เรื่องเด่น นักปฏิบัติ ควรสังวร ระวัง อนันตริยกรรม!!!

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิษณุ12, 22 กันยายน 2010.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    .




    ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย

    ท่านจะกรรมอะไรที่ท่านอดทนไม่ได้ ทำไปเถอะ

    ขออย่างเดียวอย่าไปเผลอทำ อนันตริยกรรมก็แล้วกัน

    อนันตริยกรรมนั้น ถ้าทำลงไปแล้วเสื่อมจากมรรคผล นิพพาน

    ตั้งอยู่ในศาล ปาราชิก คือผู้พ่ายแพ้ ในพระพุทธศาสนา

    อย่าทำมันบาปหนัก


    ๑. ฆ่าบิดา

    ๒. ฆ่ามารดา

    ๓. ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิตขึ้น

    ๔. ฆ่าพระอรหันต์

    ๕. ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน

    ระวังนะ เวลาพระวัดใดวัดหนึ่ง
    ขัดผลประโยชน์กัน
    แตกสามัคคีกัน
    ทะเลาะเบาะแว้งกัน
    ญาติโยมอย่าไปสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

    เดี๋ยวจะกลายเป็นอนันตริยกรรมไม่รู้ตัว
    เช่นอย่าง หลวงพ่อ วัดใต้ หลวงพ่อวัดเหนือ
    ต่างก็มีหน้าที่กันเยอะแยะ

    ขัดผลประโยชน์กันแล้วก็ไปทะเลาะถีบเถียงกัน
    ต่างคนก็ต่างมีลูกศิษย์ทั้งพระทั้งโยมแตกกันเป็นพรรคเป็นพวก
    ยกพวกขึ้นมารบกัน


    ถ้าพระสงฆ์แตกสามัคคีกันเป็นกลุ่มตั้งแต่ฝ่ายละ ๔ รูปขึ้นไป

    นั่นเป็น สังฆเภท

    ในเมื่อ สังฆเภทแล้วก็เป็น
    อนันตริยกรรม
    ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน
    บาปนัก บาปหนา เพราะฉะนั้น
    การกระทำกรรมให้ระวังอนันตริยกรรมให้มากๆ





    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1146087/[/MUSIC]

    เสียงธรรมและถอดเสียง
    หลวงปู่พุธ ฐานิโย
    วัดป่าสาละวัน นครราชสีมา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 กันยายน 2010
  2. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,307
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง กิจของสงฆ์ควรให้ท่านจัดการเอง ฆราวาสควรเป็นผู้รู้เท่านั้น แค่เผลอคิดยังเป็นเศษกรรม
     
  3. คุณบรรเจิด

    คุณบรรเจิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +714
    อนุโมทนาครับ
    กับข้อเตือนใจที่แนะนำครับ
    ขอบพระคุณครับ
     
  4. เป็ดเซ็ง

    เป็ดเซ็ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +858
    [​IMG]

    กราบ ..อนุโมทนา สา ..ธุ ครับผม
    ขอบคุณ กับ บทความ และ ธรรมมะ อันล้ำค่า
     
  5. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ตั้งเจตนา การรับรู้และวิจารณ์ ให้สุจริต ตามความคิดนึกของตนเองด้วยเหตุและผลที่ตนมี จะบาปได้ยังไง
    .เอาไปเลย กระทิงดง 50 ขวด ...บอกก็บอกไม่หมดเอะอะก็จะปิดปาก ปิดหู ปิดตา ..?
    ปิดปาก ปิดหู ปิดตา...ก็ยังบาปอีกนะจะบอกให้ พี่ปราบบบบ.. เพราะอะไรล่ะถึงบาปพี่ปราบบบบบบบบ ไม่ยอมบอกให้หมด
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เพราะ อะไรนะเหรอ เพราะใจ พี่กำลังเกิด ละม๊าง



