นักวิทย์รัสเซีย อ้างพบซาก ยูเอฟโอ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย pongsiri, 17 มีนาคม 2005.

  1. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    นักวิทย์รัสเซีย อ้างพบซาก ยูเอฟโอ

    สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ รายงานคำอ้างเมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา โดยนักวิทยาศาสตร์นักวิทยาศาสตร์รัสเซีย ซึ่งทำงานให้กับโครงการศึกษาปรากฏการณ์อวกาศตุนกัสกา เผยว่า พวกเขายังพบก้อนหินประหลาดขนาด 50 กก. ในบริเวณเดียวกัน และขณะนี้ได้ส่งไปวิเคราะห์ที่ห้องทดลอง เมืองคราสโนยาร์สก์ ในไซบีเรียแล้ว
    อนึ่ง เหตุระเบิดบนท้องฟ้าเหนือแม่น้ำตุนกัสกาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 1908 ยังคงถือเป็นหนึ่งในเรื่องลี้ลับทางวิทยาศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20 โดยครั้งนั้นมีผู้รับรู้แรงระเบิดได้ไกลหลายร้อยกม. และทำให้ผืนป่าไซบีเรีย ถูกทำลายไปกว่า 2,000 ตร.กม.
    ทั้งนี้ แม้หลายคนเชื่อว่าเป็นการระเบิดของอุกกาบาต แต่ปัจจุบันยังไม่มีผู้ใดสามารถพิสูจน์ได้ จนทำให้เกิดข้อโต้แย้งและทฤษฎีต่างๆตามมาอีกมากมาย
     
