ธรรมะจากหลวงพ่อ

avumme · 2 ธันวาคม 2010

[FONT=Little_Star]ธรรมะจากหลวงพ่อ [/FONT]
[FONT=Little_Star]โดย หลวงพ่อชา สุภัทโธ

[/FONT]

[FONT=Little_Star]"[/FONT][FONT=Little_Star]ดูไม้ท่อนนี้ซิ มันสั้นหรือยาว[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]สมมุติว่า....[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]คุณอยากได้ไม้ที่ยาวกว่านี้[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]ไม้ท่อนนี้มันก็สั้น[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]แต่ถ้าคุณอยากได้ไม้สั้นกว่านี้[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]ไม้ท่อนนี้มันก็ยาว"[/FONT][FONT=Little_Star]

----------------------------------------

"[/FONT][FONT=Little_Star]ถึงบอกให้ก็ไม่รู้หรอก..[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]มันเหมือนนกที่อยากรู้เรื่องของ ปลาในน้ำ[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]ถึงปลาบอกความจริงว่า......[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]อยู่ในน้ำเป็นอย่างไร[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]นกก็ไม่มีทางจะรู้ได้[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]ตราบใดที่นกยังไม่เป็นปลา"[/FONT][FONT=Little_Star]

-----------------------------------------

......[/FONT][FONT=Little_Star]ใจของเรามันอยู่ในกรง[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]ยิ่งกว่านั้น มันยั[/FONT][FONT=Little_Star]งมีเสือกำลังอาละวาดอยู่ในกรงนั้นด้วย[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]ใจที่มันเอาแต่ใจของเรานี้[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]ถ้าหากมันไม่ได้อะไรตามที่มันต้อง การแล้ว มันก็อาละวาด[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]เราจะต้องอบรมใจด้วยการปฏิบัติ ภาวนา ด้วยสมาธิ[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT][FONT=Little_Star]นี่แหละที่เราเรียกว่า "การฝึกใจ"......[/FONT]

avumme · 2 ธันวาคม 2010

[FONT=Little_Star]กุญแจภาวนา [/FONT]
[FONT=Little_Star]โดย หลวงพ่อชา สุภัทโธ[/FONT]
[FONT=Little_Star]เวลานั่งสมาธิ อย่าไปตั้งใจว่า [/FONT][FONT=Little_Star]“[/FONT][FONT=Little_Star]เอาละ จะเอาให้มันแน่ ๆ ดูที[/FONT][FONT=Little_Star]” [/FONT][FONT=Little_Star]เปล่า! วันนั้นไม่ได้เรื่องเลย บางคืนพอเริ่มนั่งก็นึกว่า [/FONT][FONT=Little_Star]“[/FONT][FONT=Little_Star]เอาละ วันนี้อย่างน้อยตีหนึ่งจึงจะลุก[/FONT][FONT=Little_Star]” [/FONT][FONT=Little_Star]คิดอย่างนี้ก็บาปแล้ว เพราะว่าไม่นานหรอก เวทนามันรุมเอาเกือบตาย[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT]
[FONT=Little_Star]มันดีเวลาที่นั่งโดยไม่ต้องกะ ต้[/FONT][FONT=Little_Star]องเกณฑ์ ไม่มีที่จุดที่หมาย ทุ่มหนึ่ง สองทุ่ม สามทุ่ม ก็ช่างมัน นั่งไปเรื่อย ๆ วางเฉยไว้ อย่าบังคับมัน อย่าไปหมายมั่น อย่าไปบังคับว่าจะเอาให้มันแน่ ๆ มันก็ยิ่งไม่แน่[/FONT][FONT=Little_Star]

[/FONT][FONT=Little_Star]ให้เราวางใจสบาย ๆ หายใจก็ให้พอดี อย่าเอาสั้นเอายาว กายก็ให้สบาย นั่งเรื่อยไปตามเรื่องของเรา[/FONT][FONT=Little_Star]