     
  7. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +2,122
    อนันตริยกรรม
    อนันตริยกรรมนั้น เป็น กรรมหนัก หรือครุกกรรม ซึ่งครุกรรมนั้นถือเป็นกรรม
    ที่มีพลังอำนาจมากให้ผลก่อนกรรมอื่นๆ และไม่มีกรรมใดมาขวางกั้นได้
    มีพลังแรงอย่างทันตาเห็นในชาติปัจจุบันและสามารถส่งผลถึงชาติหน้าได้ ในส่วนชั่ว หรือบาปหนัก นั้น เรียกว่า อนันตริยกรรม คำว่า อนันตริยกรรม
    เป็นคำยืมจากภาษาสันสกฤต มาจากคำว่า อนนฺตริย ซึ่งแปลว่า
    ไม่มีช่องว่าง กับคำว่า กรฺม ซึ่งหมายถึง การกระทำที่ทำด้วยความจงใจ
    คำว่า อนันตริยกรรม มีความหมายตามรูปศัพท์ว่า การกระทำที่ไม่มีช่องว่าง
    หมายถึง การกระทำที่ไม่มีช่องว่างระหว่างกรรมที่กระทำลงไปแล้วกับวิบาก
    หรือผลที่จะตามมา นั่นคือ กรรมที่จะต้องได้รับผลแห่งการกระทำนั้นทันที
    โดยไม่ต้องรอเวลาที่ผลกรรมจะตามมาสนอง สาเหตุที่ต้องรับผลกรรมทันทีก็เพราะว่าเป็นกรรมชั่วหรือเป็นความผิดร้ายแรงที่สมควรได้รับโทษรุนแรงอย่างที่สุด อนันตริยกรรมจึงมิได้หมายถึงกรรมโดยทั่วๆ ไป แต่หมายเอาเฉพาะกรรมชั่วที่ร้ายแรงที่สุดเท่านั้นซึ่งมีอยู่ห้าประการด้วยกัน ได้แก่

    1. สังฆเภท คือการที่พระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่งหรือหลายรูป ได้กระทำการทำให้คณะสงฆ์ตั้งแต่สี่รูปขึ้นไปมีความเห็นผิดตามคำยุยงแห่งตนไปกระทำสังฆกรรมต่างหาก ไปสวดพระปาติโมกข์ต่างหาก ผู้ทำสังฆเภทได้นั้น หมายเฉพาะ พระสงฆ์ เท่านั้น

    แต่ถ้าผู้กระทำเป็นสามเณร อุบาสก อุบาสิกา ชาวพุทธทั่วไป หรือคนภายนอกพุทธศาสนา นักปราชญ์ ขี้เหล้าเมายา ทิดบาเรียนทั้งหลาย ไม่จัดอยู่ในบาปหนัก ในข้ออนันตริยกรรมนี้ แต่บาปหนักนั้นก็เสมออนันตริยกรรม ในบรรดาอนันตริยกรรมนี้ สังฆเภทเป็นกรรมที่หนักที่สุด ให้ผลก่อนอนัตริยกรรม ประเภทอื่น และสิ้นสุดลงในชาติหน้าเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าหากได้ทำ อนันตริยกรรม ไว้หลายอย่าง ก็จะได้รับผลของ สังฆเภท อันเป็นกระทงที่หนักที่สุด และอนันตริยกรรมประเภทอื่นก็จะกลายเป็นอโหสิกรรม เมื่อสิ้นวาระของชาติหน้า
    ---------------------------------------------------------------
    ไม่ว่าสังฆเภทจะ มีความหมายว่าอย่างไรยังไงก็ อย่าเสี่ยงดีกว่าเนอะ.....
     
  8. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    ผมแปลกใจอยู่เรื่องหนึ่งครับ คือว่า พระที่ทำการทะเลาะกันเพราะผลประโยชน์ทางโลกขัดกัน ไม่มีความสำรวม ยังยึดติดกับผลประโยชน์ในทางโลกทั้งที่เป็นสงฆ์แล้ว บุคคลเหล่านี้ยังนับว่าเป็นสงฆ์หรือไม่ครับ? และการที่พวกเค้าแตกแยกกัน คนที่เข้าข้างฝั่งใดฝั่งหนึ่ง จัดเป็นการทำอนันตริยกรรมให้สงฆ์แตกแยกจริง ๆ หรือไม่ครับ?

