นอนสมาธิ แล้วกายออกจากร่าง...ฝึกตามคำบอกเล่าในเว็ป

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย มโนมัยกุศล, 9 มีนาคม 2008.

  1. มโนมัยกุศล

    มโนมัยกุศล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +57
    คือผมอ่าน หัวข้อในเว็ปเกี่ยวกับ การฝึก มโน ก็เลยลองฝึกได้ 4 - 5 วัน

    วันที่ 5 หลังจากนั่งสมาธิสักพักผม ก็ง่วง เลยเอนตัวทำสมาธิในท่านอน แต่ก็ยังภาวนา นะมะพะทะ ตามที่ในเว็ปบอกมา

    นอนไปสักพัก ผมหลับไป (คือหลับจิงๆอ่ะครับไม่รู้สึกตัวเลย สติก็ไม่ได้อยู่ที่ลมหายใจ) แล้วผมก็รู้สึกว่า ผมนอนกลิ้งจนตกเตียง แต่พอผมลุกขึ้น ก็เห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียง ผมก็ตกใจ ตื่นขึ้นมาน่ะครับ

    ((ไม่ทราบว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่ผมคิดว่าผมไม่ได้ฝันครับ เพราะภาพมันชัดมากผมจำได้หมดเลยว่าทำอะไร ตัวจิตที่ผมออกจากร่าง มันออกสีแดงสดเลยครับ))

    รบกวนถามผู้รู้ว่า ที่ผ่านมามันคืออะไร ... ขอบคุณก๊าบ สำหรับเว็ปดีๆ
     
  2. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    มันเป็นอย่างนั้นนะครับ จริงๆ จากที่ผมเคยอ่านของหลาย ๆ ท่านที่ออกจากร่าง
     
  3. มโนมัยกุศล

    มโนมัยกุศล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +57
    แสดงว่าที่ผม ออกจากร่าง ไม่ได้ฝันหรอคับเนี่ย...

    แล้วถ้าเข้าร่างไม่ได้อ่ะ....จะเป็นไงเนี่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2008
  4. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    ก็น่าจะออกจากร่างจริง ๆ
    การกลับเข้าร่างง่ายกว่าตอนออกเยอะครับ แค่เผลอนึกว่าอยากเข้าร่างทั้ง ๆ ที่ใจจริงยังไม่อยากเข้าก็ยังเข้าเลย หรือเมื่อนึกกลัวเมื่อเจอกับอันตรายก็จะกลับเข้าร่างทันทีเหมือนกัน
    ตอนกลับเข้าร่างจะไวมากแค่นึกก็ถึงแล้วไม่เหมือนตอนออกจากร่าง ตอนออกนั้นพอเริ่มออกจะเริ่มออกที่กายเนื้อแล้วจึงเดินทางต่อไปได้
    สำหรับผู้ที่เริ่มมีประสบการณ์ใหม่ ๆ ถ้าทำอารมณ์เดิมที่เคยออกจากร่างตอนก่อนนอนมักจะออกได้เรื่อย ๆ
    ถ้าชอบออกท่องเที่ยวโดยกายทิพย์ แนะนำให้ฝึกดูภาพอสุภะที่น่ากลัวบ่อย ๆ จนชิน เพราะเมื่อออกจากร่างแล้วอีกโลกหนึ่งมักเจอกับภาพที่น่ากลัวได้บ่อย
    เมื่อเราชินจะมีประโยชน์ตรงที่เราจะไม่กลัว ถ้ากลัวเราจะกลับเข้าร่างเลยทันที่ ถ้าไม่กลัวเราก็ไปต่อได้
    ควรฝึกจิตให้เป็นคนเข้มแข็งไม่หวั่นไหว ไม่กลัวแม้ความตายจึงจะไปได้ไกล
     
