ท่านมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับพระวินัยบัญญัติข้อที่ห้ามไม่ให้พระสงฆ์

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย พระไตรภพ, 17 มีนาคม 2008.

  1. พระไตรภพ

    พระไตรภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,067
    ค่าพลัง:
    +7,521
    ท่านมีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับพระวินัยบัญญัติข้อที่ห้ามไม่ให้พระสงฆ์ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>

    รับปัจจัยเงินทองเป็นของๆตนสำหรับวิถีชีวิตในยุคปัจจุบัน

    <O:p> </O:p>

    กรุณาให้ความคิดเห็นหน่อยนะคุณโยม
    เพื่อการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
    หรืออาจจะเป็นข้อแนะนำเรื่องอื่นๆก็ได้ที่เห็นว่า
    พระสงฆ์ควรปรับปรุงแก้ไขนะช่วยคลิ๊กเข้าไปตอบในลิงค์ที่ให้ไว้นะจะเป็นกุศลอย่างยิ่ง
    สาธุ<O:p></O:p>

    สิ่งที่ควรศึกษาทำความเข้าใจก่อนให้ความคิดเห็น<O:p></O:p>
    สาธุตามที่คุณโยมกล่าวมานั้นอาตมาก็รู้สึกดีใจที่ยังมีผู้ให้ความสนใจในเรื่องนี้อยู่และใส้ใจห่วงใยกับการงานของทางวัด<O:p></O:p>
    เมื่อถามถึงความเห็นของอาตมาอาตมานั้นมีความเห็นดังนี้<O:p></O:p>
    1.เรามาดูกันที่ชีวิตความเป็นอยู่ร่วมถึงเจตนาของพระสงฆ์ในปัจจุบันนั้นเป็นเช่นใดมีความแตกต่างกันอย่างไรกับในอดีตบ้าง<O:p></O:p>
    1.1 พระสงฆ์ในอดีตออกบวชเพราะเบื่อหน่ายโลกวิสัยจึงแสวงหาหนทางให้พ้นจากโลกวิสัยเป็นผู้ใช้ชีวิตอย่างสันโดดมักน้อยยังชีพด้วยอาหารบิณฑบาต ห่มผ้าบังสุกุลอยู่ในที่อันวิเวกสงัด ฉันยารักษาโรคอันง่ายต่อการแสวงหา เป็นผู้ขวนขวยน้อยจิตจึงสงบหน้าที่ของการรับปัจจัยเงินทองไว้เมื่อมีผู้มีจิตศรัธทาถว่ายมาก็คือให้ไวยาวัจกรเป็นผู้เก็บรักษาเมื่อผู้ถวายปัจจัยมีเจตนาให้ใช้ปัจจัยในส่วนนั้นเพื่อสิ่งใดก็ให้พระสงฆ์ที่โยมผู้ถวายไว้หรือได้ปวารณาไว้นั้นบอกแก่ไวยาวัจกรให้หาสิ่งนั้นๆมาห้ามให้ใช้ไปมากเกินกว่าที่โยมปวารณาไว้ เช่นโยมกล่าวว่ากระผมขอปวารณาซึ่งค่าอันควรแก่เภสัจแก่พระคุณเจ้าขอให้พระคุณเจ้าแสดงไวยาวัจกรแก่กระผมเถิดดังนี้ พระภิกษุรูปนั้นก็สามารถขอได้เพียงเภสัจเท่านั้นแต่ถ้าโยมกล่าวว่าถวายค่าปัจจัยสี่อันควรแก่พระคุณเจ้าก็สามารถขอได้ในปัจจัยทั้งสี่ตามจำนวนปัจจัยที่ได้มอบไว้แก่ไวยาวัจกรณ์<O:p></O:p>
