ท่านต้องผ่าน "ตัวตนเทียม" ของเหล่าอัศวินแห่งแสงสว่างก่อนจึงจะได้พบของจริง?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 20 สิงหาคม 2012.

แท็ก: แก้ไข
  1. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    สวัสดีครับ วันนี้ มีเรื่องง่ายๆ แต่ก็เป็น
    เรื่องที่ท่านอาจจะได้พบเจออย่างแน่
    นอน มาอธิบายกันแบบง่ายๆ จะได้มี
    ความเข้าใจเป็นพื้นฐาน คือ เรื่องของ
    "ตัวตนเทียม" ของเหล่าอัศวินแห่ง
    แสงสว่าง ยกตัวอย่างเช่น พระสุริย
    เทพ ก็จะมี "ตัวตนเทียม" ของท่าน
    ที่เป็น "ภาคมืด" ซึ่งอยู่ใกล้กับมนุษย์
    เข้าถึงมนุษย์ได้ง่ายกว่า ให้มนุษย์ได้
    สัมผัสเป็นเบื้องต้น ก่อนที่จะได้สัมผัส
    "องค์จริง" ซึ่งยากแก่การเอื้อมถึงใน
    ภายหลังนะครับ เอาละ เข้าเรื่องกันเลย
     
  2. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    เหล่าอัศวินแห่งแสงสว่างล้วนมีเงาหรือ "ตัวตนเทียม" จากภาคมืดทั้งนั้น


    อย่างแรกที่ท่านควรทราบคือ "สิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลาย" ต่างก็มี "เงา" หรือ
    "ตัวตนเทียม" ที่ปลอมตัวเป็นท่าน อยู่บนโลกทั้งสิ้น เพื่อรอทดสอบเหล่าผู้
    คนที่ต้องการเชื่อมต่อกับท่านเหล่านี้ พวกเขาจะคอยทดสอบความศรัทธา
    ของท่านทั้งหลาย ก่อนเป็นเบื้องต้น ที่ท่านจะพร้อมที่จะสัมผัสกับของจริง
    หรือ "องค์จริง" ดังนั้น ท่านจึงต้องสอบผ่าน และแยะแยะของปลอมออก
    ให้ได้ก่อน จึงจะได้พบของจริง และสิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลาย ก็มีของเทียมนี้
    อยู่ด้วยกันทั้งนั้น พวกเขาก็คือ "ภาคมืด" ที่คอยหลอกล่อให้คนออกจาก
    "ธรรม" หรือ "เส้นทางที่ถูกต้อง" นั่นเอง เมื่อท่านไม่หวั่นไหว ไม่ถูกยั่วยุ
    ให้ออกจากธรรม หรือเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว ท่านจึงจะได้พบสิ่งศักดิสิทธิ์
    ที่แท้จริง ในลำดับต่อไป ดังนั้น บางครั้ง ท่านอาจได้พบ "ของเทียม" ก่อน
    และของเทียมก็ทำตัวได้เหมือนของจริงเลย ท่านต้อง "แยกแยะ" ออกให้
    ได้ว่า "ของเทียม" มีอะไรที่แตกต่างจาก "ของจริง" นั่นแหละ จึงผ่านได้
     
  3. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    "ตัวตนเทียม" มี "แทบทุกอย่าง" ที่เหมือนตัวตนจริง ท่านจึงต้องระวัง?


