ติดตามสถานะการณ์

จ่อขยายวอร์ดโควิดเพิ่ม หลังป่วยรุนแรงเพิ่ม 10-20% สั่งใส่หน้ากากเข้า รพ. สิ้น มิ.ย.นี้ยกเลิก HI

กรมการแพทย์เผยสิ้นเดือน มิ.ย. สปสช.เตรียมยกเลิกจ่ายรักษาที่บ้าน HI ปรับสู่การรักษาผู้ป่วยนอก OPSI หรือเจอ แจก จบทั้งหมด ส่วนประกันสังคมอาจยังต่อ HI อีกสักระยะ ย้ำการรักษาปรับตามสถานการณ์ เผยช่วงนี้พบผู้ป่วยเข้ารักษษใน รพ.มากขึ้น อัตราครองเตียงเพิ่มขึ้น พบป่วยอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น 10-20% อาจให้ขยายวอร์ดโควิดเพิ่ม พร้อมส่งตรวจหาสายพันธุ์แล้ว สั่งการให้สวมหน้ากากเมื่อเข้ามา รพ.

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหากพ้นระยะการระบาดใหญ่ (Post-Pandemic) การรักษาจะมีการปรับอะไรหรือไม่เพื่อให้เข้าถึงง่าย ว่า คงต้องปรับไปเรื่อยๆ เพราะแต่ละสถานการณ์ไม่เหมือนกัน เพระาปีแรกของการระบาดเอาเข้า รพ.หมดเลย ยังไม่รู้จักเท่าไร พอปีที่สองผู้ป่วยเยอะมากเป็นแสนก็ใช้ Home Isolation และปีนี้เราเปลี่ยนมาเป็นผู้ป่วยนอกและแยกกักที่บ้าน (OPHI) กรณีเมื่อเข้าสู่ระยะ Post-Pandemic ก็ต้องมั่นใจก่อนว่า จำนวนผู้ป่วยไม่เพิ่มขึ้นเร็ว ไม่รุนแรง ต้องยอมรับว่า BA.4 และ BA.5 เรายังไม่รู้จักมันทั้งหมด ตอนนี้ผู้ติดเชื้อดูเหมือนเพิ่มขึ้น วันนี้ไปตรวจเยี่ยม รพ.ราชวิถีมาอัตราการครองเตียงก็เพิ่มขึ้น ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจดูเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ก็หารือกับ ผอ.รพ.ราชวิถีว่า อาจจะต้องเตรียมไว้ในกรณีถ้าผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากๆ

"เป็นจุดที่ทางการแพทย์ เรื่องการรักษาพยาบาลเราดูกรณีถ้าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดก็ต้องเผื่อไว้ ซึ่งวันนี้กรมจะมีหนังสือสั่งการลงไปว่า การเข้ามายัง รพ.ต่างๆ ยังขอให้สวมหน้ากากก่อนไม่ว่าจะเป็นคนไข้ OPD หรือ IPD และกำชับบุคลากรทางการแพทย์สำรวจตัวเองว่าฉีดวัคซีนกี่เข็มแล้ว รับเข็มสุดท้ายเมื่อไร ถ้าเกิน 4 เดือนก็เชิญชวนบุคลากรและประชาชนที่มารับบริการ โดยจะให้บุคลากรทางการแพทย์ถาม เพื่อให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นอีกครั้ง" นพ.สมศักดิ์กล่าว

ถามว่าผู้ป่วยอาการหนักที่มากขึ้นได้ประสานส่งตรวจสายพันธุ์กับทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วหรือไม่ นพ.สมสักดิ์กล่าวว่า มีการประสานแล้ว ซึ่งได้ถามผอ.รพ.ราชวิถี ก็บอกว่ามีการทยอยส่งตรวจสายพันธุ์ไปเมื่อ 1-2 วันก่อนแล้ว รพ.ในสังกัดกรมการแพทย์ที่รับรักษาใน รพ.เป็นผู้ป่วยใน ก็จะมีการส่งไปให้ตรวจว่ามี BA.4 BA.5 มากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่อาการรุนแรงมากขึ้นยังเป็นกลุ่ม 608 อย่างที่บอกครองเตียงมากขึ้น มีผู้ป่วยรุนแรงมากขึ้นนิดหน่อย ประมาณ 10-20% อัตราการครองเตียงตอนนี้ก็เกินครึ่งหนึ่งไปหน่อยแล้ว แต่เราก็เตรียมทางหนีทีไล่ อาจจะขยายวอร์ดโควิดเพิ่ม ผอ.รพ.ก็มีการพูดคุยเตรียมไว้ ซึ่งไม่เพียงแค่ใน กทม. แต่พื้นที่เขตสุขภาพต่างๆ ทั่วประเทศ ผู้ตรวจราชการ สธ. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ก็มีการประเมินและเตรียมการเรื่องพวกนี้เช่นกัน

ถามว่าการเตรียมขยายการรักษาไปสู่คลินิกเหมือนไข้หวัดทั่วไป นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า จริงๆ เราเตรียมเป็นผู้ป่วยนอก OPSI เกือบทั้งหมด ส่วนรักษาที่บ้าน HI จะเลิกสิ้นเดือน มิ.ย. นี้ตามเกณฑ์ สปสช. ที่จะเลิกจ่ายสิ้นเดือนนี้ จะเป็น OPSI ทั้งหมด แต่ถ้าจำนวนผู้ป่วยขึ้นเยอะๆ เราก็มีการเผื่อ แต่ได้ข่าวว่าประกันสังคมมีการหารือกันว่าอาจจะต่อ HI ไปอีกสักระยะหนึ่ง เหมือนที่บอกว่าต้องปรับไปตามสถานการณ์ ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร และอย่างที่บอก BA.4 BA.5 ผลการศึกษาในห้องทดลองดูเหมือนว่าชอบปอด แต่ในสถานการณ์จริงยังไม่ได้ประเมินออกมาว่าลงปอดมากไหม ก้ต้องติดตามดู เพราะยึดถือชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ

ด้าน นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผอ.รพ.ราชวิถี กล่าวว่า อัตราครองเตียง รพ.ราชวิถี มีเตียงผู้ป่วยกลุ่มอาการสีเหลืองถึงแดงเกือบ 100 เตียง เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ลดเตียงลงเหลือ 60 เตียง แต่เมื่อเดือนพ.ค.65 ผู้ป่วยเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้น อัตราครองเตียง 40% ซึ่งตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย.เป็นต้นมา เพิ่มขึ้นเป็น 70-80% ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่เข้ามารักษา ผ่าระบบเจอแจกจบ และ HI เพิ่มสูงขึ้น จากเดิมวันละ 100 รายเป็น 220 รายต่อวัน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผู้ป่วยเพิ่มแต่ทางรพ.ยังดูแลได้ แต่ก็ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนอย่างประมาท โดยเฉพาะมาตรการป้องกันตนเองสูงขึ้น สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือและฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

