"ท่านสุวาน"พาไปเที่ยวนรกอีกแล้ว

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย ลูกแก้วแววตา, 1 ธันวาคม 2009.

แท็ก: แก้ไข
  1. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
    ***ไม่ทราบจริงๆค่ะว่าชื่อท่านคือ "ท่านสุวาน" หรือ "ท่านสุวรรณ"
    แต่ขออ้างอิงจากเจ้าของเรื่อง (คุณอร bloggang)นะค่ะ เพราะเธอเป็นผู้ที่สนใจและปฏิบัติกรรมฐานมานานพอดูทีเดียว***
    -----------------------------------------------------------------------

    วันนี้เหนื่อยๆ แต่ก็ถึงเวลาต้องเล่าแล้ว เรื่อง " นรก" น่ะเจ้าค่ะ ตั้งแต่ทำกรรมฐานมาไปนรกมา ๒ ครั้งแล้ว ท่านสุวาน ท่านพาไปน่ะเจ้าค่ะ (ที่ไม่เล่า เพราะคิดว่า อาจจะมีคนเข้ามาอ่านแล้ว ว่าเรา โอ้อวดน่ะค่ะเลยไม่ได้เขียน กลัวตรงนี้จริงๆ) ครั้งแรกที่ไป นานมากแล้วค่ะ ไม่คิดจะเล่า แต่พอท่านสุวานพาไปอีก ก็คิดว่า คงจะเล่าดีกว่าแล้ว


    นานมาแล้ว กำลังนั่งกรรมฐาน อยู่ กำหนด พองหนอ ยุบหนอ อยู่ เมื่อจิตนิ่ง และได้สมาธิแล้ว ภาพเปลี่ยนไป เรายืนอยู่ในที่ที่ ลุ่มๆ ดอนๆ พื้นไม่เรียบ มีเนิน สูงต่ำ มองพื้น ก็มองไม่เห็นเท้า มันมืดเป็นสีดำหมด แสงสลัวๆ มองพอเห็นรูปร่างอะไรต่ออะไร เป็นเงาดำๆ


    ด้านซ้ายของเรา มีผู้ชายคนนึงยืนอยู่ ตอนนั่นไม่รู้ว่าใคร รู้สึกเพียงว่า ท่านเป็นผู้ที่ดูแล คุมการลงโทษในนรกทั้งหมด เพราะเราเห็นผู้คุมคนอื่น เออ.... ทำงานน่ะ งานที่ว่า คือ ลงโทษวิญญานอื่น

    ท่านพาเรามายืนตรงนี้ เพียงเสี้ยววินาที พอเรารู้ตัวว่าท่านอยู่ข้างๆ ซึ่งเราไม่กล้าแม้แต่หันไปมองท่านเลย ท่านชี้มือขวาขึ้น และชี้ไปทางขวา เรามองตามมือนั่นไป เห็นเป็นบ้านไม้ ใต้ถุนสูง แบบบ้านไทยทั่วไป แบบแสงที่มืดสลัว ทำให้เราเห็นไม่ชัด เพียงแค่พอดูออกว่าอะไร เมื่อรู้แล้ว ว่านี่เป็นบ้านไม้ไทย ใต้ถุนสูง ก็มีเสียงออกมาจากบ้านหลังนี้ เสียง ผู้ชาย กะ ผู้หญิง ทะเลาะกัน ด่าทอกัน จำไม่แล้ว ว่าด่าประมาณไหน

    เหมือนท่านรอให้เราฟัง และรับรู้ว่า บ้านนี้มี ผัว เมีย ทะเลาะกัน ท่านก็เอ่ยขึ้นมาว่า " เห็นไหม ผัว เมีย บ้านนี้ ทะเลาะกัน มันบาปหนานะ "

    พร้อมกลับ ชี้มือขวา ไปทางซ้ายสุด เรามองตามมือนั่นอีกครั้ง

    "นั่นคือผลกรรม ที่มันจะได้รับ"