  2. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    เรื่องจริงที่รอสเวลล์
    ในเช้าตรู่ของวันที่ 5 กรกฏาคม 1947 แม็ค บราเซล เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ในโคโรนา เขตนิวเม็กซิโก ได้เปิดเผยว่า เมื่อเขาเดินทางไปถึงใจกลางไร่ ได้พบเศษโลหะกระจายเกลื่อนกลาดดูราวกับมีบางสิ่งบางอย่างขนาดใหญ่มากตกลงมาจากท้องฟ้า สังเกตได้ว่าเศษเหล็กหรือโลหะกระจายเป็นอาณาบริเวณกว้างราว 300 ฟุต และยาวราว 3 ไมล์ ชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้านั้น มีทั้งที่เป็นลวดชิ้นเล็ก ๆ และเป็นแผ่นโลหะบางเบาแต่เหนียวและทนมาก สามารถพับไปพับมาได้ราวกับเป็นแผ่นกระดาษ นอกจากนั้น ยังมีเศษโลหะที่ค้ายกับกระดาษฟอยล์สีตะกั่วกระจายทั่วไป
    ในตอนแรก เขาไม่ทราบว่าสิ่งที่เขาพบเห็นเป็นอะไร เขาได้หยิบเอาตัวอย่างเศษโลหะสามชิ้นไปให้เพื่อนบ้านที่อยู่ห่างไกลจากบ้านเขาสิบไมล์ได้ดู ปรากฏว่า เพื่อนบ้านต่างก็แนะนำให้เขานำเข้าไปในเมืองรอสเวลล์ ซึ่งเขาได้ปฏิบัติตาม โดยได้นำไปให้จอร์จ เอ. วิลค็อกซ์นายอำเภอ รอสเวลล์ได้พิจารณาดู ซึ่งตอนแรกนายอำเภอไม่ค่อยสนใจเท่าใดนัก เขาได้แนะนำแม็คให้โทรศัพท์ติดต่อไปยังกองบินทหารอากาศรอสเวลล์ดูจะเหมาะสมกว่า ทันใดนั้นทางกองบินได้ส่งทหารมายังที่ว่าการของนายอำเภอ และรับหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบทันที โดยเป็นนายทหารอากาศสองนายและพลเรือนคนหนึ่ง ซึ่งได้แสดงตัวเป็นสมาชิกหน่วยต่อต้านข่าวกรองของกองทัพ
    พวกเขาเดินทางไปถึงจุดหมายดังกล่าวเป็นช่วงเวลาเย็น จึงจำเป็นต้องพักค้างคืนที่กระท่อมเล็ก ๆ ซึ่งไม่มีทั้งไฟฟ้าและน้ำ จวบจนกระทั่งรุ่งเช้าจึงได้เดินทางไปยังบริเวณที่แม็ค บราเซลอ้างว่าพบเศษโลหะประหลาดกระจายเกลื่อนกลาด ซึ่งต่อมานาวาอากาศตรีมาร์เซลได้กล่าวว่า เศษโลหะและวัตถุประหลาดต่าง ๆ นั้น เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน มีลักษณะเบา เท่ากับกระดาษหนังสือพิมพ์ เบาราวกับขนนก แต่เหนียว ทนทานมาก ใช้ค้อนขนาดใหญ่ทุบให้เป็นรอย แต่เพียงเสี้ยววินาที ก็คืนรูปเดิม เผาไฟก็ไม่ลุกไหม้ ต่อมานาวาอากาศตรีเจสส์ เอ. มาร์เซล และตัวแทนจากหน่วยสืบรายการลับซ้อน ได้ช่วยกันเก็บเอาเศษโลหะใส่รถจี๊ปขนาดเล็ก กว่าจะหมดก็ใช้เวลาค่อนวันเลยทีเดียว จากนั้นก็ลำเลียงต่อไปยังรอสเวลล์ ส่วนแม็ค ขอแยกตัวเข้าไร่ปศุสัตว์อีกระยะหนึ่ง
    ช่วงระหว่างทางที่มุ่งไปสู่กองบิน นาวอากาศตรีเจสส์ได้แวะที่บ้าน และได้นำเศษโลหะประหลาดหลายชิ้นไปอวดภรรยาและบุตรชาย เนื่องจากเห็นว่าเป็นของแปลกและไม่มีใครพบเห็นมาก่อน เขาต้องการให้ภรรยาและบุตรชายได้เห็นเป็นบุญตาก่อนทีใครบางคนจะแย่งไปเก็บไว้โดยอ้างว่าเป็นเรื่องลับสุดยอด
    บุตรขายของนาวาอากาศตรีเจสส์นึกขึ้นได้ในภายหลังว่า เศษโลหะรูปตัวไอหลายชิ้นมีรอยแกะสลักเป็นภาษาเขียนประหลาดที่ไม่ใช่ภาษาของมนุษย์ในโลก หากพิจารณาอีกในลักษณะหนึ่ง ภาษานั้นเป็นสัญลักษณ์คล้ายคลึงกับรูปร่างเรขาคณิตมากกว่าที่จะเป็นภาษาใด ๆ ตกตอนเย็นเขายังนั่งดูเศษโลหะบางส่วนที่วางเต็มโต๊ะอาหาร พินิจพิเคราะห์อย่างใกล้ชิด
    ในวันต่อมาเรืออากาศโทวอลเตอร์ โฮท เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์แห่งกองบินทหารอากาศรอสเวลล์ ได้ให้ช่าวจนทำให้ชาวโลกตื่นตระลึงและสนใจเป็นอย่างยิ่ง เขากล่าวว่า เขาไม่มีโอกาสเห็นซากหรือบริเวณดังกล่าว แต่เชื่อว่าคงมีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ่อย่างแน่นอน ซึ่งก็ไม่ทราบแน่ชัดว่ามันคืออะไร ต่อจากนั้นนาวาอากาศตรีเจสส์ได้รับคำสั่งให้นำซากโลหะประหลาดไปยังกองบัญชาการกองบินทหารอากาศหน่วยที่แปดที่ฟอร์ทเวิร์ธ ทันที่ที่เครื่องบินจอดก็มีกำลังทหารติดอาวุธกระจายกำลังล้อมรอบ และได้ลำเลียงเศษซากโลหะประหลาดขึ้นไปยังเครื่องบินอีกลำหนึ่ง เพื่อส่งต่อไปยังศูนย์ข่าวกรองเกี่ยวกับเทคนิคทางอากาศ ที่กองบินทหารอากาศไรท์ฟิลด์ ส่วนกัปตันและลูกเรือเครื่องบินที่บินมาจากกองบินทหารอากาศรอสเวลล์ ได้รับคำสั่งให้บินกลับไปยังกองบิน และให้ลืมเรื่องดังกล่าวที่ได้พบเห็นโดยสิ้นเชิง
    ข่าวจากหนังสือพิมพ์กว่าสิบสองสำนักพิมพ์ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวันที่ 9 และวันที่ 10 กรกฎาคม ปี 1947 รายงานว่า พลอากาศจัตวาโรเจอร์ เรมีย์ ผู้บัญชาการกองบินทหารอากาศที่ 8 และนายทหารผู้ใกล้ชิด ได้เปิดเผยว่า ซากเศษโลหะดังกล่าวนั้นเป็นซากบอลลูนตรวจอากาศที่ตกลงมายังพื้นโลก





