นั่งกรรมฐานอย่างไร จึงจะไม่รู้สึกวูบ (หลวงพ่อจรัญฯ)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แว๊ด, 2 พฤษภาคม 2009.

แท็ก: แก้ไข
  1. แว๊ด

    แว๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    982
    ค่าพลัง:
    +509
    แล้วเราก็ยืนหนอ ๕ ครั้ง นี้คือ กายานุปัสสนา มีทั้งรูปทั้งนาม ยืน...หนอ อะไรยืน รูปยาย กายยืนอยู่ สติมันจะบอกกับจิตว่า ยืนอย่างนี้ มโนภาพที่เรียกว่านาม ถ้าเรามีสัมปชัญญะร่วมด้วย ความรู้ที่สติกับจิตตามทันเมื่อใด เรียกว่า นามธรรม ถ้าไม่มีสติตามจิตได้จะเรียกว่า "นาม" เฉย ๆ เท่านั้น จะเรียกว่าธรรมด้วยไม่ได้

    ถ้าเรามีสัมปชัญญะควบคุมจิตไว้ได้ มันจะไม่ออกไปนอกขอบเขตนี้แล้ว เรียกว่า นามธรรม รูปนามขันธ์ ๕ เป็นอารมณ์ อยู่ขณะที่ ยืน...หนอ ๕ ครั้ง ตรงนี้ทำให้ได้ซิ บางคนอาตมาถาม บอกว่าทำไม่ได้เลย แล้วจะไปเอาสวรรค์ อะไรกัน ตรงนี้ยังทำไม่ได้เลย... สติมันอยู่กับจิต ถ้าอยู่ไม่ได้ โยมจะแยกรูปแยกนามไม่ได้ นามรูปปริจเฉทญาณไม่ได้ผล ไหนจะไปได้ญาณ ๑๖ เล่า ญาณเบื้องต้นก็ทำไม่ได้แล้ว แยกรูปแยกนามไม่ได้แน่

    ถามว่า "ยืนหนอ" อะไรยืน อะไรกำหนด รูปอยู่ตรงไหน นามอยู่ตรงไหน จะตอบกันไม่ถูกนะ เพราะทำไม่ได้ ถ้าโยมทำได้จะตอบถูกเป็นเสียงเดียวกันหมด อ๋อ.. นามคือจิต คิดอ่านอารมณ์ รับรู้อารมณ์ไว้ได้นาน เหมือนเทปบันทึกเสียงคือจิต แต่ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะ ไม่มีความรู้ตัว เรียกว่า จิตเป็นนามเฉย ๆ

    ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะรู้ตัว รู้ทั่วรู้กิริยามารยาทของเรา แสดงออกดีหรือชั่ว จึงเรียกว่านามธรรม มีธรรมะประจำใจ นามคือจิต เข้าถึงพระรัตนตรัยเข้าถึงพระพุทธเจ้าตรงนี้หรือยัง นอกเหนือจากนั้นยังเข้าไม่ถึงเลยนะ จะไม่ได้อะไร เอาไปทำตลอดชีวิต กลับไปบ้านก็กำหนดอย่างนี้แหละ จะเดินไปไหนมีสติสัมปชัญญะ รับรองรูปธรรม นามธรรม เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ในครอบครัวมาก เห็นจะไม่ไปอบายภูมิ นรก เปรต สัตว์เดรัจฉาน เพราะเรามีสติสัมปชัญญะดี

    พองหนอ ยุบหนอ มันพองอยู่ตรงไหน กำหนดตรงนั้น ถ้าวูบมากมายแก้ไม่หาย ทำอย่างไรก็แก้ไม่ได้ มันวูบเรื่อย ถีนมิทธะเข้าครอบงำ ให้เอาจิตปักลงที่ใต้สะดือ ๒ นิ้ว กำหนด รู้หนอ...รู้หนอ...ที่ใต้สะดือนั่นถึงจะหาย ถ้าคิดทั่วไปหรือโกรธ ให้กำหนดที่ลิ้นปี่ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน

    บางคนฟังผิดไป พองหนอ ยุบหนอ อยู่ที่ลิ้นปี่นั่นเอง ไม่ใช่ พองหนอ ยุบหนอ อยู่ที่ท้องนะ ทำให้มันถูกต้องหน่อย ทำอะไรอย่าทำโดยสงสัยนะ ถ้าโยมจะเสียเวลาการที่มานั่งกรรมฐานกัน

    ถ้ามันสั่นไม่หาย ผงกไม่หาย โงกหน้า โงกหลัง เดี๋ยวหงกตรงนั้น เดี๋ยวขนลุก ขนพองสยองเกล้าไม่หาย แก้อย่างไร...กำหนดตัวตรง กำหนดรู้หนอ รู้หนอ เอาจิตปักไว้ใต้สะดือ ๒ นิ้ว ปักแล้วกดลึก ๆ รับรองหยุดทันที ไม่ใช่กำหนดที่ลิ้นปี่

    บางทีก็ศรีษะก้มตกได้นะ พองหนอ ยุบหนอก้มลงไปเรื่อย ๆ ศรีษะก้มลงไปถึงพื้นไปเลย ต้องแก้ โดยตั้งตัวให้ตรง กำหนดรู้หนอ รู้หนอ ถ้ายังไม่หาย กำหนดลงไปที่ใต้สะดือ รู้หนอ รู้หนอ รับรองหายทันที