    ภาพที่เห็น น่ากลัวเหลือเกิน ภาพต้นงิ้ว ใหญ่ขนาดหลายคนโอบ มีหนามแหลม โผล่ออกมา เต็มเลย มีผู้หญิง และผู้ชาย เปลือยกาย (โป๊อะ แต่ด้วยความสลัว อรเห็นไม่ชัดหรอก แต่ดูก็พอรู้ว่าโป๊หมดเลย) ปีนอยู่บนต้นงิ้ว เลือดไหลออกตามผิวกาย เพราะ โดนหนามงิ้วแทงโดน ด้านล่างของต้นงิ้วยักษ์น่ะ มีผู้คุม อยู่ข้างล่าง ด้วย หลายคน ไล่ให้ หญิง ชาย ปีนขึ้นไป

    เรามองภาพนั่น อย่างไม่วางตาเลย และคิดว่า นี่มันนรกจริงๆ หรือนี่ ? กวาดสายตาไปก็เห็นกะทะทองแดง แต่ไม่ได้ทันได้ พิจารณาว่าเป็นแบบไหน ยังไง ท่านที่ยืนข้างๆ ก็พูดขึ้นมาว่า

    "จงจำไว้นะ ถ้าผัว เมีย ทะเลาะกัน ก็จะได้รับกรรมเช่นนี้"

    อรไม่ได้เล่าให้ใครฟังมาก เพราะเราคิดว่า เอ... การทะเลาะกัน ของ คนเป็น สามี ภรรยา เนี้ย มันบาปหนา ถึงขั้นปีนต้นงิ้วนั่นหรือ ?

    ทำไมตอนเรียนมา เค้าว่า ต้องเป็นชู้ล่ะ ถึงได้รับโทษปีนต้นงิ้ว นี่ล่ะทำให้ไม่เล่า เพราะ มัน เหมือนดาบสองคม ที่คนอื่นจะเอามาว่าเรา ให้เราเสียใจน่ะค่ะ ไม่มีความโกรธใครหรอก ถ้าใครมาว่าเราว่า เพ้อเจ้อ หรือบ้าบอ

    วันนึงเราค้นพบว่า พอเรารู้สึกโกรธ อรจะรีบ กำหนด โกรธหนอ ไปเรื่อยๆ เรากลับรู้ใจตนเอง ว่าเราเสียใจมากกว่า ที่จะเป็นความโกรธ เสียใจหนอ เสียใจจริงๆ ที่เค้า ว่าให้เราเสียใจ น่ะค่ะ

    ผ่านมานานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ ทุกอย่างก็กลับมาอีก แต่กลับมาอย่างสนุกสนาน วันนั้น เฮียไม่สบายมาก อรรู้ตอน ๔ ทุ่มแล้ว คุยกะแม่เฮีย เพราะเฮียไม่อยู่ในอาการที่จะคุยได้ ใจก็หาย ไหนแม่เฮียต้องไปงานพระราชทานเพลิงศพของญาติอีก ไหนเฮียจะมาป่วยอีก คิดแล้วก็ รีบโทรขอลา บอส เดินทางคืนนั่นเลย เกิดอุบัติเหตุนิดนึง ที่ปั๊มน้ำมัน ที่ทางด่วนดาวคะนอง เพราะเราเริ่มไม่มีสติน่ะ หลับใน ก็ว่าได้ แต่แผลเล็กน้อย ก็ขับรถต่อมา ด้วยความเร่ง ทำให้เรา ลืมดูปฏิทินว่า เราจะอยู่บ้านเฮีย ในวันพระด้วย ไม่ได้เตรียมชุดขาว มานอนวัดกะแม่เฮีย ในวันพระ

