ที่ว่าคนมีบุญจะออกมารักษาโดยไม่ต้องเห็นตัวเมื่อภัยพิบัติมีโรคร้าย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย pichak, 13 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. pichak

    pichak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +69
    บทกลอนฝากเตือน จากหลวงปู่เทพโลกอุดรแจ้งไว้แก่หลวงปู่ภารตะฤาษี<!-- google_ad_section_end -->

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->ข้อความด้านล่างนี้ ผมอยากเน้นตรง
    (ผู้มีบุญจะออกมาช่วย รักษาชีวิต ผู้คนมากมาย จะรอดชีวิตจากโรคร้าย การรักษา ไม่ต้องใช้ยา เป็นวิชา ไม่มีใครรู้จัก คนผู้นี้ รักษาผู้คน ไม่หวังสิ่งใด เพราะเป็นหน้าที่ก่อนเกิด การรักษา ไม่ต้องมาพบตัวผู้ป่วยอยู่แห่งใด รักษาได้ ไม่ต้องมา ถึงเวลาไม่ต้องค้นหา โรคจะหายเอง) คือการรักษาระยะไกล พระองค์ท่านอยู่ในป่า โดยไม่ต้องพบผู้ป่วย ไม่ใช้ยารักษาโรค หากข้อความนี้เป็นจริงแล้ว บุคคลผู้นั่น น่าจะมีส่วนเกียวข้องกับพระศรีอารย์อย่างยิ่งหรือ ท่านคือ....? ไม่ทราบว่าคนอื่นมีความเห็นเป็นอย่างไรกับผู้มีบุญ ท่านนี้
    คือผมพบแล้ว จึงอยากขอความเห็นท่านอื่นดูเป็นการแลกเปลี่ยนคับ

    เริ่มจากปี พ.ศ. ๒๕๔๙ จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๖๒

    บทกลอนฝากเตือน จากหลวงปู่เทพโลกอุดรแจ้งไว้แก่หลวงปู่ภารตะฤาษี
    (บัวขาว)

    ขอยกกลอน สอนใจ ในยามยาก ช่วงลำบาก ไว้เป็น อุทาหรณ์
    โลกทั้งโลก กำลัง จะสั่นคลอน เพื่อสะท้อน ผลกรรม คนทำมา
    จากวันนี้ ต่อไป ภายภาคหน้า ในไม่ช้า วิบากกรรม วิ่งเข้าหา
    ให้โหยหวน คร่ำครวญ แสนเวทนา คนทั่วหล้า ต่างล้มหาย ตายเป็นเบือ

    หากไม่เชื่อ ให้เผ้าดู จะรู้สึก ต้องสะอึก เมือ่ไม่มี สิ่งใดเหลือ
    ทุกวันนี้ มีใช้ อย่างเหลือเพือ จะไม่เหลือ ให้ใช้ ในบัดดล
    คนหลายคน วกวน เพื่อเสพสุข ไม่เคยทุกข์ ร้อนใจ ให้ขัดสน
    เฝ้าเอาเปรียบ เบียดเบียน หมู่ผู้คน ไม่เคยสน เวรกรรม มันมีจริง

    ไม่ว่าใคร ใดใด ในโลกนี้ ชั่วหรือดี ทุกเยาว์วัย ชายหรือหญิง
    สัจธรรม เท่านั้น คือความจริง ทุกสรรพสิ่ง หนีไม่พ้น ผลของกรรม
    คนคิดดี ทำดี ย่อมมีสุข พ้นกองทุกข์ ชีวี ไม่แปรผัน
    พาพ้นทุกข์ สิ้นวิบัติ ในฉับพลัน บุญเท่านั้น ที่หนุนนำ คนทำดี

    ผิดกับคน ที่ทำผิด และทำพลาด ต้องถึงฆาต บาปกรรม ซ้ำเป็นผี
    ครั้งอยู่ดี มีสุข ไม่ใฝ่ดี พอจะม้วย ชีวี แล้วใฝ่บุญ
    กุศลหนุน บุญใด ไหนจะช่วย มีแต่ซวย เท่านั้น ที่เกื้อหนุน
    เกิดเป็นคน ไม่เคยคิด ตอบแทนคุณ จะเอาบุญ ที่ไหน มานำพา