  5. มโนมัยกุศล

    มโนมัยกุศล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +57
    เหมือนที่คุณคีตเสวี ว่าไว้เลยครับ ... แล้วเวลาเราออกจากร่างเนี่ย จะไปไหนมาไหนได้รึเปล่า (นรก สวรรค์ ) การที่จะกำหนดจิตไปยังไงครับ ผมรู้สึกว่าจิตมันเร็วมาก(ตอนที่ออกจากร่าง) แค่คิดว่าจะ ... มันก็ไปแล้ว
    ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ ยังต้องการคำแนะนำอีกเยอะๆ เลยครับ
     
  6. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    ไปได้แทบทุกที่ วิธีไปแค่อธิษฐานจิตหรือนึกนั่นเอง บางที่นึกแล้วไปปรากฏเลย บางทีเหมือนลอยไป มีเสียงลมวิ้ว ๆ ที่หูฟู่ ๆ เลยก็มี แปลกดีใช่ไหมครับ แต่มันเป็นอย่างนั้น
    เมื่อเริ่มถอดจิตใหม่ ๆ อย่าออกไปไกล ให้อยู่เฉพาะในบ้านเราเอง ไปกราบพระที่ห้องพระก็ดี สิ่งที่ควรทำมากที่สุดช่วงแรกนี้คือทำความรู้พิจารณาให้เห็นความเป็นไปของกายทิพย์ให้ชัดเจน ทดลองอยู่กับกายตัวเองให้ชำนาญ รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ฝึกเข้าออกกายเนี้อให้ชำนาญ ลองเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ดู เมื่อรู้จักกายทิพย์ดีแล้วจึงค่อยออกไปไกล ๆ
     
  7. มโนมัยกุศล

    มโนมัยกุศล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +57
    ขอบคุณคำแนะนำมากๆ เลย ขอให้ เจริญในธรรมมากๆ นะครับ

    ขอบคุณสำหรับธรรมทานครับผม

    แต่ตอนนี้ผมยังกำหนดไม่ได้เลย ว่าจะออก ตอนไหน คงต้องหัดให้ชินเหมือนที่ ท่านบอกครับ

    ขอบคุณมากๆๆ จากใจครับ
     
  8. อดีตโก

    อดีตโก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +1
    ไม่น่าเชื่อที่ผมหลุดกระทู้นี้ตอนไหนขออนุญาติครูบาอาจารย์เลยนะครับผมขออนุญาตฺแล้วนะครับให้อทิษฐานจิตถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กำหนดทั้งกายหยาบและกายทิพย์ให้มีรูปพระพุทธรูปเป็นแก้วใสสว่างอยู่บนหัวกายหยาบให้มีแสงสว่างและแก้วใสสว่างเหมือนเพชรคุ้มครองกายไว้กายทิพย์ก็ให้กำหนดพระพุธรูปที่สว่างและใสนี้อยู่บนหัวตลอดเวลาทำอะไรให้ระลึกนึกถึงท่านไว้ตลอดแล้วจะพบความสุขและความเจริญที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่ของผมนะครับขาดตกไปบ้างใครอ่านเหลือเชื่ออย่าไปเชื่อใครเชื่อหากมาเจอตรงนี้ปฏิบัติตามดีนักแลสาธุครับ
     
  9. อดีตโก

    อดีตโก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +1
    ทราบแล้วครับผมหลุดที่นี่ได้อย่างไรผมไม่ชอบเข้าห้องนี้ตั้งแต่แรกที่มาเวฟนี้ฟังชื่อเป็นโปรแกรมคอมผมกลัวไวรัสครับขึ้นสมองเลย
     
  10. slamb

    slamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,021
    ค่าพลัง:
    +538
    อนุโมทนาครับ ผมเคยเป็นเมื่อครั้งที่ผมบวชเป็นพระครับ
    นอนภาวนาจนหลับไป ต่อมามีความรู้สึกอยากจะเข้าห้องนํ้า
    จึงลุกขึ้น ขณะที่ผมลุกขึ้นนั้นมีความรู้สึกเสียววูบไปทั้งตัว
    แล้วมองกลับไปเห็นร่างตัวเองนอนอยู่ จึงกลับนอนลงคืนที่ร่าง
    แล้วลุกขึ้นใหม่จึงได้เข้าห้องนํ้าใด้ตามปกติ
    ขณะที่เหตุการณ์เกิดขึ้นนั้นผมมีสติตลอดจึงทราบแน่ชัดกับตัวเองว่าไม่ใด้ฝันไป