    เรื่องราวกลับประหลาดยิ่งขึ้นเมื่อชายคนหนึ่ง ชื่อเกรดีย์ แอล บาร์นีย์ บาร์เนตต์ ได้กล่าวอ้างว่าเขาได้พบซากเศษโลหะของจานบินอีกลำหนึ่ง ขณะนั้นเขากำลังทำงานอยู่ในบริเวณใกล้ที่ราบซานอกุสติน ซึ่งชาวบ้านในแถบนั้น เรียกว่า "ที่ราบไร้วิญญาณ" เป็นที่น่าสังเกตว่า บริเวณดังกล่าวนี้ห่างจากไร่ปศุสัตว์ของแม็ค ประมาณ 120 ไมล์ ไม่เพียงแต่บาร์เนตต์เท่านั้นที่พบเห็นจานบิน บังเอิญนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งขับรถผ่านมาพอดี ซึ่งบาร์เนตก็ลืมถามว่าพวกเขามาจากมหาวิทยาลัยใด สิ่งสำคัญก็คือ พวกเขาได้เห็นศพมนุษย์ประหลาดนอนตายอยู่รอบ ๆ จานบินด้วย
    ต่อมาบาร์เนตต์ได้อธิบายว่า ศพมนุษย์ประหลาดนั้นรูปร่างคล้ายสัตว์ตัวเล็ก แต่มีศีรษะใหญ่คล้ายรูปผลแพร์ แขนและขาผอมมาก และที่น่าสังเกตุก็คือไม่มีขน ศพทั้งหมดสวมชุดคล้ายเกราะเหล็กสีเทา ได้สัดส่วนพอเหมาะ เป็นชุดที่ไม่มีกระดุมและซิป ต่อมาทหารก็มาถึง พวกเขาสั่งให้บาร์เตต์และกลุ่มนักโบราณคดีถอยห่างออกไปจากยานบินลำนั้น และนายทหารที่เป็นหัวหน้าได้กำชับว่ามันเป็นหน้าที่ที่ทหารต้องรับผิดชอบ และห้ามทุกคนนำเรื่องที่พบเห็นไปบอกใครเป็นอันขาด มิฉะนั้นจะเดือนร้อน ให้ลืมเรื่องดังกล่าวให้หมด บาร์เนตต์จึงจำเป็นต้องปกปิดเรื่องที่พบเห็นเป็นความลับไม่แพร่งพรายให้ใครรู้แม้แต่ภรรยา ญาติมิตร หรือแม้กระทั่งผู้บังคับบัญชา
    ในปี 1978 นักค้นคว้าจานบินหลายคนลงความเห็นว่า ซากโลหะประหลาดที่แม็ค บราเซลพบมีความเกี่ยวพันกับยานอวกาศและศพมนุษย์ต่างพิภพที่บาร์เนตต์พบอีกแห่งหนึ่งแน่นอน ซึ่งเขาได้สันนิษฐานว่ายานตกลงมาต่างหาก ส่วนมนุษย์ต่างดาวคงดีดตัวออกมาจากตัวยานก่อนจะลงมาถึงพื้นโลก หรืออาจเสียชีวิตเนื่องจากหนีออกจากห้องที่แยกออกจากตัวยานไม่สำเร็จ และบริเวณที่ยานลำนั้นตกลงมาคงอยู่ใกล้ที่ราบซานอกุสติน
    สตริงฟิลด์ยังได้ข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับการปิดข่าวเกี่ยวกับศพมนุษย์ต่างดาวอีก นั่นคือ นอร์มา การ์ดเนอร์ ซึ่งเคยทำงานเป็นพนักงานพิมพ์ดีดกับฝ่ายแลกเปลี่ยนเอกสารลับสุดยอดที่กองบินทหารอากาศไรท์ แพต




    เตอร์สัน หน้าที่ที่เธอได้รับมอบหมายอย่างหนึ่งคือ พิมพ์รายงานชันสูตรศพมนุษย์ต่างดาวรายหนึ่ง นั่นก็แสดงว่ามีการพบศพมนุษย์ต่างดาวจริง แต่ก็น่าคิดว่าเพราะเหตุใดฝ่ายทหารจึงปกปิดเป็นความลับ
     
  3. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    เทคโนโลยี่ของมนุษย์ต่างดาว