    ที่ถามไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการดูหมื่นใด ๆ แต่ตั้งเป็นข้อสังเกตว่า พระควรมีความสำรวมระวัง ไม่ยึดติดในวัตถุทางโลกไม่ว่ามากหรือน้อยครับ พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยสอนให้สงฆ์ยึดติดในผลประโยชน์ทางโลกใด ๆ เลยด้วยซ้ำ ถ้าพระสงฆ์ทะเลาะกันเพราะผลประโยชน์แบบนี้ ก็ไม่ต่างกับพระที่เดินห้าง ซื้อแผ่นหนัง ซื้อเกมส์เล่นทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ครับ

    ผมได้เจอพระป่าที่น่านับถือบางองค์ แม้สภาพปัจจุบันในกรุงเทพจะย่ำแย่ แต่ท่านยังเดินเท้าเปล่า กินอยู่อย่างสมถะในแบบของพระได้เลยครับ ท่านผ่านเข้ามากรุงเทพแล้วก็ธุดงค์ไปที่อื่นต่อ ผมไม่เห็นว่าพระเหล่านั้นจะยึดติดในลาภยศ ชื่อเสียง วัตถุ สรรเสริญเหมือนพระบางองค์เลยครับ บางทีผมก็สงสัยนะครับว่า พุทธศาสนาของเราจะอยู่ได้แค่ 5000 ปีตามพุทธทำนายก็เพราะไม่สามารถรักษาพระสงฆ์บางส่วนให้อยู่ในวินัยและจารีตที่สงฆ์ควรเป็นได้ครับ
     
  9. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ข้อ 5 น่าจะระวะงที่สุด


    เพราะข้อที่เหลือนั้น

    พวกเราคนทั่วไปคงทำไม่ได้ง่ายๆ

    ส่วนข้อ 5

    อาจจะมีโอกาส

    รู้เท่าไ่ม่ถึงการณ์ได้
     
  10. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ถ้าพระบางส่วนที่ไม่ดี

    พวกท่านก็่ย่อมได้ัรับกรรมของท่านไป

    แต่เราจะไปสร้างบาปกรรมให้ตัวเราเองทำไมกัน

    ถ้าเปนผม ผมจะไม่เข้าข้างฝ่ายไหนทั้งสิ้น ผมจะเข้าข้างฝ่ายคุณธรรมและศีลธรรม

    เพือหวังปกป้องพุทธศาสนาเปนหลัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กันยายน 2010
  11. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ถ้าคุณปนชาวพุทธจริง

    จะไม่มาสงสัยเรื่องนี้เลย

    เพราะชาวพุทธเรานี้

    คิดหวังแต่สร้างบุญบารมีเท่านั้น

    สิ่งใดที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสรรพสัตว์

    จะไม่ทำ


     
  12. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    ถ้าเช่นนั้น
    ผมมี คำแนะนำ
    ของหลวงปู่พุธ ฐานิโย ลองอ่าน
    แล้วนำไปปฏิบัติดูครับ


    [FONT=&quot]นักปฏิบัติสมาธิ น่าฟังไว้[/FONT]



    [FONT=&quot]<O></O>
    [/FONT]​




    [FONT=&quot]<O></O>จากคลิปเสียง...โอวาท หลวงปู่พุธ ฐานิโย.....[/FONT]


    (ถอดเสียงหลวงปู่พุธ ฐานิโย โดย พลูโตจัง)


    [FONT=&quot]<O></O>[/FONT]
    [FONT=&quot]และอีกอย่างหนึ่งถ้าท่านจะเป็นนักปฏิบัติอย่างแท้จริง.. [/FONT]
    ท่านอย่าไปถือพวก
    [FONT=&quot]ถือพรรค [/FONT]
    [FONT=&quot]ถือคณะ [/FONT]
    [FONT=&quot]ว่าหมู่เขา หมู่เรา อาจารย์เขา อาจารย์เรา [/FONT]
    ขอให้ยึดถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    [FONT=&quot]เป็นสรณะที่พึ่ง [/FONT]
    [FONT=&quot]ถือพระศาสดาคือพระพุทธเจ้าองค์เดียวเป็นครู [/FONT]
    พระสาวกที่เผยแพร่ศาสนาอยู่ในปัจจุบันนี้
    [FONT=&quot]ถอดแบบจากพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าทั้งนั้น [/FONT]