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. btme

    btme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +319
    อนุโมทนา กับคุณ มโนมัยกุศล ครับ...
    ผมก็เคยมีประสบการณ์คล้ายกันครับ โดยผมได้ทำสมาธิในท่านอน แล้วก็หลับฝันไปว่าได้ไปสถานที่และเหตุการณ์ต่างๆซึ่งต่างจากการฝันแบปกติ โดยฝันครั้งแรกฝันว่า ได้มีพระมาสอนการฝึกสมาธิ ครั้งที่สองได้มีพระมาคอยแนะนำให้ถึงวิธี การไปสถานที่แห่งหนึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็ที่ไหน ส่วนครั้งที่สามไปเอง เวลาที่ไปยังที่ต่างๆก็จะมีเสียงอธิบายรายละเอียดให้ฟัง เหมือนมีคนนำเที่ยวแต่จะไม่เห็นคนที่อธิบายให้ฟัง และจะเห็นเฉพาะในส่วนที่เขาให้ดูเท่านั้น โดยรอบข้าจะมืดไปหมด ในระหว่างนั้นเกิดความกลัวขึ้นจึงไดนึกถึงพระ แล้วปรากฏว่าเราไปนั่งอยู่หน้าพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาท่านบอกว่าให้เร่งปฏิบัติให้มากจะได้ติดต่อกับท่านได้ง่ายขึ้น
    หลังจากนั้นผมก็ตื่นขึ้นมา และคิดทบทวนความฝันอยู่ครู่หนึ่ง ผมจึงได้ทำสมาธิต่อ โดยยังอยู่ในท่านอนครับ หลังจากนั้นจิตก็เข้าสมาธิได้เร็วมาก(ต่างจากปกติ) โดยจะไม่ได้ยินเสียงอะไรจากภายนอกเลย หลังจากนั้นก็มีความสว่างเกิดขึ้น แต่ไม่ถึงกับสว่างจ้า อยู่ก็มีความคิดขึ้นมาเองแบบไม่ได้กำหนด ว่าอยากจะออกจากกายเนื้อ จึงลองลุกขึ้นแต่ไปไม่ได้ครับ ขยับได้แค่แขน ส่วนอื่นของร่างกายหนักมาก ผมจึงนิ่งเฉยโดยไม่คิดอะไร สักครู่ก็มีความสว่างเกิดขึ้นอีก โดยคราวนี้รู้สึกว่าเสียวทั่วทั้งตัวเลยครับ เหมือนกับเราลอกผิวหนังชั้นนอกออกแล้วสัมผัสกับผิวหนังชันใน หรือจะอธิบายง่ายๆ ก็เหมือนกับตอนที่เราเล่นฟุตบอลแล้วเท้าพอง พอเราตัดผิวหนังส่วนที่พองออก แล้วเดินจะรู้สึกเสียวๆอย่างนั้นครับ และทันใดนั้นก็รู้สึกว่าร่างกายมันไหล(มันรู้สึกว่าไหลจริงๆ)ไปแบบไม่รู้ทิศทางเร็วมาก หลังจากนั้นก็รู้สึว่าลอยไป ไปโผล่ที่ไหนไม่รู้ เมื่อเราเดินจะไม่รู้สึกถึงนำหนักใดๆเลยและเมื่อลองหยิบสิ่งของก็ไม่สามารถหยิบได้
    เหมือนกับว่าเราไม่มีแรงที่จะยก ทั้งที่เป็ของชิ้นเล็กๆ หลังจากนั้นมารู้ตัวก็คือถึงเวลาที่ต้องตื่นเตรียมตัวไปทำงานแล้ว ไม่รู้ว่ามายังไงเพราะว่ามันเร็วมากเร็วครับ
    เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่วันนี้เองครับ และผมก็มีความสงสัยว่ามันเป็นความจริงรึเปล่า รบกวนผู้ที่มีประสบการณ์ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
     