    งานพระราชทานเพลิงศพญาติเฮียเรียบร้อยไปแล้ว เรารับ ส่ง พาแม่ไปทำธุระ ต่างๆ แทนเฮีย แล้ววันถัดมาก็วันพระพอดี แม่ก็ต้องไปนอนวัด (ในช่วงเข้าพรรษา) ปกติเราก็จะไปนอนกะแม่ แต่ก็ห่วง คนป่วยตัวอ้วนกลมแล้วไม่ได้เตรียมชุดขาวมาด้วย ใจก็ไม่อยากไปเพราะเรามีห่วง แต่เฮียก็บอกว่า ไม่ต้องห่วง ให้เราไปถือศีลอุโบสถ ที่วัดกะแม่ เฮียดีขึ้นแล้ว (ไม่รู้แกล้งดีขึ้นหรือดีขึ้นจริงๆ) แต่เราก็ตัดสินใจ ไปนอนวัด

    ที่วัดแพะโคก สระบุรี แม่ๆ ป้าๆ ยายๆ ตาๆ จะเน้นสวดมนต์ และถือศีลเคร่งน่ะค่ะ แต่จะมีการพักอยู่ ๑ ชั่วโมง ในรอบบ่าย ก่อนพระมาเทศน์ อรก็จะอาศัยช่วงนี้ ขออนุญาตแม่ๆ ทำกรรมฐาน เดินจงกรม นั่งสมาธิ ๑ ชั่วโมง ทุกครั้ง

    เดินจงกรม เสร็จ ลงนั่งสมาธิ แป้บเดียว ก็รู้เลยว่า วันนี้นั่งได้แน่ๆ จิตนิ่ง อาจจะเพราะ สวดมนต์ตั้งแต่ ๗ โมงเช้า เพราะ หลวงพ่อจรัญเคยสอนว่า การที่เราสวดมนต์ ก่อนทำกรรมฐาน จะช่วยให้จิตเราช้าลง ไม่วิ่งเร็ว และจับจิตได้อยู่หมัด ให้จิตอยู่นิ่ง เวลาทำกรรมฐาน อาจจะนิ่งตั้งแต่เดินจงกรมเลยก็มี ค่ะ

    แล้ว แสงก็สว่างขึ้นมา มีผู้ชายคนหนึ่ง มาหาเรา เราสัมผัสได้ว่า ท่านคือใคร ท่านสุวาน นั่นเอง ท่านมาหาเรา แต่เราก็ไม่เห็นหน้าท่านหรอก ไม่เห็นแม้แต่การแต่งกาย

    ท่านมายืนอยู่ด้านซ้ายมือเรา แล้วบอกเราอย่างอารมณ์ดีว่า

    " ปะ วันนี้จะพาไปเที่ยว นรก"

    เพียงเท่านั่น เสี้ยววินาที เรารู้สึกว่า ตัวเอง กระโดด เล็กน้อย พร้อมท่าน แล้วรอบข้าง กลายเป็น ที่ที่คุ้นเคย ที่เคยมาแล้ว เมื่อครั้งนานมาแล้ว เราในตอนนั้น มีความสุขเหลือเกิน เหมือนมาเที่ยว เฮฮา พูดเล่นกะท่านสุวาน อย่างสนุกสนาน

    รอบข้าง มีแต่แสงสลัว แต่ความรู้สึกกลับต่างกับครั้งแรกที่มา เราเห็น แท่น แบบโต๊ะ สูงท่วมหัว ต้องเงยหน้ามองเลยล่ะ ถึงไม่เคยเห็น แต่เรากลับรู้ว่านั่นคือ โต๊ะ ที่ใช้วางบัญชีหนังหมาไว้

    เรายิ้ม และรีบปีนขึ้นไปถึงโต๊ะตัวนั่น เมื่อปีนถึงแล้ว ขาเราเหยียบไม่ถึงพื้น เราเอาศอกดันตัวขึ้นเล็กน้อย พยุงตัวให้ตัวพาดอยู่บนโต๊ะนั่น

