ทูตสูตร-- ว่าด้วยพยายมซักถามสัตว์นรก และการลงโทษของนายนิริยบาล

ในห้อง 'พระไตรปิฎก เสียงอ่าน' ตั้งกระทู้โดย Catt Bewer, 30 สิงหาคม 2008.

  1. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
    อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต

    [music]http://palungjit.org/attachments/a.390193/[/music]








    <CENTER>ทูตสูตร</CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>

    </CENTER>[๔๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทวทูต ๓ จำพวกนี้ ๓ จำพวกเป็นไฉน [๔๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทวทูต ๓ จำพวกนี้ ๓ จำพว

    [๔๗๕]ดูกรภิษุทั้งหลาย เทวทูต ๓ จำพวกนี้ ๓ จำพวกเป็นไฉน
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้ ประพฤติทุจริตทางกาย ประพฤติทุจริตทางวาจา ประพฤติทุจริตทางใจ เมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เขาย่อมถูกนายนิรยบาลฉุดแขนไปแสดงต่อพระยายมว่า ขอเดชะ ชายผู้นี้เป็นคนไม่เกื้อกูลแก่มารดา ไม่เกื้อกูลแก่บิดา ไม่เกื้อกูลแก่
    สมณะ ไม่เกื้อกูลแก่พราหมณ์ ไม่อ่อนน้อมต่อผู้หลักผู้ใหญ่ในสกุล ขอพระองค์ จงลงอาชญาแก่ชายผู้นี้เถิด เขาย่อมถูกพระยายมสอบสวนซักไซ้ไล่เลียงถึงเทวทูตที่หนึ่งว่า ดูกรพ่อ ท่านไม่ได้พบเทวทูตที่หนึ่งซึ่งปรากฏในหมู่มนุษย์หรือ เขาได้ตอบว่า ไม่พบ พระเจ้าข้า พระยายมจึงได้ถามเขาต่อไปว่า ดูกรพ่อ สตรีหรือบุรุษมีอายุได้ ๘๐ ปี ๙๐ ปี หรือ ๑๐๐ ปีก็ดี อันเป็นคนชรา มีโครงคดเหมือนกลอน หลังโกง ถือไม้เท้า เดินงกๆ เงิ่นๆ ผ่านความเป็นหนุ่มสาวแล้ว ฟันหัก ผมหงอก ศีรษะล้าน หนังเหี่ยว ตัวตกกระ ท่านไม่ได้พบในพวกมนุษย์บ้างหรือ ชายนั้นได้ตอบว่า ได้พบ พระเจ้าข้า พระยายมจึงถามต่อไปว่า ดูกรพ่อ ท่านซึ่งเป็นผู้รู้เดียงสา เป็นผู้ใหญ่ไม่ได้คิดเห็นเช่นนี้บ้างหรือว่า แม้เราก็จักต้องมีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้ ผิฉะนั้น เราจักทำความดีทาง กาย วาจา ใจ ชายนั้นตอบว่า ไม่อาจที่จะคิดเห็นได้เช่นนั้น เพราะมัวประมาทเสีย พระยายมได้พูดกะเขาเช่นนี้ว่า ดูกรพ่อ ท่านไม่ทำความดีทาง กาย วาจา ใจ เพราะมัวประมาทเสีย ดีละพ่อ ท่านจักถูกทำจนสาสมกับที่ท่านประมาท ก็กรรมชั่วนี้นั้น มารดามิได้ทำให้ บิดามิได้ทำให้ พี่ชายน้องชายมิได้ทำให้ พี่สาวน้องสาวมิได้ทำให้ มิตรอำมาตย์มิได้ทำให้ ญาติสาโลหิตมิได้ทำให้ เทพยดามิได้ทำให้ สมณพราหมณ์มิได้ทำให้ ท่านทำของท่านเอง ท่านนั่นแหละจักเสวยวิบากของกรรมชั่วนั้นเอง