    [FONT=&quot]เพราะฉะนั้น [/FONT]
    [FONT=&quot]การที่ถือพรรค [/FONT]
    [FONT=&quot]ถือพวก [/FONT]
    [FONT=&quot]ถือลัทธิแห่งการปฏิบัตินั้น [/FONT]
    [FONT=&quot]ย่อมยังส่อแสดงว่าเป็นผู้ยังมีกิเลส [/FONT]
    ยังมีอุปาทานในการยึดมั่นถือมั่น
    [FONT=&quot]ถ้าตราบใดที่เรายังยึดถือมั่น [/FONT]
    [FONT=&quot]ในพรรค [/FONT]
    [FONT=&quot]ในพวก [/FONT]
    [FONT=&quot]ในเรา [/FONT]
    [FONT=&quot]ในเขา [/FONT]
    ของเรา
    [FONT=&quot]ของเขาอยู่ [/FONT]
    [FONT=&quot]เราก็ยังไม่หมดอุปาทาน [/FONT]

    บางทีคณะนี้..โจมตีคณะโน้น
    [FONT=&quot]คณะโน้น..โจมตีคณะนี้ ในทำนองนี่ [/FONT]
    [FONT=&quot]ผู้ที่จะปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์กันจริงๆ นั้น [/FONT]
    ขอได้โปรดทำจิตให้เป็นกลาง
    [FONT=&quot]ให้ปล่อยวางลงไป..ว่า [/FONT]
    [FONT=&quot]ผู้ประพฤติผิด เข้าใจผิด เป็นบุคคลผู้ที่น่าสงสาร [/FONT]
    ผู้ปฏิบัติถูก ทำถูกต้องและได้ผลดี
    [FONT=&quot]เป็นบุคคลผู้ที่น่าอนุโมทนา [/FONT]

    ผู้ที่ทำผิด
    [FONT=&quot]ไม่ใช่ผู้ที่นักปฏิบัติธรรมจะต้องไปกล่าวจ้วงจาบด้วยคำพูดหยาบคาย แม้ว่าเขาจะทำผิด [/FONT]
    ก็เป็นเรื่องของเขา
    [FONT=&quot]แต่เราไปกล่าวจ้วงจาบ ด้วยวาจาที่หยาบคาย [/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นการสร้างบาปกรรมขึ้นใส่ตัวเอง [/FONT]

    อย่าไปสำคัญว่าคนทำผิด ด่าไม่เป็นไร ไม่บาป
    [FONT=&quot]คนทำผิดเราด่า ก็บาป คนทำผิด เราตำหนิ ก็บาป [/FONT]

    แต่ถ้าเราติเพื่อก่อนั้นได้บุญ
    แต่ตำหนิ เพื่อจะให้เสียหาย เสียชื่อเสียเสียงนั้น บาป
    มันบาปอยู่ที่ตรงไหน
    เพราะเรากล่าวคำหยาบ
    [FONT=&quot]รุสวาจายะ เวรมณี
    [FONT=&quot] ...มันเป็นอกุศลกรรมบถ[/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นวจีทุจริต[/FONT]
    [FONT=&quot]ในเมื่อวจีของเรายังหยาบ ยังทุจริตอยู่ [/FONT]
    [FONT=&quot]มันก็ผิดศีลข้อ มุสาวาท ..[/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะคำหยาบเป็นฉายาแห่งมุสาวาท [/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะฉะนั้นนักปฏิบัติพึงสังวร[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]ระวังเรื่องนี้ไว้ให้ดี [/FONT]

    พยายามทำความรู้แจ้งเห็นจริง
    [FONT=&quot]ให้มันปรากฏขึ้นภายในจิตของตัวเอง [/FONT]

    [FONT=&quot]ถ้าเรายังสำคัญว่าเรานี่ [/FONT]
    [FONT=&quot]ดีกว่าคนอื่น[/FONT]
    [FONT=&quot]เก่งกว่าคนอื่น [/FONT]
    นั่นแสดงว่าเรายังโง่กว่าเขา
    [FONT=&quot]ถ้าเรามีความสำคัญว่า [/FONT]
    [FONT=&quot]เราเนี่ย [/FONT]
    [FONT=&quot]โง่กว่าเขา..[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่เก่งเท่าเขา [/FONT]
    [FONT=&quot]เราก็ยังโง่อยู่อีกนั่นแหล่ะ [/FONT]