    พลังขับเคลื่อนยานของมนุษย์ต่างดาว
    แหล่งพลังงานของยานบินคือ แอนทิแมทเทอร์ รีแอคเตอร์ (เครื่องปฏิกรณ์ยิงระเบิดสสารที่ประกอบด้วยอนุภาคที่เหมือนกัน แต่มีประจุไฟฟ้าตรงกันข้ามด้วยโปรตรอน) มีท่อกลวงตรงกลางยานจากพื้นขึ้นไปถึงยอด ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นท่อเหนี่ยวนำคลื่นพลังโน้มถ่วงหรือพลังไฟฟ้าที่ผ่านเข้าไปในนั้น ช่วงล่างของท่อจะเชื่อมติดกับตัวแอนทิแมทเทอร์รีแอคเตอร์ ซึ่งมีลักษณะรูปร่างคล้ายครึ่งวงกลมคว่ำลง ติดกับพื้นของยาน ท่อกลวงตรงกลางหรือท่อเหนี่ยวนำจะเป็นท่อยาวต่อไปจนถึงยอดบนของยาน
    เครื่องปฏิกรณ์มีขนาดใหญ่เท่ากับลูกบาสเกตบอล ลักษณะคล้ายครึ่งวงกลมคว่ำลงบนแผ่นโลหะเล็ก ๆ มันจะส่งสนามพลังหรือสนามกำลังดึงดูดออกมาโดยรอบ ซึ่งในช่วงเวลาที่มันทำงาน ก่อให้เกิดแรงผลักคล้ายแม่เหล็กสองแท่งที่มีขั้วเหมือนกันกระทำปฏิกิริยาต่อกัน สารหรือธาตุที่เป็นองค์ประกอบเชื้อเพลิงยิ่งน่าสนใจมาก มันคือธาตุที่ 115 ซึ่งตามทฤษฎีกล่าวว่า มันจะปรากฏอยู่รอบ ๆ ธาตุ 113-114 กลายเป็นธาตุที่มั่นคงและมีการรวมโปรตรอนกับนิวตรอนก่อให้เกิดธาตุใหม่ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ หากยิงอนุภาคพลังงานด้วยโปรตรอนมันก็จะแตกธาตุจนถึงธาตุ 116 และปล่อยสสารแอนทิแมทเทอร์ออกมา ซึ่งนั่นคือมันจะทำปฏิกิริยากับสสารซึ่งเรียกว่า "ปฏิกิริยาแอนนิไฮโลชั่น"
    ปฏิกิริยาพื้นฐานดังกล่าวก่อให้เกิดพลังแม่เหล็กไฟฟ้า ตามท่อเหนี่ยวนำมากขึ้น ๆ และพลังที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลนี้เอง ที่ถูกนำไปใช้กับอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการธาตุที่ 115 ไม่ได้เกิดขึ้นบนโลก และไม่สามารถสังเคราะห์ได้เนื่องจากเป็นธาตุที่หนักมาก จากแหล่งข้อมูล ทุกฝ่ายระบุว่าธาตุนี้พบตามธรรมชาติบนโลกหรือดาวเคราะห์ที่ใหญ่กว่าโลกมาก อาจในโลกที่มีพระอาทิตย์สองดวง ในแต่ละครั้งจานบินหรือยานของมนุษย์ต่างดาวจะใช้ธาตุ 115 จำนวนมากถึง 223 กรัม
    การที่จานบินบินด้วยความเร็วสูง การบินเลี้ยวกลับเป็นมุมฉาก การหยุดนิ่งกลางอากาศและการเร่งความเร็วของจานบินและการดับเสียงโซนิคบูม รวมถึงการเร่งความเร็วขนาด 22,000 ไมล์ต่อชั่วโมงหรือมากกว่านั้น กล่าวกันว่า จานบินอาจใช้วิธีอาศัยสนามแรงโน้มถ้วงเทียม หรือบางทีอาจใช้คุณสมบัติพิเศษของมิติและกาลเวลา ซึ่งโลกเรายังไม่คุ้นเคยก็เป็นไปได้
     
  4. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    METEOROLOGIST JEFF HABY

    The word "gravity" in the word gravity wave can make the term more confusing than it really is. It has little to do with having a special relationship with gravity. ALL air motions are influences by gravity. Once the word gravity is eliminated, all that is left is the word wave. Air can have one of two motions, which are either STRAIGHT or WAVE. These waves can be vertical or horizontal. When you look at a 500-millibar chart with the troughs and ridges you are looking at horizontal waves (waves on a more or less horizontal plane).

    A gravity wave is a vertical wave. The best example I can think of in describing what a gravity wave looks like is to think of a rock being thrown into a pond. Ripples or circles migrate from the point the rock hits the water. An up and down motion is created. With increasing distance from the point where the rock hit the water, the waves becomes less defined (the waves are dampening).