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระยายมครั้นสอบสวนซักไซ้ไล่เลียงถึงเทวทูตที่หนึ่งกะผู้นั้นแล้ว จึงสอบสวนซักไซ้ไล่เลียงถึงเทวทูตที่สองต่อไปว่า ดูกรพ่อ ท่าน
    ไม่ได้พบเทวทูตที่สองซึ่งปรากฏในหมู่มนุษย์บ้างหรือ เขาได้ตอบว่า ไม่พบ
    พระเจ้าข้า พระยายมจึงได้ถามต่อไปว่า ดูกรพ่อ สตรีหรือบุรุษที่ป่วย ได้ทุกข์ เป็นไข้หนัก นอนจมอยู่ในมูตรคูถของตน อันคนอื่นต้องช่วยพยุงลุก ช่วยป้อนอาหาร ท่านไม่ได้พบในพวกมนุษย์บ้างดอกหรือ ชายนั้นได้ตอบว่า ได้พบพระเจ้าข้า พระยายมจึงถามต่อไปว่า ดูกรพ่อ ท่านนั้นซึ่งเป็นผู้รู้เดียงสา เป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้คิดเห็นเช่นนี้บ้างหรือว่า แม้ตัวเราก็จักต้องป่วยไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความป่วยไข้ไปได้ ผิฉะนั้น เราจักทำความดีทางกาย วาจา ใจ เขาตอบว่า ไม่อาจที่จะคิดเห็นได้เช่นนั้น เพราะมัวประมาทเสีย พระยายมได้พูดกะเขา เช่นนี้ว่า ดูกรพ่อ ท่านไม่ทำความดีทางกาย วาจา ใจ เพราะมัวประมาทเสีย ดีละพ่อ ท่านจักถูกทำจนสาสมกับที่ท่านประมาท ก็บาปกรรมนี้นั้น มารดามิได้ทำให้ บิดามิได้ทำให้ พี่ชายน้องชายมิได้ทำให้ พี่สาวน้องสาวมิได้ทำให้ มิตรอำมาตย์มิได้ทำให้ ญาติสาโลหิตมิได้ทำให้ เทพยดามิได้ทำให้ สมณพราหมณ์มิได้ทำให้ ท่านทำของท่านเอง ท่านนั่นแหละจักเสวยวิบากกรรมชั่วนั้นเอง

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระยายมครั้นสอบสวนซักไซ้ไล่เลียงถึงเทวทูตที่สองกะบุคคลนั้นแล้ว จึงสอบสวนซักไซ้ไล่เลียงถึงเทวทูตที่สามต่อไปว่า ดูกรพ่อ ท่านไม่ได้พบเทวทูตที่สามซึ่งปรากฏในพวกมนุษย์บ้างหรือ เขาตอบว่า ไม่พบ พระเจ้าข้า พระยายมจึงถามต่อไปว่า ดูกรพ่อ สตรีหรือบุรุษที่ตายได้วันหนึ่ง สองวัน หรือ สามวันก็ดี ขึ้นพองเป็นสีเขียว ชุ่มด้วยน้ำเหลือง ท่านไม่ได้พบในพวกมนุษย์บ้างหรือ ชายนั้นได้ตอบว่า ได้พบ พระเจ้าข้า พระยายมจึงถามต่อไปว่า ดูกรพ่อ ท่านนั้นซึ่งเป็นผู้รู้เดียงสา เป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้คิดเห็นเช่นนี้บ้างหรือว่า แม้เราก็จะต้องมีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้ ผิฉะนั้น เราจักทำความดีทางกาย วาจา ใจ เขาตอบว่า ไม่อาจที่จะคิดเห็นได้เช่นนั้น เพราะมัวประมาทเสีย พระยายมได้พูดกะเขาเช่นนี้ว่า ดูกรพ่อ ท่านไม่ทำความดีทางกาย วาจา ใจ เพราะมัวประมาทเสีย ดีละพ่อ ท่านจักถูกทำจนสาสมกับที่ท่านประมาท อันบาปกรรมนี้นั้น มารดามิได้ทำให้ บิดามิได้ทำให้ พี่ชายน้องชายมิได้ทำให้ พี่สาวน้องสาวมิได้ทำให้ มิตรอำมาตย์มิได้ทำให้ ญาติสาโลหิตมิได้ทำให้ เทพยดามิได้ทำให้ สณพราหมณ์มิได้ทำให้ ท่านทำของท่านเอง ท่านนั่นแหละ จักเสวยวิบากกรรมชั่วนั้นเอง