ที่มา : NEWS1

 

“ปานเทพ” ย้ำเตือนประกาศกรมอนามัย ร้านอาหารมีส่วนผสมกัญชาต้องติดป้ายบอก

“ปานเทพ” ย้ำเตือน มีประกาศกรมอนามัยอยู่แล้ว ให้ร้านจำหน่ายอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา ต้องติดป้ายหน้าร้านและแสดงรายละเอียดในเมนูกัญชา ยืนยันไม่อนุญาตใช้ดอกกัญชาปรุงอาหาร

วันนี้(28 มิ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในฐานะโฆษกและกรรมการ คณะกรรมการสื่อสารประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ กระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ว่า ย้ำเตือนอีกครั้ง! ประกาศกรมอนามัยมีอยู่แล้ว ร้านอาหารต้องติดป้ายหน้าร้านและแสดงรายละเอียดในเมนูกัญชา

ประกาศกรมอนามัยเรื่องการนำใบกัญชา มาใช้ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหาร ในสถานประกอบกิจการอาหาร ที่ประกาศเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2565 มีความชัดเจนอยู่แล้วว่าจะต้องมีการติดป้ายที่ร้านอาหาร และเมนูอาหารที่ใส่ใบกัญชา ทั้งนี้ไม่เคยมีประกาศอนุญาตให้ใช้ช่อดอกกัญชาในการปรุงอาหารในร้านอาหาร ขอให้ทุกร้านได้ปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

ที่มา : NEWS1

 

นอนหลับฝันดีครับ

กลายเป็นกระแสวุ่นทั่วประเทศ! อเมริกันชนทนจ่ายค่าน้ำมันเพิ่มทุกวันไม่ไหว หันไปเจาะถังน้ำมันรถคนอื่นขโมยดูดต่อหน้าต่อตา

เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - ท่ามกลางราคาน้ำมันที่เพิ่มรายวัน ล่าสุด เกิดปรากฏการณ์ชาวอเมริกันแห่กันขโมยน้ำมันเจาะจากถังรถคนอื่นหรือจากหัวจ่ายปั๊มและนำกลับไปขายต่อในราคาถูกผ่านแอปท่ามกลางความปวดหัวของเจ้าของปั๊มที่ขาดทุน และสร้างความหวาดกลัวให้บรรดานักขับชาวอเมริกันทั่วประเทศเห็นอัตราอาชญากรรมการขโมยน้ำมันจากปั๊มพุ่ง 25% ชาวแคลิฟอร์เนียเตรียมเฮผู้ว่าการรัฐสุดหล่อ แกวิน นิวซอม แจกเงินเยียวยาวสูงสุด 1,050 ดอลลาร์

ฟ็อกซ์นิวส์รายงานวันนี้ (27 มิ.ย.) ว่า เกิดปรากฏการณ์อเมริกันชนแอบขโมยน้ำมันทั่วประเทศ ทั้งขโมยจากหัวจ่ายปั๊มหรือจากรถยนต์คนอื่นที่กำลังจอดอยู่ หรือเจาะระบบเครือข่ายสถานีจ่ายน้ำมันท่ามกลางราคาน้ำมันในสหรัฐฯ ปรับราคาสูงขึ้นรายวันเป็นประวัติการณ์

เทรนด์ใหม่ที่สร้างความหวาดกลัวให้สังคมอเมริกัน โดย ABC7 ซานฟรานซิสโกเบย์แอเรีย รายงานเช้าวันจันทร์ (27) ด้วยความระทึกต่อเหตุการณ์หัวขโมยแอบเจาะน้ำมันดูดจากรถ SUV อย่างหน้าตาเฉยในเมืองโอ๊คแลนด์ และผู้หญิงที่อยู่ในรถได้ขว้างค้อนสีแดงเข้าไปที่รถที่โดนขโมยน้ำมันไปราวครึ่งถังทำให้กระจกรถแตกเป็นรูโหว่ระหว่างที่กำลังขับออกไป

ขณะที่เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานวันที่ 17 มิ.ย.ว่า หัวขโมยน้ำมันรายหนึ่งที่แอบเจาะน้ำมันจากรถบรรทุกคันหนึ่งที่จอดใกล้กับรถกระบะของตัวเองเกิดติดไฟลุกตามร่างกายขึ้นมาในเมืองซอลต์เลคซิตี รัฐยูทาห์ ทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าระหว่างการเจาะเพื่อทำให้เข้าไปถึงตัวถังน้ำมันของรถทำให้เกิดประกายไฟขึ้นจนเกิดเรื่อง

ฟ็อกซ์นิวส์รายงานโดยอ้างความเห็นจาก เจฟ เลเนิร์ด (Jeff Lenard) รองประธานโครงการความริเริ่มยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมประจำสมาพันธ์ร้านสะดวกซื้อแห่งชาติสหรัฐฯ NACS (National Association of Convenience Stores) ได้ชี้ถึงปรากฏการณ์ขโมยน้ำมันทั่วประเทศนี้ว่า นี่ไม่ใช่กระแสโรบินฮู้ดที่ขโมยจากคนรวยเพื่อช่วยเหลือคนจน

“นี่เป็นพวกหัวขโมย คนเหล่านี้ไม่ได้ขโมยจากคนรวยเพื่อช่วยคนจน เจ้าของสถานีจำหน่ายน้ำมันเป็นผู้รับผิดชอบน้อยที่สุดต่อน้ำมันราคาแพง ซึ่งต้นทุนของการขโมยจะถูกส่งผ่านไปทำให้ราคาสูงขึ้นและเมื่อผู้คนต่างขับรถไปพร้อมกับน้ำมันที่ขโมยมานี่ถือเป็นเรื่องที่ต้องน่าวิตก”

เลนาร์ดยังกล่าวต่อโดยอ้างข้อมูลจากสำนักงานบริหารข้อมูลพลังงานสหรัฐฯ (U.S.Energy Information Administration) ที่บ่งชี่ว่า มีการขโมยน้ำมันเพิ่มขึ้น 25% จากปั๊มน้ำมันเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