    อีกไม่นาน ก็ถึง กึ่งพุทธะ เป็นจังหวะ รอยต่อ ศาสนา
    สิ่งทุกสิ่ง ย้อนกลับ สู่เวลา ทรัพย์ไร้ค่า คนยึดจิต อภิญญา
    ถิ่นกาขาว ยาวนาน จะผันผ่าน พระศรีอารย์ อริยะเมตไตร เข้ามาหา
    ศรีวิไล ใฝ่ธรรม ทุกเวลา เทวดา ปกป้อง ตลอดกาล

    อยากอยู่ดี มีสุข ถึงยุคนั้น ต้องช่วยกัน สร้างกรรมดี ไว้สืบสาน
    ภัยวิบัติ โลกสลาย อีกไม่นาน สิ้นคนพาล เหลือคนดี ไม่กี่คน
    คำยืนยัน ปู่ฤาษี ภารตะ ให้สละ อย่ายึดมั่น อย่าสับสน
    ให้รู้ไว้ ภัยจะถึง ทุกตัวตน ให้ทุกคน หลบลี้ หนีออกมา

    การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จะบังเกิด จำไว้เถิด จะสิ้นยุค กลุ่มเศรษฐี
    ที่คดโกง ฉกฉวย จนได้ดี จะสิ้นที หมดท่า พาตรอมตรม
    บาปและกรรม ตามซ้ำ ไม่ย่อหย่อน กินหรือนอน เดินนั่ง ช่างขื่นขม
    ถึงรวยทรัพย์ เคยยิ่งใหญ่ ยิ่งระทม ก็จะล้ม จมดิ้น สิ้นกันไป

    จากสี่เก้า เข้าถึง ปีหกสอง ฟ้าจะร้อง คำราม สุดหวั่นไหว
    ธรณี จะโกรธ เป็นพื้นไฟ พระพรายไซร์ จะถามโถม โจมดีเรา
    พระคงคา จะไหลบ่า หุ้มเปลือกโลก ดาวนอกโลก พุ่งชน คนอับเฉา
    ให้รีบลุก และตื่น เถิดพวกเรา รีบเดินหน้า ถึงธรรม ค้ำชีวา

    ภาคกลางหนึ่ง ใต้หนึ่ง พีงจำไว้ จมอยู่ใต้ คงคา แน่นักหนา
    ผืนแผ่นดิน คลุมด้วยน้ำ สุดลูกตา ชาวประชา ไร้แผ่นดิน สิ้นชีพวาย
    เหนืออีสาน ตอนล่าง ต่างรันทด แผ่นดินลด หดหู่ ไม่รู้หาย
    เหลือก็น้อย คนบุญ ที่รอดตาย นอกนั้นไซร์ ไร้ชีวิต วิบัติภัย

    บนท้องฟ้า มืดมน ฝนห่าใหญ่ ห่อหุ้มไว้ เจ็ดราตรี อรุณฉาย
    สัตว์เล็กใหญ่ ดับดิ้น แทบวอดวาย ที่ไม่ตาย กลายมีพิษ ปลิดชีพกัน
    พายุลม สลาตัน นับว่าร้าย ก็ไม่ว่าย ต้องแพ้ ลมกรรมหันต์
    ฝนที่ไหน พัดที่ใด ตายฉับพลัน ไม่มีควัน มีแต่พิษ ชีวิตวอดวาย

    พลังจากนั้น คนที่เหลือ จะแปรเปลี่ยน บำเพ็ญเพียร ภาวนา ไม่ขาดสาย
    ทุกข์และโศก โลกมนุษย์ จะผ่อนคลาย ศรีอริยะเมตไตร จะบรรเจิด เกิดขึ้นพลัน
    สร้างมนุษย์ สร้างโลก ให้ผุดผ่อง ตามครรลอง ศรีวิไล ให้เฉิดฉันท์
    สิ้นทุกข์โศก โรคภัย ไม่โรมรัน จิตเท่านั้น ที่วัดใจ ให้อยู่ยืน

    ทรัพย์เงินทอง ก่ายกอง เต็มไปหมด ช่างรันทด ไม่มีค่า เท่าผ้าผืน
    สิ่งที่หา และใฝ่ ทุกวันคืน ที่ยั่งยืน คือจิต ผ่องอำไพ
    อาศัยกรรม ทำดี ช่วยชูค้ำ ให้ได้นำ สู่ภิญญา น่าสดใส
    ทั้งอิ่มเอิบ อิ่มกาย อิ่มจิตใจ พระยาธรรม นั่นไซร์ คือกฏเกณฑ์