    เราพูดกะท่านสุวาน ที่ยังยืนอยู่ด้านหลังเราดูเราพยายามปีนโต๊ะขึ้นไปให้ได้

    " ไหนไหน ดูบัญชีหนังหมาของอรดิ " (ขอบอกพูดแบบนี้จริงๆ แบบสนิทเกิดเหตุ ไม่รู้สูงต่ำเลย)

    ระหว่างที่พูด ตาก็มองบัญชีหนังหมา ลักษณะเป็นหนังสือเล่มใหญ่มากๆ สมแล้วที่โต๊ะที่วางใหญ่สุดๆ ปกเป็นเหมือนหนังแข็ง แต่ใจไม่ได้คิดอะไร รีบเปิด ดูทันที

    เพียงพลิกบัญชีครั้งเดียว ก็ขึ้นมาหน้าที่เป็นกรรมของเราทันที รายชื่อของเรา บัญชีกรรมของเรา หน้านั่นเลย

    เรายังไม่ทันอ่าน แว้บเดียวท่านสุวาน มายืนอยู่อีกด้านของโต๊ะยักษ์แล้ว เราก็ยังตกใจว่า ท่านมาได้เร็วจริงๆ เราเองปีนตั้งหลายอึดใจ

    เมื่อท่านมาอยู่ต่อหน้าเรา เราหันมามองท่าน แต่จำหน้าไม่ได้ ทำไมจำไม่ได้ไม่รู้ แต่จำรูปร่างของท่านสุวานได้ ตัวเล็ก รูปร่างสันทัด ไม่บึ้กสูงกว่าเรานิดเดียว แต่ผิว เรากลับมองเห็นเพียงแสงสลัวๆ มืดๆ

    เรามองลักษณะของท่านเพียงแว้บเดียว แล้ว ท่านก็ก้มหน้า ตรวจดูบัญชีหน้าของอร ระหว่างที่ท่านจะเริ่มดู ท่านพูดอย่างสนุกสนาน แซวเราว่า

    "อย่างอรน่ะ ไม่เหลือกรรมแล้วม๊างงงงงงงงงงงงงง"

    แต่ระหว่างที่ท่านพูด เราก็มองไปที่หน้ากระดาษ สองหน้านั่น เราพิจารณากระดาษ มันเป็นกระดาษ หนามาก สีน้ำตาลแบบเนื้อไม้เลย มีตัวหนังสือไทย เขียนหางหวัดๆ แบบโบราณ ตัวอีกษรสีดำ สลักลึกลงไปในเนื้อกระดาษ เรามองไป เห็นแต่กรรมต่างๆ แต่อ่านไม่ออก ทั้งที่รู้ตัวอักษรแต่อ่านไม่ออกเลย

    ในวินาทีที่ ท่านสุวานพูดจบว่า " อย่างอรน่ะ ไม่เหลือกรรมแล้วม๊าง" มีอักษรอยู่ ๒ บรรทัด สว่างจ้าขึ้นมาเป็นสีน้ำเงินสะท้อนแสง แล้วตัวอักษรลอยขึ้นมาเลย

    อันนึง อยู่บนบน เกือบบนสุด บ่งบอกว่า กรรมนี้ เมื่อไม่นานมานี้

    อีกอัน อยู่ด้านล่างๆ บ่งบอกว่า เราทำกรรมนี้มานานแสนนานแล้ว

    เรากลับอ่านออกทุกตัวอักษรว่าเราทำกรรมอะไรไว้ แล้วยังไม่ได้ชดใช้ให้มันจบกันไปเลย (ตรงนี้บอกไม่ได้เจ้าค่ะ)

    เสียงท่านสุวาน ยังพูดด้วยอาการ สนุกสนาน ฮาเฮ เช่นเดิม " เอ้ายังมีอีก ๒ กรรม นี่ไง กรรมที่เหลือของอรน่ะ"

    เราเลยรู้ ณ ตอนนั้น ว่า

    กรรมที่ได้ชดใช้ อโหสิกรรมไปแล้ว จะเห็นเป็นตัวอักษรที่สลักลึกลงในกระดาษ เป็นหมึกสีดำ ไม่มีแสงอะไรทั้งนั่น