    Now let's look at what a gravity wave is in the atmosphere. To start a gravity wave, a TRIGGER mechanism must cause the air to be displaced in the vertical. Examples of trigger mechanisms that produce gravity waves are mountains and thunderstorm updrafts. To generate a gravity wave, the air must be forced to rise in STABLE air. Why? Because if air rises in unstable air it will continue to rise and will NOT create a wave pattern. If air is forced to rise up in stable air, the natural tendency will be for the air to sink back down over time (usually because the parcel forced to rise is colder than the environment). The momentum of the air imparted by the trigger mechanism will force the parcel to rise and the stability of the atmosphere will force the parcel of air to sink after it rises (you have now undergone the first steps into creating a wave).

    It is important to understand the concept of momentum. A rising or sinking air parcel will "overshoot" its equilibrium point. In a gravity wave, the parcel of air will try to remain at a location in the atmosphere where there are no forces causing it to rise or sink. Once a force moves the parcel from its natural state of equilibrium, the parcel will try to regain its equilibrium. But in the process, it will overshoot and undershoot that natural position each time it is rising or sinking because of its own momentum. At a sufficient distance from where the trigger mechanism caused the parcel to rise, the intensity of the gravity wave will decrease. At increasing distance, the parcel of air becomes closer to remaining at its natural state of equilibrium.

    In a gravity wave, the upward moving region is the most favorable region for cloud development and the sinking region favorable for clear skies. That is why you may see rows of clouds and clear areas between the rows of clouds. A gravity wave is nothing more than a wave moving through a stable layer of the atmosphere. Thunderstorm updrafts will produce gravity waves as they try to punch into the tropopause. The tropopause represents a region of very stable air. This stable air combined with the upward momentum of a thunderstorm updraft (trigger mechanism) will generate gravity waves within the clouds trying to push into the tropopause.
     
  5. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,780
    ค่าพลัง:
    +7,482
    "จักรวาล" ไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่งเดียวครับ
    เราเรียกขานกันว่า "อนันตจักรวาล" ... คือ จักรวาลอันไร้พรมแดน

    อนันตจักรวาล.. นั้นเป็นสิ่งที่นอกเหนือความเข้าใจของมนุษยชาติใดๆ ในโลกนี้
    ผู้ที่เข้าใจ......... ไม่เคยกลับมาเล่าสิ่งใดๆ ให้กับ.......คนที่ไม่เข้าใจได้รับรู้ !!!

    ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2005
  6. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    แปลให้ครับ