  12. atomdekst

    atomdekst Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +79
    น่าสนใจครับ ผมจะขอลองทำดูบ้างนะครับ

    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  13. ชนินทร

    ชนินทร พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,725
    ค่าพลัง:
    +6,384
    โมทนากับทุกๆ ท่านด้วยค่ะ ที่ถอดกายทิพย์กันได้...

    อยากจะบอกว่าไม่ว่าท่านจะเพิ่งเคยถอดกายทิพย์ได้หรือทำจนชำนาญแล้วก็ตาม... ก่อนนอนควรระลึกถึงพระบารมีแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่าน ให้พระองค์ท่านช่วยคุ้มครองทั้งกายหยาบ และกายละเอียด อทิสมานกายของเราจากมิจฉาทิฐิ อกุศลและภูติผีปีศาจทั้งหลายค่ะ....

    เมื่ออกจากร่างได้แล้ว อย่างแรกเลยที่ควรทำ คือ นึกน้อมกราบพระพุทธเจ้าท่าน(ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดก็ตาม แค่นึกเห็นพระองค์ท่าน หรือนึกถึงพระพุทธรูปที่บ้านก็ยังดีค่ะ)...

    เสร็จแล้วค่อยขอให้พระองค์ท่านช่วยสงเคราะห์นำเราไปในสถานที่ที่เราควรจะไป ณ ขณะนั้น...

    เมื่อได้รู้ได้เห็นในสิ่งใดแล้ว ให้ปล่อยวาง อย่ายึดอย่าติด... อย่าคิดลำพองว่าเราดีกว่า แน่กว่าคนอื่นแล้วที่ทำแบบนี้ได้... เพราะนั่นจะดึงให้เรากลายเป็นมิจฉาทิฐิโดยไม่รู้ตัวค่ะ... แถมถ้าถลำลึกไปเรื่อยๆ มันจะเกิดเป็นวิปัสนูปกิเลส... ทำให้เราเข้าใจว่าเราบรรลุธรรมขั้นสูงแล้ว... อันตรายมากค่ะ... เมื่อเป็นแบบนั้นวิชชาที่ได้จะเสื่อม...

    ขอแค่ให้ตั้งจิตอธิษฐานเป็นสัมมาทิฐิ มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด มีสติ รู้ตัวอยู่ตลอด มองทุกอย่างให้เป็นเรื่องธรรมดา... เพราะคนที่ปฏิบัติธรรมนั้น เกือบทุกคนมีโอกาสทำได้เหมือนอย่างเราค่ะ...

    โมทนากับทุกท่านอีกครั้งค่ะ...
     