เมื่อต้นเดือนนี้ในเมืองเวอร์จิเนียบีช รัฐเวอร์จิเนีย ตำรวจพบรถจำนวนมากใช้อุปกรณ์ดูดน้ำมันจากปั๊ม Citgo ระหว่างช่วงเวลาปิดบริการ

ในระหว่างการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้ามีการประเมินว่า อุปกรณ์ได้มีการใช้เพื่อเจาะเข้าและคนร้ายได้น้ำมันที่ขโมยมากลับไปขายต่อในราคาถูกผ่านทางแอปมือถือ มีการประเมินว่าน้ำมันมูลค่าหลายพันดอลลาร์ถูกขโมยออกไปจากสถานีบริการน้ำมัน Citgo ในช่วงเวลาไม่กี่วัน

ฟ็อกซ์นิวส์รายงานว่า ราคาน้ำมันเฉลี่ยทั่วสหรัฐฯ อยู่ที่ 4.91 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ขณะที่บางส่วนของรัฐทางตะวันตกและทางตะวันออกเฉียงเหนือเห็นราคาน้ำมันเกินกว่า 5-6 ดอลลาร์ อ้างอิงจากสมาพันธ์ยานยนต์สหรัฐฯ AAA (American Automobile Association) ขณะที่ในรัฐแคลิฟอร์เนียราคาเฉลี่ยน้ำมันตกอยู่ที่ 6.33 ดอลลาร์ต่อแกลลอนในวันเสาร์ (25)

สำหรับในรัฐแคลิฟอร์เนีย SF GATE รายงานวันนี้ (27) ว่า ผู้เสียภาษีชาวแคลิฟอร์เนีย 23 ล้านคนอาจได้เห็นการเยียวยาราคาน้ำมันพุ่งสูงโดยได้รับเงินชดเชยสูงสุดถึง 1,050 ดอลลาร์จากรัฐบาลของผู้ว่าการรัฐ แกวิน นิวซอม หลังข้อตกลงงบประมาณปี 2022-23 บรรลุภายใต้มาตรการแพกเกจช่วยเหลือเงินเฟ้อ 17 พันล้านดอลลาร์ของทางรัฐ

โดยกรอบทำงานจ่ายเยียวยานี้จะเป็นการจ่ายตรงผ่านเงินคืนภาษีหรือบัตรเดบิตให้ผู้เสียภาษีที่จะต้องยื่นภายในปลายเดือนตุลาคม และมีการคาดว่าจะสามารถจ่ายได้ภายในสิ้นปี 2022 หรือต้นปีหน้า

ที่มา : NEWS1

 

แม่ค้าเผยราคาปลาทูสดทั้งของไทยและอินเดียขึ้นโลละ 20-30 บาท สาเหตุเพราะน้ำมันแพง แต่ยังขายในราคาเดิมถ้าขึ้นมากกว่าก็คงเลิกขายเพราะสู้ต้นทุนสูงไม่ไหว คนซื้อก็น้อยลงเป็นเท่าตัวเพราะเศรษฐกิจแย่

อ่านต่อ : https://ch3plus.com/news/social/morning/298271

#เรื่องเล่าเช้านี้ #ข่าวช่อง3 #ข่าวภูมิภาค #กำแพงเพชร #ปลาทูแพง

 

Jun 29, 2022 รีบสร้างเลย! กลุ่มปตท.- ฟ็อกซ์คอนน์ เร่งสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ครบวงจร ชูไทยศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน
.
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการจัดตั้งบริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด (HORIZON PLUS) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง อรุณ พลัส บริษัทย่อยของ ปตท. และ Lin Yin International Investment บริษัทในกลุ่มของ Foxconn เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพื่อดำเนินธุรกิจผลิต EV ครบวงจร โดยมีแผนสร้างโรงงานสำหรับรับผลิต EV ให้กับค่ายรถยนต์ที่สนใจทำตลาดในประเทศไทยและอาเซียนนั้น
.
คณะผู้บริหาร Foxconn ได้มีโอกาสเดินทางมาประเทศไทยเพื่อร่วมหารือแผนการดำเนินงานในรายละเอียด โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 และกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2567 เพื่อให้สอดรับกับความต้องการใช้ EV ทั้งภายในประเทศและภูมิภาคอาเซียนที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
.
โดยล่าสุดยังได้หารือถึงโอกาสในการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจอื่น ๆ ที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศที่ Foxconn มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในอุตสาหกรรม Smart Electronics และ Semiconductor รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำในการผลิต EV ซึ่ง ปตท. เชื่อมั่นว่าความร่วมมือของทั้งสององค์กรนอกจากจะตอบสนองนโยบายและทิศทางการส่งเสริม EV ของภาครัฐ ในการยกระดับอุตสาหกรรม EV ให้เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายและสนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิต EV ที่สำคัญของภูมิภาคแล้ว ยังเป็นการช่วยขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดของประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตลอดจนเป็นการเตรียมความพร้อมและพัฒนาศักยภาพของบุคลากร โดยเฉพาะทักษะด้านการพัฒนาชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และการให้บริการเทคโนโลยีโซลูชั่นขั้นสูงให้ครอบคลุมทุกระดับ รองรับทิศทางของอุตสาหกรรมที่จะมุ่งสู่นวัตกรรมแห่งอนาคตอย่างยั่งยืนได้ต่อไป
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3A8SLi5
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ปตท #ฟ็อกซ์คอนน์ #รถยนต์พลังงานไฟฟ้า #รถอีวี #โรงงานผลิต #อาเซียน #เศรษฐกิจ #ธุรกิจ #เทคโนโลยี #BTimes

 