    เจฟฟ์ผู้เชี่ยวชาญทางอุตุนิยมวิทยาHABY คำที่ว่าที่คลื่นแรงโน้มถ่วงคำ'gravity\'\สามารถทำคำศัพท์เฉพาะเป็นไขว้เขวที่มากกว่ามันคืออย่างนั้นจริงๆ. มันจำเป็นต้องการมีความสัมพันธ์พิเศษโดยแรงโน้มถ่วงจำเป็นน้อยมาก. กริยาอาการอากาศALLคือผลกระทบเพราะว่าแรงโน้มถ่วง. ครั้งหนึ่งแรงโน้มถ่วงคำถูกลบทั้งหมดที่ถูกทิ้งไว้คือคลื่นคำ. อากาศสามารถมี1อันของกริยาอาการ2อันที่คือSTRAIGHTหรือWAVE. คลื่นเหล่านี้น่าจะที่ตั้งฉากหรือแนวราบ. เวลาที่คุณดูแผนภูมิ500-millibarด้วยรางน้ำฝนและเทือกเขาคุณกำลังดูคลื่นที่แนวราบ(คลื่นที่เครื่องบินที่แนวราบมากหรือน้อย). คลื่นแรงโน้มถ่วงคือคลื่นที่ตั้งฉาก. ตัวอย่างที่ดีที่สุดที่ฉันในให้ความแตกต่างคลื่นแรงโน้มถ่วงดูเหมือนอะไรสามารถคิดคือการคิดเกี่ยวกับก้อนหินที่กำลังขว้างที่บ่อน้ำ. ระลอกคลื่นหรือวงกลมย้ายถิ่นฐานจุดที่หินตีน้ำ. กริยาอาการวูบวาบถูกสร้าง. โดยระยะทางเพิ่มจากจุดที่หินตีน้ำคลื่นกลายเป็นถูกให้คำจำกัดความน้อยลง(คลื่นกำลังกลายเป็นชื้น). ตอนนี้let\'sดูอะไรที่คลื่นแรงโน้มถ่วงอยู่ในบรรยากาศ. เพื่อปลุกคลื่นแรงโน้มถ่วงกลไกTRIGGERต้องทำให้อากาศถูกพลัดถิ่นในเส้นตั้งฉาก. ตัวอย่างของกลไกไกปืนที่ทำให้เกิดคลื่นแรงโน้มถ่วงคือภูเขาและการไหลของลมบนพายุฟ้าคะนอง. เพื่อสร้างขึ้นคลื่นแรงโน้มถ่วงอากาศให้ต้องบังคับเพิ่มขึ้นในอากาศSTABLE. ทำไม? ถ้าอากาศเพิ่มขึ้นในอากาศที่ไม่แน่นอนมันจะคงจะดำเนินการเพิ่มขึ้นและสร้างพินัยกรรมNOTรูปแบบคลื่น. ถ้าอากาศให้บังคับเพิ่มขึ้นในอากาศกำลังทำให้คงที่นิสัยธรรมชาติจะคงจะสำหรับอากาศเพื่อตกที่หลังที่downในขณะเดียวกันเวลา(เพราะว่าพัสดุย่อยที่บังคับเย็นกว่าสิ่งแวดล้อมเป็นปกติ). ปริมาณการเคลื่อนที่ของวัตถุของอากาศที่ถูกกลไกไกปืนเพิ่มเข้าไปจะบังคับให้พัสดุย่อยเพิ่มขึ้นและเสถียรภาพของบรรยากาศจะบังคับให้พัสดุย่อยของอากาศตกภายหลังมันเพิ่มขึ้น(คุณฝ่าที่การสร้างคลื่นขั้นแรกตอนนี้). การเข้าใจแนวคิดของปริมาณการเคลื่อนที่ของวัตถุสำคัญ. พินัยกรรมพัสดุย่อยอากาศลุกหรือตก\'overshoot\'จุดดุลยภาพนั้น. ในคลื่นแรงโน้มถ่วงพัสดุย่อยของอากาศจะพยายามหยุดอยู่ที่ตั้งในบรรยากาศที่อยู่พลังที่ทำให้มันเพิ่มขึ้นหรือตกเลย. ครั้งหนึ่งพลังพัสดุย่อยถูกเลื่อนจากรัฐของดุลยภาพธรรมชาตินั้นพัสดุย่อยจะพยายามนำกลับมาอีกครั้งดุลยภาพนั้น. ในการประมวลผลมันจะไปไกลเกินและอย่างไรก็ตามจะไม่ถึงตำแหน่งธรรมชาตินั้นทุกครั้งมันเพิ่มขึ้นหรือตกเพราะว่าปริมาณการเคลื่อนที่ของวัตถุของตัวมันเอง. ด้วยระยะทางที่เพียงพอจากที่กลไกไกปืนทำให้พัสดุย่อยเพิ่มขึ้นความแรงของคลื่นแรงโน้มถ่วงจะลดน้อย. ด้วยระยะทางเพิ่มพัสดุย่อยของอากาศกลายเป็นใกล้ว่าการหยุดอยู่ที่รัฐของดุลยภาพธรรมชาตินั้นกว่า. ในคลื่นแรงโน้มถ่วงภูมิภาคขยับที่หันไปด้านบนคือภูมิภาคที่ชื่นชอบที่สุดเพื่อการพัฒนาเมฆและภูมิภาคตกที่ได้เปรียบท้องฟ้าที่ชัดเจน. นั่นคือทำไมที่คุณเห็นแถวของเมฆและบริเวณชัดเจนระหว่างแถวของเมฆได้ไหม. คลื่นแรงโน้มถ่วงคือการโชยที่กำลังคืบหน้าความหนาของบรรยากาศกำลังทำให้คงที่เท่านั้น. การไหลของลมบนพายุฟ้าคะนองจะทำให้เกิดคลื่นแรงโน้มถ่วงเมื่อพวกเขาพยายามเจาะรูที่ tropopause. tropopauseแสดงภูมิภาคของอากาศกำลังทำให้คงที่มาก. อากาศกำลังทำให้คงที่อันนี้ที่ถูกรวมว่าปริมาณการเคลื่อนที่ของวัตถุของการไหลของลมบนพายุฟ้าคะนอง(กลไกไกปืน)ที่หันไปด้านบนจะสร้างขึ้นคลื่นแรงโน้มถ่วงภายในเมฆที่กำลังพยายามกดที่ tropopause
     
  7. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    อีกอันครับ

    Uut and Uup Add Their Atomic Mass to Periodic Table
    A team of Russian and American scientists are reporting today that they have created two new chemical elements, called superheavies because of their enormous atomic mass. The discoveries fill a gap at the furthest edge of the periodic table and hint strongly at a weird landscape of undiscovered elements beyond.