    ต่อไปที่ท่านควรทราบคือ "ตัวตนเทียม" มีทุกอย่างที่แทบจะเหมือนตัวตน
    จริงเลย เช่น พระสุริยเทพภาคมืด จะมีแสงสว่างออกมาได้เหมือนองค์จริง
    ทำให้ท่านสัมผัสพลังแสงสว่างนั้นได้ ทั้งยังมี "ธรรม" ไม่ต่างกันอีก อ้าว
    แล้วอย่างนี้ จะทราบได้อย่างไร? จะแยกแยะได้อย่างไร? นี่ละ ปัญหาซึ่ง
    ท่านจะต้องแก้เอง ผมขอยกตัวอย่าง เลยก็แล้วกัน "พระสุริยเทพ" องค์
    เทียม (ภาคมืด) จะมี "พลังมืดด้านหลัง" ของท่าน ท่านจะไม่ได้สว่าง
    รอบทิศดังเดิมอีกแล้ว พลังแสงสว่างของท่านลดลง และถูกแทรกด้วย
    พลังมืด แต่ท่านย้ายไปไว้ทางด้านหลัง จึงหลอกปวงสัตว์ที่มาจากทาง
    ด้านหน้าได้ เอาละ ทีนี้ ท่านจะเช็คได้อย่างไรละ? แหม ไม่ใช่ของง่ายๆ
    เลย ดังนั้น ท่านจึงต้องมี "ปัญญาที่สว่างไสวโดยรอบ" ให้เหนือกว่าเขา
    ให้ได้ ท่านก็จะได้ทราบเองว่าเขา "มีช่องว่าง-ช่องโหว่ที่ไหน?" เอาละ
    ถ้าเป็น "พระพุทธเจ้าองค์ปลอม" ละ ก็มีเหมือนกันนะ ท่านมีธรรมะที่ไม่
    ต่างจากไตรปิฎก เหมือนกันชนิดแยกไม่ออกเลยทีเดียว เอาละ ท่านต้อง
    ค้นหาเองละนะ ผมก็ขอยกตัวอย่างแค่ 1 ตัวอย่างก็พอ ที่เหลือท่านก็ค้น
    หาด้วยตัวเอง ก็แล้วกัน หลักสำคัญคือ "ท่านต้องมีธรรมไม่ต่างจากของ
    จริง" เมื่อนั้น ท่านจึงจะทราบได้ว่า "อะไรเป็นของปลอม?" ก็เท่านั้นเอง
     
  4. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ภาคมืด ก็มีทุกอย่างที่ภาคสว่างมี แล้วอะไรละ ที่จะทำให้เราแยกแยะได้?


    ต่อไปที่ท่านควรทราบ ก็คือ "ภาคมืด" พยายามเลียนแบบทุกอย่างที่ภาค

    สว่างมี และเขาก็ทำได้เหมือนมาก จนคนทั่วไปไม่อาจที่จะแยกแยะได้เลย
    ยกตัวอย่างเช่น "พระนารายณ์" ก็มี "ลูซิเฟอร์" เป็นเงา เป็นตัวปลอม ซึ่ง
    ทำหน้าที่แทนบนโลก ทว่า "ท่านจะทราบได้ว่าเขาจริงหรือปลอม" ก็ต้องดู
    ที่ "ยุคสมัย" คือพระนารายณ์จะทำหน้าที่ "ตามยุคของท่าน" ถ้ายังไม่ถึง
    "ยุคสมัยของท่าน" ท่านจะ "บรรทมศิลป์" อยู่ก่อนท่านจะไม่ออกมาทำกิจ
    "ข้อนี้คือจุดสังเกตุ" เอาละ ถามว่า "ยุคสมัยนี้ จนถึง พ.ศ. 5,000" จะมี
    พระนารายณ์ลงมาหรือไม่ คำตอบคือ "ก็คือ พระพุทธเจ้านั่นแหละ" ท่าน
    จะทำหน้าที่จนครบ 5,000 ปี โดยไม่มีนารายณ์องค์อื่นเข้ามายุ่งเกี่ยว ซึ่ง
    นับเป็นยุคของนารายณ์องค์ที่ 9 ใช่ไหมละ องค์ต่อไปคือ "กัลกี" จะยังไม่
    มาตอนนี้ แต่จะมาหลังจากองค์ที่ 9 ทำกิจเสร็จแล้ว ข้ามไปอีกนาน ยกให้
    ท่านอื่นมาทำบ้าง เว้นวรรคยุคนารายณ์บ้าง จากนั้น นารายณ์องค์สุดท้าย
    คือ องค์ที่ 10 (กัลกี) จึงจะลงมาทำหน้าที่ "ในกัปนี้" จะมีพระนารายณ์
    ทั้งสิ้น 10 ปางเท่านี้เอง ทว่า กัปนี้ ยังเหลือเวลาของยุคพระศรีอาร์ฯ อีกนี่
    ลองคึดดูสิ กว่าจะ "ปิดกัป" อีกนานแค่ไหน? ถ้าท่านลงมาทำกิจก่อน มัน
    ก็ไม่เหลือองค์นารายณ์มาทำกิจในช่วงยุคของพระศรีอาร์ฯ กันพอดี ใช่มั้ย
    องค์สุดท้ายของกัปนี้ ก็เลย ยังไม่มาอีกนานมากนะครับ ส่วนท่านที่ทำกิจนี้
    ไม่ใช่ "ของจริง" อาจเป็นพลังภาคมืด (ลูซิเฟอร์) หรือพลังคลาสสิคเท่านั้น
     
