ถามเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับเทพทั้งหลาย

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย เตโชธาตุ, 6 ตุลาคม 2010.

แท็ก: แก้ไข
  1. เตโชธาตุ

    เตโชธาตุ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    เรานั้นเป็นคนธรรมดาคนนึงที่นับถือศาสนาพุทธเพราะว่าคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นยึดหลักการและเหตุผลเป็นหลัก แต่เรื่องที่ เราข้องใจ หาคำตอบที่แน่ชัดไม่ได้ก็คือ เรื่อง เทพ ทั้งหลายที่จะอาสาดูแลพุทธศาสนา หลังจากอายุศาสนาล่วงเข้าสู่ปีที่ 2500
    ขอไม่อ้างอิงเวบเพราะเสิชหาใน google ยังไงก็เจอ
    ถ้าข้อความข้างต้นเป็นเรื่องจริง อยากจะถามผู้ที่ศึกษาพระไตรปิฏกมานานว่า ข้อความดังกล่าวอยู่ในพระไตรปิฏกสูตรใหนหรอ

    ที่เราถามเพราะเราอ้างอิงจาก หลักการเชื่อ ตามพระพุทธศาสนา กาลามสูตร ๑๐

    ๑. มา อนุสฺสาเวน อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา
    เรื่องเทพนี้เราฟังมาเยอะ แล้วก็สงสัยว่าทำไมประเทศไทยถึงมีเทพหลายเชื้อชาติจัง ทั้งจีน ทั้งอินเดียโดยเฉพาะเทพของศาสนาฮินดู แต่แปลก ทำไม ศาสนาฮินดูไม่มีพิธีกรรม แบบนี้

    ๒. มา ปรมฺปราย อย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กันมา
    เราจะเชื่อก็ต่อเมื่อมีหลักฐานแหละพยานสามารถพิสูจน์ได้เท่านั้น

    ๓. มา อิติ กิราย อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว
    ต่อให้เป็นข่าวยังไงเราก็ต้องสืบหาข้อเท็จจริงให้จงได้

    ๔. มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก รึอ้างตามตำรา
    เพราะพระไตรปิฏก เขียนขึ้นหลังจากพระพุทธเจ้านิพานแล้ว บางอย่างย่อมมีผิดพลาดบ้าง

    ๕. มา ตกฺกเหตุ อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง
    เพราะเราไม่ชอบนึกเอาเองเราเลยมาตั้งคำถามในบอร์ด

    ๖. มา นยเหตุ อย่าเชื่อโดยคาดคะเน

    เพราะการคาดคะเนมีทั้งความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้

    ๗. มา อาการปริวิตกฺเกน อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ

    ต่อให้คนชักแง๊กๆแล้วบอกว่า เจ้าประทับเราก้ไม่เชื่อ ยกตัวอย่าคลิปเจ้าแม่กวนอิม ในเวบ youtube เห็นบอกว่าเป็นเจ้าแม่กวนอิมปางปราบมารเลยทำหน้าดุได้ น่าเชื่อมั้ยนิ

    ๘. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนกฺขนฺติยา อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน
    เพราะถ้าเชื่อเพราะถูกตามลัทธิจะทำให้เกิดการลำเอียง

    ๙. มา ภพฺพรูปตาย อย่าเชื่อโดยเห็นว่า ผู้พูดควรเชื่อได้

    ต่อให้คุณวุฒิและวัยวุฒิสูงกว่าถ้าพูดเลื่อนลอยไม่มีหลักการและเหตุผลพอ เราก็ไม่เชื่อ

    ๑๐. มา สมโฌ โน ครุ อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของตน

    เพราะสี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง

    ทีนี้เราขอให้ผู้รู้ทั้งหลาย ช่วยชี้ทางสว่างไขความกระจ่างเรื่องนี้ให้เราที

    ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
     
  2. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ในพระสุตันปิฎก มีหลายร้อยพระสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสเกี่ยวกับเรื่องเปรต เทพเทวดา พระอินทร์ พรหม ต่าง ๆ ในพระอภิธรรมปิฎกก็อธิบายถึงการเวียนว่ายตายเกิด อธิบายถึงภพภูมิต่าง ๆ ทั้ง ๓๑ ภพ

    ถ้าไม่เชื่อเรื่องว่ามีสัตว์ภพอื่น ๆ พวกสัตว์นรก พวกเปรต พวกเทวดา พวกพรหม แสดงว่าไม่เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ถ้าไม่เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด แสดงว่าเชื่อเรื่องการตายแล้วสูญ ถ้าเชื่อเรื่องตายแล้วสูญแล้วการทำดีทำชั่วล่ะ?คงจะไม่มีผล เหล่านี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ ถ้าตายแล้วสูญ แล้วใครมันมาเกิด คนมาจากไหน มันต้องมีเหตุที่มา

    ที่จริงแล้วการทำสมาธิแล้วเห็นเทวดา แล้วหลง ภพ(การเป็น)เทวดา การเป็นพรหม อันนี้เป็น ๑ ใน ๑๐ อย่างของวิปัสสนูกิเลส (กิเลสของวิปัสสนา) รู้เห็นก็สักแต่ว่ารู้เห็นไม่ได้ให้ไปหลงเพราะจะทำให้ขัดขวางความก้าวหน้าในการปฏิบัติ