    หากไม่เชื่อ สิ่งที่กล่าว ชาวโลกเอย จำไว้เลย นี่คือแท้ แน่นักหนา
    เฝ้าติดตาม การเปลี่ยนแปลง ทุกเวลา จะรู้ว่า เริ่มตั้งเค้า เข้าสู่กาล
    หายุโหม น้ำท่วม แผ่นดินไหว โลกทั้งใบ ไม่แน่น ไร้แก่นสาร
    ธาตุดินน้ำ ลมไฟ ถูกรุกราน จากวิญญาน กาลอดีต กรีดทำลาย

    คนทั่วโลก จะพบ ภัยพิบัติ สารพัด ปัญหา ให้แก้ไข
    ทั้งเรื่องโลก เรื่องคน จนวุ่นวาย แก้อย่างไร ก็ไร้ค่า พาล้มครืน
    เป็นด้วยเหตุ อาเพศ โลกใบนี้ ถูกย่ำยี จากมนุษย์ สุดทนฝืน
    มุ่งทำลาย ล้างผลาญ ทุกค่ำคืน ไม่อาจฝืน ขืนปล่อยไว้ ใจโลกตรม

    มอบให้เหล่าท่านทั้งหลายได้พิจารณา เห็นอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ด้วยสติปัญญาของตนเอง จากหลวงปู่ ภารตะ ฤาษี (บัวขาว) ผู้ประพันธ์ คุณฐิติศักดิ์ ฐิติพงศ์ทัพพ์









    สาส์นสำคัญจากหลวงปู่เทพโลกอุดร
    มวลมนุษย์ ภัยพิบัติ น้ำจะท่วมโลก แผ่นดินจะไหว มนุษย์ที่ดีถึงจะรอด หมู่ชนควรทำดี ให้มนุษย์มีการปฏิบัติ มวลชนทุกหมู่เหล่าต้องปฏิบัติ พระเจ้าผู้สร้างโลก มองเห็นมวลมนุษย์ กำลังจะทุกข์ยาก ล้มหายตายจาก เวลานั้นใกล้เข้ามา มนุษย์เท่านั้น ที่จะช่วยตัวเองได้ จงทำตัวเองให้ดี จงมีจิตที่ดี จึงจะรอดพ้น ไม่มีใครช่วยใครได้ แผ่นดินจะกลืนกิน มิรู้สิ้นชีวิตเท่าใด ผู้ที่จะรอดปลอดภัย ต้องอยู่ในศีลธรรม

    พึงรักษาชีวี อย่าคิดว่าตายแล้วดีกว่าอยู่ ต้องอดทน ผู้รอดจากภัยพิบัติ คือ ผู้ที่ต้องอยู่ต่อ เป็นผู้ที่ต้องช่วยกัน ปรับสภาพจากเหตุการณ์ ที่ผ่านพ้นแต่กว่าจะถึงตอนนั้น มนุษย์ก็แสนสาหัส ทุกข์ยากอดอยาก ยากไร้ปางตาย ไร้ความทรงจำก็มี เพราะขาด การเตรียม ด้วยความไม่รู้ มนุษย์ต้องพบ วิบากกรรมชีวิต ทุกชีวิตที่อาศัย อยู่บนโลกลำบาก มนุษย์เป็นผู้ทำทุกสิ่งด้วยมือ ของมนุษย์ทั้งสิ้น ไม่มี ไม่ใช่ ใครที่ไหนทำ เวลาใกล้เข้ามา ทุกขณะความตาย กำลังเข้ามาใกล้ตัว

    ก่อนถึงเวลา ก่อนถึงวันนั้น มนุษย์ผู้ซึ่งกระทำการทำลาย มนุษย์ด้วยกัน มันต้องพินาศเช่นกัน การกระทำของมันผู้นี้ ทำให้มนุษย์ จำนวนมากมายสิ้นชีวิต คล้ายใบไม้ร่วง มันหวังว่าจะได้เป็นใหญ่ ในแผ่นดินทั่วโลก แต่แล้วความหายนะ เข้ามาครองโลกแทน ความพินาศเต็มไปหมด ความหวังย่อยยับ ปฐพีเต็มไปด้วยเลือด ศพกลาดเกลื่อนเลือดทาแผ่นดิน ชีวิตสูญสิ้น สิ้นไร้ผู้คน มีแต่ความตาย ที่เห็นชัดความดับสูญครั้งใหญ่ ของมวลมนุษย์และสัตว์ในโลก