    กรรมที่ยังไม่ได้ชดใช้ ยังส่งผลกรรม วิ่งตามเราอยู่ จะเห็นเป็นอักษรที่สลักลึกลงในกระดาษ เป็นหมึกสีน้ำเงินเข้มสะท้อนแสง พอดูปุบก็ลอย ขึ้นมาให้เห็นเด่นชัดเลย

    เราเห็นตามนั่น ก็ใจหดหู่ ในกรรมที่ตัวเองทำไว้ กลับขึ้นมาเองดื้อๆเลย แล้วกำหนด พองหนอ ยุบหนอ ไปจนครบเวลา ก็แผ่เมตตาออกไปตามปกติ

    ไม่นานพระท่านก็มาเทศน์ให้พวกเราฟัง เรื่องมโหสถชาดก เฮียขวดแว้บ เอาน้ำปานะ มาถวาย พวกเรา พวกเราก็เอ่ยสัพพีติโย ให้เฮียขวดหายจากความเจ็บป่วยเร็วๆ ^_^

    สิ่งที่เราต้องขอบคุณท่านสุวานคือ การตอกย้ำให้เราเห็น ว่า บาป นั่น มีจริง และ ช่วยให้เราไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ให้หมั่นสร้างความดี และ ถ้าเรามีครอบครัว เราจะไม่ทะเลาะกะ คู่ชีวิตเราล่ะ เราจะขอคุยกันให้เข้าใจกันมากขึ้นดีกว่า มาขึ้นเสียง ด่าทอ ทะเลาะกัน ข้อนี่เรากลัวมาก พูดแล้วยังนึกถึงสภาพ หญิง ชาย คู่นั่น อยู่เลย น่าสังเวชใจยิ่งนักเจ้าค่ะ


    ps โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน อย่าลืมนะค่ะ อย่าเชื่อถ้าคุณยังไม่ได้พิสูจน์ด้วยตนเองค่ะ <!-- End main-->

    ***ขอบคุณเรื่องเล่าจากคุณอร ค่ะ***

    http://www.bloggang.com/viewblog.ph...date=26-11-2009&group=4&gblog=15]BlogGang.com : : Aorn_N - "
     
  2. พัชรกันย์

    พัชรกันย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +622
    ขอขอบคุณค่ะที่นำเรื่องนี้มาเล่าเป็นอุทาหรณ์
     
  3. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,247
    ค่าพลัง:
    +68,061
    อนุโมทนาค่ะ หากมีเรื่องอื่นอีก อย่าลืมนำมาเผยแพร่ให้ฟังกันนะคะ
     
  4. คนข้างทาง

    คนข้างทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +392
    เป็นเรื่องที่ดีๆครับ ผมอ่านทำให้ย้อนคิดถึงกรรมที่เคยทำมาเลย
     
  5. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,997
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,021
    ผมเชื่อในเรื่องสวรรค์ นรกครับ ฝากหนังสือสองเล่มนี้ใ้ห้ไปอ่านเเล้วกันครับ เจริญในธรรมครับ

    DOWNLOAD หนังสือบันทึกท่องนรกภูมิ ฟรีครับ
    http://palungjit.org/threads/บันทึกท่องนรกภูมิ.206485/

    พระมาลัย เปิดความลับนรก สวรรค์ ฉบับสมบูรณ์



    http://palungjit.org/threads/พระมาลัย-เปิดความลับนรก-สวรรค์-ฉบับสมบูรณ์.210310/

    เเละ

    download หนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้
    ( หนังสือธรรมะที่ดีที่สุดที่ผมเคยอ่านมา )