    กำลังกำหนดพองหนอ ยุบหนอ เกิดวูบลงไปเห็นแสงสี คิดว่าสำเร็จพระโสดาอีกแล้ว อะไรกันนักหนา ถ้าอย่างนั้นวูบไปหน่อยก็สำเร็จหมดทุกคนนะซิ

    ที่วูบมีอยู่ ๒ อย่าง วูบไปด้วยกำลังสมาธิหนึ่ง สมาธิขาดสติมันจึงวูบ ผงกโงกลงไปเลย สมาธิดีแต่ขาดสติ อีกอย่างหนึ่งวูบไปตอนหลับ มันหลับถึงจะวูบ

    บางคนนั่งพองหนอ ยุบหนอ น้ำลายไหลยืดลงไปเลย แล้วศรีษะก้มลงไปเรื่อย ๆ ครูเขาบอกว่า ญาณขึ้นแล้ว คนนี้เก่งน้ำลายไหล ลงไปกองที่พื้นกระดานเชียว พอสะกิดขึ้นมา รู้หนอ ๆ ๆ โอ้โฮ้..ครูว่าญาณวิเศษมาแล้ว ได้สำเร็จธรรมวิเศษแล้ว มันจะมากไป นั่งหลับแท้ ๆ

    บางคนกำหนด ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ ยืนหลับไปเลย ยืนวูบ...คนเข้าไปถามบอกว่า ฉันวูบไปเห็นแสงด้วย ได้โสดาอีกแล้ว โสดาอะไรกัน...หลับไปแท้ ๆ เดินจงกรมยังหลับเลย อันนี้ไม่มีความเข้าใจในการปฏิบัติ มันจึงได้ไม่รู้เรื่องอะไรจริง ๆ นี่หลับไปเสียแล้วนะ

    และที่ว่าให้กดลงไปใต้สะดือ ๒ นิ้วนะ หมายความว่า ตัวสั่นขนพองสยองเกล้า ถ้ากำหนดที่ลิ้นปี่ไม่หายให้ถอย หายใจใหม่ พองหนอ ยุบหนอ มันยังสั่นอีก พอยกมือขึ้นพนมก็สั่น นี้เป็นปีติ มีสมาธิดีแต่ขาดสติ เกิดปีติอารมณ์มันบางเหลือเกิน ใครกระทบอะไรไม่ได้ ขนหัวลุกเลย คนประเภทนี้ขาดสตินะ ไม่มีสติยึดครองในจิตใจเลย ใจก็หวั่นไหว ใครพูดอะไรก็เชื่อง่าย คนประเภทนี้โง่ คนขาดสติใจอ่อน ผีเข้าเจ้าสิงเก่ง ไม่ช้าผีก็เข้าทรงหรอก เดี๋ยวก็ไปรับขันธ์

    จะปวดหัวไหล่ จะปวดคอ ก็กำหนดจิต กำหนดเวทนาก่อนให้มันได้ เดี๋ยวมันก็จะมาพร้อมกันหมด อิริยาบถต่าง ๆ ก็จะมาพร้อมกัน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็ต้องกำหนด มีบางคนบอก ปวดหัวมาก ถามว่ากำหนดหรือเปล่า ...ตอบว่าเปล่า ไม่ได้อะไรเลยนะ ปวดก็กำหนด ปวดหนอ ปวดหนอ ปวดหนักเข้าก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จะได้รู้ว่าเหตุที่ปวดนั้นเพราะไปทำอะไรมา ไปทำบาปตรงไหน เดี๋ยวมันจะบอกปวดศรีษะนี้รักษาไม่ได้ ปวดมานานแล้ว ไม่ใช่มาปวดตอนนั่งกรรมฐาน จะได้รู้เวรกรรมบ้าง ปวดขามากก็กำหนดไป ตั้งสติไว้ เป็นตายร้ายดีตั้งสติไว้ เดี๋ยวมันจะนึกออกบอกมาเอง

    เวทนาอาศัยรูปเกิด เวทนา สัญญา สังขารปรุงแต่งมันถึงจะปวด ถ้าหากไม่มีรูปอยู่ไม่มีกาย มันจะปวดได้อย่างไร มันต้องมีกายประกอบด้วยนาม ปรุงแต่งขึ้นมามันถึงจะปวด ไม่ใช่นั่งอยู่เฉย ๆ ไม่พลิกเลยมันก็ต้องปวด ปวดก้น ปวดขา อย่างนี้เป็นต้น ให้ตั้งใจกำหนดสติไว้ มันจะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป รูปนามจึงจะแยกออกไป เวทนาก็แยกออกไป เราจะไม่ปวด อุปทานก็จะไม่ไปยึดอีกต่อไป

    อุปทานยึดเป็นการศึกษาว่า ปวดหนอ ปวดหนอ ปวดหนอ...นี่ยึดเพื่อต้องการศึกษา ต้องการเรียนรู้เวทนา จะได้อดทนต่อไป พอรู้จริงแล้วมันก็เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พระไตรลักษณ์เกิด เรียกว่า วิปัสสนา มันจะเกิดขึ้นมาในภายหลัง ไม่ใช่กำหนดส่งเดชไป ปวดหนอ ปวดหนอ แล้วก็เลิกเลย ใช้ไม่ได้ ...


    ที่มา : คัดลอกมาจาก หนังสือ เจริญกรรมฐาน ๗ วัน ได้ผลแน่นอน (การทำสมาธิ : แนวทางของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...