    ความตายเป็นผู้ชนะ ผู้แพ้คือผู้กระทำความชั่วร้าย ผู้ที่ตายทั้งหมดเป็นผู้โชคดีกระนั้นหรือ ผู้ที่รอดเป็นผู้โชคดีกระนั้นหรือ มิใช่ทุกอย่างคือ กฎแห่งกรรม วิถีแห่งกรรม มาจากที่ใด ทำไม มวลมนุษย์จึงต้องรับความดับสูญ เพราะชีวิตกับความตายเป็นสิ่งที่คู่กัน ไม่อาจหลีกเลี่ยง ไม่มีทางหนีพ้น โอกาสผู้ที่รอด หมายถึง ผู้อยู่ต่อ เพื่ออนาคตโลก ผู้ทำลายดับสิ้นสูญ โลกร้อนระอุ มีแต่ไฟ เถ้าถ่านท่วมท้นแผ่นดิน น้ำเป็นพิษ สารเคมีท่วมท้น เชื้อโรคสารพัดชนิด กัดกินผู้คน ผู้ที่รอดแสนสาหัส ทุกข์ยากรอความตาย

    ผู้มีบุญจะออกมาช่วย รักษาชีวิต ผู้คนมากมาย จะรอดชีวิตจากโรคร้าย การรักษา ไม่ต้องใช้ยา เป็นวิชา ไม่มีใครรู้จัก คนผู้นี้ รักษาผู้คน ไม่หวังสิ่งใด เพราะเป็นหน้าที่ก่อนเกิด การรักษา ไม่ต้องมาพบตัวผู้ป่วยอยู่แห่งใด รักษาได้ ไม่ต้องมา ถึงเวลาไม่ต้องค้นหา โรคจะหายเอง

    เศรษฐกิจตกต่ำ ต้องการผู้แก้ไข ทั่วโลกวุ่นวาย ขาดอาหาร น้ำตาเนืองนอง ศพลอยฟูฟ่อง เพราะน้ำหลากมา น้ำตาไหลริน ไม่มีใครได้กินอิ่ม

    มีแต่ความทุกข์ ความเศร้าโศกครอบคลุม คนทั่วโลกไม่ต่างกัน ทุกที่มีแต่ความเศร้า การสูญเสีย ของมวลมนุษย์ แต่ก็มีบางประเทศ ฟื้นตัวเร็ว การฟื้นตัวของบางประเทศรวดเร็ว เป็นประเทศเล็กๆ ประเทศที่เคยยิ่งใหญ่สูญเสียหนัก การพัฒนา เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ช้า ทุกอย่างจึงกลับกัน ประเทศที่เคยเป็นมหาอำนาจ กลายเป็นผู้ยากไร้ แทบไม่น่าเชื่อ เคยมีเงินเหลือเฟือ ต้องฝืดเคือง ยิ่งกว่ากินเกลือ โลกไม่พ้นวิกฤต ความทุกข์ยังครองเมือง

    ผู้อ่อนแอจะไม่รอด อากาศหนาว หิมะถล่ม น้ำแข็งละลาย น้ำป่าหลาก ความทุกข์ยากทับถม คนตายเพราะความหนาวทุกข์ทับถมทวี กว่าจะรู้ ความดื้อรั้น ความเชื่อยาก ทำให้มนุษย์ ได้รับบทเรียน แต่ไม่เข้าใจ เพราะความตายมาเร็วเกินไป ไม่ทันรู้ตัว มนุษย์ไมทันได้คิด ไม่มีโอกาส เข้าใจ ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะไม่บรรลุธรรม ต้องมีชะตากรรม เวียนว่ายตายเกิด อยู่เช่นนี้ ทุกชีวี ผู้รู้เหตุการณ์ รอเวลามีน้อย ความไม่แน่นอน

    ความไม่มั่นใจ คิดว่าไม่เกิด จึงทำให้ การเตรียมตัวไม่พร้อม

    อาหารไม่พอ น้ำดื่มไม่มี หมอก็ป่วย คนไข้มากมาย โรคที่เป็นก็หายยาก พุพองทั่วร่างกาย โรคร้ายทั้งสิ้น เกาะกินร่างกายกัมมันตภาพรังสี สารเคมี เชื้อโรคมากมี ทำร้ายร่างกาย อาหารเป็นพิษ ยาปฏิชีวนะ ช่วยไม่ได้ โรคระบาด ทุกหย่อมหญ้า ชีวิตร่วงเหมือนผักปลา ไม่มีเวลา มีแต่ชีวิตที่สิ้นไป กว่าเถ้าจะมอด กว่าน้ำจะลด กว่าเชื้อโรคจะหมดสิ้น ชีวิตสิ้นไปไม่รู้เท่าไหร่ ความอดทนต้องสูงสุด ไม่มีเสียงนกร้อง มีแต่เสียงโอดครวญ ความเจ็บปวด ครองเมือง