    หนังสือดี ๆ ของคุณหมอ อมรา มลิลา - ชมรมจริยธรรม - กลุ่มงานบริหารทั่วไป

    ผมว่าถ้าคนไทยทุกคนได้อ่านเล่มนี้ ชีวิตจะดีขึ้นเเน่นอน

    ปล ใครอ่านเเล้วชอบ รบกวนพี่ๆช่วยส่งต่อให้เเก่เพื่อนๆคนอื่นด้วยนะครับ ของเขาดีจริงๆ เจริญในธรรมครับ
    เรื่องหนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้ที่พี่อยากได้ครับ
     
  6. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952
     
  7. ลูกแก้วแววตา

    ลูกแก้วแววตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +952

    ด้วยความยินดีค่ะ น้องอร(เจ้าของเรื่อง) เค้าเขียนเล่าเรื่องราวการปฏิบัติกรรมฐานลงใน bloggang เพราะต้องการให้ทุกๆท่านได้ทราบถึงผลของการกระทำทั้งหลายที่เราๆท่านๆเคยทำมา..และอยากเผยแผ่ให้ได้ทราบกันมากยิ่งขึ้น..เพื่อจะได้เกิดประโยชน์กับผู้ที่ไม่เคยรู้..ให้มีสติ มีความกลัวต่อบาป ฯลฯ

    ทุกวันนี้กรรมฐานของน้องอรก้าวหน้าไปมากเลย...แล้วแก้วจะนำเรื่องจริงที่น้องอรเห็นจากการปฏิบัติกรรมฐานมาให้อ่านอีกค่ะ ;aa51
     
  8. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    สวัสดีค่ะ อรเองจ้า

    ท่านสุวานแน่นอนจ้า เป็นคนละคนกะท่านสุวรรณนะค่ะ

    ท่านสุวาน จะดูแลบัญชีหนังหมา ค่ะ แต่ท่านไม่ได้รูปร่างหน้าตาน่ากลัว เหมือนในหนังสือ ที่เค้าวาดภาพประกอบเลยค่ะ

    ^_^
     
  9. หลวงจีน

    หลวงจีน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    861
    ค่าพลัง:
    +1,326
    ขอให้ทำความดีให้มากๆ
     
  10. raphiphan

    raphiphan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +426
    ขอบคุณที่เล่าให้อ่านกันคร๊าบ..
     
  11. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    โมนาสาธุด้วยค่ะ
     
  12. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    แล้วที่ใช้กำลังกันล่ะครับ ด่าหยาบๆคายๆกันก็มี บางคนเรียกสามีไอ้ตัวนั้นตัวนี้ วิ่งเพ่นพ่านไปหมด เห็นอยู่ดีมีแฮงเลยครับ แต่พี่ที่ผมนับถือ ไม่เคยแม้แต่จะพูดคำหยาบสักคำ น่ารักมาก พี่เขาต้องมาจากสวรรค์แน่ๆ เพราะน้อยคนที่จะระงับคำหยาบได้
     
  13. ใจอิสระ

    ใจอิสระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอบคุณครับคุณ อร
    ที่ีมีเรื่องดีๆให้อ่าน ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  14. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    จำได้ว่า...เข้าเว็บมาใหม่ๆ
    ก็พอได้สนทนากับคุณลูกแก้วแววตา ตอนนี้ห่างหายไปนะคะ
    คิดถึงสมาชิกเก่าๆหลายๆท่านค่ะ
     
  15. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    เอิ่มมม. คือ. เราคงต้องปืนชัวร์ๆ ยิ่งกว่าล้านเปอร์เซ็นต์ เฮ้อ กรรมนี้เรารับเต็มๆ ยอมเลยค่ะ ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลค่ะ. เพิ่งรู้คือวันนี้ค่ะสาธุค่ะ.
     
