแค้นหลวงพ่อมานพเพิ่มพูนขึ้น.. จนประกาศไม่อยู่ร่วมโลกกับหลวงพ่อมานพ..

    หลวงพ่อมานพ.. ท่านเคยให้นายประยูรที่มีศักดิ์เป็นลุงแท้ ๆ ของอาจารย์เถร ไปบอกสิ่งที่หลวงพ่อมานพต้องการพูดกับอาจารย์เถร..

    “พลับ.. ในฐานะที่เอ็งเป็นหลานคนเดียวของข้า.. ข้าจะขอบอกกับเอ็งว่า.. ที่หลวงพ่อมานพรับถอดถอนคุณไสย มิได้เลือกว่าเป็นใครทำ และทำด้วยเมตตา เมื่อมีคนมาขอความเมตตา มิได้ทำเพื่อชื่อเสียงหรือความดัง.. แต่ทุกอย่างทำด้วยเมตตาเป็นที่ตั้ง และไม่เคยคิดส่งของกลับคืนเจ้าของ.. เพียงแต่บางครั้งช่วยปล่อยดวงวิญญาณที่ถูกใช้มาด้วยอำนาจของผู้เป็นนาย ให้ไปผุดไปเกิด.. การที่เอ็งเล่นคุณไสยเป็นของไม่ดี.. วันหนึ่งเอ็งจะถูกหมอคุณไสยด้วยเล่นงาน ยังไม่สายหากจะยุติการกระทำกรรม..”

    “ลุงไม่ต้องมาแก้ตัวแทนมัน.. ข้าไม่มีวันเลิกล้ม.. ไปบอกมันเถิดว่า วันใดมันพลาด มันเผลอ วันนั้นมันตายแน่.. แม้ข้าจะตกนรกหมกไหม้.. ข้าก็ยอม!..”

    อาจารย์เถร.. เป็นที่รู้จักไปทั่ว และท้าทายทุกสำนัก เพราะอาจารย์เถรทระนงในฝีมือตัวเอง โดยไม่คิดว่า.. จะมีวันพลาดพลั้ง.. ผู้เขียนเอง ตอนนั้น..เป็นเด็กวัดเดินตามหลังหลวงพ่อมานพออกบิณฑบาต ยังจำได้ว่า หลวงพ่อมานพสั่งว่า..
    “ตอนกลางคืน.. หากได้ยินเสียงประหลาด อาทิ เสียงวัตถุกระทบหลังคา หรือฝากุฏิ แม้แต่ เสียงนกร้องก็อย่าได้ออกปากทัก เพราะคุณไสยที่เขาส่งจะเข้าตัว หากแก้ไขไม่ทันอาจถึงตายได้ อย่าประมาท..”

    คนเล่นคุณไสยนั้น.. เป็นผู้ที่มีบาป แต่ละคนจะไม่ยอดลดละให้สำนักที่เป็นคู่แข่ง หรือแม้ไม่เป็นคู่แข่ง แต่มีชื่อเสียงขึ้นมา ก็ต้องมีการสกัดดาวรุ่ง อาจารย์เถรต้องระวังตัวแจ ที่สี่มุมสำนักของแกจะมีการติดเฉลว เพื่อดักคุณไสยให้กระเด็นลงน้ำ..

    ผู้เขียน.. เคยแอบไปที่บ้านอาจารย์เถร เพื่อไปดูก้นกะละมังตอนเช้าก่อนที่อาจารย์เถรจะลงมา จากบ้าน เห็นว่า.. ก้นกะละมังมีของประหลาด เช่น ตะปู 4 นิ้ว ผูกด้วยสายสิญจน์เป็นกากบาท หนามพุงดอสารทท่อนมัดด้วยสายสิญจน์ กระดูกผี หลาวไม้รวกขนาดเล็ก เชื่อว่าเป็นคุณไสยที่ถูกปล่อยมากระทบกับเฉลวแล้วตกลงใส่กะละมัง..