Jun 29, 2022 มีแววดีขึ้น! กสิกรไทยเจ้าเแรกปรับจีดีพีไทยปีเสือขึ้นแตะ 2.9% ยอดต่างชาติเข้าไทยพุ่งเกือบเท่าตัว
.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินทิศทางเศรษฐกิจ จากแผนการเปิดประเทศและสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลง หนุนการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวมากกว่าที่คาดไว้เดิม และมีอานิสงส์ต่อเนื่องมายังการปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีสำหรับทั้งปี 2565 เป็น 2.9%
.
นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า แม้ไทยจะมีแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ลดลงหลังสิ้นสุดหลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กอปรกับมีการขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นตามการนำเข้าพลังงาน แต่เมื่อรวมผลจากจีดีพีไตรมาส 1/2565 ที่ออกมาดีกว่าที่คาด มุมมองการบริโภคภาคเอกชนที่ดีกว่าที่เคยประเมินเล็กน้อย รวมถึงแรงหนุนสำคัญจากรายได้นักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีสำหรับทั้งปี 2565 จาก 2.5% มาอยู่ 2.9%
.
โดยนางสาว เกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่าศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 4.0 ล้านคน มาเป็น 7.2 ล้านคน ซึ่งทำให้มีรายได้ท่องเที่ยวจากทั้งต่างชาติเที่ยวไทยและไทยเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นมาที่ 1.1 ล้านล้านบาท แม้ว่าจะยังห่างจากช่วงก่อนโควิดที่ทำได้ถึงราว 3 ล้านล้านบาทก็ตาม
.
อย่างไรก็ตาม นางสาวณัฐพร กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามยังเป็นเรื่องเงินเฟ้อที่คงจะเข้าหาระดับสูงสุดในไตรมาส 3/2565 ซึ่งทำให้ กนง. อาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเข้าหาระดับ 1.0% ภายในสิ้นปีนี้ เทียบกับ 0.5% ในปัจจุบัน ท่ามกลางภาวะที่เฟดคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง แต่คาดว่าแบงก์ไทยจะยังไม่ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของฝั่งเงินฝากและเงินกู้ตามในทันที โดยคงเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยสำหรับเฉพาะบางผลิตภัณฑ์มากกว่า เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินยังอยู่ในระดับสูงและยังมีโจทย์ในการช่วยเหลือลูกค้าให้ก้าวข้ามช่วงของการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ
.
ส่วนเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าเข้าหาระดับ 36.0 บาทต่อดอลลาร์ฯ ภายในระยะเวลา 1-2 เดือนข้างหน้านี้ ตามปัจจัยเศรษฐกิจและดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่ยังหนุนเงินดอลลาร์ฯ และมีการปรับตัวผ่านเงินทุนไหลออกจากตลาดทุนไทยบางส่วน กระนั้นก็ดี ไทยยังไม่ต้องห่วงผลกระทบต่อความมั่นคงของระดับทุนสำรองระหว่างประเทศ เนื่องจากยังอยู่ในระดับสูง สามารถรองรับภาระหนี้ต่างประเทศระยะสั้น การนำเข้า 3 เดือน และหนุนหลังการพิมพ์ธนบัตรออกใช้ได้กว่า 1.2 เท่า
.
สำหรับประเด็นวิกฤตความมั่นคงทางอาหารนั้น นางสาวเกวลิน มองว่า ในขณะนี้ ไทยมีความเสี่ยงต่อภาวะความตึงตัวของผลผลิตอาหาร ซึ่งยังไม่ใช่วิกฤตด้านอาหารดังที่ปรากฏขึ้นในหลายประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากเกษตรกรและผู้ผลิตอาหารไทยเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนปัจจัยการผลิตที่แพงขึ้นซึ่งอาจกระทบผลผลิต ประกอบกับความต้องการและราคาอาหารโลกเพิ่มขึ้น หนุนการส่งออกในบางรายการ
.
ดังนั้น ราคาอาหารไทยอาจปรับขึ้นในครึ่งหลังปีนี้และมีแนวโน้มยืนสูงต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงช่วงกลางปีหน้า โดยเฉพาะน้ำมันปาล์ม ข้าว และเนื้อหมู ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบยังมีโจทย์ในด้านการบริหารจัดการต้นทุน เช่นเดียวกับผู้บริโภคที่ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลฐานะรายรับรายจ่ายและใช้สอยอย่างรอบคอบต่อเนื่อง
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/39XHZ3m
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#เศรษฐกิจไทย #กสิกรไทย #ท่องเที่ยว #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #เงินบาท #เงินเฟ้อ #BTimes

 

Jun 29, 2022 ถล่มหุ้นยับ! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดร่วงแรงเกือบ 500 จุด น้ำมันดิบปิดยืนเหนือ 116 ดอลลาร์ ราคาทองคำปิดลงหลุด 1,825 ดอลลาร์
.
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 30,946 จุด -491 จุด หรือ -1.56% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,821 จุด -78 จุด หรือ -2.01% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,181 จุด -343 จุด หรือ -2.98% ส่งผลให้ในขณะนี้ ใกล้สิ้นสุดครึ่งปีแรกของ 2565 ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 กำลังทำสถิติดัชนีหุ้นรายครึ่งปีแรกที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 52 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1970 เนื่องจากดำดิ่งหนักถึง -21.01% เมื่อเทียบจากสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เข้าสู่ภาวะหมี หรือ Bear Market ในขณะที่ปีนี้ ดัชนีหุ้นดังกล่าวร่วงรุนแรงถึง -20% นอกจากนี้ ในแง่ดัชนีหุ้นรายไตรมาส ยังพบว่า ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 กำลังทำสถิติย่ำแย่ที่สุดในรอบ 2 ปี หรือตั้งแต่ปี 2020 ส่วนดัชนีหุ้นนาสแดครายไตรมาสดำดิ่งมากที่สุดในรอบ 14 ปี
.
สาเหตุจากนักลงทุนกลับมามีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเกิดถดถอย หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาลดต่ำลงมาอยู่ที่ 98.7 จุด ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 100 จุด ปัจจัยดังกล่าวตอกย้ำแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ถดถอย
.
ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 110.53 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.96 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.9% ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
.
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 116.28 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.19 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.00% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
.
สาเหตุจากกลุ่มจี 7 มีมติให้ศีกษามาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซีย ซึ่งเป็นท่าทีกดดันรัสเซียล่าสุดในการคว่ำบาตรน้ำมันดิบจากรัสเซีย นอกจากนี้ กำลังการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรต ซึ่งถูกมองว่าจะสามารถผลิตน้ำมันดิบได้รวมดันมาทดแทนปริมาณน้ำมันดิบของรัสเซีย อาจไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นตามเป้าหมายได้ เนื่องจาก ยูเออีผลิตน้ำมันดิบในปัจจุบันใก้จุดสูงสุดที่วันละ 3.168 ล้านบาร์เรลตามโควต้าที่กำหนดไว้ ส่วนซาอุดีอาระเบียสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกวันละ 150,000 บาร์เรลจากปัจจุบัน ขณะที่ความไม่สงบทางการเมืองในประเทศเอกวาดอร์ และลิเบีย อาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การผลิตน้ำมันดิบในทั้ง 2 ประเทศ
.
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,821.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -2.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.2% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
.
สาเหตุจาก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาปรับแข็งค่าขึ้น และนักลงทุนรอติดตามการประชุมเวทีธนาคารกลางกลุ่มยูโรที่ประเทศโปรตุเกส โดยเฉพาะแนวโน้มหรือมุมมองเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของกลุ่มยูโร
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3If8oGR
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ลงทุน #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #ราคาทอง #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #BTimes