    การครั้งนี้ กว่าจะสิ้นสุด ไม่มีใครล่วงรู้ ความไม่แน่นอน เที่ยงที่สุด ทุกชีวิต กว่าจะผ่านพ้น เหตุการณ์ สุดแสนลำบาก นอกจาก ผู้คนจำนวนหนึ่งหยั่งรู้ เตรียมรับสถานการณ์ ผู้คนเหล่านั้น มีโอกาส เป็นผู้อยู่รอด ชาวโลก กว่าครึ่งโลก ที่ล้มหายตายจาก ล้วนแล้วแต่ กรรม ฟ้าจะใสอีกครั้ง เมื่อฤดูฝนร่วงหล่น ละลายสิ่งต่างๆ ฝนจะชุ่มโชก สิ่งที่ร้ายจะกลายเป็นดี แต่ก็ต้องใช้เวลา พลิกฟื้นขึ้นมาใหม่

    ช่วยกันทำนุบำรุงรักษาทุกประเทศต้องพัฒนา เหมือนยุคเก่าย้อนมา แต่เจริญรุ่งเรือง กลายเป็นโลกยุคใหม่ วิทยาศาสตร์ล้ำหน้า ชาวประชาหน้าใส คนที่เหลือจากเหตุการณ์ มีความคิดเปลี่ยนไป ไม่มีแล้วความคิดเก่าๆ ทุกอย่างเปลี่ยนไป แม้แต่ความคิดของคน เปลี่ยนแปลงไปหมด ลดทิฐิ จิตใจดี มีเมตตาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การแก่งแย่งชิงดี แทบสิ้นไป มนุษย์ จิตใจร้ายยังมีอยู่ ความเมตตาค้ำจุนโลก ทุกข์สร่างโศรก

    ผู้มีเมตตาธรรมปรากฏ เพื่อนนุษย์ีช่วยเหลือกัน บำรุงรักษา ผู้มีจิตเมตตา เปิดโฉมหน้า แต่ไม่ปรากฏตัว ได้ยินแต่ข่าว ร่ำลือไปทั่ว เพื่อนมนุษย์ ทั่วโลก ต่างยินดีชื่นชม เหมือนพระเจ้ามาโปรด คนทั่วโลก ต้องการหมอรักษา หาหมอ ไม่ได้ โรคที่ระบาด ไม่มีในตำรา และไม่มียา แก้โรคที่ระบาด ความตาย มาเยือน ชีวิตมนุษย์ ได้สำนึก กว่าจะรู้ตัว เกือบจะรู้ตัว เกือบจะตาย ผู้ที่ตายไม่ได้รู้ตัว สำนึกในบาป

    คนที่เหลือ ล้วนคิดได้ ความตาย ผ่านพ้นไป ผู้มีบุญ ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่กลัวเหนื่อย ไร้การแบ่งชั้น ทุกคนเสมอภาค ความดี ความพยายาม ผู้สร้างโลก ไม่ปล่อยให้ มนุษย์ ทุกข์ทรมานสู้กับความตาย นิมิตรหมายใหม่ ประกอบกรรมดี ละเว้นความชั่ว รักษาความดี อยู่ในศีลธรรม ตั้งมั่นในการปฏิบัติ อย่าเห็นแก่ตัว ทางสายกลาง ช่วยเหลือผู้อื่น จงมองตนเอง อย่ามัวรอเวลา ความว่าง (สุญญตา) จิตตั้งมั่น ปล่อยใจวาง จิตเป็นหนึ่ง มีสติ

    คนที่สามารถทำได้เช่นนี้ ทางสายใหม่ คือการหลุดพ้น ผู้ที่ทำได้ ไม่ต้องมาเกิด ตามวัฎจักร ทางสายนี้มีมานาน ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ผู้ที่รู้ และเข้าใจ พยายามศึกษา ผิดบ้างถูกบ้าง เพื่อหาทางหลุดพ้น จากกิเลส พระเจ้าเบื้องบน เฝ้ามองดู ใครทำอะไร ไม่รอดพ้นสายตา การกระทำ ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ในสายตา มีการบันทึก ผู้ที่รอดตาย ต้องมีจิตใจเข้มแข็ง อดทนต่อสถานการณ์ ไม่ใช่ง่าย สิ่งที่เลวร้าย มนุษย์ ต้องอดทนให้ได้