    <O:pเกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์เถร.. ผมไม่รู้ แต่ขณะที่หลวงพ่อฉันเช้าแล้ว ผมกำลังยกสำรับคาวหวานออกมา เพื่อจะได้นำไปรับประทานกับศิษย์วัดด้วยกัน ตาประยูรก็หน้าตาตื่นนำหน้าศิษย์อาจารย์เถร ที่ช่วยกันหามอาจารย์เถรขึ้นมาบนกุฏิหลวงพ่อมานพ..

    “ช่วยมันหน่อยหลวงพ่อ.. ไอ้พลับมันถูกคุณไสยอย่างแรงตั้งแต่เช้ามืด.. กว่าลูกศิษย์มันจะไปตามผมอาการก็เพียบแล้ว..”

    ผู้เขียนวิ่งมาดู.. เห็นอาจารย์เถรท้องป่องเหมือนคนตั้งท้อง หน้าดำเหมือนถ่าน ตาแดงเหมือนนกกะปูด อ้าปากหอบฟืดฟาดพูดอะไรไม่ได้ หลวงพ่อมานพเดินมาดูอาการ แล้วบอกกับตาประยูร..
    <O:p</O:p
    “หนังมันคลี่เต็มผืนแล้วละ.. โยมประยูร..”
    “หลวงพ่อช่วยมันหน่อยเถอะ นึกว่าเมตตามัน..”
    “ช่วยได้.. แต่ไม่รับปากนะว่าจะรอด แต่เอ้อ..”
    หลวงพ่อมานพหันไปทางอาจารย์เถร แล้วพูดว่า..

    “โยมพลับพนมมือแล้วระลึกในใจว่า.. หากรอดชีวิตคราวนี้ จะไม่ดำรงชีพแบบเก่าอีก จะอุปสมบทหนึ่งพรรษาถวายเป็นพุทธบูชา..”
    อาจารย์เถรพนมมือ.. ทำตามที่หลวงพ่อมานพบอก.. สะอึกเอาน้ำที่มีกลิ่นเหม็นเน่าเหมือนศพออกมา หลวงพ่อมานพตักน้ำมนต์ในที่บูชาพระของท่านเสก.. ให้งัดปากอาจารย์เถรกรอกน้ำมนต์ แต่งัดไม่ขึ้น.. จนหลวงพ่อมานพต้องเดินไปยืนที่ด้านบนหัวของอาจารย์เถร.. ใช้หวายจี้บงไปบนกระหม่อม นั่นแหละจึงงัดปากอาจารย์เถรกรอกน้ำมนต์ลงไปได้ ท้องยุบลงทันที.. มีเสียงห้าว ๆ ดังผ่านปากอาจารย์เถรออกมา..

    “ไอ้โล้น.. มึงเก่งนักเรอะ! จะลองกับกูก็ได้..”

    ร่างของอาจารย์เถรทะลึ่งขึ้น.. แต่หลวงพ่อมานพใช้หวายหวดสกัดลงไปเป็นกากบาทที่หน้าอกอาจารย์เถร.. ทำให้ร่างอาจารย์เถรหงายตึงฟากพื้น..

    โอ้ยย.. โอ้ย.. โอย.. อ้อก..

    ร่างของอาจารย์เถรบิดเป็นเกลียวแล้วสงบนิ่ง หลวงพ่อมานพบอกกับตาประยูร..
    “ให้ลูกศิษย์ดึงม้วนแผ่นหนังออกมาจากรูทวารหนักของโยมพลับ.. เดี๋ยวก็ได้สติ..”

    ลูกศิษย์อาจารย์เถร.. รีบช่วยกันล้วงแล้วดึงม้วนแผ่นหนังออกมาวางให้ทุกคนเห็น.. หลวงพ่อมานพเอาน้ำมนต์พรมลงไปบนม้วนหนัง มันคลี่ออกเป็นแผ่นหนังวัวหรือควายดูไม่ออก.. ขนาดหนึ่งตารางฟุตเห็นจะได้ อาจารย์เถรได้สติ.. คลานมากราบแทบเท้าหลวงพ่อมานพ..

