ธรรมะศักดิ์สิทธิ์

พุทธศาสนาเป็นศาสนาประเภท อเทววะนิยม คือไม่มีและไม่ยอมรับเดชานุ<WBR>ภาพของเทพเจ้า ในฐานะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สู<WBR>งสุด ซึ่งมีเทวานุภาพเหนือความเป็<WBR>นไปของชีวิตมนุษย์ในลักษณะ " พรหมลิขิต " และพุทธศาสนาเป็นศาสนาประเภทสั<WBR>จจนิยม ซึ่งยอมรับในความจริ<WBR>งของโลกและชีวิตตามที่มันเป็<WBR>นอยู่ มีอยู่ ตามความเป็นจริง

ดังนั้น พุทธศาสนาจึงมีวิธีอธิ<WBR>บายโลกและชีวิต ด้วยสติปัญญาของมนุษย์เองนี้ว่า " การศึกษา " และเรียกระบบการอธิบายนี้ว่า " ไตรสิกขา " และด้วยไตรสิกขานี้เอง เมื่อใครนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิ<WBR>ตอย่างสมบูรณ์แบบ คนผู้นั้นก็จะเปลี่<WBR>ยนสถานภาพจากปุถุชน กลายเป็น "ผู้รู้ " (พุทโธ) ขึ้นมาทันที ระบบความรู้ที่ผู้รู้<WBR>นำออกมาเผยแพร่ ชี้แจง แสดง เปิดเผยนี้ มีชื่อเรียกว่า " พุทธศาสนา " (ศาสนาของผู้รู้)

แต่ทั้งๆ ที่พุทธศาสนาเป็นศาสนาของผู้รู้ เป็นศาสนาของการศึกษาและพั<WBR>ฒนาตนไปตามลำดับ จนลุสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบู<WBR>รณ์ในที่สุด ทว่า ในโลกของความเป็นจริง บางทีบรรยากาศในหลากหลายวั<WBR>ฒนธรรมที่พุทธศาสนาเข้<WBR>าไปผสมผสาน กลมกลืนลงหลักปักฐาน เป็นศาสนาของประชาชนกระแสหลัก กลับมีบุคลิกภาพที่แตกต่างไปอย่<WBR>างสิ้นเชิง กับพุทธศาสนาเดิมแท้ๆ

ตัวอย่างที่ว่านี้มีอยู่ทั่วไป เช่น ในภูฏาน พุทธศาสนามีกลิ่<WBR>นอายของมนตรยานเข้มข้น กลายเป็นศาสนาของมนตรา มากไปด้วยลัทธิพิธีแปลกๆ ที่ยากอธิบาย หรือในอินเดีย ราวพุทธศตวรรษที่ 10 - 17 พุทธศาสนาถูกกลืนกลายจนหันเหี<WBR>ยนเบียนบ่อน ออกมาเป็นตันตรยานที่มากด้วยพิ<WBR>ธีกรรม การเซ่นสรวงบูชา คุณวิเศษ เวทไสย คาถาอาคม

แม้แต่ประเทศไทยของเราเอง ณ พศ. นี้ (2552) พุทธศาสนาก็มากด้วยมนตร์ มากด้วยของขลัง มากด้วยเกจิอาจารย์ขุนขลังขมั<WBR>งวิชา มากด้วยการปลุกเสกลงเลขยันต์ และมากด้วยเทพเทวาสารพัดสกุ<WBR>ลความเชื่อ รวมทั้งหมอดูผู้ทรงอิทธิพลอย่<WBR>างลึกซึ้งต่อเพื่อนมนุษย์<WBR>และความเป็นไปของบ้านเมือง

ไม่เพียงเท่านั้น พุทธศาสนาในเมืองไทยยังมีคำอธิ<WBR>บายอะไรๆ ในทางศาสนาด้วยท่าทีแบบ " ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ " เป็นยันต์วิเศษเอาไว้<WBR>คอยสะกดชาวพุทธรุ่นใหม่ให้รู้สึ<WBR>กระอากับพุทธศาสนา ที่พิจารณายังไงก็ไม่ make sense อีกต่างหาก

พุทธศาสนาเดิมแท้เป็นพุ<WBR>ทธศาสนาที่อธิบายได้ พิจารณาอย่างไรก็มีความเป็นเหตุ<WBR>เป็นผล มีความเป็นวิทยาศาสตร์อย่างที่<WBR>คนร่วมสมัยสามารถลุกขึ้นมาท้<WBR>าทาย พิสูจน์ด้วยตัวเองได้อย่างหนั<WBR>กแน่นเป็นแก่นสาร และยิ่งผ่านคืนวันมาเนิ่นนานเพี<WBR>ยงไร พุทธธรรมจากพุทธศาสนายิ่งสะท้<WBR>อนให้เห็นความเป็นสากลที่พร้<WBR>อมจะตอบทุกคำถาม และทุกความต้องการของมนุษยชาติ<WBR>มากเพียงนั้น

พุทธศาสนานั้นพร้อมรับมือกั<WBR>บศาสตร์สมัยใหม่ พร้อมสำหรับคนรุ่นใหม่ พร้อมสำหรับปัญหาใหม่และยุคใหม่<WBR>ตลอดเวลา ขาดก็แต่ " คน " ที่จะมาทำหน้าที่ " อธิบาย " พุทธศาสนาอันแวววาวพราวพรายให้<WBR>เป็นที่ปรากฏเท่านั้น.....





ว.วชิรเมธี

6 มกราคม 2552

 

สาธุ ครับ ให้ลูฏมีดวงตาเห็นธรรม มีธรรมเป็นเครื่องยึด ตลอดไป สาธุ