  16. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    อ้าวล่าสุดคุณติงติงเข้าเดือนหนึ่งแต่ทำไมมวันนี้กระทู้ดันมาข้างบนได้ละนี่
     
  17. SMING

    SMING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +430
     
  18. SMING

    SMING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +430
    อนุโมทนาบุญครับ........ตรงที่ขีดเส้นใต้ ช่างอยากรู้กรรมของตัวเอง...นะครับ
    จุ๊บุ...จุ๊บุ
     
  19. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ผลของการไม่มีศีล
    ภิทษุ. ท. ปาณาติบาต. ที่เสพทั่วแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อนรก เป็นไปเพื่อกำเนิดเดรัจฉาน เป็นไปเพื่อเปรตวิสัย วิบากแห่งปาณาติบาตของมนุษย์ที่เบากว่าวิบากทั้งปวงคือวิบากที่เป็นไปเพื่ออายุสั้น
    อทินนาทาน ที่เสพทั่วแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อนรก เป็นไปเพื่อกำเนิดเดรัจฉาน เป็นไปเพื่อเปรตวิสัย วิบากแห่งอทินนาทานของมนุษย์ที่เบากว่าวิบากทั้งปวงคือ วิบากที่เป็นไปเพื่อความเสื่อมแห่งทรัพย์
    กาเมฯ (การล่วงแก่หญิงที่อยู่ในการปกครองของบิดา-มารดาผู้อื่น รวมถึงหญิงที่มีชายหมั่นหมายแล้ว). ที่เสพทั่วแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อนรก เป็นไปเพื่อกำเนิดเดรัจฉาน เป็นไปเพื่อเปรตวิสัย วิบากแห่งกาเมฯของมนุษย์ที่เบากว่าวิบากทั้งปวงคือวิบากที่เป็นไปเพื่อก่อเวรด้วยศัตรู
    มุสาวาจา. ที่เสพทั่วแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อนรก เป็นไปเพื่อกำเนิดเดรัจฉาน เป็นไปเพื่อเปรตวิสัย วิบากแห่งมุสาวาจาของผู้เป็นมนุษย์ที่เบากว่าวิบากทั้งปวงคือวิบากที่เป็นไปเพื่อการถูกกล่าวตู่ทึ่ไม่จริง
    ปิสุณาวาท( คำยุยงให้แตกกัน). ที่เสพทั่วแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อนรก เป็นไปเพื่อกำเนิดเดรัจฉาน เป็นไปเพื่อเปรตวิสัย วิบากแห่งปิสุณาวาทของผู้เป็นมนุษย์ที่เบากว่าวิบากทั้งปวงคือวิบากที่เป็นไปเพื่อการแตกจากมิตร
    ผรุสวาท(คำหยาบ). ที่เสพทั่วแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อนรก เป็นไปเพื่อกำเนิดเดรัจฉาน เป็นไปเพื่อเปรตวิสัย วิบากแห่งผรุสวาทของผู้เป็นมนุษย์ที่เบากว่าวิบากทั้งปวงคือวิบากที่เป็นไปเพื่อการได้ฟังเสียงที่ไม่พอใจ
    สัมผัปปลาวาทา(คำเพ้อเจ้อ). ที่เสพทั่วแล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อนรก เป็นไปเพื่อกำเนิดเดรัจฉาน เป็นไปเพื่อเปรตวิสัย วิบากแห่งสัมผัปปลาวาทาของผู้เป็นมนุษย์ที่เบากว่าวิบากทั้งปวงคือวิบากที่เป็นไปเพื่อวาจาที่ไม่มีใครเชื่อถือ
    การดื่มสุราและเมรัย ที่เสพทั่แล้ว เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อนรก. เป็นไปเพื่อกำเนิดเดรัจฉาน เป็นไปเพื่อเปรตวิสัย วิบากแห่งการดื่มสุราและเมรัยของผู้เป็นมนุษย์ที่เบากว่าวิบากทั้งปวงคือ วิบากที่เป็นไปเพื่อความเป็น บ้า ( อุมมตตก)

    พุทธวจน พระพุทธเจ้า เรากล่าวซึ่งเจตนาคือกรรม ที่กระทำด้วย กาย วาจา ใจ เหตุแห่งกรรมคือผัสสะ .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...