    1.2 ในปัจจุบันพระสงฆ์มีการงานหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไปจากแต่เดิมมากเช่นบวชเรียน ต้องใช้ค่าเดินทางจะให้ไวยาวัจกรติดตามตลอดก็ไม่ได้จุดนี้เป็นเรื่องที่หน้าคิดนะ เพราะจุดมุ่งหมายในการออกบวชได้เปลี่ยนไปแต่ดั้งเดิม<O:p></O:p>
    2. แม้ออกบวชด้วยศรัทธาแล้วแต่ต้องมีหน้าที่การงานเกี่ยวกับการบริหารวัดวาอาวาสและเมื่อมีผู้นำปัจจัยมาถวายแล้วในปัจจุบันนี้จะหาโยมที่มีฐานะการเงินมากจนก่อสร้างอารามถวานสงฆ์ทั้งอารามเลยนั้นก็เป็นไปไม่ได้น้อยโดยมากก็คือรวบรวม<O:p></O:p>
    ปัจจัยมาถวายเพื่อการก่อสร้างเสนาสนะที่อยู่สงฆ์ตรงจุดนี้แหละที่พระสงฆ์ต้องเข้าไปยุ่งกับการเงิน<O:p></O:p>
    2.1 ปัญหาที่มักเกิดขึ้นไวยาวัจกรณ์ที่ทำตามหน้าที่โดยความเป็นธรรมนั้นหาได้ยากบางวัดกรรมการเป็นเปรตไปเลยเจ้าอาวาสไม่มีสิทธิ์ในการออกคำสั่งใดๆเป็นได้แค่หุ่นให้กรรมการแสวงหาผลประโยชน์จากรายได้ของวัด<O:p></O:p>
    2.1 เจ้าอาวาสบางท่านเลยตัดปัญหาด้วยการเก็บเองใช้เองจนลืมตัวไปกลายเป็นเปรตไปเสียเองก็มี<O:p></O:p>
    สรุป ปัญหาตั้งแต่ข้อง1-2<O:p></O:p>
    1. เจตนาในการออกบวชเปลี่ยนไปหน้าที่การงานที่พระสงฆ์แสวงหาได้เปลี่ยนไปจึงทำให้ความคิดจิตสำนึกการให้ความสำคัญของพระวินัยข้อนี้เปลี่ยนไปจากเดิม<O:p></O:p>
    2.ขาดไวยาวัจกรณ์ที่มีคุณธรรมเพียงพอในการที่จะเสียสละเวลาทำกิจเพื่อสงฆ์<O:p></O:p>
    ดังที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้นทางอาตมามีแนวคิดในการแก้ปัญหาตามความคิดของตนเองอยู่แต่อยากฟังความเห็นของทางคุณโยมหรือท่านใดก็ได้ทั้งบรรพชิตและโยมว่าควรทำอย่างไรจึงจะไม่กระทบกระทั่งเบียดเบียนทั้งทางปริยัติ ปฏิบัติ และการปกครอง<O:p></O:p>
    สิ่งที่ต้องคำนึงถึง<O:p></O:p>
    1. พระสงฆ์ที่ท่านต้องเรียนจำเป็นต้องใช้เงินทอง<O:p></O:p>
    2.ท่านที่ต้องปกครองดูแลอาวาสปรับปรุงแก้ไขอาวาสแต่ขาดโยมที่ไว้ใจได้<O:p></O:p>
    3.โลกปัจจุบันมีสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆอันเนื่องจากการขาดศีลธรรมจริยธรรมพระสงฆ์จำต้องออกแสดงธรรมเพื่อช่วยเหลือโลกให้สงบลงบ้าง<O:p></O:p>

    ทั้ง3ข้อนั้นน่าคิดนะ หากจะกล่าวว่าเป็นพระก็ให้อยู่เหมือนเพราะอยากเรียนก็ให้สึกมาเรียน ก็ดูจะบีบบังคับหยามเหยียดท่านเกินไปและการเผยแผ่พระธรรมก็เช่นกัน หากไม่ทันกับเหตุการณ์ ก็คงช่วยเหลื่ออะไรไม่ได้มากนอกจากว่ามารดาบิดา ตลอด<O:p></O:p>

    จนครูอาจารย์ และ สื่อ ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์จะช่วยสร้างสรรค์ศีลธรรมจริยธรรมให้กับลูกหลานของตนเอง ด้วยจิตวิทยาธรรมชาติเช่นพาไปทำบุญที่วัด พาตักบาตรหน้าบ้าน พาสวดมนต์ที่บ้าน จัดกิจกรรมอบรมธรรมบ่อยๆเช่นมีชมรมธรรมะใน
    โรงเรียน สื่อก็ช่วยกันหาข่าวที่สร้างสรรค์คุณธรรมจริยธรรม ให้คนในสังคมมองเห็นคุณค่าของพระศาสนาไม่ใช่จี้แต่จุดเสื่อมต้องติงจุดเสีย ยกย่องจุดเด่นให้ชัดเจนเป็นต้นส่วนการบริหารของทางวัดที่อาตมาอยู่ได้เป็นไปตามระบบพระธรรมวินัยที่ทำได้ก็เพราะได้ไวยาวัจกรณ์ที่มีคุณธรรมช่วยดูแล ขอแสดงแนวคิดไว้แต่เพียงนี้อาตมาอยากให้โยมได้แสดงมากกว่านะ
    สิ่งที่อยากทราบความเห็นก็คือในส่วนหน้าที่การงานของพระสงฆ์ในปัจจุบัน และ การปฏิบัติตนของพระสงฆ์ในความคิดเห็นของทางญาติโยมว่าควรเป็นเช่นไรดี
    เจริญธรรม เทวาสาธุปภาโส
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2008
  2. nopam

    nopam สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +1
    ถ้าไม่พูดเสียบ้าง พระก็ทำพระศาสนาเสียหายมาก ก็ไม่มีความรู้อะไรมาก แต่ก็เห็นพระสายวัดป่า ท่านปฏิบัติกันมากจนได้ขั้นเป็นพระอริยสงฆ์กันก็มาก และที่มียังมีชีวิตอยู่ก็แสดงธรรมกันเต็มภูมิความรู้ ก็ไม่เห็นท่านจะไปเรียนเป็นด๊อกเตอร์และนำความรู้นั้นมาแสดงธรรมให้ญาติโยมฟังกัน ก็ไม่เห็นองค์ไหนที่ท่านเป็นพระปฏิบัติแล้วเรียนโดยใช้วิชาทางโลกมาสอนกัน ก็งง ๆ กับพระสมัยนี้ที่เดินเข้าไปในห้างแล้วซื้อคอมฯ แล้วอ้างว่าเอามาทำสื่อการเทศน์ พระพุทธศาสนา จะเสื่อมก็เพราะพระหรือเปล่า เพราะเห็นญาตโยมยังศรัทธาใส่บาตรกันจนล้นรถเข็น ในพระวินัยเหมือนเคยอ่านว่า พระพุทธองค์ให้รับบาตรไม่เกิน 3 บาตร แล้วปัจจุบันเดินกันกี่รอบ กี่รถเข็น แล้วก็อ้าง ศรัทธาญาตโยมเยอะจำเป็นต้องรับ เงินก็เหมือนกัน ญาติโยมใส่ในบาตร ก็รับไม่เคยบอกว่าผิดพระวินัย ในพระวินัยไม่ได้บอกว่าให้รับเงินทองถ้ารับจำเป็นต้องสละ ที่บอกมานี่เห็นในหนังสือพระไตรปิฎกเขียนว่าโยมก็เตือนพระได้ ถ้าทำผิด ถ้าไม่เตือนก็ไม่รู้
     
  3. อุดรเทวะ

    อุดรเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,925
    ค่าพลัง:
    +130
    ในข่าวก็มีพระที่แอบนำเงินที่ชาวบ้านนำมาบริจาคไปเป็นของตนเองแล้วนำไปเที่ยวปรนเปรอสาวๆแล้วถูกจับก็มีให้เห็นออกบ่อยๆ แต่ผมคิดในแง่ดีนะว่าพระดีมีเยอะกว่าพระทุศีล
    ส่วนกฎหมายที่จะไม่ให้พระรับเงินนั้น ถ้าพระที่เข้ามาปฏิบัติโดยไม่ได้หวังลาภสักการะท่านคงไม่เดือดร้อนอะไรมากผมขอใช้คำนี้ก็แล้วกัน แต่ถ้าเข้ามามีความนัยแฝงนี่สิน่าคิด ผมขอแสดงความเห็นสั้นๆแค่นี้ครับ เดี๋ยวคงมีคนเข้ามาโพสต์ต่อละครับ
     
  4. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,403
    กราบ กราบ กราบ .....โยมคนหนึ่งขอรับที่ขอตัว เป็นเรื่องของพระฯ...ท่าน โยมขอตัว เสี่ยงเหลือเกินต่อการปรามาสพระโดยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี .....โยโทโส...ฯ กราบ กราบ กราบ
     
  5. แสวงหาความจริง

    แสวงหาความจริง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    509
    ค่าพลัง:
    +5,163
    รู้อยู่ครับว่าจะตอบอย่างไร แต่คนถามเป็นพระ ผมไม่อาจสอนคนที่มีศีลมากกว่าได้ครับ
     
  6. Aunyadham

    Aunyadham ธรรมใด เกิดขึ้นเพราะเหตุใด ย่อมดับที่เหตุนั้นแล

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    441
    ค่าพลัง:
    +627
    พระธรรมวินัยมีอยู่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้เช่นไรก็ขอให้เป็นเช่นนั้นเถิด ด้วยอนาคตังสญาณมีหรือที่พระพุทธองค์ท่านจะไม่ทรงทราบความเป็นไปของสัตว์โลก และความเป็นไปของพระพุทธศาสนาของพระองค์ แต่ต้นฉบับเเรกสังคายนาครั้งที่หนึ่งสำคัญมาก ถ้าหาเจอไม่สูญหายก็คงจะดี เพราะพระพุทธองค์ท่านบัญญัติไว้โดยชอบแล้ว สาธุ
     
  7. พุธะระขิตะ

    พุธะระขิตะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +44
    ขออภัย..คิดไรให้ยาก จับและใช้เพื่อการดำรงค์ชีพ มิใช่จับและใช้เพื่อสนองกิเลส อีกอย่าง..การแสวงหาปัจจัยไม่ควรทำด้วย เท่านั้นเอง
     
  8. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    อยากคิดอะไรก็คิดไปเถอะ อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่อย่าไปคิดตัดแปลงข้อบัญญัติก็ที่พระองค์บัญญัติไว้แล้ว ก็แล้วกัน
     
  9. bteezi

    bteezi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +43
    ต้องร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย


    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต

    ปฏิจฉันนสูตร​
    [๕๗๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่ง ๓ อย่างนี้ ปิดบังไว้จึงเจริญ เปิดเผยไม่เจริญ
    ๓ อย่างเป็นไฉน คือ
    มาตุคาม ปิดบังเอาไว้จึงจะงดงาม เปิดเผยไม่งดงาม ๑
    มนต์ของพราหมณ์ปิดบังเข้าไว้จึงรุ่งเรือง เปิดเผยไม่รุ่งเรือง ๑
    มิจฉาทิฐิ ปิดบังไว้จึงเจริญ เปิดเผยไม่เจริญ ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่ง ๓ อย่าง นี้แล ปิดบังไว้จึงเจริญ เปิดเผยไม่เจริญ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่ง๓ อย่างนี้เปิดเผยจึงรุ่งเรือง ปิดบังไม่รุ่งเรือง
    ๓ อย่างเป็นไฉน คือ
    ดวงจันทร์ เปิดเผยจึงรุ่งเรือง ปิดบังไม่รุ่งเรือง ๑
    ดวงอาทิตย์ เปิดเผยจึงรุ่งเรือง ปิดบังไม่รุ่งเรือง ๑
    ธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศไว้แล้ว เปิดเผยจึงรุ่งเรือง ปิดบังไม่รุ่งเรือง ๑
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่ง ๓อย่างนี้แล เปิดเผยจึงรุ่งเรือง ปิดบังไม่รุ่งเรือง ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2013
  10. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    กระผมชอบถวายสตางค์ครับ
    พระคุณเจ้าท่านใดไม่รับ กระผมก็ไปถวายท่านที่รับครับ
     
  11. sawok B

    sawok B เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +230
    ดูก่อนท่านทั้งหลาย เราพึงยกสิกขาบทนี้ไว้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...