    แล้วเห็นการเวียนว่ายตายเกิดของเหล่าสัตว์ในภพภูมิอื่น ๆ มีประโยชน์ไหม ? หนึ่งในวิชชาสามคือจุตูปปาตญาณ คือ มีตาทิพย์เห็นการเกิดการตายของสัตว์ในภพภูมิต่าง ๆ เห็นแล้วก็หมดความสงสัยเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ก็คลายความยึดมั่นถือมั่น ก็หน่ายคลายกำหนัด ได้ อันนี้ก็มีคุณต่อการรู้แจ้งเหมือนกัน

    อย่ากังวลสงสัยให้วุ่นวายใจ นักปฏิบัติทั้งหลายที่เขาทำมามากแล้วทำมาถูกทาง เขาไม่สงสัยเรื่องเหล่านี้แล้วเพราะเห็นมาหมดแล้ว

    พิสูจน์เลยครับ

    สมาธิที่ตั้งมั่นจิตรวมเป็นหนึ่ง เข้าไปเรื่อย ๆ ถ้าจะให้ตั้งมั่นมีกำลังมากก็ให้ถึงฌาน ๔ ทำให้คล่อง ทำให้มาก เมื่อถึงฌาน ๔ ก็ใช้เป็นที่เติมกำลัง แล้วน้อมจิตไปเพื่อรู้เห็นอะไร ก็จะรู้จะเห็น เทวดาก็เรื่องเล็กล่ะครับ

    ที่เป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้คือ สงสัยแต่ไม่ใช้ความเพียรพิสูจน์ให้แจ้ง

    เรื่องแบบนี้คนที่เขารู้เขาเห็นเขาก็ไม่มาบอกมาคุยกันเป็นสาธารณะหรอกครับ ถ้าไม่เชื่อก็จะเถียงกันไปกันมา มีตัวอย่างมาแล้วในเว็บนี้แหละ เรื่องแบบนี้คนที่เขาทำเขารู้เขาเห็นเขาก็คุยกันเอง ครูบาอาจารย์ก็สอนแบบนี้ว่า อย่าไปเที่ยวคุยไปทั่วคนที่เขาไม่เชื่อเขาจะว่าเราโกหก เขาจะว่าเราบ้า

    ถ้ามีคนบอว่ารู้ว่าเห็นจริงแล้วคนฟังจะเชื่อตามแบบไม่สงสัยไหม รับรองไม่เชื่อ ดังนั้นมันไม่มีประโยชน์จะคุยกันเถียงกัน ไปกว่า

    การทำให้รู้ให้เห็นได้ด้วยตัวเอง จะได้หายสงสัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2010
  3. เตโชธาตุ

    เตโชธาตุ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    ใช่ เรายอมรับว่าเราสงสัย ที่สงสัย ไม่ได้สงสัยว่าภพภูมิอื่นๆมีจริงหรือไม่
    ที่เราสงสัยคือ เนื้อหาของบทความนี้ต่างหาก
    พระสุตัตตปิฏก ได้พูดถึงภพภูมิอื่นๆไว้
    แต่บทความ นี้ยังไงก็หาไม่เจอ
    ไม่รู้ว่ามีอยู่ในพระไตรปิฏก รึ ว่า มี คน เขียนขึ้นเอง
    ไม่รู้ก็ต้องถาม เพราะ ความสงสัยทำให้เราเกิดคำถาม
    เมื่อเกิดคำถาม ก็ คือ การพยายามหาคำตอบ
    เมื่อหาคำตอบเองไม่ได้ เราก็ต้องการคำแนะนำจากผู้รู้
    เราผิดหรือ รึว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรถาม
     
  4. อ้วนจัง2

    อ้วนจัง2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +375
    เชิญที่เว็บ ชุมชนคนมีองค์เลยครับ:cool:
     
  5. เตโชธาตุ

    เตโชธาตุ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    เอานี่ไป อ่าน นะ ท่าน

    พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 14

    ข้อความบางตอนจากพรหมชาลสูตร
    (๒๔) ๖. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิด

    ด้วยติรัจฉานวิชา อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขา

    ให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้

    คือ ให้ฤกษ์อาวาหมงคล ฤกษ์วิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์

    หย่าร้าง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย
    ให้

    ยาผดุงครรภ์ ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้าง ร่ายมนต์ให้คางแข็ง ร่ายมนต์ให้

    มือสั่น ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง เป็นหมอทรงกระจก เป็นหมอทรง

    หญิงสาว เป็นหมอทรงเจ้าบวงสรวงพระอาทิตย์ บวงสรวงท้าวมหาพรหม


    ร่ายมนต์พ่นไฟ ทำพิธีเชิญขวัญ. ฯลฯ



    แล้ว แบบนี้จะไม่ให้เรา สงใสได้เยี่ยงไร ขัดแย้งกันซะขนาดนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...