ถามผู้รู้เกี่ยวกับ ฌาน กับ สติปัฏฐาน ครับ

1. ถ้าได้ฌาน 3 แต่ไม่ฝึกกสิณต่อ แต่จะเจริญสติปัฏฐาน 4 แทน จะนิพพานได้ไหมครับแล้วจะต่อ ยอดกันได้ไหมครับfficeffice" /><O></O>
<O></O>
2.ตอนเจริญสติปัฏฐานได้ 45 นาที ตัวเริ่มโยก เกิดปีติมันหมายความว่าอย่างไรครับ(ผมรูสึกว่าเหมือนเอา 2 อย่างมาปนกัน) ผมเริ่มงง<O></O>
<O></O>
**มี่ไม่ฝึกกสิณเพราะ เรื่องสุขภาพครับ**<O></O>
<O></O>

 

ขออนุญาตตอบครับ

1) สามารถเจริญสติปัฏฐาน 4 สลับกับการเข้าฌาณได้ครับ โดยถอนจิตออกจากฌาณมาอยู่ที่ปัจจุบันแล้วเจริญสติปัฏฐาน 4 ต่อไป อาศัยอารมณ์ของฌาณข่มนิวรณ์ลงชั่วขณะทำให้เจริญสติได้ดีขึ้นครับ ถ้าเจริญสติปัฏฐาน 4 ได้ก้าวหน้าถูกทาง ในที่สุด ก็สามารถทำนิิพพานให้แจ้งได้ครับ เมื่อเจริญสติได้ถูกส่วนดีแล้วแล้วการเจริญฌาณก็จะก้าวหน้าได้ดีด้วย

ให้คอยสังเกตุและปรับสมดุลย์ของอินทรีย์ 5 (หรือ พละ 5)คือ สติ สมาธิ ปัญญา ศรัทธา และ วิริยะ แล้วหมั่นเจริญอินทรีย์ 5 นี้ให้มาก ให้ประกอบอยู่เนืองๆอย่างสมดุลย์ในสติปัฏฐาน 4


2) อินทรีย์ 5 ไม่สมดุลย์ สมาธิพละ มากไป จนเกิดปิติมาก ให้ปรับ วิริยะให้มากขึ้น คือพยายามไม่ยินดี พยายามไม่ติดใจในปิติ พยายามใช้สติประคองดูอาการของปิติอยู่ิแบบวางเฉย ให้เห็นความเกิดขึ้น ความเสื่อมไปของปิติ และให้รู้ชัดเหตุที่ทำให้ปิติเกิด และเหตุที่ทำให้ปิติเสื่อมไป

 

เจริญสติก็ได้สัมมาสมาธิเองครับ สมถะกับวิปัสนา ไม่ควรเสียเวลามาแยก เพราะของมัน ร่วมกัน ฌาณเป็นความสุขที่ไม่ควรกลัวควรเสพให้มาก ฌานที่ได้ไม่รู้ว่าของแท้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ถ้าได้อัปนาสมาธิ ก็สามารถเกิดฌานตามมา อัปนาสมาธิก็มาจากการเจริญสติต่อเนื่องตั้งมั้น เป็นกลางธรรมชาติ

 

หาอ่านวิมุติธรรม ของพระอาจารย์ นาวี วัดถ้ฎดอยโตนดูนะครับ

 

อย่าลืมว่า สัมมาสมาธิเป็น องค์มรรค นะครับ และจะเกิดเมื่อเจริญสติได้ถูกส่วน อานาปานสติเป็นการเจริญสติ ที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ

 

ดีใจจังเลยค่ะ ยังมีครูดีที่มีเมตตาช่วยแนะนำในเว็บนี้อยู่



กลัวว่าจะหายไปเสียแล้ว

 

ขออนุโมทนาธรรมทานจากท่านผู้เดินทาง
และขอเสริมดังนี้

1. ระหว่างเข้าและออกณานขั้นต่างๆ มีจิตบางดวงอยู่ระหว่างณานเป็น
ภวังคจิต สามารถใช้สติปัฏฐานสี่ เข้ามาร่วมพิจารณาได้ทันที แล้วเข้า
วิปัสสนากรรมฐานพิจารณา "สภาวะธรรม" อย่างต่อเนื่องได้ตลอด ดัง
นี้ ทำให้มีสติรู้ตัวเวลาเข้าและออกณานไปไหนต่อไหนได้ตลอดครับ

ส่วน "ณาน 3" นั้นเป็น อรูปณานขั้นสาม หรือ รูปณานขั้นสาม นะครับ?
หากเป็น "อรูปณาน" ให้ใช้สติปัฏฐานสี่ช่วยไม่หลง แล้วเข้าวิปัสสนาต่อ
ให้เห็นสภาวะธรรม ก็สามารถรับรู้ "อนัตตา" ของกายในได้ครับ

ส่วนรูปณานสาม ก็สามารถพิจารณา "รูป" ของกายในได้ หากได้มโนมยิทธิ
ก็จะรับรู้ด้วยใจ หากได้ทิพยจักขุก็เห็นได้ด้วยตาทิพย์ จึงรู้ "รูปนาม" ของกาย
ใน ซึ่งก็คือ รูปนามของวิญญาณ หรือ "กายทิพย์" นั่นเอง

2. หากตัวเริ่มโยก ให้ใช้สติปัฏฐานสี่มาช่วยดีกว่า "ดูเฉยๆ" อย่าไปยึด อย่ายื้อ
ไม่ต้องห้าม ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องกระทำ "ดูเฉยๆ" แล้วภาวนาว่า "คลายลงๆ" ก็
จะหยุดนิ่งลงได้ ยิ่งยื้อดึงจะยิ่งหมุนแรงขึ้น เพราะแรงจากการยื้อนี่แหละ