    แต่ถ้าเราสำคัญว่าเรามีความรู้สึกเป็นกลางๆ
    [FONT=&quot]มีความเป็นธรรมอย่างแท้จริง[/FONT]
    [FONT=&quot]นั่น..เราเริ่มฉลาดขึ้นมาบ้าง [/FONT]
    [FONT=&quot]เพราะฉะนั้นขอให้ ..สังวรระวัง [/FONT]
    [FONT=&quot]ในเรื่องการกล่าวตำหนิ ติเตียน ซึ่งกันและกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]หรือการถือพรรค ถือพวก ถือหมู่ ถือคณะ [/FONT]

    พระพุทธเจ้าสอนว่า
    [FONT=&quot]..สัพเพ ธัมมา อนัตตา[/FONT]
    [FONT=&quot]ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน [/FONT]
    แต่เรายังจะมาถือ อหังการมะมังการ
    [FONT=&quot]มีตัวมีตน มีเรา มีเขา มีพรรค มีพวก [/FONT]

    มันก็ผิดต่อหลักคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<O></O>
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 กันยายน 2010
  13. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    ผมอนุโมทนาให้นะครับ ถือว่าที่คุณพูดมาจากจริตที่ถูก แต่ผมขอตั้งข้อสังเกตนะครับ จำเป็นหรือไม่ที่การเห็นต่างหมายถึงการไม่ใช่ชาวพุทธ แม้การเห็นต่างนั้นจะเป็นในเรื่องกิจของสงฆ์ พระพุทธศาสนา คุณสามารถสรุปแบบดูถูกโดยอาศัยตรรกะส่วนตัวเพียงอย่างเดียวได้หรือครับ?

    การที่ผมตั้งข้อสงสัยไม่ได้ตั้งอยู่บนเจตนาลบหลู่ เป็นข้อสงสัยที่ถามในมุมที่ต้องการรู้ ซึ่งคุณปราบเทวดาได้ยกคำสอนของหลวงปู่พุธมา และผมเห็นด้วยตามนั้น ผมไม่เห็นถึงความจำเป็นที่คุณจะต้องมาดูถูกคนอื่น หรือยกตนข่มท่านเพียงเพราะคนนั้นมีความสงสัยหรือมีความเห็นที่แตกต่างครับ

    การตั้งใจทำบุญ มีความคิดชอบ การกระทำชอบ เป็นหน้าที่ของชาวพุทธ ที่คุณพูดเหล่านี้ถูกต้องครับ แต่ผมยืนยันว่าผมเป็นชาวพุทธและการตั้งข้อสงสัยของผมไม่ได้ทำให้ความเป็นพุทธของผมลดน้อยลงครับ
     