 

NATO: ตุรเคีย ยกเลิกการใช้สิทธิออกเสียงยับยั้ง หรือวีโต้ กรณีฟินแลนด์และสวีเดน ขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโตในวัน หลังจากทั้งสามประเทศ ตกลงร่วมกันในการปกป้องความมั่นคงของแต่ละฝ่าย ยุติความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานหลายสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นบททดสอบความเป็นเอกภาพของนาโตต่อการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน

ความก้าวหน้าดังกล่าว มีขึ้นหลังมีการหารือกันนาน 4 ชั่วโมง ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำ พันธมิตรขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต จะเริ่มต้นขึ้นในกรุงมาดริด ประเทศสเปน ในวันที่ 29-30 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะมีผู้นำ 30 ประเทศสมาชิกนาโตเข้าร่วมประชุม เพื่อแสดงพลังต่อต้านรัสเซีย ที่ขณะนี้มองว่า นาโต ซึ่งนำโดยสหรัฐฯ เป็นภัยคุกคามความมั่นคงโดยตรงมากขึ้น

เลขาธิการนาโต เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าวเมื่อวันอังคาร (28 มิถุนายน) ถึงการลงนามข้อตกลงระหว่างตุรกี ฟินแลนด์ และสวีเดนว่า ตอนนี้พวกเขามีข้อตกลงที่ปูทางให้ฟินแลนด์และสวีเดนเข้าร่วมนาโตได้ และเรียกว่าเป็น “การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์” โดยจะมีการส่งคำเชิญเข้าร่วมนาโตอย่างเป็นทางการในวันพุธนี้ ซึ่งปกติแล้วจะต้องใช้เวลานานหลายเดือน

คาดกันว่า สมาชิกนาโตทั้ง 30 ประเทศจะทำการพิจารณาอย่างรวดเร็ว ซึ่งต่างจากกระบวนการปกติที่มักใช้เวลาถึง 1 ปี

สโตลเทนเบิร์ก กล่าวหลังเจรจากับประธานาธิบดีเทย์ยิป เออร์โดวาน ของตุรเคีย, นายกรัฐมนตรีมักดาเลนา แอนเดอร์สสัน ของสวีเดน และประธานาธิบดีเซาลี นีนิสโต ของฟินแลนด์ อีกว่า ข้อตกลงนี้ แก้ปัญหาความกังวลใจของตุรเคีย ซึ่งรวมทั้งประเด็นการส่งออกอาวุธ และการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย

ทั้งฟินแลนด์และสวีเดน ต่างให้คำมั่นที่จะสนับสนุนตุรเคียอย่างเต็มที่ในการต่อต้านภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ โดยมีการปรับแก้กฎหมายภายในประเทศมากขึ้น, การกวาดล้างการเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธพีเคเคและการเข้าสู่ข้อตกลงกับตุรเคียเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนด้วย

มักดาเลนา แอนเดอร์สสัน นายกรัฐมนตรีสวีเดน กล่าวว่า ข้อตกลงนี้ “ดีต่อฟินแลนด์และสวีเดน และดีต่อนาโต” และว่า กระบวนการเข้าเป็นสมาชิกควรเกิดขึ้นได้ “เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี” ด้านตุรกี ระบุว่า “เราได้ทุกอย่างที่ต้องการ” รวมทั้งความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย และตุรเคียเห็นชอบในการสนับสนุนการส่งคำเชิญสวีเดนและฟินแลนด์ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต

ส่วนประธานาธิบดีนีนิสโต ของฟินแลนด์ ก็แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของตุรเคียที่ยกเลิกการวีโต้ การสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโตของฟินแลนด์และสวีเดน พร้อมเรียกข้อตกลงดังกล่าวว่า “เป็นข้อตกลงที่มีความจำเป็นมาก”

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ แสดงความยินดีที่ทั้งสามประเทศ เดินหน้าเข้าสู่ก้าวที่สำคัญ และว่า นาโต “เป็นความเป็นปึกแผ่นและแข็งแกร่งที่สุด”

การที่รัสเซียปฏิบัติการทางทหารในยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ คือ ปัจจัยที่ทำให้สวีเดนและฟินแลนด์สมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโต ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของจุดยืนความเป็นกลางของทั้งสองประเทศที่ดำเนินมานานหลายทศวรรษ นับตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น

ก่อนหน้านี้ ตุรเคีย เป็นสมาชิกนาโตเพียงประเทศเดียวที่ยังไม่สนับสนุนการตัดสินใจดังกล่าว โดยประธานาธิบดีเออร์โดวาน ให้เหตุผลว่า สวีเดนและฟินแลนด์ให้ที่พักพิงแก่ “ผู้ก่อการร้าย” และดำเนินมาตรการลงโทษต่อตุรเคียด้วย

นอกเหนือจากประเด็นนี้แล้ว ในการประชุมสุดยอดประเทศสมาชิกนาโต ที่เริ่มต้นในวันอังคารนี้ นาโตจะเดินหน้ารับรองเอกสารแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Concept) ฉบับใหม่ ซึ่งเป็นเอกสารที่มีความสำคัญที่สุดของกลุ่มนับตั้งแต่การรับรอง สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty) เมื่อปี 1949 โดยจะหยิบยกประเด็นของจีน ที่ยังมีข้อถกเถียงกันภายในสมาชิกเข้ามาในเอกสารนี้เป็นครั้งแรก

แต่ที่ประเทศสมาชิกเห็นตรงกันชัดเจน คือ นาโตเตรียมประกาศว่า รัสเซีย คือ ภัยคุกคามอันดับหนึ่งของนาโต นอกจากนี้ จะมีการบรรจุประเด็นเรื่องความมั่นคงบนโลกไซเบอร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผิดธรรมชาติ และบทบาทความสำคัญของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ลงในเอกสารแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ของนาโตฉบับล่าสุดนี้ด้วย
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #นาโต #ตุรกี #สวีเดน #ฟินแลนด์
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline

 