    The team, made up of scientists from Lawrence Livermore National Laboratory in California and the Joint Institute for Nuclear Research in Dubna, Russia, is disclosing its findings in a paper being published today in Physical Review C, a leading physics journal. The paper was reviewed by scientific peers outside the research group before publication.

    "Two new elements have been produced," said Dr. Walt Loveland, a nuclear chemist at Oregon State University who is familiar with the research. "It's just incredibly exciting. It seems to open up the possibility of synthesizing more elements beyond this."

    The periodic table is the oddly shaped checkerboard -- with an H for hydrogen, the lightest element, in the upper-left-hand corner -- that hangs in chemistry classrooms the world over. Each element has a different number of protons, particles with a positive electrical charge, in the dense central kernel called the nucleus.

    The number of protons, beginning with one for hydrogen, fixes an element's place in the periodic table and does much to determine an element's chemical properties: ductile and metallic at room temperature for gold (No. 79), gaseous and largely inert for neon (10), liquid and toxic for mercury (80).

    Elements as heavy as uranium, No. 92 on the list, are found in nature, and others have been created artificially. But much heavier elements have been difficult to make, partly because they became increasingly unstable and short-lived.

    Still, for roughly half a century, nuclear scientists have been searching for an elusive "island of stability," somewhere among the superheavies, in which long-lived elements with new chemical properties might exist. Dr. Loveland said that the new results indicated that scientists might be closing in on that island.

    "We're sort of in the shoals of the island of stability," said Dr. Kenton J. Moody, a Livermore nuclear physicist who was one of the experimenters in the work.

    "It's an amazing effect," he added. "We're really just chipping away at the edges of it."

    The experiments took place at a cyclotron, a circular particle accelerator, in Dubna, where the scientists fired a rare isotope of calcium at americium, an element used in applications as varied as nuclear weapons research and household smoke detectors. Four times during a month of 24-hour-a-day bombardment in July and August, scientists on the experiment said, a calcium nucleus fused with an americium nucleus and created a new element.

    Each calcium nucleus contains 20 protons and americium 95. Since the number of protons determines where an element goes in the periodic table, simple addition shows the new element to bear the atomic number 115, which had never been seen before. Within a fraction of a second, the four atoms of Element 115 decayed radioactively to an element with 113 protons. That element had never been seen, either. The atoms of 113 lasted for as long as 1.2 seconds before decaying radioactively to known elements.

    Scientists generally do not give permanent names to elements and write them into textbooks until the discoveries have been confirmed by another laboratory. By an international convention based on the numbers, element 113 will be given the temporary name Ununtrium (abbreviated Uut for the periodic table) and element 115 will be designated Ununpentium (Uup).

    Dr. Loveland said he agreed that the new elements would require independent confirmation before they could receive final acceptance. And he conceded that the Dubna find was likely to receive more than the usual amount of scrutiny: two years ago, the reported discovery of Element 118 was retracted after a scientist at Lawrence Berkeley National Laboratory was found to have fabricated evidence.

    The only other truly simultaneous discovery of two elements in recent times came in 1952, when einsteinium (99) and fermium (100) were discovered in the fallout from the hydrogen bomb explosion at Eniwetok Atoll in the Pacific Ocean. The most recent successful discovery of an element -- one that has received a name -- came in 1994. That element, No. 110, is called Darmstadtium for the city in Germany where it was discovered.

    But as scientists wait for confirmation on elements 115 and 113, the data presented by the Dubna and Livermore groups appear solid, said Dr. Sigurd Hofmann, a nuclear physicist at the Institute for Heavy Ion Research in Darmstadt, the laboratory where Darmstadtium was found.

    "These Dubna data look quite convincing," Dr. Hofmann said. "And I'm sure with some more experiments, it will finally be accepted."

    Dr. Joshua B. Patin, a 28-year-old nuclear chemist who is the lead American author on the paper, said he had found it deeply moving to add two more entries to a scientific icon that dates to the 1860's. That was when the Russian chemist Dmitri Ivanovich Mendeleyev noted clear patterns in the chemical properties of the known elements and arranged them into the periodic table, leaving gaps for other elements that he correctly predicted would someday turn up.

    "This is a working piece of art," Dr. Patin said. "We're not done yet. Nothing's been finished. What it could really mean down the road, nobody can tell. And that's the part that's exciting to me."

