นางสุชาดา (รูปสมบัติเป็นทุกข์ภัย)

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 13 พฤษภาคม 2009.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]


    นางสุชาดา


    ในอดีตกาล พระนางพิมพาเกิดเป็นหญิงงามชื่อ สุชาดา ส่วนพระโพธิสัตว์เกิดเป็นบุตรชายคหบดี ทั้งสองอยู่ในกรุงพาราณสี

    นางสุชาดานั้นเป็นหญิงที่งามทั้งกายและใจ ความงามของนางเปรียบได้ดังความงามของเทพอัปสร ท่วงท่าการเยื้องกรายก็งดงามดั่งนางกินนรี กิริยามารยาทงดงามสมเป็นกุลสตรี มีความเอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ มีวาจาน่ารัก และเป็นผู้รักษาศีล นางจึงเป็นที่หมายปองของชายทั้งกรุงพาราณสี


    เมื่อโตเป็นสาว บิดามารดาก็จัดการให้นางสุชาดาแต่งงานกับบุตรชายคหบดี ทั้งสองสามีภรรยาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ต่างมีรักเดียวใจเดียว และนางสุชาดาก็ได้ปรนนิบัติบิดามารดาสามีจนเป็นที่รักใคร่ของบิดามารดาของสามีด้วย


    วันหนึ่ง นางสุชาดาบอกสามีว่าอยากจะกลับไปเยี่ยมมารดาบิดา สามีของนางจึงจัดแจงเตรียมของกินของใช้บรรทุกยาน ให้นางสุชาดานั่งข้างหลัง ส่วนตัวเองนั่งหน้า ทำหน้าที่ขับยานพาภริยาไป


    เมื่อเดินทางเข้าไปในกรุงพาราณสี นางสุชาดาก็ลงจากยานมาเดินเท้า วันนั้นพระเจ้ากรุงพาราณสีเสด็จออกกระทำประทักษิณพระนคร เมื่อพระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นนางสุชาดาก็หลงรักรูปโฉมของนาง จึงรับสั่งให้อำมาตย์ไปสืบดูว่านางเป็นใคร มีสามีหรือยัง


    อำมาตย์กลับมากราบทูลพระราชาว่านางสุชาดามีสามีแล้ว สามีของนางคือคนที่ขับยานนั้นพระราชาได้ฟังก็ทรงมีพระหทัยเร่าร้อนด้วยถูกกิเลสตัณหาเข้าแผดเผา คิดหาทางจะฆ่าสามีแล้วยึดเอาภริยาแสนงามนั้นมา ดำริแล้วจึงรับสั่งให้ราชบุรุษแอบเอาปิ่นมณีมีค่าไปซ่อนไว้ในยานของนางสุชาดา


    เมื่อราชบุรุษไปทำตามแผนแล้ว พระราชาก็ประกาศว่าปิ่นมณีของพระองค์หายไป ทรงรับสั่งให้ปิดประตูพระนคร และให้ทหารค้นหาปิ่นมณีที่หายไปให้จงได้เมื่อทหารตรวจมาถึงยานสามีของนางสุชาดาก็พบปิ่นมณีที่ซ่อนไว้ จึงได้จับเขามัดแขนไพล่หลัง นำตัวมาเฝ้าพระราชา พระราชารับสั่งให้โบยด้วยหวาย แล้วเอาตัวไปตัดหัวที่นอกเมือง


    นางสุชาดาเห็นสามีโดนจับก็ทิ้งยาน เดินร้องไห้คร่ำครวญรำพันตามไปข้างหลัง จนถึงนอกเมือง พวกทหารก็จับสามีของนางนอนลงเตรียมตัดศีรษะนางสุชาดาเห็นดังนั้น จึงตั้งสติรำลึกถึงคุณแห่งศีลที่นางได้รักษาไว้เป็นที่ตั้ง แล้วกล่าวรำพันอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า


    "เทพเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายสมณพราหมณ์ล้วนสรรเสริญว่าท่านเป็นผู้รักษาโลก รักษาคนทำดี บัดนี้สามีคนดีของข้ากำลังจะถูกประหาร พวกท่านไปอยู่กันเสียที่ไหน เหตุใดไม่ออกมาปกปักรักษา เทพเจ้าเจ้าขา...สมณพราหมณ์ทั้งหลายล้วนสรรเสริญว่าท่านเป็นผู้อนุเคราะห์ผู้รักษาศีล บัดนี้สามีผู้มีศีลของข้ากำลังจะถูกคนทุศีลทำร้ายโดยไม่ได้ไต่สวน เหตุใดท่านจึงไม่รักษาเขา"


    คำพร่ำรำพันของนางสุชาดานั้น ส่งผลให้อาสนะของท้าวสักกเทวราชแสดงอาการร้อนขึ้น พระองค์จึงทรงตรวจดู พบว่าพระราชากรุงพาราณสีกำลังกระทำเหตุชั่วช้า ท้าวสักกเทวราชจึงเสด็จลงจากเทวโลก บันดาลให้ร่างสามีของนางสุชาดากับพระราชานั้นสลับกัน ร่างสามีนางสุชาดาไปอยู่บนคอช้างพระราชา ส่วนร่างพระราชามานอนแทนที่ เพชฌฆาตไม่ทันมองจึงได้ตัดเศียรพระราชาขาด


    แล้วท้าวสักกเทวราชก็ปรากฏพระองค์ขึ้น แต่งตั้งให้สามีเป็นพระราชา และให้นางสุชาดาเป็นพระมเหสี มีเทวโองการให้พระราชาองค์ใหม่ตั้งอยู่ในราชธรรม แล้วพระองค์ก็เสด็จกลับคืนเทวโลกฝ่ายพวกอำมาตย์ พราหมณ์ และคหบดี เห็นท้าวสักกเทวราชมาแต่งตั้งพระราชาองค์ใหม่ให้ ต่างก็ชื่นชมยินดีกันถ้วนหน้า



    พระเจ้ากรุงพาราณสี มาเกิดเป็น พระเทวทัต
    ท้าวสักกเทวราช มาเกิดเป็น พระอนุรุทธ
    พระราชาสวามี มาเกิดเป็น พระพุทธเจ้า
    นางสุชาดา มาเกิดเป็น พระนางพิมพา

    ที่มา : คำปรารภ นางแก้วคู่บารมี | เว็บบล็อกบ้านพี่พลอย By... พี่พลอยจ๋า






     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...