ทดสอบภพภูมิหน้าของตนเอง...แบบง่ายๆ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย azalia, 15 มิถุนายน 2008.

  1. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    ไม่จำเป็นว่าคนเราต้องใกล้ตายก่อนถึงจะรู้ภพภูมิหน้าของตน...เราสามารถรู้ได้ในขณะที่เรายังไม่ตายจากการสะสมกรรมที่มีในดวงจิตของตนว่า...หลังความตายเราจะไปเกิดเป็นอะไร...
    <O:p
    ส่วนใหญ่ที่มีข้อมูลบอกเล่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนภพภูมิ...จะบอกว่าเมื่อคนเราใกล้ตาย...
    <O:p
    .....แต่เคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ "วิถีจิต"และการเปลี่ยนภพภูมิหลังความตาย... กล่าวไว้ว่าเราสามารถตรวจสอบภพภมิหน้าของเราได้จาก"ความฝันเมื่อเรานอนหลับ"...สังเกตุดูว่าเรามักฝันสิ่งใดเป็นประจำ<O:p

    เพราะผลกรรมที่สะสมใน"ภวังคจิต"ซึ่งเป็นจิตไร้สำนึกของเรามักออกมาเตือนเราในรูปของความฝันโดยไม่รู้ตัว

    • <O:pหากฝันบ่อยๆ ในลักษณะเป็นฝันร้าย เห็นแต่ภูติผี ปีศาจนรกและความทุกข์ทรมานบ่อยๆ แสดงว่า ความทรงจำภาพ"อกุศลกรรม"ที่ทำไว้ในอดีตเด่นชัดกว่า "บุญกุศล" ระวังจะไม่ได้ไปสู่สุขคติภูมิไปเกิดในภูมิของเปรต อสุรกาย สัตว์นร
    • <O:pถ้าในฝันส่วนใหญ่ เห็นแต่ป่าเขา ต้นไม้ และสารพัดสัตว์ แสดงว่าจิตมี "โมหะ"หรือฝันถึงเครื่องมือที่เขาใช้ฆ่าสัตว์ระวังจะได้ไปเกิดในภพภูมิของสัตว์เดรัจฉาน
    • <O:pถ้าหากความฝันส่วนใหญ่เห็นแต่สิ่งดีงามเป็นความสุข ในลักษณะของบุญกุศล เช่นการให้ทานรักษาศีล ของที่ทำบุญใส่บาตร พระพุทธรูป วิมาน เทวดา-นางฟ้าหรือเรื่องราวดีๆที่ทำให้จิตเบิกบานที่ตนเองเคยทำไว้หรือเห็นคนอื่นทำแล้วจิตเบิกบาน เป็นต้น ก็มักได้เกิดใน "สุขคติภูมิ" ของภพมนุษย์ และเทวดา เทพ พรหม
    <O:p...เพราะส่วนใหญ่ความฝันแบบจิตไร้สำนึก จะบ่งบอกถึงเรื่องราวหรือสิ่งที่เรายึดเหนี่ยวฝังใจจากกรรมที่ทำไว้ ...หากไม่ได้รับการฝึกจิตมาดี...ก็จะปล่อยวางได้ยาก..ดังนั้นเมื่อถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนภพภูมิ เราก็จะยึดสิ่งนั้นเป็นอารมณ์...นำไปเกิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2008
  2. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,428
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,467
    อันนี้ต้องพยายามระลึกถึงพระพุทธเจ้าบ่อยๆ หรือ คิดถึงนิพพานครับ จะได้ไปสู่นิพพานครับ
     
  3. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ...

    อารมณ์ที่เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายนี้ เป็นที่หมายได้แน่นอนว่า จะต้องไปเกิดตามที่ตนได้เห็น เหมือนเราทำแบบแปลนแผนผังไว้แล้ว ปลูกสร้างที่อยู่อาศัยตามแบบแปลนนั้นๆ เช่น