America: กองทัพสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้จัดส่งหุนยนต์สุนัข ‘สปอต’ ไปช่วยหน่วยงานไม่แสวงผลกำไรของสหรัฐฯ ในภารกิจเก็บกู้กับระเบิดและอาวุธอื่น ๆ ในยูเครนที่กำลังเผชิญภารกิจเก็บกู้วัตถุระเบิดจำนวนมาก เทียบเท่าระดับเดียวกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยจะส่งให้หนึ่งตัวจากทั้งหมดที่มี 2 ตัว

คริส วอตเลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของฮาโล ทรัสต์ บริษัทรับเก็บกู้กับระเบิด ที่ได้งานสัปทานจากรัฐบาลสหรัฐฯ หลายโครงการในยูเครน กล่าวว่า ฮาโล ทรัสต์ จะใช้ หุ่นยนต์สุนัข ที่ชื่อว่า ‘สปอต’ ที่ผลิตโดยบริษัทบอสตัน ไดนามิคส์ ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ ส่งให้จำนวน 1 ตัว ในภารกิจเก็บกู้กระสุนปืนครก และ ระเบิดพวง ในหลายพื้นที่ใกล้กรุงเคียฟ โดยจะทำการดัดแปลงติดแขนยนต์ที่บริเวณส่วนหัวของหุ่นยนต์สปอต เพื่อให้ยึดลากเอาวัตถุระเบิดและอื่น ๆ เช่น ระเบิดลูกปราย หรือ คลัสเตอร์บอมบ์ ไปไว้ในบ่อพักเพื่อระเบิดทำลายทิ้งโดยไม่เป็นอันตรายกับทีมงานร่วม 10 คนของฮาโล ในเมืองบูชา และโบรวารี ใกล้กรุงเคียฟ

ทั้งนี้ แรงงานคนเก็บกู้วัตถุระเบิดชาวยูเครนเริ่มขาดแคลน ติดปัญหาหลายประการรวมทั้งถูกเรียกเป็นทหารเกณฑ์ และติดอยู่ในพื้นที่ยึดครองของรัสเซีย การได้หุ่นยนต์เข้ามาเสริมในส่วนนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างมาก

นอกจากนี้ ฮาโล ทรัสต์ ยังได้รับหุ่น ‘โรโบคัต’ ที่เป็นเสมือนเครื่องตัดหญ้าไฮ-เทค ควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรลจากกองทัพสหรัฐฯ ด้วยเพื่อสนับสนุนงานในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน ก่อนรัสเซียบุกโจมตีด้วย

ด้านผู้บริหารของบอสตัน ไดนามิกส์ ไม่ได้กล่าวถึงการส่งหุ่นยนต์สุนัขให้ฮาโล ทรัสต์ แต่ระบุว่า โดยทั่วไป ‘สปอต’ เป็นเครื่องมือช่วยป้องกันคนจากอันตราย เช่น ใช้ภารกิจสำรวจตรวจสอบวัตถุอันตรายจากระยะไกล แต่บริษัทมีเงื่อนไข ไม่ให้ใช้สปอตเป็นอาวุธ หรือ ใช้เพื่อเป้าหมายมุ่งทำร้ายหรือข่มขู่คุกคาม ส่วนศูนย์บัญชาการเพื่ออนาคตของกองทัพสหรัฐฯ ผู้อนุมัติจัดส่งหุ่นสปอต ไม่ได้แถลงการณ์ตอบรับหรือยืนยันรายงานดังกล่าว

ส่วนการใช้หุ่นยนต์ช่วยปฏิบัติการในสหรัฐฯ ที่ผ่านมา ตำรวจรัฐแมสซาชูเซตส์ ทำการยืมหุ่นสปอต ไปช่วยภารกิจตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัยในระยะไกลเมื่อปี 2019 และกองทัพสหรัฐฯ กำลังให้ทุนศึกษาวิจัยเพื่อสร้างหุ่นยนต์แกะรอย ที่เรียกว่า ‘คอมมอน โรบอติก ซิสเตม’ ที่สามารถตรวจสอบหาวัตถุระเบิดในอาคาร และระบุพิกัดศัตรูก่อนส่งทหารเข้าจู่โจมระยะประชิดและหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ เพื่อช่วยภารกิจกองทัพ

ขณะที่ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ให้ทุนกลุ่มทำงานเกี่ยวกับเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ชื่อว่า สวิส ฟาวเดชัน ฟอร์ ไมน์ แอคชัน เพื่อจัดซื้อหุ่นยนต์ MV-4 หนัก 7 ตัน เพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่มีกับระเบิดและตัดถางพันธุ์พืชบนเนื้อที่ ซึ่งอาจมีกับระเบิดซุกซ่อนอยู่ แต่การทำงานยังไม่คล่องตัวเท่ากับหุ่นสุนัขสปอต โดยเฉพาะในพื้นที่ป่ารก

แอนโธนี คอนเนล ผู้บริหารของกลุ่มสวิส ฟาวเดชันฯ กล่าวด้วยว่า การนำหุ่นยนต์มาใช้ ยังสามารถรับมือ กับระเบิดรุ่น POM-3 ของรัสเซีย ที่ระเบิดทำงานได้จากแรงสั่นสะเทือนมาจากระยะไกลเกือบ 70 ฟุต ซึ่งทีมเก็บกู้ระเบิดเชื่อว่า เป็นอาวุธใหม่ที่รัสเซียนำมาใช้ครั้งแรกในปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #สหรัฐฯ #รัสเซีย #ยูเครน
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

G7: กลุ่ม G7 จะทุ่มงบประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.8 แสนล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตขาดแคลนอาหารโลก

กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ชาติ หรือ G7 จะทุ่มงบประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.8 แสนล้านบาท เพื่อจัดการปัญหาวิกฤตขาดแคลนอาหารโลก หลังอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาชาติ บอกว่า มีความเสี่ยงอย่างแท้จริงของการขาดแคลนอาหารในปีนี้ เนื่องจากสงครามในยูเครน และวิกฤตสภาพอากาศ ตลอดจนการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า G7 จะจัดสรรงบประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อส่งเสริมความมั่นคงของอาหารโลก โดยสหรัฐฯ จะให้เงินครึ่งหนึ่งของจำนวนดังกล่าว เพื่อต่อสู้กับภาวะหิวโหยใน 47 ประเทศ และกองทุนระดับภูมิภาค