  14. โพธิญาณ45

    โพธิญาณ45 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +29
    สำหรับท่านที่มีความประสงค์จะถอดกายทิพย์แบบง่ายๆ สบายๆ โดยท่านสามารถฝึกได้ที่บ้านของท่าน ขอแนะนำว่าหลังจากเสร็จภาระกิจประจำวันแล้ว ให้ท่านเข้านอนในช่วงเวลาประมาณ 21.00 - 22.30 น. เพื่อให้ร่างกายท่านได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จากนั้นท่านจะตื่นนอน ในช่วงเวลาประมาณ ตี 1 - ตี 2 ให้ท่านรีบลุกขึ้นจากที่นอน ล้างหน้าสี ฟันเพื่อให้ร่างกายสดชื่น แล้วสวดมนต์ไหว้พระ ขอพระกรรมฐานจากพระพุทธรูป หรือรูปภาพพระพุทธรูปก็ได้ หาเก้าอี้ที่มีพนักพิงเอนหลังได้ ให้ท่านนั่งหย่อนขาในท่าที่ท่านสบาย และใช้คำภาวนา " นะ มะ พะ ธะ " โดยภาวนาแบบสบายๆ ไม่เร็ว ไม่ช้า เกินไป โดยท่านจะกำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออกหรือไม่ก็ได้ ภาวนาจนมีความรู้สึกว่าท่านเกิดอาการง่วง ก็ให้ท่านเข้าไปนอนในท่าที่ท่านผ่อนคลายที่สุด แล้วภาวนะต่อไปเรื่อยๆ โดยกำหนดจิตอยู่ที่บริเวณหน้าผากระหว่างคิ้ว เมื่อเกิดอาการตัวแข็งชา หรือตัวไหลก็ไม่ต้องตกใจ(เพราะท่านวางอารมณ์ได้ถูกต้องแล้ว)ให้ภาวนาต่อไปเรื่อยๆ เมื่อการภาวนาเต็มอัตราแล้ว กายทิพย์ก็จะถอดจากกายเนื้อเอง แรกๆ จะเกิดอาการมืด ก็ให้กำหนดจิตขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้าขอให้มีความสว่างเหมือนพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน จากนั้นก็อย่าเพิ่งออกไปจากบ้านให้ท่านไปไหว้พระพุทธรูป หรือภาพพระพุทธรูปในบ้านก่อน และให้ทำอย่างนี้จนชำนาญ เมื่อพระพุทธรูป หรือรูปภาพนั้นกลายจากสภาพจากพระพุทธรูป เป็นเทวดาเมื่อใดแล้ว ท่านที่ประสงค์จะไปเที่ยวที่ใหนก็ให้พระท่านพาไป นะครับ(อย่าไปเอง) แล้วท่านจะได้เห็นอะไรๆ ชัดเจนแจ่มใสมากกว่าที่คิด และหลังจากไปเที่ยวมาแล้วก็อย่างลืมอุทิศส่วนกุศลด้วยนะ ทั้งนี้ เรื่องที่นำมาบอกเล่ากันนี้ ได้เห็นแบบอย่างมาจากคนที่ไปฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลังที่วัดท่าซุง เพราะท่านทั้งหลายที่ฝึกได้จะเริ่มจากการภาวนาในอริยบทท่านั่งก่อน เมื่อการภาวนาในท่านั่งเต็มอัตราจนเกิดอาการต่างๆ แล้ว ท่านเหล่านั้นส่วนใหญ่จะจบลงด้วยอริยบทในท่านอนซึ่งเป็นที่ที่ผ่อนคลาย และท่านเหล่านั้นก็สามารถกอดกายทิพย์ได้ จึงลองนำมาปฏิบัติที่บ้าน ผลปรากฏว่าการถอดกายทิพย์เป็นเรื่องที่ไม่เกินวิสัยที่ทุกคนจะทำได้ ถ้าท่านใดชอบวิธีการนี้ก็นำไปปฏิบัตินะครับ ปฏิบัติได้ผลอย่างไรก็มาเล่าสู่กันฟังด้วย ....." ความสำเร็จไม่มีใครพยากรณ์ได้สุดแล้วแต่ความขยัน" สวัสดีครับ
     
  15. Siamese Wizard

    Siamese Wizard Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +42
    ว้าว ทำได้จริงๆเหรอ

    อนุโมทนา สาธุ[​IMG]
     
  16. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    การถอดกายทิพย์เบื้องต้นก็มักจะเป็นแบบนี้ แหละครับ ฝึกไปเรื่อยๆ นานไป หากเหตุปัจจัยครบถ้วน ก็สามารถถอดไปได้ขณะลืมหูลืมตานี่แหละ ก็ทำนองเดียวกันกับ การกำหนดรู้นั่นแหละครับ

    ในภาวะที่ทำได้ตอนนอนหลับนี่ส่วนใหญ่สติจะน้อย ควบคุมการไปมาไม่ค่อยได้ ไปเจออะไรน่ากลัวหน่อยก็จะหนีกลับเข้าร่าง ถ้าพลังฌานมากพอ เมื่อกลับเข้าร่าง ก็ลองลุกขึ้นนั่งแล้วกำหนดจิตกลับไปที่เดิมอีกครั้งนึง หากเป็นของจริงก็สามารถไปซ้ำแบบเดิม ที่เดิมได้อีก