    • ผู้ที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ย่อมเห็นครรภ์มารดา
    • ผู้ที่จะเกิดยังเทวภูมิย่อมเห็นเทพยดานางฟ้าหรือวิมาน
    • ผู้ที่จะเกิดในนรกก็ย่อมเห็นการเผาผลาญสัตว์ เห็นเปลวไฟ
    • ผู้ที่จะไปเกิดเป็นเปรต ก็จะเห็นปล่องหุบเขาอันตกอยุ่ในความมืดมิด
    • ผู้ที่จะไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ย่อมจะเห็นสัตว์ หรือเชิงเขา ชายน้ำ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ...แต่อย่างน้อยๆ..ความฝันใต้จิตสำนักก็บ่งบอกให้เรารู้ตัวล่วงหน้าว่า..จิตของเราสั่งสมแต่เรื่องราวใดมาก เพื่อการเตรียมจิตให้ถูกต้องเมื่อถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนภพภูมิ...จะได้ไปสู่ "สุขคติภูมิ" ...<o:p></o:p>
     
  4. agree

    agree สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +23
    เคยฝันเห็นผู้หญิงบ่อยๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นผู้หญิงนะ

    เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นคู่ของเราในชาติที่แล้ว?
     
  5. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    ไม่อยากเชื่อเลย หมายถึงเชื่อตัวของผู้น้อยเอง
    โพสหลายทีแล้วว่า ฝันอะไร ตื่นขึ้นมา จำไม่ได้สักอย่าง
    นั่งนึก นึกไม่ออก นึกมากๆก็ปวดหัว เป็นเพราะอะไร
    ท่านผู้อาวุโส ช่วยแนะนำหน่อยครับ แต่ถ้าถามเรื่อง
    การสร้างบุญ ทาน ทำบ่อยครับ เพียงแต่ปัจจัยในการ
    ร่วมบุญ อาจจะน้อยหน่อย แต่ทำบ่อย-ถึงบ่อยมากๆ
    เลยครับ สาธุ สาธุ
     
  6. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ฝันว่าบินได้สูงบ้างต่ำบ้างบ่อยๆ กับฝันว่าต่อสู่กับพวกผีก็บ่อย ในฝันจะเป็นคนคอยเตือนคนอื่นๆ ให้หนีไป แต่ไม่มีใครเชื่อ เลยต้องสู้อยู่คนเดียว แล้วตอนจะตื่นทีไร ก็กำลังใกล้จะแพ้ทุกที ฝันอย่างนี้จะหมายถึงภพภูมิหน้ายังไงบ้าง
     
  7. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    ต้องเป็นฝันในลักษณะ "นิมิตกรรม" ซึ่งอันนี้ไม่รวมฝันแบบ "ธาตุวิปริต" และ "เทพสังหรณ์" นะคะ...ซึ่งต้องคอยสังเกตุและบันทึกดีๆ ...ว่าฝันแบบนั้นเป็นประเภทไหน ...

    ถ้ามัวซัวมากๆระวังเข้าข่าย "โมหะ" ... ต้องรอประมวลกรรมตอนใกล้เปลี่ยนภพภูมิอีกครั้งค่ะ... (ไม่ใช่ผู้เชียวชาญเสียด้วยสิ...เลยฟันธงไม่ได้) ... แต่ส่วนใหญ่เกิดจาก ธาตุวิปริตกันมากกว่า ...
     
  8. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    อนุโมทนา สาธุครับ ส่วนตัวผมเองมักจะเห็นพระพุทธรูป โบสถ์ วิมาน ทั้งในนิมิตและความฝันเสมอครับ
     
  9. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579

    ก็เลยไปคัดลอกและสรุปมาเพื่อไขข้องใจให้คุณเวฬุวัลค่ะ...มาจากธรรมะบรรยาย เรื่อง "ความฝัน" โดย ท่านอาจารย์บุญมี เมธางกูร (ผู้บรรยายเรือง "วิถีจิต" และ "ชีวิตหลังความตาย" และอีกหลายๆเรื่อง ซึ่งเป็นธรรมะขั้นสูงที่ค่อนข้างเข้าใจยากหน่อยค่ะ)

