ถามครับผมฝึกอานาปานุสติ2-3 เดือนแล้วฌาณ4ไม่เห็นได้เลย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 22 มกราคม 2012.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สวัสดีครับ ผมฝึกอานาปนุสติ ภาวนาพุทโธไปด้วย ควบคู่กันไป แต่ภาวนาพุทโธเนี่ยไม่ถึงเดือน 2 เดือนแรก ผมดูแต่ลมหายใจ 20 วันกว่าๆผมภาวนาพุทโธไปด้วย

    ผลที่ได้คือ แต่ก่อนผมคิดปรามาส ตอนนี้เบาลง เริ่มเบื่อไม่รู้จะด่าไปทําไมเหนื่อยคิด เหนื่อยปรุงแต่ง ก็หยุดลง หันไปดูลมหายใจต่อ

    อ่อผม ไม่ได้นั่งสมาธิแล้วฝึกอานาปานุสตินะครับ ผมเวลาจะไปโรงเรียนขี่จักรยานตร์ก็ภาวนา เวลาเรียน ถ้ารู้สึกตัวก็ภาวนา ตอนไหนรู้สึกตัวก็ภาวนา
    ฌาณ 4ผมไม่เห็นได้เลย ฌาณ1ผมเข้าฌาณ1ได้ ตอนอยู่เมืองไทย สามสี่เดือนก่อน ตอนนั้น ผมไปวัดอธิฐาณจิตต่อพระพุทธรูป (วันพระไปทําบุญด้วย) แล้วก็รู้สึกเหมือนฌาณ1 แต่ไม่ในใจว่าฌาณ1 ละเปล่า แต่ว่าฌาณ1 สบายดีปลอดโปร่ง เหมือนจะบินตัวจะลอยแต่ไม่ลอย คือเดินไม่เต็มเท้าเหมือนจะลอยแ

    คือ ผมไม่ได้นัง่สมาธิแล้วฝึกอานาปานุสติ จะ มาฝึกก่อนจะนอน เวลาไปไหนไปเที่ยวเล่นคอม ทําอะไรหลายอย่างๆ เช่นสมมุตินะครับ

    เล่นเกมอยู่ แล้วภาวนาไปด้วย ฌาณไม่เห็นได้เลย
    อาบน้ำ ภาวนาไปด้วย เข้าห้องน้ำภาวนาไปด้วย คุยกับเพื่อน มองดูสภาพแวดล้อมก็ดูลมหายใจควบคู่ภาวนาว่าพุทโธ ไปด้วย ฌาณไม่เห็นได้เลย

    อ่อตั้งแต่4 เดือนก่อนที่ผมนั่งสมาธิแล้วมีความสุข ปิติเกิด แต่พอมาตอนนี้ ปิติมันไม่เกิดมันไม่รู้สึกเหมือนตอนนั้น ตอนั้นมันรู้สึกสนุกหรรษา ถ้าจะให้นั่งจนตายก็เอามันสุขจริงๆ สุขทางโลก หญิงกินอะไรทุกอย่างไม่เท่าไอ้นี้เลย

    ขอย้ำ 2-3 เดือนนี้ที่ผมฝึกผมไม่ได้นั่งสมาธิ แต่จะไปเป็นนอน เดิน ทํากิจกรรมแล้วภาวนาไปด้วยมากกว่า ไม่ใช่จดจ่ออยู่อย่างเดียว คือทําหลายๆอย่างพร้อมๆกันดูลมหายใจเล่นเกมไปด้วยนะครับ
     
  2. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    ดีแล้วฝึกไปครับ เรียนรู้ให้เยอะๆ ถึงเวลาก็ได้เองแหละอย่าไปอยากได้มากเดี้ยวมันจะไม่ได้อะไรเลยสักอย่างเดียว
     
  3. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    จิต มีธรรมชาติรู้ ทีละอย่าง ระหว่างรู้ลมกับทำกิจกรรมอื่น....ถ้าเห็น การมาการไปได้ทัน ก็ถือว่าดี...เจริญสติ รู้กายใจหรือ มีอินทรีย์สังวรณ์ไปควบคู่กันก็ดี:cool:
     
  4. เรายังเลว

    เรายังเลว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +52
    การที่ไม่ลืมภาวนา นั่นคือการที่จิตเริ่มมีการทรงอารมณ์ แต่อาการอยาก อาการคิดปริวิตกเรื่องได้ ไม่ได้ ใช่ ไม่ใช่ ตัวนั้นน่ะ คือสิ่งที่ทำให้กำลังใจแผ่ว ดังนั้น หากจะปฏิบัติแล้ว ก็อย่าละความพยายาม
     
  5. saintyom

    saintyom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +777
    ใจเย็นๆค่อยเป็นค่อยไป ผมก็ยังไม่ได้แม้แต่ฌาณใดๆ

    (ถึงแม้ท่านจะยังไม่ถึงฌาณ4 แต่ผมเชื่อว่าผลจากการฝึกสมาธิ

    ท่านคงได้เห็นในชีวิตประจำวันแล้วแหละครับ ^^)
     
  6. boatsa2538

    boatsa2538 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +90
    ดีแล้ว ๆ ... ก็เจ้าตัวหวังจะเอาฌาณ ๔ อย่างเดียวนี่ ลองปฏิบัติให้มันจริงจัง ต้องมีทั้ง หย่อน ทั้ง ตึง ลองให้ครบ แล้วใช้ปัญญาพิจารณา เราปล่อยจิตแล้วเราเป็นยังไง นั่น ได้ฌาณไหม แล้วถ้าเราตึงเกินไปจะเป็นอย่างไร นั่น แล้วถ้าเราเห็นทั้งตึงทั้งหย่อน ก็จะเห็นความเป็นกลาง คือ ความพอเหมาะสำหรับเรา เมื่อเราเจอจุดเหมาะ มันก็ไปต่อได้ เราก็ยึดจุดนั้นไป ถึงเวลาก็ลองเร่งความเพียรแบบครูบาอาจารย์ดูซิ เราอาจจะทำได้ไม่เท่าท่าน แต่ก็ให้เราดูความสงบของเรา ความเป็นกลางของเรามันจะไปได้ถึงไหน นี่ พอตึงมากๆ ถ้าจิตยังอาศัยความเป็นกลางไม่ได้มันก็จะถอยออกมาเอง ถ้าจิตเราเป็นกลาง จิตมันจะวางอารมณ์ มันจะวางเวทนา สุดท้ายก็วางร่างกายหมด แล้วก็จะเจอความสงบที่ละเอียดลงไปอีก . ให้กำลังใจ(ตัวเองด้วย:cool:)ครับ . (k)
     
  7. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    "ฉันทะ๑ วิริยะ๑ จิตตะ๑ วิมังสา๑"

    กาเย กายานุปัสฺสี "วิหรติ๑ อาตาปี๑ สมฺปชาโน๑ สติมา๑"

    ความพอใจในคำบริกรรม หรือการตามรู้ลม ก็มีแล้วนี่เนาะ ที่เหลือพิจารณาดูว่าสิ่งใดควรเจริญ

    ---------​

    หรือจะลองเปลี่ยนอุบาย ในคำบริกรรม

    "อิติปิโส ภะคะวา ฌานาทิสังกิเลสาทิญาณะ ปาระมิสัมปันโน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2012
  8. somkun62

    somkun62 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +766
    อิ..อิ...คุณยังดี 2-3 เดือน ผมเริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 52 ยังเฉยๆ ขอยืมคำพี่เสกมาพูดสักนิดนะครับ ผมรู้ตัว...ว่าผมทำอะไรอยู่
    มันขาดความต่อเนื่องอ่ะครับ ระหว่างวัน บางทีก็เล่นเกมส์ บางทีก็ดูหนัง...ดูละครไปเรื่อย
    ซึ่งผมก็รู้ตัวเองดีว่าเราปฏิบัติจริงจังแค่ใหน ทำเล่นๆ มันก็ได้ของเล่นๆ มันก็สมเหตุสมผลกันดี ผมไม่เคยไปเข้าคอสที่ใหนเลย เท่าที่รู้มาคนที่เขาจะได้ฌานต้องทำสมาธิให้ทรงอยู่ในอารมณ์เดียวให้ได้
    ยิ่งเมื่อก่อนผมฝึกสายเจริญสติในชีวิตประจำวันก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ตามดูจิตทั้งวัน สิ่งที่ได้มาคือสติ รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ค่อยเผลอนาน
    ตอนนี้ผมเปลี่ยนสายการปฏิบัติแล้ว เอาไว้เราสองคนได้ฌานกันเมื่อไหร่ เราค่อยไปเที่ยวสวรรค์กันเนาะ ป่านนี้น้ำคงแห้งหมดแล้วมั้ง
    (smile)
     
  9. Meme ja

    Meme ja สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +6
    พี่อยากแนะนำให้น้องลองหาหนังสือมาอ่านเกี่ยวกับสิ่งที่น้องอยากจะรู้ เช่น อาการของฌาน 4 , วิธีปฎิบัติอาณาปานสติ และอื่นๆ ที่น้องกำลังจะทำ จะได้ทราบก่อนว่ามันเป็นยังไง .. แล้วน้องก็จะรู้ว่า ต้องทำยังไง หรือ ที่ทำไป ใช่หรือเปล่า , ถูกหรือไม่ ดีนะคะ :)
     
  10. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ควรสอบถามครูบาอาจารย์ครับ เรื่องอารมณ์สมาธิเนี่ย เค้าเรียกว่า"สอบอารมณ์พระกรรมฐาน" เพราะเรายังเป็นผู้ปฏิบัติใหม่ ยังตรวจเองไม่ได้หรอกครับ อารมณ์ยังไม่ทรงตัว + อุปทานยังเยอะเกิน

    คุณอาจจะเคยแวบเข้าฌาน4 แล้ว แต่ไม่รู้ตัว เพราะคุณยังไม่รู้จักฌาน4

    อุปมา เพื่อนที่โรงเรียน เดินสวนกันทุกวัน แต่ไม่รู้จักชื่อ ก็ต้องเดินไปถามเค้าใช่มั้ย

    อุปมา ขับรถตามหาสถานที่ที่ไม่เคยไป ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ก็ต้องอาศัยถามทางคนที่รู้ ใช่มั้ย

    อุปมา ดังคนป่วยไข้ย่อมไม่รู้ว่าตนเองป่วยเป็นโรคอะไร ก็ต้องไปหาหมอ ให้หมอตรวจ ให้หมอรักษา นั่นแล


    เจริญในธรรมครับ
     
  11. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ขอเเอบดัน อันนี้ก็เเล้วกัน

    ขอดันอันนี้ก็ เเล้ว กัน ชัด ชัด ได้ใจความดี
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    การทำอานาปานสตินั้น จะเป็นกรรมฐาน ที่เป็นไปตามลำดับ ของความเข้มแข็ง
    ของจิตในการแหวก วิตก3 นิวรณ์5 ขณะที่ใช้ชีสิตประจำวัน

    หลังจาก ฝึกมากๆ จนเข้าใจ อุบายนำออก ซึ่งก็คือ เข้าใจว่า อานาปานสตินั้น
    พาเราออกจาก วิตก3 ได้อย่างไร แบบไหนบ้าง และ เข้าใจว่า อานาปานสตินั้น
    พาเราออกจากนิวรณ์5 ได้อย่างไรบ้าง

    การระงับ วิตก3 ก็เรียกว่า สงัดจากกามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก

    หลังจากละ วิตก3 ได้บ่อยๆ เข้าใจ ลีการการปฏิบัติได้เต็มที่แล้ว คราว
    นี้ก็จะพอกพูลการทำอานาปานสติเพื่อ นำออกจากนิวรณ์5

    หลังจากเข้าใจ ลีลาการปฏิบัติ อุบายนำนิวรณ์ออกจากจิต ก็จะเริ่มเห็น
    ปฐมฌาณ

    พอมาถึงปฐมฌาณนั้น ต้องทราบก่อนว่า อานาปานสตินั้น ไม่ได้เน้น
    การมีสัมปชัญญะในการอยู่ในฌาณ ดังนั้น พอเจอ ฌาณ1ปั๊ป อานาปานสติ
    จะ ก้าวออกจากการอยู่ในฌาณต่อกันไป เรียกว่า ละกามฉันทะ ละนันทิราคะ
    ต่อการพอใจในฌาณ1ด้วย

    ละทำไม

    ก็เพื่อก้าวไป ฌาณ2 หนะสิ ( สัมปชัญญะของอานาปานสติ จึงเป็นแบบนี้
    จึงเป็นการ หันกลับมา ดื่มลมหายใจเข้า ดื่มลมหายใจออก เสมอ)

    พอเจอฌาณ2 ก็อย่างเดิม อานปานสตินั้นจะเน้นสัมปชัญญะ การงานคือ
    การก้าวออกจากฌาณ2ด้วย

    ละทำไม


    ก็เพื่อก้าวไป ฌาณ3 หนะสิ

    และไปเรื่อยๆ ......

    ทีนี้ ตรงฌาณ3 ขึ้น4 นี่แล้วแต่ ธาตุของคน จริตของคน หรือ ปุญญาภิสังขาร
    ของแต่ละคน จิตที่เคยฝึกทางฌาณ มันจะปลิ้นออก คือมาถึง ฌาณ4 นี่ จะ
    ยกขึ้นฌาณ4นี่ จะเริ่มเกิดทางแยก หากเป็น สมถะยานิกมาก่อน ก็จะผลิกไป
    ยกนิมิตของลม ของแสง ของธาตุ แล้วขึ้นไปฌาณ4 ( สังเกตุนะ ต้องมาจ่อๆ
    ตรงนี้ก่อน ถึงจะ เสพเสนาสนะในราวป่า ต้องเข้าคอสกรรมฐานเต็มรูปแบบเอา
    ตอนนี้ ก่อนหน้า ก็ภาวนาในชีวิตประจำวันไปเรื่อยๆ ได้ แล้วการ ผลิกตรงนี้
    จะถือว่า ทิ้งกรรมฐานอานาปานสติไปแล้ว ไปนู้น ไปเป็นเรื่อง กสิณแทน )

    แต่ถ้ายังเป็น อานาปานสติเข้มแข็ง ไม่กวัดแกว่ง ไม่สัดส่าย ก็ ละฌาณ4อีก
    ( ถ้ามาทางนี้ ก็ยังไม่เน้น ภาวนาในรูปแบบอีก เว้นแต่ จิตจะหมดกำลังเต็ม
    ที่มันจะ รวมแล้วไปเก็บฌาณของมันเอง ก็จะเกิดการ วูบ ควงสว่านอะไร
    ว่ากันไป ถ้ามีอาการก็ต้อง ฉลาดในการหาที่หาทางช่วยส่ง แต่ก็ขึ้นกับ กาล
    และ สถานที่ ถ้าไม่พร้อมก็ปล่อย จะไม่อาลัยอาวรณ์อารมณ์ฌาณนัก )

    ละทำไม

    ก็จะเน้นการก้าวล่วงฌาณ4 เพื่อไป อรูปฌาณ พอขึ้นอรูปฌาณก็จะละ
    ไปเรื่อยๆ ...... จนนู้น ถึงสัญญาเวทยิตนิโรธน ( สังเกตนะ การไม่กวัด
    แกว่งนี่ คือ เน้นอานาปานสติ อย่างเดียวเลย ไม่มีการ อาลัยอาวรณ์ว่า
    ฌาณอะไร กิเลสทำลายหรือไม่ทำลาย เพราะ พื้นฐานมันแน่น จนไม่
    ต้องปรารภในสิ่งที่รู้ชัดมาเรื่อยๆ )

    ตรงสัญญาเวทยิตนิโรธน นี่ ไม่ต้องให้บอกนะว่า ไปถึงตรงนั้นนี่ จะได้
    อะไรติดไม่ติดมือไปบ้างแล้ว แต่ถ้าไม่ถึง มันก็จะดีดกลับมาที่ โลกียฌาณ
    ซึ่งผลิกไปสู่ อภิญญา5 ก็อาจจะได้ ความเป็นปุถุชนวิสามัญสมบูรณแบบ

    ถ้าติด ความเป็นปุถุชนสมบูรณ์แบบ คือ ทำเท่าไหร่ก็ไม่ข้ามโคตร ตรงนี้ก็จะ
    มีการวางจิตเรื่อง ปราถนาพุทธภูมิ ปัจเจกภูมิ ว่า มีหรือเปล่า ซึ่งจะถอนกันใน
    ขณะที่จิตปราศจาก วิตก3 และ นิวรณ์5 แบบ ผ่องแผ้ว แจ่มใส จืงจะอยู่ในฐานะ
    "ผ่อง" สมบัติเก่าเก็บได้

    ก็เหมือนหลวงปู่มั่นที่ มาชนตรงนี้ แล้ว เอะใจว่า ปราถนาพุทธภูมิ เลยภาวนา
    จนจิตสงัดจากกาม สงัดจากนิวรณ์ แล้ว อธิษฐานถอน ....ที่เหลือก็ว่ากันไป
    ตามเรื่อง

    * * * * *

    ก็จะเห็นว่า หากมาทำอานาปานสติ ฌาณนี่ ไม่ใช่ไม่ได้ แต่มันเป็น ลักษณะได้
    แต่ก็ไม่อาลัย ได้ฌาณ แต่เอาไว้อาศัยระลึก สลัดวาง เพื่อซักฟอก กามราคะ ตัณหา
    และ นิวรณ์ รวมทั้ง อุปกิเลส10 หยาบ กลาง ละเอียดทั้งหลายแหล่ เป็น งานหลัก
    (สัมปชาโน ก็เรียก)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2012
  13. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ถูกใจอันนี้

    ก็จะเห็นว่า หากมาทำอานาปานสติ ฌาณนี่ ไม่ใช่ไม่ได้ แต่มันเป็น ลักษณะได้
    แต่ก็ไม่อาลัย ได้ฌาณ แต่เอาไว้อาศัยระลึก สลัดวาง เพื่อซักฟอก กามราคะ ตัณหา
    และ นิวรณ์ รวมทั้ง อุปกิเลส10 หยาบ กลาง ละเอียดทั้งหลายแหล่ เป็น งานหลัก
    (สัมปชาโน ก็เรียก)

    เหมือนสรุป เอา สมุดโทรศัพเล่มหนา หนา มาไว้เหลือเเค่ กระดาษ เอสี่ เเผ่นเดียวเองอ่ะ

    เห็นเขามีนักเลง ปฎิเวท กัน

    งั้นน้องยกให้เป็น นักเลงอานา ก็เเล้วกัน :cool:
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ทีนี้ มันก็มีอีกแบบ หากจะกล่าว ให้พิจารณา

    เวลา ปฏิบัติไปเต็มที่แล้ว รู้สึกว่าปฏิบัติเต็มที่แล้ว เอ้ ทำไม ไม่ก้าวหน้า

    ก็ไม่ยาก ส่วนใหญ่จะติดที่ อาจิณกรรม กรรมที่ทำบ่อยๆ ทำเป็นหลัก
    บางประการ

    ยกตัวอย่างเช่น

    เล่นเกมส์

    เกมส์อะไร เกมส์เชิงพนันขันต่อ ต้องถีบ ต้องสะสม เพื่อให้ได้ชื่อว่า ชนะ หรือเปล่า

    หรือเกมส์ เชิงล้างพลาญ ท้าทาย หวาดเสียว

    เหล่านี้จะเป็นการ เอา จิตไปผูกกับ วิหิงสาวิตก ( กลัวความผ่ายแพ้ กลัวคนหัวเยาะเราะ
    อะไรประมาณนี้ กล้วเขาหาว่า อ่อน ในเกมส์ )

    เนี่ยะ หาก เกมส์ เป็น อาจิณกรรม ของชีวิตเรา ก็สำรวจลงไปว่า มันตกข้าง

    กามวิตก พยาบาทวิตก หรือ วิหิงสาวิตก หรือเปล่า ?

    ถ้าใช่ แล้วจะเอาอย่างไร ..... กับใจที่เป็นสองทาง แบ่งเป็นสองอย่าง
    จะเลืกอทางไหน ว่าดี

    หากว่า เกมส์ดี ........

    หากว่า ภาวนาดี .........

    เอ้วว เอ้ววว ขอมือขวาหน่อย !! สู้ไหมสู้ !?
     
  15. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    สวัสดีครับ ผมฝึกอานาปนุสติ ภาวนาพุทโธไปด้วย ควบคู่กันไป แต่ภาวนาพุทโธเนี่ยไม่ถึงเดือน 2 เดือนแรก ผมดูแต่ลมหายใจ 20 วันกว่าๆผมภาวนาพุทโธไปด้วย

    ผลที่ได้คือ แต่ก่อนผมคิดปรามาส ตอนนี้เบาลง เริ่มเบื่อไม่รู้จะด่าไปทําไมเหนื่อยคิด เหนื่อยปรุงแต่ง ก็หยุดลง หันไปดูลมหายใจต่อ

    อ่อผม ไม่ได้นั่งสมาธิแล้วฝึกอานาปานุสตินะครับ ผมเวลาจะไปโรงเรียนขี่จักรยานตร์ก็ภาวนา เวลาเรียน ถ้ารู้สึกตัวก็ภาวนา ตอนไหนรู้สึกตัวก็ภาวนา
    ฌาณ 4ผมไม่เห็นได้เลย ฌาณ1ผมเข้าฌาณ1ได้ ตอนอยู่เมืองไทย สามสี่เดือนก่อน ตอนนั้น ผมไปวัดอธิฐาณจิตต่อพระพุทธรูป (วันพระไปทําบุญด้วย) แล้วก็รู้สึกเหมือนฌาณ1 แต่ไม่ในใจว่าฌาณ1 ละเปล่า แต่ว่าฌาณ1 สบายดีปลอดโปร่ง เหมือนจะบินตัวจะลอยแต่ไม่ลอย คือเดินไม่เต็มเท้าเหมือนจะลอยแ

    คือ ผมไม่ได้นัง่สมาธิแล้วฝึกอานาปานุสติ จะ มาฝึกก่อนจะนอน เวลาไปไหนไปเที่ยวเล่นคอม ทําอะไรหลายอย่างๆ เช่นสมมุตินะครับ

    เล่นเกมอยู่ แล้วภาวนาไปด้วย ฌาณไม่เห็นได้เลย
    อาบน้ำ ภาวนาไปด้วย เข้าห้องน้ำภาวนาไปด้วย คุยกับเพื่อน มองดูสภาพแวดล้อมก็ดูลมหายใจควบคู่ภาวนาว่าพุทโธ ไปด้วย ฌาณไม่เห็นได้เลย

    อ่อตั้งแต่4 เดือนก่อนที่ผมนั่งสมาธิแล้วมีความสุข ปิติเกิด แต่พอมาตอนนี้ ปิติมันไม่เกิดมันไม่รู้สึกเหมือนตอนนั้น ตอนั้นมันรู้สึกสนุกหรรษา ถ้าจะให้นั่งจนตายก็เอามันสุขจริงๆ สุขทางโลก หญิงกินอะไรทุกอย่างไม่เท่าไอ้นี้เลย

    ขอย้ำ 2-3 เดือนนี้ที่ผมฝึกผมไม่ได้นั่งสมาธิ แต่จะไปเป็นนอน เดิน ทํากิจกรรมแล้วภาวนาไปด้วยมากกว่า ไม่ใช่จดจ่ออยู่อย่างเดียว คือทําหลายๆอย่างพร้อมๆกันดูลมหายใจเล่นเกมไปด้วยนะครับ-
    เพิ่มเติม ลองศึกษาใน อัปปนาโกศล10 ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ภาคสมาธินิเทศ
    ให้มีความเพียร เปรียบเหมือนผึ้งจำพวกที่3 คือ มีความเพียรปานกลาง แต่สม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง ด้วยฉันทสมาธิต่อกิจนั้นๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2012
  16. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ..................... อันที่จริง ที่พระท่านกล่าวว่า อานาปานสติชั่ว ลัดนิ้วมือเดียว ถือว่าผู้นั้นไม่เหินห่างจากฌาน......จขกท ลองให้เวลา สัก 2-3 นาที(ทำตอนนี้ก็ได้)....จะเห็นได้ว่า ปิติ สุข ได้มาโดยไม่ยาก เชื่อใหม? ลองดู....ทีนี้ ถ้า เห็นแล้วว่ามันมี แล้วจะยังตีโพยตีพายไปทำไม?
     
  17. กิดากร

    กิดากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +1,048
    ผมเคยบอกมาครั้งหนึ่งแล้วว่าถ้ามัวแต่มาถามเอาความรู้คนอื่นอยู่อย่างนี้ มันจะได้อะไร เพราะปัญญาตัวเองมันไม่เกิด (เรื่องการปฏิบัติผมไม่เคยตั้งกระทู้ถามใคร เพราะสิ่งที่อยากรู้หลวงพ่อฤาษีท่านเทศน์ไว้ครบแล้ว) นิวรณ์ทั้ง 5 ตัวผ่านตัวไหนแล้วบ้าง ยังผ่านไม่ได้จะเอาฌาณ 4 ได้ยังไง ฌาณ 1 เต็มที่ก็นานๆ ที ถ้ากำลังใจยังอ่อนอยู่อย่างนี้ ใน 7 ปีก็ยังไม่ได้อะไรหรอก ไม่อยากปรามาสแต่เอากำลังใจของคนอื่นมาวัดดูกับกำลังใจตัวเองสิว่าดีพอสำหรับความอยากได้ฌาณหรือยัง

    ผมฝึกแบบคนโง่ มา 1 ปีเต็ม จิตถึงสัมผัสฌาณ 4 ครั้งแรกในชาตินี้ ฝึกแบบทั้งๆ ที่ไม่เชื่อในคำสอนของครูบาอาจารย์ ฝึกแบบทั้งๆ ที่ไม่ค่อยเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่อาศัยใจชอบในอารมณ์สุข สบาย รู้สึกปลดภาระทางโลก จึงทำมาเรื่อยๆ จนเห็นผลทั้งๆ ที่ไม่เชื่อ

    วันแรกที่จิตสัมผัสฌาณ 4 ผมยังจำได้ดี วันนั้นเป็นวันที่อารมณ์เต็ม ใจเต็ม ตั้งใจไว้แน่วแน่ว่าวันนี้กูจะนั่งจนตาย วันนี้เป็นวันที่กูทิ้งร่างกายแล้ว พ่อแม่พี่น้องจะตายอยู่ตรงหน้าผมก็จะไม่สนใจต่ออะไรใน 3 โลกอีกแล้ว งานเดียวที่มีในตอนนั้นคือ ภาวนา นะมะ พะทะ และจับลมหายใจไปจนกว่าจะตาย หรือหลับไปเลย แขนขามันเมื่อยเคยอดทนจนสุดแล้วก็ไม่เห็นว่าไอ้ขันธมารมันจะทำเราตายตรงไหน มันเมื่อย มันชา เดี่ยวมันก็หาย นี่ คนจะเอาดีมันต้องเอากันขนาดนี้

    ทำกรรมฐานมันจะมีอะไร อัดกัน วัดกันที่กำลังใจ เท่านั้น อิทธิบาท 4 ครบ อภิญญายังได้เลย ผมมันนิสัยเสีย อาณาปาก็ทำ กสิณก็ทำ วันไหนอาณาปาอารมณ์ไม่ดีก็หนีไปจับกสิณ ไอ่ที่ไม่ถนัดเลยคือกสิณ แต่กำลังใจมันถึงผลของกสิณมันก็ได้ตามสภาพคือทิพจักขุ เห็นไหม กำลังใจของตัวเองเท่านั้น

    ไอ่ที่พูดเพราะเฝ้าดูมาหลายกระทู้แล้ว อยากให้คุณได้ดีหรอก อยากให้คนที่คิดจะเอาดีกระเถิบตัวขึ้นมาจากความเป็นอาภัพบุคคลสักหน่อย แล้วคุณจะได้ดี อาจจะดีกว่าผมก็ได้ในสักวัน.
     
  18. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอบคุณครับ ผมก็ปฎิบัติ หย่อนๆ ไม่สายกลาง เช่นพอผมรู้สึกว่า มีอารมณ์ต่างๆ เช่นผมโกรธแล้วผมอยากจะไปต่อย แล้วผมลองพิจารณาใช้ปัญญา ความโกรธมันผ่านมาชั่วคราว เราจะไม่ยึดติดอะไรกับมันก็ปล่อยมันไป มันก็ไม่ได้ทําพิษอะไรให้กับเรา

    เดี่ยวผมลองศึกษาดูครับเกี่ยวกับอาการฌาณขอบคุณครับที่ตอบ
     
  19. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    โดนกัดแล้ว ไม่รู้ ห้ามหลับนะครับ
    หลับตายเลย นะนั่น
     
  20. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .............. ผมว่าแก มี เซรุ่ม อยู่............"ไอ้ที่ ว่า มันอยู่ชั่วคราวแล้วมันผ่านไปนี่" พอได้นะครับ.....ใช้พิจารณา อารมณ์อื่น(อารัมณะ หรือสิ่งที่จิตรู้ได้ด้วย)ไม่ว่า ราคะ ตัณหา ใดใด......นี่คือโทษ(อาทีนวะ) ของ อารมณ์ ความไม่เที่ยงนั้นเอง...:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...