นิรภิม(นรกภูมิ) เปรตภิม(อสิรกาย) เดรัจถีภิม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อารยเมตตรัยพุทธเจ้า, 15 ธันวาคม 2004.

แท็ก: แก้ไข
  1. อารยเมตตรัยพุทธเจ้า

    อารยเมตตรัยพุทธเจ้า บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ภิม 3 (อบายภูมิ 3)
    เดรัจถีภิม(เดรัจฉานภูมิ)


    อบายภิม 3 ประกอบด้วยเดรัจถีภิม(เดรัจฉานภูมิ) เปรตภิม(เปรตภูมิ) นิรภิม7 ขุม ( นรก 7 ขุม) อุบัติขึ้นเพื่อลงโทษจิตมนุษย์ที่กระทำความชั่ว มีหลายระดับ ตามชนิดของความผิด ตำแหน่งที่ตั้งของ เดรัจถีภิม คือ โลกมนุษย์เพียงแต่มิได้อุบัติเป็นมนุษย์ เป็นเหล่าบรรดาสรรพสัตว์อื่น ๆ นับตั้งแต่สัตว์ชั้นต่ำอย่างเช่น หนู สุนัขข้างถนนรวมทั้งบรรดาสัตว์เลือดอุ่นที่เป็นอาหารมนุษย์ได้แก่ สัตว์ปีก หมู วัว ควาย แพะ แกะ ลา ล่อ ม้า เก้ง กวาง เป็นต้น สัตว์เดรัจฉานเหล่านี้ วัฏคือรอบอายุขัยสั้นเป็นที่สิงสถิตย์ของสรรพเวสี(สรรพวัฏ คือวัฏสั้น)ได้แก่จิตวิญญาณเร่ร่อน ที่ไม่สามารถกลับคืนสู่ที่ตั้งจิตหรือนำกลับไปพิจารณาคดีที่นิรภิม 1 ได้ รวมทั้งสัตว์ชั้นสูงอีก 3 ชนิด ได้แก่ เต่า หมี เสือ ซึ่งสัตว์ทั้ง 3 ชนิดมีจิตของมนุษย์ที่หลุดพ้นจากการจองจำที่นิรภิม และเปรตภิม ก่อนที่จะกลับมาอุบัติเป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง เป็นการปรับสภาพจิตเพื่อให้สันดานดิบของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลสตัณหาลดลงอยู่ในระดับที่พอดี ดังเช่นสัตว์ทั้งสามชนิดซึ่งดำรงชีวิตอยู่ตามสัญชาติญาณเท่านั้น กิเลสตัณหา โลภ โกรธ หลง ล้วนพอดี เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏต่อไปได้โดยมิต้องตกอยู่ในอบายภูมิอีก เนื่องจากมีเพียงมนุษย์ภิม(มนุษย์ภูมิ)เท่านั้นที่สามารถประกอบกรรมดี กรรมชั่วได้


    เปรตภิม(เปรตภูมิ)

    เปรตภิม เป็นอบายภิมที่สองที่อุบัติขึ้นเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิดฐาน ตบตี ทำร้ายร่างกายบุพการี ต้องทนทุกขเวทนายิ่งกว่าเดรัจถีภิม เพราะสามารถรับรู้รสอาหารแต่ไม่สามารถดื่มกินได้ ตำแหน่งที่ตั้งคือใต้พื้นพสุธาอยู่ใกล้กับผิวโลก


    นิรภิม 7(นรกภูมิ 7 ขุม)

    นิรภิม 7 อุบัติขึ้นเพื่อจองจำจิตที่กระทำผิดฐานละเมิดสังสารวัฏของผู้อื่น รวมทั้งทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นรวมทั้ง สัตว์อื่นต้องได้รับทุกขเวทนาทางกาย ทุกขเวทนาทางใจ (สัญญาเวทนิกนิโรท) เป็นกงกรรมกงเกวียน ตำแหน่งที่ตั้งของนิรภิมคือ ดิ่งลึกลงไปในใจกลางโลก เริ่มตั้งแต่ขุมที่ตื้นที่สุดคือขุมที่ 1 อยู่ใต้พื้นพสุธาไม่มาก อยู่ถัดจากเปรตภิมลงไป ขุมถัดไปล้วนลึกลงไปใต้พื้นพสุธาทั้งสิ้น ดิ่งลึกลงไปเรื่อย ๆ ยิ่งลึกยิ่งร้อนอบอ้าว ขุมที่ลึกที่สุด คือขุมที่ 7 อยู่ตรงใจกลางโลก ณ จุดนี้ก็คือจิตโลก ลาวาที่ร้อนแรงที่คุกรุ่นอยู่ภายในใจกลางโลก เป็นนรกขุมที่ทุกข์เวทนาที่สุด จิตแตกสลายแล้วแตกสลายอีก สามารถแยกแยะนิรภิม(นรก)แต่ละขุมดังต่อไปนี้.-


    นิรภิม 1 (นรกขุมที่ 1)