    บางคนฝันยากหรือไม่ค่อยฝัน เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยฟุ้งซ่าน ไม่ค่อยช่างคิด เป็นคนรื่นเริงสนุกสนาน บุคคลชนิดนี้เกิดความฝันได้ยาก เพราะว่าเวลาหลับก็หลับสนิท มีอารมณ์อะไรมากระทบก็ไม่ค่อยจะรู้สึก เวลานอนก็หลับได้โดยง่าย อยู่ๆ บทจะหลับก็หลับไปเลย นั่งคุยกันบางทีนั่งหลับ คนที่คุยด้วยถามว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2008
  10. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    ต่อนะคะ...
    วิถีจิตที่เกิดขึ้นในความฝันนี้ เป็น กามชวนะมโนทวารวิถี ที่ว่าเป็นกามชวนะมโนทวารวิถี ก็หมายความว่าเป็นวิถีที่มีความยินดีติดใจในการเสพอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ ของบรรดาผู้ที่เกิดอยู่ในทุคติภูมิและสุคติภูมิ มีเปรต อสุรกาย มนุษย์ และเทวดา เป็นต้น เช่น เห็นรูปแล้วติดใจในรูป ได้ยินเสียงแล้วก็ติดใจในเสียง คิดนึกอะไรสนุกแล้วติดใจในเรื่องที่สนุกนั้น ดังนี้เป็นต้น

    อารมณ์เหล่านี้ เราเรียกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2008
  11. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    (คัดลอกมาให้อ่าน...)
    มีต่อค่ะ...ไหนๆก็เกริ่นมาเยอะแล้วจะได้รู้ว่าจริงๆแล้ว "วิถีจิต" ทำงานอย่างไร
    ว่า เมื่อความฝันเกิดขึ้นนั้น นั่นย่อมแสดงถึงว่ามีเหตุแล้ว เหตุก็คือเรื่องราวที่เก็บเอาไว้ในใจได้มากระทบ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นว่าเหตุไฉนเล่าความฝันจึงได้เกิดเป็นความจริงขึ้นมาได้ และบางทีความจริงนั้นเป็นความจริงที่หนักแน่นแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์เสียด้วย ท่านทั้งหลายก็คงจะพบว่าตัวเองก็เคยฝันและบางทีก็เป็นความจริงขึ้นมาก็มีเหมือนกัน ความฝันที่เกิดขึ้นและเป็นจริงได้ ก็มาจากเหตุดังที่ผมได้แสดงไปแล้วนั่นเอง <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ๑. บุพพนิมิต ได้แก่ อำนาจการกระทำ คือ กรรมอันเป็นบาปหรือเป็นบุญที่ทำมาแล้วเก็บเอาไว้ในจิตใจแต่อดีตทั้งชาติก่อนและชาตินี้ เป็นตัวการที่มากระทบใจให้เกิดความฝันขึ้นได้ <o:p></o:p>
    บุพพนิมิต คืออารมณ์ที่เกิดขึ้นทางมโนทวาร ซึ่งมาจากอำนาจของกรรมเป็นตัวการ อำนาจของกรรมที่เราได้กระทำไว้ในอดีตชาติก่อนหรือชาตินี้เป็นตัวการมากระทบใจให้เกิดความฝัน แล้วอำนาจของกรรมนี้จะทำให้เกิดความแม่นยำ และความแม่นยำของกรรมที่มากระทบที่เรียกว่าบุพพนิมิตนี้ เป็นความแม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์ หมายความว่าฝันครั้งใดก็จะถูกต้องทุกครั้ง อำนาจของกรรมมีอิทธิพลดังนี้ มากระทบใจให้เกิดความฝันให้ทราบล่วงหน้าได้ ทั้งดีหรือร้าย <o:p></o:p>
    ๒. จิตอาวรณ์ ด้วยอำนาจของจิตที่หน่วงเอาอารมณ์ที่ตนได้เห็น ได้ยิน หรือได้พบมาแล้วเก็บเอาอารมณ์นั้นมาฝัน ความฝันชนิดนี้เกิดด้วยใจจดจ่อผูกพันอามรณ์นั้นเป็นพิเศษ คือคิดถึงเรื่องนั้นๆ บ่อยๆ จึงเรียกว่าเกิดจาก
     