  14. Reynolds

    Reynolds เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +1,501
    ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่าพระนี่เราแตตะต้องไม่ได้ศีลต่างกันนะครับถึงท่านไม่ดีท่านก็แบกศีลที่มากกว่าเรา ศีลนี่มีอยู่ที่ตัวเราทุกคนมีอยู่แล้วไม่ต้องไปหาที่ไหน แต่อยู่ที่ว่าเราจะไปทำผิดหรือไม่ จะมีสติรักษาไว้ได้หรือไม่ ฉะนั้นในขณะที่เป็นพระบางเวลาที่ท่านทำถูกศีลท่านก็มากกว่าเรา ฉะนั้นแม่ชีทศพรท่านเคยกล่าวไว้ว่าพระเนี่ยจะดีหรือไม่ดียังงัยท่านก็เป็นเพราะ แม้แต่เณรจริงๆแล้วเรายังแตะต้องไม่ได้เลย ศีลต่างกัน และยังเป็นใบบุญของพระพุทธเจ้าที่สืบทอดกันยังศาสนาให้มาถึงทุกวันนี้ สิ่งที่ท่านแบกอยู่หนักมากกว่าเราเยอะ คือศีลท่านเยอะต้องระวังมากกว่าเรา เมื่อท่านทำผิดท่านก็หนักกว่าเราเสี่ยงต่อบาปมากกว่าเรา สิ่งที่ท่านทำถ้าท่านทำผิดท่านก็ได้รับกรรมในส่วนของท่านอยู่แล้ว ฉะนั้นเราไม่ควรไปแตะต้องเลยครับ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ส่วนตัวท่านจะเป็นอย่างไรนั้นท่านมีวิบากกรรมของท่านอยู่แล้วถ้าท่านทำผิดก็อย่าไปซ้ำเติมท่านเลยครับ ฉะัน้นปล่อยวางไป เรามีหน่าที่สร้างกุศลก็สร้างต่อไป พระดีดีก็มีเยอะ พระไม่ดีก็มีเยอะฉะนั้นเราไปว่าพระเจาะจงพระยังงัยก็คือคำว่าพระ ก็เหมารวมกันหมด ก็ไม่ดี เราไปว่าพระไม่ดีๆ พอเป็นข่าวดังขึ้นมา ทีนี้ไปถึงประเทศอื่นคนศาสนาอื่นเค้าจะมาเข้าใจลึกซึ้งแบบเรามั้ย ป่าวเลยคนศาสนาอื่นหรือคนต่างประเทศเค้าเหมารวมหมดครับ ฉะนั้น เราปล่อยวาง ท่านทำผิดท่านก็จะถูกลงโทษเองเราอย่าเอาตัวเราไปเสี่ยงให้แปดเปื้อนต่ออกุศลเลย เรามีหน้าที่สร้างกุศลให้เยอะที่สุด แล้วเรื่องที่ บอกศาสนาจะอยู่ถึง5000ปีหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่พระเพียงอย่างเดียว อยู่ที่เราทุกคนอยู่ที่พุทธศาสนิกชนทุกคน ไม่ใช่จะไปโทษตำหนิแต่พระ ลองมองสังคม มองให้ลึกซึ้ง อย่างพระจะซื้อหนังซื้อเกมส์เรากลัวบาปเราก็บอกท่านตรงๆไม่ขายก็จบ แต่คนเราไม่ใช่หรอที่นำมาขายให้พระ อย่างนึงเลย วัดก็อยู่ในเมืองอยู่ในสังคมก็เยอะฉะนั้นพระก็ยังเป็นคนอยู่ อยู่กลางเมืองแล้วเป็นพระก็ยังมีกิเลสท่านก็ตัดยากเหมือนเราหรืออาจจะศึกษามาน้อย จิตใจไม่แข็งพอสังคมพาไปก็คล้อยตาม ฉะนั้นอย่าโทษแต่พระเลย ถ้าจะโทษจงโทษเราทุกคน จงโทษตัวเอง จงโทษสังคมเถิด เราทำให้มันเจริญกันเอง เราจะโทษใคร เราทุกคนมีส่วนผิดด้วยกันทั้งหมด ฉะนั้นอย่าไปโทษใคร เราจงดูตัวเรา มากกว่าที่จะไปดูคนอื่นว่าเราดียังดีพอหรือยังปฏิบัติยังงัยไปถึงไหน ถ้าเราปฏิบัติตัวเราดีเอาตัวลอดได้จิตใจเข้มแข็งพอไม่ต้องไปสนใจ เราก็ทำตามหน้าที่ของเราไป เราก็จะอยู่บนโลกนี้ได้อย่างเข้าใจและมีความสุข พูดง่ายก็คือเราเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดี จิตใจแข็ง ไม่ต้องหมุนไปตามโลกตามทางของโลกตามกระแสกิเลสของโลก เดินอย่างมีสติ เมื่อตัวเราดีแล้ว เราจะไปสนใจอะไร ฉะนั้นคัยเค้าจะทำยังงยเค้าก็ได้รับผลเช่นนั้น เราไม่เป็นอย่างเค้าก็พอ เราทำได้แค่ตักเตือนเมื่อเตือนแล้วเค้าไม่ฟังก็ถือว่าเราช่วยฉุดแล้วแต่เค้าไม่รับเอง เพราะฉะนั้นปล่อยวางแล้วทำจิตใจให้สบายทำชีวิตให้มีความสุขเดินหน้าไปอย่างมีความสุขแล้วก็หมั่นสร้างกุศลสิ่งที่ดีให้กับตัวเองนะครับ ผมบอกก่อนเลยนะครับไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกใคร มีเจตนาเดียวคือต้องการแนะนำครับ อยากจะช่วยเพื่อนมนุษย์ให้เดินถูกทางไม่เข้าใกล้ทางเดินนรก คืออะไรที่ช่วยแนะนำกันได้ก็ช่วยกัน ถ้าเราพุทธศาสนิกชนไม่ช่วยกันใครจะช่วยเรา อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยๆกันครับ แต่การช่วยก็ไม่ใช่ช่วยเสียจนเป็นทุกข์ต่อตัวเองเป็นกรรมต่อตัวเองลำบากต่อตัวเงแต่ให้ช่วยได้เท่าที่ช่วย คือเราช่วยแล้วเค้าไม่สนใจ เราก็ปล่อยวางเค้าเถอะครับ แล้วเราก็เดินหน้าต่อของเราอย่างมีความสุขและสร้างกุศลและทำตัวเราชีวิตเราให้ดีที่สุดเท่านั้นพอครับผม ขอให้ทุกท่านพบธรรมที่แท้จริงเข้าถึงธรรมที่แท้จริงขององค์พระศาสดาและจูงมือกันพากันเข้านิพพานเยอะๆนะครับ สาธุ
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    49,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,051
    Sadhu with everyone and khun Raynolds ka
     