    อาจารย์เถร.. บวชตามที่ได้รับปากหลวงพ่อมานพ ผมเดินตามหลังหลวงพ่อมานพและหลวงตาพลับไปบิณฑบาต หลวงตาพลับมรณภาพในระหว่างพรรษา หลวงพ่อมานพเป็นเจ้าภาพให้ นี่แหละ..เป็นกรรมที่ผู้เขียนได้รู้เห็นมาด้วยตัวเอง.. การเล่นคุณไสยนั้นเป็นของต่ำ หากเข้าตัวแบบอาจารย์เถรแล้วแก้ไม่ทันจะตายโหงเอาง่าย ๆ ...<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p
    วิช<SUB>.</SUB>ชา อุป<SUB>.</SUB>ปตตํ เสฏฐา
    ( วิชชา อุปปะตะตัง เสฏฐา )
    บรรดาสิ่งที่งอกงาามขึ้นมา วิชชาประเสริฐสุด
    </O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    </O:p>
    <O:p></O:p>
    </O:p>
    <O:p></O:p>
     
  2. ตรีเพชร์

    ตรีเพชร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +528
    เดียรัจฉานวิชาไหนหรือจะมาสู้กับพุทธคุณได้ ขออนุโมทนาสาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459


    อนุโมทนาค่า.. รูปสวยมาก ๆ เลยค่า ขอบพระคุณที่แวะมานะค๊า ^_^
     
  4. Tanunchapat

    Tanunchapat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +3,191
    ตะก่อนก้อไม่เคยเชื่อนะเรื่องคุณไสยมนต์ดำ
    เพราะเท่าที่เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์นี่ หลอกลวงต้มตุ๋นทั้งน้านนนนน

    แต่เด๋วนี้.........เชื่อแล้วคร้า ว่ามันมีจริง มีอยูบนโลกเบี้ยว ๆใบนี้
     
  5. taeperok

    taeperok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    38
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +119
    นิยายนี่หน่า นึกว่าประสบการณ์จริง
     
  6. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459


    โมทนาค่าคุณ taeperok นี่เป็นประสบการณ์จริงของผู้เขียนที่ส่งมาให้ทางนิตยสารแปลก ประจำวันที่ 30 เม.ย.-6 พ.ค.2553 ได้นำมาเรียบเรียงและตีพิมพ์ โดยคุณแสน วิชาชาญ เพื่อเผยแพร่ค่า ลองอ่านตอนท้ายเรื่องอีกทีนะค๊า.. ขอบคุณค่า ^ ^

    ปล. พิมพ์ลงใน office (word) เองและคัดลอกมาลงกระทู้ค่ะ ขออภัยหากพิมพ์ผิดพลาดนะคะ ขออนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่แวะมาค่า..
     
  7. WATSAPORN

    WATSAPORN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +76
    เดรัจฉานวิชชาก็ยังมีอยู่ มีมืดก็ต้องมีสว่าง มีดีก็มีเลว แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความชั่วก็ต้องแพ้ความดี....
     
  8. คนวิเชียร

    คนวิเชียร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +1,298
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ ครับ พุทโธ เม นาโถ พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของเรา
     
  9. bu_rana

    bu_rana Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +92
    ขอบคุณคะสำหรับเรื่องราวดีๆคะ
     
  10. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,153
    เรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำมีจริง

    ตาของผม ก็เป็นผู้ที่เคยเรียนด้านนี้มาจากหมอเขมร แต่เรียนแก้ คู่แฝดของตาอีกคนหนึ่งเรียนผูก และผู้ที่เรียนแก้กับเรียนผูกจะไม่มาเผาผีกัน งานวันศพตา แฝดพี่ของตาก็ไม่มางานศพของตาด้วย (แล้วเรื่องวีรกรรมของตาผมสมัยมีชีวิตเกี่ยวกับเรื่องคาถาอาคม พวกญาติๆ และคนแถวบ้านที่ต่างจังหวัดก็ต่างพากันพูดถึง)