    ตำแหน่งที่ตั้ง อยู่ใต้พื้นพสุธา ถัดจากเปรตภิม (เปรตภูมิ) เป็นที่ตั้งของจิตนายนิรบาล (พยายม,ยมบาล) เป็นนรกขุมที่ใช้พิจารณาคดี สะสางความดี ความชั่ว ก่อนที่จะนำไปอุบัติใหม่ตามกรรมที่ได้กระทำขึ้นเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ รวมทั้งจิตของพระพุทธเจ้าเองเมื่อครั้งอุบัติเป็น พ่อขุนรามกำแหง ก็ต้องถูกฝังอยู่ใต้พื้นพสุธา ภายหลังจากละกายสังขารแล้วเช่นกัน ภายหลังจากละกายสังขารยังคงต้องนำกลับไปพิจารณาคดีที่นิรภิม 1 เฉกเช่นกัน ก่อนกลับคืนสู่ที่ตั้งจิตคือสวรรค์ชั้นกามาวจร จิตบางจิตอุบัติลงมาบนโลกมนุษย์แต่ยังไม่ครบ สังสารวัฏ คืออายุไม่ถึงครึ่ง สังสารวัฏ (ครึ่ง ศตวรรษ คือ 50 พรรษา) จักถูกนำมาพิจารณาคดีความเช่นเดียวกับโลกมนุษย์ว่ามีสาเหตุมาจากสิ่งใด หากเป็น กงกรรมกงเกวียน เคยเป็นผู้ฆ่าก็ต้องลงไปอุบัติใหม่เพื่อชดใช้กรรมที่ได้กระทำไว้ คือต้องเป็นผู้ถูกฆ่า จะถูกส่งกลับเป็น สรรพเวสี คือวิญญาณเร่ร่อน ไม่สามารถกลับคืนสู่ที่ตั้งจิต คือสวรรค์ชั้นอาภัสสรพรหมได้


    จนกว่าจะหมดสังสารวัฏ จิตวิญญาณของมนุษย์ที่เคยก่อกรรมทำเข็ญ กับมนุษย์ด้วยกันคือฆ่ามนุษย์ด้วยกัน รวมทั้งการรบพุ่งกันในสมัยบุราณ เป็นการต่อสู้กันตัวต่อตัวตามสัญชาติญาณสัตว์ ผู้ถูกฆ่าหากเป็นผู้ถูกรุกราน ล้วนผูกใจเจ็บ จองเวรจองกรรม ต้องการอุบัติเป็นผู้ฆ่า หากผู้ที่ถูกฆ่าเพราะกงกรรมกงเกวียนที่ไปตัดตอนสังสารวัฏ ของผู้อื่น จะต้องถูกจองจำอยู่ใน วัฏสังสาร คือต้องเป็นสรรพเวสี (วิญญาณเร่รอน) ล่องลอยไปในอากาศ ต้องวนเวียนลงมาเกิดเป็นเดรัจฉาน สิงสถิตย์อยู่กับสุนัขข้างถนนไร้คนดูแลเลี้ยงดู อดอดอยาก ๆ รวมทั้งสิงสถิตย์อยู่กับสรรพสัตว์อื่นเพื่อสามารถกัดกิน ได้แก่ แมว ตุ๊กแก กัดกินสัตว์ซึ่งนรกส่งมาเกิดเพื่อชดใช้กรรม คือหนู สารพัดชนิด เป็นอาหาร เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสังสาร จนกว่าจะครบ สังสารวัฏ หลังจากนั้นจึงจะถูกนำกลับมาพิจารณาคดีความต่อที่ นิรภิม 1 คือนรกขุมที่ 1
    โดยผู้ที่ทำหน้าที่รวมรวมจิตสรรพสัตว์ รวมทั้งมนุษย์ที่ถูกฆ่ากลับมาพิจารณาคดีที่นิรภิมที่ 1 คือ ท้าวเวชสุวรรณ ส่วนผู้ที่ครบสังสารวัฏ พยามัจจุราช จะเป็นผู้ที่ทำหน้านำจิตเหล่านี้มาพิจารณาคดีความ รวมทั้งจิตทั้งหลายหากประกอบคุณงามความดี นายนิรบาล ก็จะส่งจิตวิญาณเหล่านั้นไปให้ พยามัจจุราช พิจารณาความดีความชอบที่ บนสวรรค์ชั้นอาภัสสรพรหม รวมทั้งบาปกรรมอย่างอื่นถ้าเคยกระทำความผิดอื่น ๆ อย่างเช่น ทำร้ายร่างกายบุพการี ต้องตกอยู่ในเปรตภิม (เปรตภูมิ) เป็นต้น จำนวน 1 สังสารวัฏ หลังจากนั้นถึงนำมาพิจารณาคดีความใหม่ว่ายังมีความชั่วอื่นอยู่อีกหรือไม่ หากไม่มีก็จะกลับมาพิจารณาความดีที่เคยกระทำเมื่อครั้งอุบัติเป็นมนุษย์


    นิรภิม 2 (นรกขุมที่ 2 )

    ตำแหน่งที่ตั้ง อยู่ใต้พื้นพสุธาลึกลงไปถัดจาก นิรภิม 1 (นรกขุมที่ 1) อุบัติขึ้นเพื่อลงโทษจิตที่กระทำความผิด ฐานเจตนาทำร้ายร่างกายผู้อื่นซึ่งไม่มีทางสู้ เป็นการเบียดเบียนผู้อื่นจนพิกลพิการ ทำร้ายร่างกายบุพการีโดยมิเจตนา เช่นเมาสุราจนขาดสติเผลอตัวทำร้ายบิดามารดาตนเอง เจตนาทรมานสัตว์ต้องห้าม 3 ชนิด (เต่า หมี เสือ) ฆ่าสัตว์ต้องห้าม 3 ชนิดโดยไม่เจตนา (เต่า หมี เสือ) เนื่องจากในอดีตกาลสัตว์ทั้งสามชนิดเป็นสัตว์ซึ่งเคยอุบัติเป็นพระพุทธเจ้า คือพระองค์ที่ 1 อุบัติเป็นเต่า

    ครบ 10 สังสารวัฏ ( 10 ชาติ) จึงได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้า
     
  2. NiNe

    NiNe บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ฮะฮะฮ่า
     
  3. NiNe

    NiNe บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ยำใหญ่ใส่สาระพัด
     

แชร์หน้านี้

Loading...