ทั้งนี้ มีความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของราคาอาหารที่พุ่งขึ้นต่อประชากรโลก และตำหนิชาติตะวันตกที่คว่ำบาตรรัสเซีย หนึ่งในผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่ของโลก รวมถึงการปิดล้อมท่าเรือ ทำให้ไม่สามารถส่งออกสินค้า ส่งผลให้เกิดภาวะอาหารขาดแคลน
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #G7 #วิกฤตขาดแคลนอาหาร
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Editor’s Pick: ธนาคารโลกหวั่นทั่วโลกเผชิญเงินเฟ้อ หลังความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจช่วงโควิด-19

ประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วโลกต่างออกมาประท้วง เรียกร้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หลังวิกฤตเงินเฟ้อกระทบการใช้ชีวิตรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

ขณะที่ เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง หรือ Stagflation เรื้อรัง หลังความถดถอยของเศรษฐกิจช่วงโควิด-19 กำลังถูกซ้ำเติมด้วยวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน


ธนาคารโลกเตือนวิกฤตเงินเฟ้อ

หลังจากเข้าปีสู่ 2022 มาได้ครึ่งปี ล่าสุด ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกในปีนี้ จาก 4.1% เป็น 2.9%

เดวิด มาลพาส ประธานธนาคารโลก กล่าวว่า วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน การล็อคดาวน์ในจีน และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย กำลังซ้ำเติมการเติบโตทางเศรษฐกิจในหลายประเทศ ซึ่งภาวะนี้หลีกเลี่ยงได้ยาก

ธนาคารโลก หรือ World Bank ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หรือ GEP โดยระบุว่า ไม่ว่าประเทศนั้นจะร่ำรวยหรือยากจน ต่างได้รับผลกระทบจากการเติบโตที่ชะลอตัวเหมือน ๆ กัน

แต่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและประเทศตลาดเกิดใหม่จะมีความเสี่ยงมากกว่า โดยในปี 2022 ระดับรายได้ต่อหัวในประเทศกำลังพัฒนา จะต่ำกว่าแนวโน้มก่อนเกิดโรคระบาดถึง 5%


อัตราเงินเฟ้อที่เกิดในยุค 70

ธนาคารโลกเผยว่า การเติบโตจะคงอยู่ที่ 3% ทั้งในปี 2023 และ 2024 ลดลงครึ่งหนึ่งจาก 5.7% เมื่อปี 2021 เนื่องจากสงครามส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการค้า อุปสงค์ที่กักไว้ในช่วงโควิดระบาดลดลง และการสนับสนุนด้านนโยบายเริ่มถูกถอนออกไป

รายงานดังกล่าวระบุว่า ในปีนี้ การเติบโตในประเทศที่พัฒนาแล้วจะลดลงจาก 5.1% เป็น 2.6% ขณะที่ การเติบโตในประเทศเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาจะลดลงจาก 6.6% เป็น 3.4%

“ท่ามกลางสงครามในยูเครน อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น คาดว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะลดลงในปี 2022” รายงานระบุ

“หลายปีที่ผ่านมา อัตราเงินเฟ้อสูงและการเติบโตที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย มีแนวโน้มว่าจะส่งผลเสียต่อประเทศเศรษฐกิจที่มีรายได้ในระดับต่ำและกลาง โดยเป็นปรากฏการณ์ที่โลกไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ปี 1970”


เศรษฐกิจชั้นนำเสี่ยงล่มสลาย

ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ (26 มิถุนายน) ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือ BIS เตือนว่า เศรษฐกิจชั้นนำใกล้จะเข้าสู่โลกที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง ทำให้การขึ้นราคาสินค้าอย่างรวดเร็วถือเป็นเรื่องปกติ ครอบงำการใช้ชีวิตของประชาชนและยากที่จะยับยั้งได้

ในรายงานประจำปีของ BIS ระบุว่า การเปลี่ยนผ่านไปสู่สภาพแวดล้อมที่มีเงินเฟ้อสูงนั้น เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ก็ยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

อากุสติน คาร์สเตนส์ ผู้จัดการทั่วไปของ BIS กล่าวว่า กุญแจสำคัญสำหรับธนาคารกลาง คือ การดำเนินการอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ก่อนที่อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงจะฝังรากลึก

รายงานของ BIS ระบุว่า ทั่วโลกเกิดความตื่นตระหนก จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น ปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน และการขาดแคลนที่เกิดจากปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน


ชนวนการประท้วงเรียกร้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อทำให้เงินในกระเป๋าของผู้คนร่อยหรอ ผลักดันให้เกิดกระแสการประท้วงและนัดหยุดงานทั่วโลก หลังต้นทุนอาหารและราคาน้ำมันพุ่งสูงต่อเนื่อง สวนทางกับรายได้ที่ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย

เฉพาะในสัปดาห์นี้ เกิดการประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วโลก อาทิ ปากีสถาน ซิมบับเว เบลเยียม สหราชอาณาจักร และเอกวาดอร์ ล่าสุด นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ประกาศว่า เศรษฐกิจของประเทศ ขยับเข้าใกล้ “การล่มสลายอย่างสิ้นเชิงแล้ว” หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายสัปดาห์

นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน ทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ด้วยการผลักดันต้นทุนพลังงานและราคาปุ๋ย ธัญพืช และน้ำมันปรุงอาหาร ขณะที่เกษตรกรพยายามดิ้นรนเพื่อปลูกและส่งออกพืชผล ในภูมิภาคเกษตรกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก

“นี่ไม่ใช่วิกฤตที่กระทบแค่ประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะมันเกิดขึ้นหลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งจุดชนวนให้เกิดความไม่เท่าเทียมขึ้นทั่วโลก” แมตต์ เกรนเจอร์ หัวหน้าฝ่ายความไม่เสมอภาคขององค์กรการกุศล Oxfam ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อยุติความยากจนกล่าว


ทั่วโลกจะแก้ปัญหาเงินเฟ้ออย่างไร

รัฐบาลในหลายประเทศ ตอบสนองต่อค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ประชาชนออกมาประท้วง ด้วยมาตรการสนับสนุน อาทิ การเพิ่มเงินอุดหนุนค่าสาธารณูปโภค และการลดภาษีเชื้อเพลิง แต่ก็บรรเทาได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดพลังงานมีความผันผวน

ธนาคารกลางกำลังพยายามบรรเทาภาวะเงินเฟ้อ ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน คนงานซึ่งหยุดงานประท้วง กดดันให้นายจ้างมีส่วนร่วมในการเจรจาขอขึ้นค่าแรง เพื่อให้รายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้น