    กาลเวลาผ่านไป ผลที่ได้รับต่างทุกข์ถ้วนหน้า จิตใจสำคัญที่สุด เมื่อเวลานั้นมาถึง สภาวะคับขัน ผู้เข้มแข็ง จะรอดพ้น ความอดอยาก ความพลัดพราก คืบคลานเข้ามาความลำเค็ญ ผู้คนโอดครวญ ชีวิตทุกผู้ทุกนาม รอความหวัง อย่างสิ้นหวัง แต่ก็รอ สภาวะเช่นนั้น ใครทนได้ ยอดคน ชีวิตมืดมนต์ ยิ่งกว่าความมืด หนทาง มองไม่เห็น

    สิ่งลี้ลับ เริ่มปรากฏ ผู้คนแตกตื่น ได้ยินเรื่องราว อันมหัศจรรย์ ความมหัศจรรย์นั้น ไม่เคยปรากฏ ตั้งแต่สมัยพุทธกาล มาสู่ยุคปัจจุบัน มนุษย์จะได้พบ สิ่งมหัศจรรย์ ในยุคนี้ ผู้ซึ่งไม่เคยได้พบเห็น ความมหัศจรรย์ จะมีโอกาส ได้เห็น

    รวบรวมโดยคุณ มงคล กริชติทายาวุธ
    ประธานชมรมศาสนาและการกุศล
    สารชมรมศาสนาและ<!-- google_ad_section_end -->

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
  2. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    อนุโมทนาครับ

    เป็นข้อเตือนใจที่ดีครับ...เป็นสภาวะธรรม.....เกิด...ดับ

    ให้ยอมรับนะ...ฝืนไป...จะเป็นทุกข์
     
  3. pichak

    pichak Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +69
    ถูกต้องครับจุดประสงค์ที่นำมากล่าวคือ
    -เพื่อให้รู้ว่ามีบุคคลดังกล่าวจริง และเราก็ควรไปกราบขอทราบวิธีรักษาเอามาไว้ใช้กับตัวเอง เวลาเจ็บป่วยจะได้ไม่ต้องใช้เงินมากๆ ในการรักษา เช่นภูมิแพ้ตอนนี้ผมไม่ได้ใช้ยามาปีกว่าแล้ว
    -กาลข้างหน้าหลังเกิดภัยภิบัติ ก็จะเหลือแต่คนดีที่สามารถทนสภาวะนั้นได้รอดมาได้แต่จะตายเพราะโรคอีก จึงต้องมีผู้มีบุญ รักษาให้ โดยไม่ต้องเห็นตัวผู้ป่วย เป็นสภาวะธรรม.....เกิด...ดับ ให้ยอมรับนะ...ฝืนไป...จะเป็นทุกข์<!-- google_ad_section_end --> จริงคับ แต่คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรักษาขันธ์ เพราะทุกข์มากๆ บางคนก็ไม่เอา
    สรุป บุคคลใดเห็นบุคคลพิเศษแล้ว ได้ไปกราบ คงจะดีไม่น้อย
    เพราะพุทธะ ที่ลงมาขณะนี้ ต่างองค์ต่างทำหน้าที่ สุดแล้วแต่ใครจะพานพบ
    -บางองค์รักษาโรคโดยไม่ใช้ยา เพื่อให้เหลือพันธุ์ดีต่อไปในอนาคต
    -บางองค์สรุปธรรม เพื่อการหลุดพ้น
    -บางองค์ก็รอ เวลาการทำสังคายนาพระไตรปิฎก
    อันนี้นอกเหนือ ใครเก่ากว่าใคร ใครดีกว่าในนะครับ ใครเก่งกว่าใคร พุทธะ ท่านมาทำหน้าที่แล้วบังเอิญเราได้ไปรับรู้ และพบเห็น จึงนำมาบอกเล่าครับ มิได้อวดอ้าง แต่บอกกล่าวเผื่อบุคคลใดพานพบแล้วจะได้ยินดีในกาลนั้นด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กุมภาพันธ์ 2011

แชร์หน้านี้

Loading...