    ถ้าจะให้ไว หรือดีกว่าเดิม ต้องฝึกปล่อยวางให้มากๆ แล้วจะทำอะไรได้อีกสารพัดแบบ ครับ

    ผมมีสิ่งเหล่านี้ ติดตัวมาตั้งแต่เกิด จึงสอนใครไม่ได้เพราะไม่ได้เรียนมา แต่บอกได้ว่าอาการเป็นอย่างไร จะต้องแก้ไขอย่างไร หรือต่อไปอาการต่างๆจะพัฒนาไปในแนวทางไหน สุดท้ายไปจบอยู่ที่ทำให้จิตส่วนหนึ่งแยกออกไปทำงานขณะลืมหูลืมตานั่นแหละ ถ้าจะให้เข้มข้นก็ต้องแยกจิตออกไปตอนนั่งสมาธิ กำหนดนั่น กำหนดนี่ นานๆไป จิตมันก็จะเบื่อการรู้เห็น แล้วก็ปล่อยวางไปเอง

    แต่มียกเว้นอยู่เรื่องนึง ที่กำหนดรู้ยาก คือเรื่องของกรรมตนเอง เพราะพญากรรมเขามักจะปิดบังซ่อนเร้น แต่บางทีหากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาเมตตา เขาก็ทำนิมิตให้เรารู้ ดังนั้น การปฏิบัติต้องทำให้มีพวกมากๆ เข้าไว้ ซึ่งการที่จะมีพวกมากก็คือการสร้างบุญกุศลหรือบารมีใหญ่ๆนั่นเอง เพราะภพภูมิต่างๆเขาหวังพึงพาบุญบารมีจากมนุษย์เช่นกัน ดังนั้น เมื่อเราช่วยเขา เขาก็ช่วยเรา ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 สิงหาคม 2008
  17. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    ท่านที่ต้องการฝึกต่อยอด แนะนำให้ไปฝึกได้ที่บ้านสายลมครับ จะได้ส่งกายทิพย์ไปกราบพระได้ที่พระนิพพาน อันเป็นความดีสูงสุด เป็นป้าหมายหลักชัยของการฝึกถอดกายทิพย์
    ศึกษาวิธีไปและคำแนะนำได้ในกระทู้ที่ผมเคยตอบไว้แล้ว
    http://palungjit.org/showthread.php?t=149318
     
  18. ศึกษาธรรม2551

    ศึกษาธรรม2551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +234
    แล้วเกิดออกร่างไปวิญญาณอื่นเข้าสิงแทนละจะสามารถสิงได้หรือไม่?
    และฤทธิ์ทางใจเนี่ย คือความนึกคิดหรือไร? แปลว่าคิดโดยใช้ใจหรือเปล่า และคิดไปเองหรือเปล่า ฝันไปหรือเปล่า ไม่น่าเชื่อใช่มั๊ยครับ มีจริงหรือ? เกิดนิมิตหรือไม่ คนไปนรกเห็นเหมือนกันหมดหรือเปล่า?
     
  19. อ่อนต่อโลก(ธรรม)

    อ่อนต่อโลก(ธรรม) สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +8
    อนุโมทนาครับ

    _________________________

    สุขอื่นยิ่งกว่า ความสงบไม่มี
     
  20. alpha349

    alpha349 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +8
    ขอบคุณครับสำหรับการสอน ผมเป็นมา 2-3 หนแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ ก็เลยได้แค่วนๆอยู๋ในห้องนอน ก็สงสัยเหมือนกันว่าเราฝันหรือตื่น ลองกระโดดดูก็ลอยได้ ขาไม่ติดพื้น แล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรต่อ สักพักก็กลับมาเข้าร่าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...