  5. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ท่านต้องมี "ญาณหยั่งรู้ที่สูงทะลุชั้นสวรรค์" จึงจะหยั่งถึงของจริงได้


    ต่อไปที่ท่านควรทราบ คือ หากท่านยังไม่ญาณหยั่งรู้ไม่สูงพอ กำลังก็

    ไปไม่ถึงของจริงที่อยู่เบื้องบนได้ ไม่ว่าจะเป็นกำลังญาณของอะไร เช่น
    กำลังญาณของตาทิพย์, หูทิพย์ ฯลฯ ทุกอย่างมีกำลังของมันเองในตัว
    เหมือนกล้องส่องทางไกล แต่ละตัว ก็มีกำลังในการส่อง ได้ไกลแค่ไหน
    เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อท่านไม่รู้กำลังญาณของตัวเอง ท่านอาจคิดไปว่า
    ท่านได้เชื่อมต่อถึงองค์นั้น องค์นี้แล้ว ทว่า ไม่จริง ท่านก็แค่ถูกแทรกไป
    ด้วย "ของปลอม" ที่อยู่บนภาคพื้นโลกเท่านั้นเองคือ ท่านถูกของเทียม
    แทรกเข้าแล้วแต่มันเหมือนจริงมาก จนท่านอาจจะคิดว่าเป็นของจริงไป
    เพราะกำลังญาณท่านสูงไม่พอ แต่ท่านฝืนที่จะเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิสิทธิ์
    ที่อยู่สูงเกินไป เกินกำลังของท่าน ขอยกตัวอย่างนะ ถ้าท่านจะเชื่อมต่อ
    กับ "พระสยามเทวาธิราช" ท่านใช้กำลังญาณหยั่งไป สูงเพียงสวรรค์
    ชั้นที่สอง ก็พอ ถึงแล้ว แต่ถ้าท่านจะเชื่อมต่อกับพระอาทิตย์ยูไล อันนั้น
    ท่านจะต้องผ่านพ้นสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นของโลกนี้ไปให้ได้ก่อน และแน่นอน
    ว่าญาณของท่านจะพุ่งผ่าน "เหล่ามาร" และถูกทดสอบ โดยเหล่ามาร
    อย่างแน่นอน ไม่อาจที่จะหนีได้พ้น ท่านต้องผ่านการทดสอบโดยเหล่า
    มารก่อน ท่านจึงจะเข้าถึงพระอาทิตย์ยูไลได้ ซึ่งมันไม่ใช่ของง่านเลย
    เมื่อญาณหยั่งรู้ท่านสูงมาก "พ้นโลก-เหนือโลก" แล้ว ท่านจึงหยั่งไป
    ยัง "ต่างดาว" หรือ "โลกธาตุอื่นๆ" ได้ ท่านก็จะรับธรรมจากท่านอื่นที่
    อยู่ในดาวดวงอื่นได้ ซึ่งกว่าท่านจะ "ยกระดับตัวเอง" ถึงจุดนี้ได้ ก็ยาก
    ไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้น ท่านไม่ควรฝืนเกินกำลัง หากท่านจะรับสารที่
    มาจาก "ต่างดาว" ก็ควรไต่ระดับไปทีละน้อย และตรวจเช็คให้ดีๆ ก่อน
     
  6. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ท่านต้องมี "จิตที่ละเอียดในการแยกพลังงาน" จึงจะรับของจริงได้