    The lead authorship on the work went to Dr. Yuri Oganessian, scientific director of the Flerov Laboratory of Nuclear Reactions at the Joint Institute for Nuclear Research in Dubna, whose theoretical research in the 1970's revealed the path that eventually led to the most recent discoveries.

    The experimental group that Dr. Oganessian leads is especially skilled at using extremely small amounts of the rare calcium isotope in the bombardment and at filtering out signals from just a handful of new atoms among the debris spewing from the collisions.

    "These elemental discoveries underscore both the value of federally supported basic research and the benefit of unfettered international scientific collaboration," said Energy Secretary Spencer Abraham, whose agency helped finance the work.

    In a written response to questions, Dr. Oganessian said the results "favor the conclusion about the formation of a new element and refute any other interpretation." He added that confirmation of the work was necessary, but that everything had been done to ensure that the analysis was correct.

    "In order to exclude the human factor," Dr. Oganessian said, "the analysis of the data is carried out in parallel and independently by the two groups in Dubna and in Livermore."

    Physicists long ago discovered that atomic nuclei have what came to be known as "magic numbers." Nuclei that contain just those numbers of protons and their electrically neutral cousins, neutrons, are especially stable. The numbers 2, 8, 20, 28, 50, 82 are magic for both protons and neutrons.

    Theoretically, those numbers come about because nuclei have a shell-like structure, said Dr. Witold Nazarewicz, a nuclear theorist at the University of Tennessee and Oak Ridge National Laboratory. Each shell can hold particular numbers of protons and neutrons, and a nucleus is most stable when its shells are precisely filled up, leading to the magic numbers.

    The highest known magic number for neutrons is 126, meaning that common lead, with 82 protons and 126 neutrons in its nucleus is the heaviest known "doubly magic," or extremely stable, isotope in the periodic table.

    "The question is, what is the next doubly magic nucleus beyond lead?" Dr. Nazarewicz said.

    Those numbers should help map out what Dr. Nazarewicz prefers to call generically a "region of stability" among the superheavies. (Because, he says, it could resemble a peninsula more than an island.) Various theories have suggested that the next magic proton number is 114, 120 or 126, he said. There is general agreement that the next magic neutron number is 184, he said.

    The new experiments by the Livermore and Dubna scientists created forms of element 115, for example, with at most 173 neutrons, suggesting that they are still short of what could be a land of strange new forms of matter.

    Rather than being round, nuclei in that region and beyond could contain bubbles and have strange doughnut-like shapes, Dr. Nazarewicz said.

    They could also have unpredictable chemical properties.

    The new work should shed light on whether theories of those undiscovered bits of matter are correct or not, he said.

    "Those discoveries tell us a great deal about the underlying nuclear structure," Dr. Nazarewicz said. "About how the very heaviest systems are built -- how they tick."

    Dr. Darleane C. Hoffman, a nuclear chemist at the University of California, Berkeley, also cautioned that the new findings would have to be checked out by other laboratories. But she said the value of the work was unquestioned.

    "Scientifically, just for the pure science of it, wouldn't you like to know just how many chemical elements there are?" Dr. Hoffman said. "And until you actually have a measurement that you believe and you can confirm, you don't have any idea whether the various models the theorists propose have any meaning at all."
     
  8. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    แปลให้คัรบ

    UutและUupเพิ่มปริมาณปรมาณูของพวกเขาให้กับPeriodic-Table ทีมของนักวิทยาศาสตร์รัสเซียและชาวอเมริกันกำลังรายงานว่าพวกเขาสร้างส่วนประกอบทางเคมีใหม่2อันที่ถูกเรียกว่านักกีฬารุ่นหนักซุปเปอร์เพราะว่าปริมาณปรมาณูที่ใหญ่โตของพวกเขาวันนี้. สิ่งที่ค้นพบเติมช่องว่างที่
     
  9. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,780
    ค่าพลัง:
    +7,482
    ธาตุฯ

    ธรรมธาตุ คือ ธรรมชาติแห่งสรรพสิ่งฯ

    ใดๆ ในโลก ล้วน ......ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา.....
     
  10. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    อนาคตคงมีเครื่องต้านทานแรงดึงดูดอ่ะ เพราะแรงที่มนุษย์ยังค้นไม่มี ยังมีอีกมาก
     
  11. อินเดียหน้าโจร

    อินเดียหน้าโจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +259
    -โลกที่มีพระอาทิตย์ 2 ดวงนี่จะมีกลางคืนหรือปล่าวน้อ
     
  12. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +638
    คงร้อนมาก ๆ อ่ะ แค่ดวงเดียวก็ตับไหม้แล้วอ่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...