[/FONT][FONT=Little_Star]บางคนนั้นเวลานั่งจุดธูปไว้ข้าง หน้าคิดว่า [/FONT][FONT=Little_Star]“[/FONT][FONT=Little_Star]ธูปดอกนี้ไหม้หมดจึงจะหยุด[/FONT][FONT=Little_Star]” [/FONT][FONT=Little_Star]แล้วนั่งต่อไปพอนั่งไปได้ [/FONT][FONT=Little_Star]5 [/FONT][FONT=Little_Star]นาที ดูเหมือนนานตั้งชั่วโมง ลืมตามองดูธูป แหม! ยังยาวเหลือเกิน หลับตานั่งต่อไปอีกแล้วก็ลืมตา ดูธูป ไม่ได้เรื่องอะไรเลย จิตเลยไม่ต้องทำอะไร นึกถึงแต่ธูปที่ปักไว้ข้างหน้าว่าจวนจะไหม้หมดหรือยังหนอ[/FONT][FONT=Little_Star]

[/FONT][FONT=Little_Star]ถ้าเราทำภาวนาอย่าให้กิเลสตัณหา มันรู้เงื่อนรู้ปลายได้[/FONT][FONT=Little_Star] “[/FONT][FONT=Little_Star]ท่านจะเอาอย่างไร[/FONT][FONT=Little_Star]” [/FONT][FONT=Little_Star]มันมาถามเรา [/FONT][FONT=Little_Star]“[/FONT][FONT=Little_Star]จะเอาขนาดไหน จะเอาประมาณเท่าไร ถึงเท่าไร[/FONT][FONT=Little_Star]” [/FONT][FONT=Little_Star]มันมาทำให้เราตกลงกับมัน ถ้าเราไปว่าจะเอาสักสองยาม มันจะเล่นงานเราทันที นั่งไปยังไม่ถึงชั่วโมงต้องร้อนรนออกจากสมาธิ แล้วก็เกิดนิวรณ์ว่า[/FONT][FONT=Little_Star] “[/FONT][FONT=Little_Star]แหม!...มันจะตายหรือยังกันนา... ว่าจะเอาให้มันแน่ มันก็ไม่แน่ ตั้งสัจจะไว้ก็ทำไม่ได้[/FONT][FONT=Little_Star]” [/FONT][FONT=Little_Star]คิดทุกข์ใส่ตัวเอง เราค่อยทำค่อยไปเสียก่อน พยายามฝึกหัดไป เมื่อจิตสงบ ความเจ็บปวดทางร่างกายก็หยุด เรื่องปวดแข้งปวดขามันจะหายไป เอง[/FONT][FONT=Little_Star]

[/FONT][FONT=Little_Star]ผู้ที่นั่งสมาธิไม่ว่าจะเกิดอะไร ไม่ต้องกังวล ให้มันเกิดมาเอง อย่าสงสัย เช่น ถ้าจิตสงบปั๊บ เอ...มันเป็นปฐมฌานแล้วหรือยัง เดี๋ยวก็นึกว่าเป็นทุติยฌานแล้วกระมัง พอนึกอย่างนี้จิตถอนเลย ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น เพราะมันอยาก พอตัณหาเกิด มันจะมีอะไร มันก็ถอนออกพร้อมกันนี่แหละ เราทั้งหลายต้องทิ้งความคิด ความสงสัยให้หมด[/FONT][FONT=Little_Star]

[/FONT][FONT=Little_Star]ดูอาการของจิต อย่าแบกคัมภีร์เข้าไปด้วย ผู้ที่เรียนมาก ๆ รู้มาก ๆ จึงไม่ค่อยสำเร็จ เพราะมาติดตรงนี้ อย่าเอามาคิด ถ้าจิตเราเข้าไปสงบถึงขั้นนั้น แล้วไม่รู้จักหรอก มันไม่มีป้ายบอก[/FONT][FONT=Little_Star]