  16. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,986
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,021
    เห็นด้วยกับหลวงพ่อทุกประการครับ เจริญในธรรมครับ
     
  17. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,986
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,021
    เห็นด้วยกับหลวงพ่อทุกประการครับ พอดีเห็นกระทู้นี้น่าจะเกี่ยวกับเรื่องปรามาสด้วยพอดี ขออืถอโอกาสนี้เชิญชวนเพื่อนๆอ่านกระทู้นี้ได้ครับ เจริญในธรรมครับ

    กระทู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการปรามาส ผมรวบรวมมาให้หมดเเล้วในกระทู้นี้

    http://palungjit.org/threads/กระทู้...ามาส-ผมรวบรวมมาให้หมดเเล้วในกระทู้นี้.225534/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2010
  18. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    อนุโมทนาสาธุครับ ควรจะคิดพิจารณาเรื่องราวเหล่านี้กันบ้าง เพราะเหตุให้สิ่งต่างๆนั้นวุ่นวายและไม่จบสิ้นนั้นเพราะคนที่ไม่ได้มีหน้าที่ มายุ่งย่าม เรื่องมันก็มีให้เห็นมากมาย แต่ศาสนานั้นสำคัญเพราะอะไร ก็คิดพิจารณาเอาครับ
     
  19. kwang441

    kwang441 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +43
    เรื่อง ภิกษุทะเลาะกันนั้น มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วครับ เรื่องภิกษุเมืองโกสัมพี
    แม้พระบรมศาสดาเองไปทรงห้ามก็ไม่ฟัง.....
    พระองค์จึงเสด็จออกจากเมืองโกสัมพี แต่เพียงพระองค์เดียว....
    เมื่อชาวเมืองโกสัมพี ทราบว่าพระบรมศาสดาทรงหนีห่างจากพระภิกษุที่ทะเลาะกันแล้ว
    จึงไม่มีใครสนใจ..พระภิกษุพวกนั้น (แม้บิณฑะบาตรก็ไม่ได้)
    นานเข้า พระภิกษุนั้นก็สำนึกถึงความไม่สำรวมในสิกขา
    จึงตามไปขออดโทษแก่พระบรมศาสดา แล้วขอคืนตามธรรมนั้น....
     
  20. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    สรุปคือแม้จะไม่ตรงตามอรรถกถาแต่ในความรู้สึกแล้วผิด ไม่ควรกระทำเพราะเป็นกรรมใหญ่ใช่ไหมครับ ผมจำได้ว่าเพียงแค่อยากได้ของผู้อื่นและผู้อื่นนั้นเป็นพระอรหันต์ด้วย ยังต้องตายตกนรกอเวจีและอีกมากมายสุดท้ายต้องใช้กรรมด้วยการเกิดเป็นศิลาเปรต ถึง๔มหากัปล์ มันก็เป็นอุทาหรณ์สอนใจได้ใช่ไหมครับ แต่นี่ทำให้คนอื่นมากมายต้องเดือดร้อนเสียหายผมพิจารณาว่าหนักเอาการเลยกรรมนั้น
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...