  12. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    ต่ออีกหน่อย...
    เทพสังหรณ์ เทวดามาบอกเหตุร้ายดี<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ในเรื่องนี้ผมก็จะขอเสนอให้ท่านนักศึกษาได้ทราบเสียก่อนว่า การที่บอกว่าเทวดามาเข้าฝันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเทวดาจะต้องมาอยู่ในตัวเรา แต่ว่าเขาใช้อำนาจจิตของเขาเข้ามากระทบจิตของเราเท่านั้น แต่คนโดยมากเรียกว่าเข้าฝัน <o:p></o:p>
    ท่านนักศึกษา ที่มูลนิธิของเราก็เคยได้เชิญผู้แสดงเกี่ยวกับเรื่องของการสะกดจิต คือ เราได้เชิญผู้ที่สามารถสะกดจิตได้ ให้มาสะกดจิตพนักงานหญิงของเรา คนที่ถูกสะกดนั้นตกอยู่ภายใต้อำนาจของเขา เราสั่งให้นั่งก็นั่ง สั่งให้ยืนก็ยืน สั่งให้นอนก็นอน สั่งให้กินพริกแล้วบอกว่าหวาน ก็บอกว่าหวาน อย่างนี้เป็นต้น เขาตั้งเจตนาสั่งจิตของเราอีกทีหนึ่ง <o:p></o:p>
    เพราะฉะนั้นบรรดาพวกเทวดาทั้งหลายที่จะมาเข้าฝันมนุษย์นี้ก็โดยทำนองเดียวกัน คล้ายๆเป็นการสะกดจิต เมื่อเวลาที่เราตกอยู่ในฐานะหลับไม่สนิท ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งก็ตาม ถ้าเราหลับสนิทแล้ว เทวดาก็เข้าฝันไม่ได้ หรือถ้าเรากำลังตื่นอยู่ ก็จะเข้าฝันไม่สำเร็จเหมือนกัน คนที่เพิ่งจะตื่น หรือว่าเพิ่งจะหลับ แต่ยังไม่สนิทนั้น ในขณะนี้จิตของเรายังไม่ได้เป็นภวังค์โดยตลอด ช่องโอกาสก็มี เพราะในขณะนี้เท่ากับเป็นการเปิดช่องโอกาสแล้ว เทวดามีอำนาจทางจิตบังคับทำให้เราเกิดความฝันขึ้นมา <o:p></o:p>
    เมื่อเกิดความฝันแล้วตื่นขึ้นมา บางทีก็จะต้องตีความกันอีก ไม่ใช่ว่าฝันเอาเรื่องอย่างนั้นมาจริงๆ แล้วก็ตรงเรื่องนั้นจริงๆ เสมอไป เช่นว่า ถ้าฝันว่าไปจับของโสโครกแล้วจะมีลาภเป็นต้น ถ้าฝันว่ามีงูมาพันมารัดตัวละก็จะได้คู่รักอย่างนี้ ต้องมาตีความอีกทีหนึ่ง ก็แปลกอยู่ เท่าที่ผมเคยประสบกับตัวเอง และผู้ที่เขาได้ฝันอย่างนี้ก็ดี ผมก็รู้สึกว่า ความถูกต้องนั้นก็มีมากทีเดียว เช่น ฝันว่าไปจับสิ่งโสโครก หรือบางทีไปจับกุ้งจับปลา แล้วมีลาภถูกล๊อตเตอรี่บ้าง มีลาภอะไรต่างๆ บ้าง เรื่องงูนี่ก็เหมือนกัน ในครั้งพุทธกาลก็เกี่ยวกับในเรื่องนี้ ฝันเรื่องงูนี่มีอยู่ในชาดก แล้วเรื่องใหม่ๆ ที่ใครเขียนก็มีอยู่หลายเรื่อง <o:p></o:p>

    .......สรุปแล้ว ถ้าเราวิเคราะห์ความฝันตัวเองได้...เราก็จะรู้ว่าจิตเรายึดเกาะอะไรไว้บ้าง...และหากฝึกฝนจิตมาดี...เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนภพภูมิ เราก็จะไปสู่...สุขคติภูมิ

    แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า ...ผลบาปอกุศลจะหมดไปนะคะ...มันรอให้ผลอยู่เท่านั้นเอง...หากเรารู้เท่าทัน...ระหว่างไปเสวยบุญตอนได้ สุขคติภูมิ และสร้างกุศลมากๆ บาปที่ก่อนั้น ก็จะเจือจางลงจนเป็นอโหสิกรรมได้ ถ้าบุญกุศลที่สร้างในภพใหม่มหาศาลเพียงพอ...เหมือนบาปเป็นเกลืออยู่ในแก้วน้ำ...เมื่อเติมน้ำ (กุศล) ลงไปมากๆจนเป็น เกลือในสระน้ำ หรือในโอ่งขนาดใหญ่...เราก็ชิมไม่รู้รสเกลือ...กลายเป็นบาปเล็กๆ เป็นต้น
     
  13. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้<O:p</O:p


     
  14. เวฬุวัล

    เวฬุวัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,843
    ค่าพลัง:
    +506
    ขอบคุณค่ะ คุณazalia ปกติเป็นคนหลับง่ายน่ะคะ บทจะหลับก็หลับไปเลย..และไม่ค่อยฝันโดยเฉพาะถ้าก่อนที่จะนอนสวดพระค่าถายอดพะกัณฑ์ไตรปิฎก และพระคาถาชินบัญชรค่ะ
     
  15. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    จิตหมกมุ่นกับเรื่องไหนมากๆ จนเป็นอาจิณกรรม คือ สิ่งที่ทำเป็นประจำ คิดเป็นประจำ จะโผล่มาเป็นอนุสติสุดท้ายก่อนตาย อนุสติสุดท้าย เป็นตัวนำไปเกิด ที่พระท่านจะบอกว่าไปที่ชอบที่ชอบ คำว่าชอบ ก็คือสิ่งที่กระทำจนเป็นความเคยชิน เป็นสันดาน เป็นรสนิยม ก็ความชอบส่วนตัวนั่นเอง เมื่อวาระสุดท้ายมาถึงจิตจะทบทวนสิ่งต่างๆ พอเจอที่ชอบจิตก็จะระลึกถึงตรงนั้น ก็ไปเกิดตรงนั้นทันที

    พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้เกิด แต่สอนให้ดับการเกิดในวัฏสงสาร แต่ท่านก็เมตตาแนะนำไว้ว่า

    1. การเกิดเป็นมนุษย์บริบูรณ์ ผู้นั้นจักต้องมีศีล 5 บริสุทธิ์ หรือมากกว่านั้นก็ตามสะดวก
    2. การเกิดในเทวโลก ผู้นั้นจักต้องมีศีล 5 บริสุทธิ์ และหิริโอตัปปะ หรือมากกว่านั้น
    3. การเกิดในพรหมโลก ผู้นั้นจักต้องมีศีล 5 บริสุทธิ์ หิริโอตัปปะ และทรงณาน

    สำหรับอนุสติ คือความระลึกถึงทางพุทธศาสนาแนะนำไว้ 10 ประการ ดังนี้

    พุทธานุสติ - ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า
    ธัมมานุสติ - ระลึกถึงคุณของพระธรรม
    สังฆานุสติ - ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์
    ลีลานุสติ - ระลึกถึงศีลที่ตนรักษา
    จาคานุสติ - ระลึกถึงทานที่ตนบริจาค
    เทวตานุสติ - ระลึกถึงคุณที่ทำให้คนเป็นเทวดา
    มรณัสสติ - ระลึกถึงความตายที่จะต้องมีเป็นธรรมดา
    กายคตาสติ - ระลึกทั่วไปในกายให้เห็นว่าไม่งาม
    อาณาปานสติ - ตั้งสติกำหนดลมหายใจเข้าออก
    อุปสมานุสติ - ระลึกถึงธรรมเป็นที่สงบระงับกิเลสและความทุกข์ คือนิพาน


    เลือกได้นะจ๊ะ เลือกได้ ว่าจะไปที่ไหนตามที่ชอบที่ชอบ
    <!-- / message -->
     
  16. momogo

    momogo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +1,158
    แล้วถ้าฝันทั้งสองอย่าง สองขั้วล่ะคะ

    ทั้ง ผี วิญญาณ

    และพระสงฆ์

    จะเป็นรูปแบบไหนคะ
     
  17. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    ที่จริงเขาให้วิเคราะห์ดูแนวโน้มของจิตว่า...มีความยึดเหนี่ยวสิ่งใดอยู่มาก
    ...ถูกกระตุ้นได้ง่ายด้วยอารมณ์ใด ...เป็นกุศล...หรืออกุศล
    เพื่อจะได้ฝึกการปล่อยวาง มิเช่นนั้นเมื่อตอนใกล้ตาย หากจิตเข้าไปจับอารมณ์อันเป็นอกุศลและจิตดับไปตอนนั้น ก็จะทำให้ไปเกิดใน อบายภูมิ หรือ ทุคติภูมิ แทน จากนั้นค่อยมาเสวยบุญทีหลัง (ทั้งที่สั่งสมบุญกุศลมามาก) ...

    เช่น ... คนที่ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย แต่ชอบทำบุญ ตักบาตร และช่วยเหลือคนอื่นอยู่เป็นอาจิณ ... พอใกล้ตายแทนที่จิตจะระลึกถึงบุญกุศลที่ทำ ... แต่เนื่องจากเป็นคนหงุดหงิดง่าย ... ไม่พอใจหมอกับพยาบาลที่มาดูแลตัวเองช้า...ปล่อยให้ปวดอยู่ได้...จิตถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์นี้ สลัดไปหลุด ..จิตดับไปพร้อมกับความโกรธ ... ก็ไปเกิดในอบายภูมิ...รับกรรมระยะหนึ่งตามอกุศลที่เยสะสมไว้...หมดสิ้นอกุศลกรรม..จึงค่อยมาเกิดเป็นมนุษย์หรือเทวดา...เสวยบุญที่ตนเองสั่งสมไว้ทีหลัง เป็นต้น

    การไปเกิด อบายภูมิ หรือ ทุคติภูมิ ซึ่งได้แก่ภูมิของสัตว์นั้น เป็นการขัดขวางการพัฒนาจิต ...และมีโอกาสสั่งสมบุญกุศลได้ยาก เนื่องจากจิตของผู้ที่ไปเกิดในอบายภูมินั้น มีแต่รับทุกข์เวทนาตลอดจนไม่มีโอกาสสั่งสมบุญกุศลใด ... ส่วนภพภูมิของสัตว์ก็มีปัญญาน้อยเรียนรู้อะไรไม่ได้ มีชีวิตอยู่โดยใช้สัญชาติญาณเพียงอย่างเดียว ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี จึงทำบุญกุศลยาก ...

    เมื่อจิตดวงไหนไปเกิดใน อบายภูมิ หรือ ภพภูมิของสัตว์ นานๆ ...ติดๆกันหลายภพชาติ ...ก็จะติดนิสัยนั้นมา ทำให้ขัดเกลาจิตยากขึ้น...แล้วก็มีโอกาสสร้างบาปอกุศลจากความไม่รู้ (อันเป็นโมหะจริต) ได้ง่าย...แล้วก็ได้วนเวียนไปเกิดในภพภูมินั้นอีก ... เป็นสังสารวัฏ...ไม่มีที่สิ้นสุดค่ะ

    ดังนั้นจึงต้องเกาะติด "สุขคติภูมิ คือ มนุษย์และเทวดา" ไว้ก่อน เพื่อที่จะสั่งสมบุญกุศลและขัดเกลาจิต ...จนกว่าจะเข้าถึง "นิพพาน" อันเป็นเป้าหมายสูงสุด

    ....ต้องสังเกตุตัวเองดีๆว่า ... จิตถูกกระตุ้นด้วย อกุศล หรือ กุศล ได้ง่ายกว่ากันและดูว่าเมื่อจิตยึดเหนี่ยวแล้ว...อันไหนปล่อยวางได้ยากกว่ากัน ... จะได้ไปรีบฝึกฝน...เพื่อความไม่ประมาท...ก่อนเวลาแห่งการเปลี่ยนภพภูมิจะมาถึงค่ะ...
     
  18. azalia

    azalia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +579
    ขออนุโมทนาทุกๆ ท่านนะคะ...

    ในส่วนตัวก็กำลังวิเคราะห์จิตตนเองอยู่เหมือนกัน...และพยายามฝึกการปล่อยวางเรื่องยึดเหนี่ยวอันเป็น "อกุศลกรรม" อยู่ค่ะ...
    ดูไปดูมา ...กลายเป็น "ดูจิต" เข้าวิปัสสนาไปโดยปริยาย....
    แล้วก็เป็นวิปัสสนาในชีวิตประจำวัน ...
    เฝ้าดูสิ่งที่มากระทบ...แล้วเกิดอารมณ์ใด...มีการปรุงแต่ง จากตัณหา-อุปาทาน แล้วมียึดมั่นถือมั่น .... จนเห็น "ขันธ์ 5"
    จึงรู้ว่า "ขันธ์ 5" นี่แหละคือตัวทุกข์
     
  19. samusunn

    samusunn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    517
    ค่าพลัง:
    +878
    ส่วนมากก็ฝันเห็นแต่วัด พระ หรือไม่ก็พราหมณ์ หรือไม่ก็ได้ทำบุญ ตักบาต วนเวียนอยู่อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...