[/FONT][FONT=Little_Star]เมื่อลงนั่งสมาธิถ้าเกิดนิมิตต่าง ๆ ให้เราดูเสียก่อนว่า จิตเป็นอย่างไร จิตต้องสงบ นิมิตที่เกิดขึ้นอย่าอยากให้มัน เกิด อย่าไม่อยากให้มันเกิด ถ้าเห็นนิมิตแล้วอย่าไปหมายมัน อย่าวิ่งตามนิมิต เห็นนิมิตให้ย้อนดูจิตเลย นิมิตนี้ให้ประโยชน์แก่คนมีปัญญา ให้โทษแก่คนไม่มีปัญญา ทำความเพียรไปจนเราไม่ตื่นเต้น ในนิมิต[/FONT][FONT=Little_Star]
[/FONT]
[FONT=Little_Star]การทำวิปัสสนา จะทำเอาเดี๋ยวนั้น ๆ ทำได้ยาก มันต้องเดินมาจากความสงบ เรื่องมันเป็นเองทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องเราจะไปบังคับ เรื่องของเป็นเอง เมื่อเราทำไปถึงขั้นนี้แล้ว เราก็ปล่อยตามบุญวาสนาบารมีของ เรา แต่เราไม่หยุดทำความเพียร จะช้าหรือเร็วเราบังคับไม่ได้[/FONT][FONT=Little_Star]

[/FONT][FONT=Little_Star]เหมือนเราปลูกต้นไม้ หน้าที่ของเราคือ ขุดหลุมปลูก ให้น้ำ ให้ปุ๋ย รักษาแมลงให้มันเท่านั้น นี่เรื่องของเรา นี่เรื่องศรัทธาของเรา ส่วนต้นไม้จะโตก็เป็นเรื่องของ มัน ไม่ใช่เรื่องของเรา จะไปดึงให้มันยืดขึ้นมาก็ไม่ได้ ผิดเรื่อง เราต้องให้น้ำ เอาปุ๋ยใส่ให้ มดปลวกมาข้าจะไล่ให้เจ้า เท่านั้นแหละ ต้นไม้ต้นนี้ก็จะงามขึ้นเอง เมื่อมันงามแล้ว เราจะบังคับว่าแกต้องเป็นดอกเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เรื่องของเรา อย่าทำ! เราจะเป็นทุกข์เปล่า ๆ มันจะเป็นของมันเอง[/FONT][FONT=Little_Star]

[/FONT][FONT=Little_Star]ถ้าเราปฏิบัติอย่างนี้ก็จะสบาย จะถึงชาตินี้ก็ช่าง ถึงชาติหน้าก็ตาม ไม่ต้องกลัวว่าจะนานร้อยชาติพันชาติก็ช่าง[/FONT][FONT=Little_Star]

[/FONT][FONT=Little_Star]เรามีศรัทธาอย่างนี้แล้ว มีความรู้สึกแน่นอนแล้วอย่างนี้ จะเร็วหรือช้านั้นเป็นเรื่องของบุญวาสนาบารมีของเรา อย่าใจร้อน.[/FONT]

avumme · 2 ธันวาคม 2010

[FONT=&quot]คำสอน หลวงพ่อชา จากหนังสืออภิมหามงคลธรรม[/FONT]

[FONT=&quot] "[/FONT][FONT=&quot]ความอยากอย่างแรงกล้าที่จะหลุดพ้นหรือรู้แจ้งนั้น[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]จะเป็นความอยากที่ขวางกั้นการหลุดพ้น...[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]พยายามมากเกินไป[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]แต่ขาดปัญญา[/FONT][FONT=&quot]เป็นการเคี่ยวเข็ญตนเองไปสู่ความทุกข์ยาก โดยไม่จำเป็น[/FONT][FONT=&quot]
... [/FONT][FONT=&quot]เดินทางสายกลาง คือ[/FONT][FONT=&quot]สงบ วางสุข วางทุกข์[/FONT][FONT=&quot]

________________________________________
[/FONT][FONT=&quot]หน้าที่ของเรานั้น ทำเหตุให้ดีที่สุดเท่านั้น[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ส่วนผลที่จะได้รับ[/FONT][FONT=&quot]เป็นเรื่องของเขา...[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ถ้าเราดำเนินชีวิตโดยมีการปล่อยวาง เช่นนี้แล้ว[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ทุกข์ก็ไม่รุมล้อมเรา...[/FONT][FONT=&quot]