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระยายมครั้นสอบสวนซักไซ้ไล่เลียงถึงเทวทูตที่สามกะบุคคลนั้นดังนี้แล้ว ก็นิ่งเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้นั้นถูกนายนิรยบาลทั้งหลายทำกรรมกรณ์ อันมีเครื่องผูก ๕ อย่าง คือ เอาตาปูเหล็กแดงตอกที่มือ ที่เท้าที่ท่ามกลางอก เขาได้เสวยทุกขเวทนาอันกล้าแสบเผ็ดร้อน แต่ก็ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมนั้นยังไม่สิ้น เขาถูกนายนิรยบาลทั้งหลายเอาผึ่งถาก เขาได้เสวยทุกขเวทนาอันกล้าแสบเผ็ดร้อน แต่ก็ยังไม่ตายตราบเท่าที่กรรมนั้นยังไม่สิ้น เขาถูกนายนิรยบาลจับเอาเท้าขึ้นเอาหัวลงแล้วเอามีดเฉือน เขาถูกนายนิรยบาลยกขึ้นใส่ในรถ แล้วพาแล่นไปมาบนภูมิภาค อันไฟติดแดงลุกโชน ... เขาถูกนายนิรยบาลไล่ต้อนให้ขึ้นบนภูเขาถ่านเพลิงลูกใหญ่
    ซึ่งไฟติดแดงลุกโชนบ้าง ไล่ต้อนให้ลงจากภูเขาถ่านเพลิงลูกใหญ่ ซึ่งไฟติดแดง ลุกโชนบ้าง เขาถูกนายนิรยบาลทั้งหลายจับเอาเท้าขึ้นเอาหัวลง แล้วโยนลงในหม้อเหล็กแดงไฟติดลุกโชน เขาถูกไฟไหม้เดือดเป็นฟองน้ำอยู่ในหม้อเหล็กแดงนั้น เมื่อเขาถูกไฟไหม้เดือดเป็นฟองน้ำอยู่ในหม้อเหล็กแดงนั้น ลอยขึ้นข้างบนครั้งหนึ่งบ้าง จมลงภายใต้ครั้งหนึ่งบ้าง ไปตามขวางครั้งหนึ่งบ้าง เขาได้เสวยทุกขเวทนาอันกล้าแสบเผ็ดร้อนอยู่ในหม้อเหล็กแดงนั้น แต่ยังไม่ตายตราบเท่าที่บาปกรรมนั้นยังไม่สิ้น

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็มหานรกนั้นมี ๔ มุม ๔ ประตู จัดแบ่งออกเป็นห้องๆ มีกำแพงเหล็กล้อมรอบ ครอบด้วยฝาเหล็กแดง มีพื้นแล้วด้วยเหล็ก ไฟลุกโชนประกอบด้วยเปลว แผ่ไปไกลร้อยโยชน์โดยรอบ ตั้งอยู่ทุกเมื่อ ฯ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว พระยายมได้มีความคิดว่า ดูกรท่านผู้เจริญ ได้ทราบว่าผู้ใดกระทำบาปกรรมไว้ในโลก ผู้นั้นต้องถูกนายนิรยบาล
    ทำกรรมกรณ์ต่างๆ เห็นปานนี้ โอหนอ เราพึงได้ความเป็นมนุษย์ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพึงเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ขอให้เราได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ขอให้พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นพึงทรงแสดงธรรม และขอให้เราพึงรู้ทั่วถึงธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเถิด

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เรามิได้ฟังข้อความนั้นต่อสมณะหรือพราหมณ์อื่น แล้วจึงกล่าวอย่างนี้ แต่ว่าเราได้รู้มาเอง เห็นมาเอง ทราบมาเอง จึงได้กล่าวดังนั้น ฯ

    มาณพเหล่าใดอันเทวทูตทั้งหลายตักเตือนแล้ว ยังมัวเมาประมาท มาณพเหล่านั้น เป็นคนเข้าถึงหมู่ที่เลวทราม ย่อมเศร้าโศกตลอดกาลนาน ส่วนสัตบุรุษผู้สงบระงับในโลกนี้ อันเทวทูตตักเตือนแล้ว ย่อมไม่มัวเมาประมาทในอริยธรรมในกาลไหนๆ เห็นภัยในความถือมั่น อันเป็นแดนเกิดแห่งชาติและมรณะ ย่อมหลุดพ้นในธรรมเป็นที่สิ้นชาติและมรณะ เพราะไม่ถือมั่น สัตบุรุษเหล่านั้นเป็นผู้ถึงความเกษม มีความสุข ดับสนิทในปัจจุบัน ล่วงพ้นเวรและภัยทั้งปวง
    ข้ามพ้นทุกข์ทั้งสิ้น ฯ





    <CENTER></CENTER>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 สิงหาคม 2008
  2. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,161
    ค่าพลัง:
    +19,894
    เสียงอ่านดังดีแล้วค่ะน้องโอ๋
    สาธุๆๆ ขออนุโมทนาค่ะ
     
  3. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    ขอบคุณค่ะพี่กบ กะลังลุ้น feedback ว่า คราวนี้เสียงจะเบาไปรึป่าว เพราะตอนอ่านเสียงไมค์ตีกับเสียงลำโพง ทำให้มีเสียงแทรก จนต้องลดเสียงไมค์ลง ดีจังที่เสียงยังดังอยู่ ;aa2
     
  4. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ...ในธรรมทานเสียงด้วยครับ น้องโอ๋



    .
     
  5. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    ขอบคุณนะค่ะเฮียปอที่มาให้กำลังใจกันทุกครั้งเลยค่ะ ;aa50
     
  6. odd_dec

    odd_dec สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +3
    ขออนุโมทนาด้วยครับ เสียงอ่านฟังแล้วเพลินดีครับ ไม่มีเสียงรบกวนเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...