    ตอนตาผมตาย ท่านทิ้งตำราเอาไว้ เป็นภาษาขอม มียายผมอ่านได้คนเดียว แต่อ่านได้แค่บางบทเท่านั้น เพราะท่านเองก็หลงๆลืมๆไปแล้ว แต่มีอยู่คาถาหนึ่งที่ยายผมจำได้ตลอดเวลา คือ คาถาแคล้วคลาด

    คาถาแคล้วคลาด ปัดได้ทั้งสัตว์มีพิษด้วย เรื่องนี้ผมเจอกับตัวเอง

    มีครั้งหนึ่งผมไปทำไร่มัน ที่นครสวรรค์ ตามต่างจังหวัดนั้นขึ้นชื่อว่ามีแมงป่องเยอะ

    3 คืนแรกที่ผมนอนมุ้งเดียวกับยาย ผมโดนแมงป่องต่อยเอา 2 คืน แต่ยายไม่เคยโดนเลย ผมถามยาย ทำไมยายไม่โดนต่อยบ้างหรือ

    ยายผมหัวเราะบอกว่า ข้ามีคาถาดี ตาแกเค้าให้ไว้ ยายไม่เคยเจออะไรที่ร้ายๆเลย แคล้วคลาดตลอด แม้แต่นอนฝันร้ายก็ไม่มี สัตว์พิษมามนต์ก็ปัดออก (แหม่...แต่มนต์ดันปัดมาหาผมหน่ะสิ)

    ผมเลยขอคาถายาย แล้วสวดก่อนนอน ผมก็ไม่เจอแมงป่องต่อยอีกเลย ทำไร่อยู่ 3 เดือน ปลอดภัยยาวเลย

    จากประสบการณ์เล็กๆน้อยๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2010
  11. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    บทขัดขันธปริตร

    พระปริตรใด ยังพิษอันร้ายแรงแห่งอสรพิษ และสัตว์พิษทุกชนิดให้หายไปประดุจดัง มนต์ทิพย์ และยาทิพย์อันวิเศษ

    อนึ่งพระปริตรใดย่อม ที่สามารถห้ามกันอันตราย ของสัตว์ร้ายให้สิ้น

    ในเขต แห่งอำนาจแห่งพระปริตรทุกสถานในกาลทุกเมื่อ โดยประการทั้งปวง

    ขอท่านผู้เจริญทั้งหลาย โปรดจงสาธยายพระปริตรนั้นเทอญ

    ขันธะปะริตตะคาถา

    วิรูปักเข เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม
    ฉัพ ยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิ จะ
    อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม
    จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปปะเทหิ เม
    มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก
    มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท
    สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา
    สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา
    อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ
    ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที อุณณานาภี
    สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ
    โสหัง นะโม ภะคะวะโต นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานังฯ

    บทขันธะปะริตตะคาถา(วิรูปักเขหิ เม เมตตัง) นี้เวลาเข้าป่าควรสวดไว้นะคะ ผีรักเลยหละ งู สัตว์ร้าย นี่แทบไม่กล้าเข้าใกล้เลย เพราะมีแต่เมตตาเป็นมิตรต่อเขา .. อ่อ อย่าลืมนึกถึงพระรัตนตรัยด้วยค่า เวลาจะสวดมนต์บทไหนๆก็ตามนะคะ..

    อนุโมทนากับคุณ Supop ด้วยนะค๊า บทสวดพระปริตรบทนี้ก็ดีมาก ๆ นะคะ ส่วนบทที่เกี่ยวข้องกับมนต์ดำหรือคุณไสย์.. บทที่ป้องกันได้ก็จะเป็น บทอาฏานาฏิยปริตร นะคะ สวดได้บ่อย ๆ ก็ดีมากเช่นกันค่า ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่นำมาแชร์กันนะคะ ^ ^
     
  12. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,153
    ขอบคุณครับคุณ Faithfully

    สำหรับบทสวดมนต์หน่ะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...