    ต่อไปที่ท่านควรทราบ คือ อีกวิธีที่จะทำให้ท่านได้รับพลังธรรมจาก

    "ต่างดาว" ได้ แต่ท่านไม่อาจใช้ญาณหยั่งไปได้ไกลขนาดนั้น ท่าน
    ก็สามารถ "รอรับอยู่บนภาคพื้นโลก" ก็ได้ แต่ท่านจะต้องมี "จิตใจที่
    ละเอียดอ่อนมากในการแยกแยะพลังงาน" เพราะพลังงานแทรกที่มา
    พร้อมกับพลังงานจากต่างดาว จะมีเยอะมาก ท่านจะได้รับพลังงานที่
    แทรกเข้ามาปลอมปนเยอะมาก จนท่านสับสนในข้อมูลที่ได้รับ และยัง
    มีบางครั้งที่ข้อมูลขัดแย้งกันเองอีกด้วย เอาละ วิธีแรกคือ การใช้สมาธิ
    เป็นกำลังสำคัญ ทำให้ญาณหยั่งรู้สูงขึ้น แต่วิธีที่สองนี้ เป็นการใช้ สติ
    ที่ละเอียดอ่อน ในการแยกแยะพลังงานต่างๆ ที่เข้ามาพร้อมๆ กัน และ
    ท่านจะไม่อาจห้ามพลังงานปลอมปน หรือแทรกเหล่านี้ได้เลย ต่างจาก
    การใช้ญาณหยั่งรู้ หยั่งขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะญาณหยั่งรู้
    ที่พ้นโลก, เหนือโลกแล้ว เช่น ญาณหยั่งรู้ตั้งแต่ "พระโสดาบัน" ขึ้น
    ไปนั้น พอจะพ้นโลก, เหนือโลกได้ แต่ก็ใช่ว่าพระโสดาบันทุกท่าน จะ
    ทำได้ เพราะส่วนใหญ่ท่านได้เข้าถึงธรรมเพราะอาศัยผู้อื่นช่วย ดังนั้น
    ท่านอาจจะไม่มีญาณหยั่งได้ด้วยตนเอง เอาละ สำหรับท่านที่มีญาณ
    หยั่งได้ด้วยตนเอง ก็สามารถหยั่งขึ้นไปเหนือโลกได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็ให้
    รอรับอยู่บนภาคพื้นโลก ซึ่งท่านจะต้องแยกแยะข้อมูลมากเลยทีเดียว
     
  7. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    ใช้ "ของปลอม" เป็น "บันใดพื้นฐาน" ให้ท่านเชื่อมต่อกับของจริง?


    ต่อไปที่ท่านควรทราบคือ อีกวิธีหนึ่งที่ทรงประสิทธิภาพมากเพราะมัน

    เอื้อต่อการทำหน้าที่ของคนที่ไม่ชำนาญนัก คือ การใช้ "ของปลอม"
    เป็น "บันไดพื้นฐาน" ในการก้าวไปสู่ "ของจริง" นั่น ท่านจะต้องใช้
    "ปัญญา" อย่างมาก ในการที่จะพิจารณาข้อมูลที่มาจากของปลอม
    ไปก่อน แล้วจึงจะเชื่อมต่อ หรือตรงเข้าสู่ของจริง ได้ด้วย "ปัญญา"
    ของท่านเอง มันก็คือ "การใช้วิจารณญาณ" หรือการใช้ปัญญาใน
    การแยกแยะความจริงเท็จออกจากกันให้ได้ เพราะ "ของปลอม" นั้น
    ก็เหมือนของจริงมาก แต่จะมี "จุดเล็กๆ" เท่านั้นที่แตกต่างกันออกไป
    ท่านจะต้องจับให้ได้ว่ามันคืออะไร จึงจะนำข้อมูลที่ได้จาก "ของเทียม"
    ไปใช้ได้ วิธีนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องมี "สมาธิ หรือ สติ" มากเหมือนสอง
    วิธีแรก แต่ท่านจะต้องมี "ปัญญา" มากทีเดียว เพราะการใช้ข้อมูลซึ่ง
    ไม่ได้มีความจริง 100% นั้น ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าข้อมูลนั้นมีทั้ง
    ส่วนที่จริงและเท็จอยู่ปนกัน? วิธีนี้ จึงเหมาะกับผู้ที่มี ปัญญาพละ มาก
    มากกว่าผู้ที่มีสมาธิพละ หรือสติพละมาก แตกต่างจากสองวิธีข้างต้น
     
  8. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    "ศรัทธาที่แน่วแน่ตรงทาง" จะช่วยให้ท่านเชื่อมต่อตรงต่อสิ่งศักดิสิทธิ์


    ต่อไปที่ท่านควรทราบคือ ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ทำได้ง่ายมากในคนที่มีความ