________________________________________
[/FONT][FONT=&quot]จิตของคนตามธรรมชาตินั้น ไม่มีคามดีใจเสียใจ[/FONT][FONT=&quot]
...[/FONT][FONT=&quot]ที่มีความดีใจเสียใจนั้นไม่ใช่จิต[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]แต่เป็นอารมณ์ที่มาหลอกลวง[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]จิตก็หลงไปตามอารมณ์โดยไม่รู้ตัว[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]แล้วก็เป็นสุขเป็นทุกข์ไปตามอารมณ์...[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ผู้ใดตามดูจิต[/FONT][FONT=&quot]ผู้นั้นจักพ้นจากบ่วงของมาร[/FONT][FONT=&quot]

________________________________________
[/FONT][FONT=&quot]การกระทำจิตให้สงบนั้น[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]อย่าเพิ่งเข้าใจว่า[/FONT][FONT=&quot]มาทำวันเดียวหรือสองวันมันจะสงบได้...[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]จะต้องพยายามทำเรื่อยๆ ไป[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ให้เห็นความสงบ[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]เกิดขึ้นมาต้องพยายามทำให้มาก[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ทำบ่อยๆ ยืน เดิน นั่ง[/FONT][FONT=&quot]นอน ต้องมีสติอยู่เสมอ[/FONT][FONT=&quot]
***[/FONT][FONT=&quot]จบ***[/FONT][FONT=&quot]

________________________________________

"[/FONT][FONT=&quot]จิตของคนตามธรรมชาตินั้น ไม่มีความดีใจเสียใจ[/FONT][FONT=&quot]
...[/FONT][FONT=&quot]ที่มีความดีใจเสียใจนั้นไม่ใช่จิต[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]แต่เป็นอารมณ์ที่มาหลอกลวง[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]จิตก็หลงไปตามอารมณ์โดยไม่รู้ตัว[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]แล้วก็เป็นสุขเป็นทุกข์ไปตามอารมณ์...[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]ผู้ใดตามดูจิต ผู้นั้นจักพ้นจากบ่วงของมาร"[/FONT][FONT=&quot]

[/FONT][FONT=&quot]ทำได้ สู้ได้[/FONT][FONT=&quot]หากภาวนาจนเห็นว่า[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]อารมณ์คือสังขาร มันปรุงขึ้นมาแล้ว วูบทีเดียว[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]กระบวนการขั้นละเอียดนั้นเป็นอย่างไรไม่อาจรู้ได้ในขณะนั้น[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]เพราะยังไม่ฉลาดมาก แต่หากเกิดขึ้นแล้ว เราเห็นว่าเป็นเพียงอารมณ์[/FONT][FONT=&quot]

[/FONT][FONT=&quot]เช่นพระโสดาบัน ท่านเห็นอารมณ์และปล่อยทิ้งได้ เพราะรู้ว่านั่นไม่ใช่ท่าน[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]เป็นเพียงสภาวธรรมอันหนึ่ง ที่เป็นของเกิดดับ(อยู่บ่อย ๆ )[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]พอเห็นอารมณ์นั้น ท่านก็ดูและรู้อยู่ห่าง ๆ เดี๋ยวมันก็ดับ[/FONT][FONT=&quot]และสลายไปเหมือนหมอกควัน[/FONT][FONT=&quot]
[/FONT][FONT=&quot]จิตท่านจึงเป็นสุขอยู่ได้[/FONT][FONT=&quot]ไม่เป็นทาสของพญามารอย่างที่หลวงพ่อชาท่านว่า ครับ[/FONT]

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ธรรมะจากหลวงพ่อ

avumme เป็นที่รู้จักกันดี

avumme เป็นที่รู้จักกันดี

avumme เป็นที่รู้จักกันดี

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ธรรมะจากหลวงพ่อ

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา