ถ้ายังมีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามหลักธรรมหลักวินัยพระอรหันต์ไม่สูญจากโลกนะอานนท์

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 27 เมษายน 2013.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    เราพูดจริง ๆ นะ เรามันจืดชืดกับเรื่องหาเงินหาทองเอาไว้เป็นกองกงกองกลางอะไรสำหรับพระเรา พระพุทธเจ้าไม่ได้หาเงินหาทองมาเป็นกองกลางอะไร ให้เป็นทุนเป็นรอน หาอรรถหาธรรมให้พระสงฆ์ สอนพระสงฆ์ให้เป็นต้นทุนขึ้นที่นี่ มีเท่านั้น ๆ เรื่องเงินเรื่องทองนี้ โห ตรัสอย่างเด็ดขาดนะ แต่พระเรามันดื้อด้านต่างหาก พระพุทธเจ้ารับสั่งไว้อย่างเด็ดขาด พระวินัยข้อนี้เป็นกรณีพิเศษเด็ดขาด คือไม่ให้พระมายุ่งกับสิ่งเหล่านี้เลย มันจะขาดเพราะมันเป็นอันตรายต่ออรรถต่อธรรม ท่านจึงตัดขาดไว้เลย ทรงบัญญัติว่าห้ามไม่ให้ภิกษุมาจับต้องเงินต้องทองอะไร ถ้าจับแล้วปรับอาบัติ ของเป็นนิสสัคคีย์ต้องเสียสละทิ้งไปเลย ไม่ใช่เสียสละแล้วเอามาเป็นของตัวเอง เสียสละแล้วทิ้งไปเลย เจ้าของก็เป็นอาบัติ ต้องไปแสดงอาบัติปาจิตตีย์

    การเสียสละนั้นท่านรับสั่งในพระวินัย ให้พระสงฆ์ตั้งแต่สี่รูปขึ้นไปมาเป็นคณะสงฆ์ แล้วพระองค์ไปจับเงินจับทองเป็นอาบัตินั้น ให้มาเสียสละเงินที่จับมาได้มานั้นต่อหน้าสงฆ์สี่องค์ พอเสร็จแล้วก็ให้สมมุติพระอีกองค์หนึ่ง เสียสละเรียบร้อยแล้วมอบให้พระอีกองค์หนึ่งนี้เอาไปโยนทิ้งในป่า ห้ามไม่ให้กำหนดที่ตก ฟังซิน่ะ คือถ้ายังกำหนดที่ตกก็เรียกว่ายังหมายที่จะไปเอาอยู่ใช่ไหม ห้ามไม่ให้กำหนดที่ตก ถ้ายังกำหนดที่ตกไม่พ้นอาบัติ ปรับอาบัติอีก นู่นฟังซิพระวินัยข้อนี้ของเล่นเมื่อไร

    แล้วมันเป็นยังไงกับทุกวันนี้ มันหน้าด้านขนาดไหนพระเรา ฟังซิน่ะ เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปต่อหน้าต่อตา พระวินัยนี้คือองค์ศาสดา นี่ละข้อนี้ถ้าใครยังไม่เข้าใจให้จำพระวินัยข้อนี้ พระวินัยข้อเกี่ยวกับเรื่องเงินเรื่องทอง ถ้าเป็นปาฏิโมกข์ท่านก็สวดเป็นปาฏิโมกข์ ชาตรูปรชตํ อุคฺคณฺเหยฺย วา อุคฺคณฺหาเปยฺย วา อุปนิกฺขิตฺตํ วา สาทิเยยฺย, นิสฺสคฺคิยํ ปาจิตฺติยํ. ใช่ไหม เราไม่ได้ลืมนะปาฏิโมกข์เราสวดมาเสียพอแล้ว (นึกว่าลืมแล้ว) ก็นึกเอาเฉย ๆ นึกบ้า ๆ บอ ๆ คนหนึ่งไม่ลืม คนหนึ่งมานึกเอาเฉย ๆ มันก็นึกบ้า ๆ บอ ๆ ละซี นี่ละบาลีข้อนี้ สิกขาบท ๑๘ นิสสัคคีย์ เข้าใจไหมล่ะ นั่นจำได้จนกระทั่งสิกขาบท ๑๘ นิสสัคคีย์ ภิกษุใดจับเงินและทอง หรือให้เขาเก็บไว้เพื่อตนก็ดี อุคฺคณฺเหยฺย วา.เก็บเองก็ดี อุคฺคณฺหาเปยฺย วา ยังคนอื่นให้เก็บก็ดี อุปนิกฺขิตฺตํ วา.หรือยินดีเงินและทองที่เก็บไว้เพื่อตนก็ดี ของนั้นต้องเสียสละ เงินนี้ นิสสัคคีย์ นั่นเสียสละ ปาจิตตีย์เจ้าของต้องไปแสดงอาบัติ

    เมื่อเสียสละเงินนี้แล้ว ก็ให้สมมุติพระสงฆ์สี่องค์นี้ละเป็นผู้จะสมมุติ ให้พระอีกองค์หนึ่งเอาเงินที่พระองค์เป็นโทษจับมานี้ให้ไปปาเข้าป่า ฟังซิน่ะ แล้วห้ามไม่ให้กำหนดที่ตกด้วย ถ้ายังกำหนดที่ตกว่าตกตรงไหน ๆ แล้วไม่พ้นอาบัติ ปรับอาบัติอีก นู่นน่ะท่านเด็ดขาดมาก สำหรับเงินทองเหล่านี้เด็ดขาดมากทีเดียว นี่ละข้อนี้จำเอา เอามาจากปาฏิโมกข์เลย สวดภาษาบาลีให้ฟังอีกด้วยใช่ไหมล่ะ นี่เป็นข้อบัญญัติต้น ทีนี้อนุบัญญัติที่สอง เมณฑกเศรษฐี ที่เป็นพ่อของธนัญชัยเศรษฐี และเป็นปู่ของนางวิสาขา เห็นความลำบากลำบนของพระเจ้าพระสงฆ์ที่มาจากสกุลต่าง ๆ กัน บางสกุลมาจากพระราชามหากษัตริย์ เศรษฐีกุฎุมพี ซึ่งมีความละเอียดอ่อนต่างกัน ครั้นเวลามาสมบุกสมบันอย่างพระทั้งหลายแล้วจะเป็นความลำบากต่อท่าน

    เมณฑกเศรษฐีจึงไปขอทรงผ่อนผันลง ทรงขอความผ่อนผันจากพระพุทธเจ้า ก็เล่าเรื่องสกุลต่าง ๆ ที่ว่า ทูลพระพุทธเจ้าเรียบร้อยแล้ว พระพุทธเจ้าก็ทรงผ่อนผันลง ถ้าอย่างงั้นก็ทรงอนุญาตให้คนอื่นเก็บไว้ได้ แต่เพื่อกัปปิยภัณฑ์ที่เจ้าของต้องการ ถ้ามายินดีในเงินและทองไม่พ้นอาบัติอีก นั่นเห็นไหมล่ะ คือทรงอนุญาตเฉพาะปัจจัยที่เขาจะแลกเปลี่ยนกัปปิยภัณฑ์อะไรมานั่นเท่านั้น ให้ยินดีเพียงเท่านั้น จะยินดีเงินและทองที่เขาเก็บไว้เพื่อตนนี้ไม่พ้นอาบัติอีก นั่นเห็นไหม พระพุทธเจ้าทรงผ่อนผันแล้วยังเหน็บเข้าไปอีก เพราะท่านเห็นภัยกับสิ่งเหล่านี้

    พระถ้ามายุ่งกับเงินกับทองแล้วจะไม่มีอรรถมีธรรมภายในใจ จะกลายเป็นเศรษฐีเงินไป เรื่องเศรษฐีธรรมจะไม่มีหวังเลย พระองค์ถึงได้ตรัสลงขนาดนั้น อันนี้ตรัสเด็ดขาดมากทีเดียวกว่าพระวินัยทั้งหลาย ขนาดให้พระถึงสี่องค์มาแสดง มาเสียสละต่อพระตั้งสี่องค์ด้วยกัน เสร็จแล้วก็ให้แสดงอาบัติ แสดงโทษของตัวต่อพระสี่องค์ถึงจะพ้นอาบัติไปได้ แล้วสมมุติพระองค์ใดก็ได้ให้มาเอาเงินนี้ไปปาเข้าป่า ห้ามกำหนดที่ตก ถ้ายังกำหนดที่ตกว่าที่ใดที่หนึ่งอยู่แล้วไม่พ้นอาบัติ นั่นเห็นไหม เด็ดขนาดนั้นพระวินัยข้อนี้ เพราะอันนี้เป็นภัยมาก

    เมื่อมีเงินมีทองข้าวของเรื่องกิเลสตัณหาจะพอกพูนขึ้นไปเรื่อย ๆ ละ ตัวนี้เป็นตัวสำคัญมาก จึงตัดให้ขาด ไม่มีอะไรเลยทีเดียวติดเนื้อติดตัว ให้เหลือแต่บริขารแปด ปฏิบัติธรรมเพื่ออรรถเพื่อธรรมโดยถ่ายเดียว แล้วก็เพื่อมรรค ผล นิพพาน พระในครั้งพุทธกาล ท่านบัญญัติไว้อย่างนั้น ก็บัญญัติมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ถึงพระเราสมัยปัจจุบันนี้ นี่เรื่องราวมันเป็นอย่างงั้น พระที่ท่านทรงมรรคทรงผลท่านปฏิบัติตามศาสดานี่นะ องค์ศาสดาติดแนบอยู่กับธรรมกับวินัยที่เป็นองค์แทนของศาสดาตลอดไปเลย ใครที่มีหลักธรรมหลักวินัยติดแนบกับตัวก็แสดงว่ามีศาสดาติดกับตัว มรรค ผล นิพพานจะไม่ต้องไปดูที่ไหน

    ท่านไม่ชี้ไปที่ไหนเรื่องมรรค ผล นิพพาน ให้ชี้ลงในธรรมในวินัย นี้คือทางก้าวเดินเพื่อมรรค ผล นิพพาน ถ้าไม่ผิดพลาดจากนี้แล้วมรรค ผล นิพพานจะเจอไม่สงสัย เพราะธรรมนี้ชี้ไว้เพื่อมรรค ผล นิพพาน ไม่เป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้นท่านถึงให้เคารพธรรมเคารพวินัย อย่าข้ามเกินฝ่าฝืน ให้ปฏิบัติตามนี้แล้วจะเจอมรรค ผล นิพพาน ตามนี้แหละ ไปดูที่อื่นดูโลก ๆ ไปเฉย ๆ ไม่เกิดประโยชน์ ให้ดูหลักธรรมหลักวินัยที่เป็นเข็มทิศทางเดินเพื่อมรรค ผล นิพพาน อันนี้แม่นยำ

    “ดูก่อนอานนท์ ถ้ายังมีผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามหลักธรรมหลักวินัยที่แสดงไว้แล้วอยู่ พระอรหันต์ไม่สูญจากโลกนะอานนท์” นั่นฟังซิ บอกว่าถ้ามีผู้ปฏิบัติตามนี้อยู่พระอรหันต์ไม่สูญจากโลก ไม่ได้บอกว่า ถ้าใครไปคว้าเอานู้นๆ แล้วพระอรหันต์ไม่สูญจากโลกนะอานนท์ ไม่เห็นว่า ท่านสอนลงในจุดนี้ จุดนี้เป็นจุดที่ตักตวงเอามรรค ผล นิพพาน ถ้ามองข้ามนี้แล้วก็เหยียบหัวพระพุทธเจ้าไปเลย ไม่มีศาสดา ไม่มีความหมายละ

    วันนี้ก็ไปเทศน์ที่โรงพยาบาลวชิระอีกตอนบ่ายโมงครึ่ง เทศน์วันนี้หลงหน้าหลงหลังนะ ไม่ทราบเป็นยังไงมันตัดเรื่อยนะเทศน์วันนี้นะ รู้อยู่เจ้าของ เทศน์ไปตัดปุ๊บๆ อยู่เรื่อย ต่อไปจะเทศน์ไม่ได้บอกแล้ว คือมันหลง พอเทศน์ไปแล้วลืมหายเงียบไปเลย ไม่ทราบว่าพูดเรื่องอะไรไป มันจะต่อกันได้ยังไงก็เมื่อทางข้างหลังนี่ตัดขาดแล้วลืมแล้วว่าเทศน์เรื่องอะไรมา ข้างหน้ามันต่อใหม่มันก็ขาดวรรคขาดตอนไป อย่างนั้นละ วันนี้เด่นชัดมากนะ มันแป็บเรื่อย ๆ ระวังขนาดไหนมันก็ตัดของมันอยู่นั้น ไม่มากก็ตัด ถึงคนอื่นไม่ทราบเจ้าของก็ทราบวันนี้ แต่ไม่พ้นแหละคนอื่นจะไม่ทราบ ต้องทราบ จากนั้นทีนี้ก็ต่อใหม่ มันติดกันก็เหมือนกับไม่รู้ บางทีอาจไม่รู้ก็ได้ มันตัดของมันอยู่เรื่อย ๆ

    เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม
    เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖ [ค่ำ]
    นิสสัคคีย์
    Luangta.Com -
    (คัดลอกมาบางส่วน)
     

แชร์หน้านี้

Loading...