    ศรัทธาแน่วแน่ตรงต่อสิ่งศักดิสิทธิ์จริงๆ คือ ท่านจะต้องใช้ "ความศรัทธา
    ที่แน่วแน่ตรงทาง" ไม่เป๋ไปอื่นนั้น ในการเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิสิทธิ์นั้นๆ ที่
    ท่านต้องการเชื่อมต่อด้วย ซึ่งระหว่างทางนั้น ท่านจะถูกดึงให้เป๋ไปทาง
    อื่นๆ เยอะมาก และถ้าท่านไม่แน่วแน่ต่อสิ่งศักดิสิทธิ์จริงๆ ท่านก็จะถูกทำ
    ให้เป๋ออกไปผิดทิศ ผิดทางได้ ไม่ยากเลย เอาละ วิธีนี้ง่ายมาก เพราะว่า
    ท่านไม่ต้องมีญาณหยั่งรู้สูงอะไรเลย ท่านไม่ต้องมีสมาธิมาก หรือมีสติที่
    ละเอียดอ่อนก็ได้ แต่ท่านต้องมีศรัทธาที่แท้จริง สิ่งศักดิสิทธิ์ก็จะมาโปรด
    ท่านเอง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งศักดิสิทธิ์ในศาสนาใด เช่น ในยามที่ท่านกำลังจะ
    อธิษฐานถึงพระเจ้า ก็ดี, หรือกำลังทำละหมาดอยู่ก็ดี ก็สามารถสำเร็จได้
    ด้วย "ความศรัทธา" นั้นๆ วิธีนี้ จึงนับว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่ใครๆ ก็ทำได้
    มากกว่าวิธีอื่น ขอเพียงท่านมี "ศรัทธาแน่วแน่ตรงต่อสิ่งศักดิสิทธิ์" ก็พอ


    ขอพลังของสิ่งศักดิสิทธิ์ทั้งหลาย จงช่วยเชื่อมต่อแสงธรรมถึงท่าน สวัสดี
     
  9. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,829
    20 ส.ค. 2555


    "เสียงจากพระบุตร"
    รับสื่อสารโดย


    瑠璃王
     
  10. มินาโก๊จัง

    มินาโก๊จัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +138
    ตรงแดงๆน่ะ : อ้าวว ก็นึกว่า พระนารายณ์มีแ่ีต่ภาคมืดและภาคสว่าง มีภาคคลาสสิคด้วยเหยอ[​IMG][​IMG][​IMG]
     
  11. มินาโก๊จัง

    มินาโก๊จัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +138
    ก็นั่นไง ก็เล่นเพ่งมาในหัวกู แล้วได้ยินคำด่า คำผรุสวาทอย่างนั้นอย่างนี้ (วงเล็บ กูก็ได้ยินเหมือนกันแหละว๊าาาา) แล้วแบบนี้ ก็มาบอกว่า "นั่นมันคำพูดของกู ซึ่งมันไม่จริงเล้ยยย" จากนั้นยังคนบางกลุ่ม ชอบเอาไปเขียน เอาไปโพสต์ แล้วยังมีผลกระทบไปถึงดาราบางคน บางกลุ่ม หึยย ไอ้พวก... ทั้งหลายยยยยยยยยย

    กูก็โดนทดสอบเหมือนกัน กูยัง งง เล้ยยยยย
     
  12. มินาโก๊จัง

    มินาโก๊จัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +138
    เสียงมันดังๆๆๆ อยู่ในหัว เช่น บางคนอาจจะเข้าใจว่า มีเสียงด่าพ่อด่าแม่อยู่ ไอ้ความจริงน่ะมันมี แต่ว่ากูไม่ได้ Action อยู่ หรือ ไม่ได้กระทำอยู่

    กูก็นั่งอยู่เฉยๆ และก็ได้ยินเหมือนๆกันนั่นแหละ

    หรือไม่ก็บางทีอ่านะ มันมีภาพเหมือนกับ "มินาโกะ กำลัง Action ทำกิจกรรมต่างๆอยู่ เฮ้ยยย.....ขอบอกว่า "นั่นมันเป็นมายาภาพนะ เพราะมินาโกะก็เห็นเหมือนกัน"

    บางทีนั่งเฉยๆอยู่ มันก็มีภาพนิมิตร ภาพเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมาเฉยๆเลยอ่า งง มากอ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  13. มินาโก๊จัง

    มินาโก๊จัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +138
    มันฮาตรงที่ว่า "ของปลอม ไปเลียนแบบของปลอมอีกที" (ฮา 555[​IMG][​IMG][​IMG])

    เพราะตัวปลอมที่ไปเลียนแบบตัวปลอมนั้น นึกว่า "ตัวที่ไปเลียนแบบนั้น เป็นตัวจริง (ฮา 555[​IMG][​IMG][​IMG])

    สุดยอดของความฮามันอยู่ตรงนี้แหละะะ 555[​IMG][​IMG][​IMG])
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2012
  14. มินาโก๊จัง

    มินาโก๊จัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +138
    กระทู้นี้ขอใช้คำหยาบหน่อยนะ แหมมม...มันน่าจริงๆๆ

    "อะไรๆก็กู" เซง....
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...