ส่วนหนึ่งของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ เกิดขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงเป็นที่สนใจของอุตสาหกรรมทั่วโลก ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการท่องเที่ยว ขณะที่ สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและความแห้งแล้ง กำลังส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ส่งผลให้บางประเทศห้ามการส่งออกสินค้า ผลักดันราคาอาหารให้สูงขึ้นอีก

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF กล่าวว่า ในปีนี้ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยประมาณ 6% ในเศรษฐประเทศพัฒนาแล้ว และเกือบ 9% ในกลุ่มเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนา

IMF ยังเผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกคาดว่าจะชะลอตัวลง 40% เป็น 3.6% ทั้งในปีนี้และปีหน้า โดย IMF เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย
————
แปล-เรียบเรียง: พัชรี จันทร์แรม
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #EditorsPick #เงินเฟ้อ #เศรษฐกิจโลก #วิกฤตยูเครน #โควิด
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline

ข้อมูลอ้างอิง:
https://www.theguardian.com/.../world-bank-economy-weak...
https://www.ft.com/.../b937e023-c86c-4b07-b40d-a3266d84f149
https://apnews.com/.../inflation-middle-east-africa...
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

ถ้าเคียฟสั่งให้ทหารวางอาวุธและทำตามข้อเรียกร้องของมอโสโก ความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซียอาจจบลงในทันที จากคำกล่าวของ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร(28มิ.ย.) ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่รบเร้าผู้นำจี 7 ให้ช่วยยุติสงครามให้ได้ก่อนฤดูหนาว ซึ่งเงื่อนไขต่างๆ จะทำให้กองทหารของเคียฟประสบความลำบากเพิ่มมากขึ้น

"ฝ่ายยูเครนสามารถหยุดทุกอย่างได้ในทันที พวกเขาจำเป็นต้องสั่งให้กองกำลังชาตินิยมทั้งหลายและทหารยูเครนวางอาวุธ และต้องทำตามข้อเรียกร้องของรัสเซีย" เปสคอฟกล่าว แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดของประธานาธิบดีเซเลนสกี ที่ระบุว่าจำเป็นต้องจบสงครามก่อนฤดูหนาว

เปสคอฟบอกว่า "ทั้งหมดทั้งมวลเป็นแค่สิ่งที่เซเลนสกีคิด" พร้อมยืนยันว่าปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารของรัสเซียในยูเครนเป็นไปตามแผนและกำลังบรรลุเป้าหมายต่างๆที่วางเอาไว้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันจันทร์(27มิ.ย.) เซเลนสกี กล่าวกับพวกผู้นำกลุ่มจี 7 ผ่านวิดีโอลิงค์ รบเร้าพวกผู้นำจี 7 ให้ช่วยยุติสงครามระหว่างมอสโกกับเคียฟให้ได้ก่อนฤดูหนาว ก่อนที่สภาพอากาศฤดูหนาวจะทำให้กองทหารของเขาประสบความลำบากเพิ่มมากขึ้นในการสู้รบกับกองกำลังรัสเซีย เขาได้เรียกร้องจี 7 มอบอาวุธเพิ่มเติมแก่ยูเครนและยกระดับคว่ำบาตรมอสโกหนักหน่วงยิ่งขึ้น

ส่วนสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานระบุว่า ในการปราศรัยเดียวกันนั้น เซเลนสกีได้เน้นย้ำว่ายูเครนไม่มีความตั้งใจจะเจรจากับรัสเซีย จนกว่าจะอยู่ในสถานะที่เอื้ออำนายกว่านี้ และทวงคืนดินแดนต่างๆที่สูญเสียไปหลังจากมอสโกเปิดฉากรุกรานในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์กลับมา

การเจรจาหนสุดท้ายระหว่างมอสโกกับเคียฟมีขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมในตุรกี โดยคราวนั้นทั้งสองฝ่ายพยายามต่อรองทางออกอย่างสันติเพื่อยุติความขัดแย้ง อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่นั้นการเจรจาก็หยุดชะงักลงโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ฝ่ายยูเครนยืนกรานว่าจะกลับสู่โต๊ะเจรจาก็ต่อเมื่ออยู่ใน "สถานะการต่อรองที่เข้มแข็งกว่านี้"

ยูเครนเชื่อว่าพวกเขาจะบรรลุเป้าหมาย "สถานะที่เอื้ออำนวยนี้" ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม เดวิด อาราคาเมีย หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของยูเครน บ่งชี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากได้ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ในบางพื้นที่

รัสเซียเปิดฉากโจมตีประเทศเพื่อนบ้านในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลังยูเครนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อตกลงมินสก์ ที่ลงนามครั้งแรกในปี 2014 และท้ายที่สุดมอสโกก็ให้การรับรองสาธารณรัฐโดเนตสก์และสาธารณรัฐลูฮันสก์ ในภูมิภาคดอนบาส ในฐานะรัฐเอกราช

นับตั้งแต่นั้นเครมลินได้เรียกร้องให้ยูเครนประกาศตนเองอย่างเป็นทางการในฐานะประเทศเป็นกลาง ซึ่งจะไม่มีวันเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตรทหารนาโต้ที่นำโดยสหรัฐฯ แต่เคียฟระบุว่าปฏิบัติการของรัสเซียเป็นการรุกรานโดยปราศจากการยั่วยุใดๆ และปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ว่าพวกเขามีแผนใช้กำลังยึดคืนทั้ง 2 สาธารณรัฐ

(ที่มา:อาร์ทีนิวส์/รอยเตอร์)

 

การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น มีเป้าหมายที่ชั่วร้ายกับเกาหลีเหนือ และเป็นส่วนหนึ่งของการโหมโรงที่เป็นอันตรายของการจัดตั้ง "นาโต้เวอร์ชันเอเชีย" ตามรายงานของสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ สื่อมวลชนแดนโสมแดงในวันพุธ(29มิ.ย.)

รายงานข่าวของเคซีเอ็นเอ มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่บรรดาผู้นำของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นมีกำหนดเข้าร่วมประชุมซัมมิตประจำปีของนาโต้ ในฐานะผู้ส่งเกตการณ์เป็นครั้งแรก ขณะเดียวกันพวกเขายังจะพบปะกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ หารือกันในประเด็นเกาหลีเหนือ ซึ่งจะเป็นการประชุมไตรภาคีระหว่าง 3 ชาติครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017

นอกจากนี้แล้วทั้ง 3 ประเทศ ยังจะดำเนินการฝึกซ้อมติดตามและตรวจจับขีปนาวุธร่วมกันใกล้เกาะฮาวายในเดือนสิงหาคม การซ้อมรบภายใต้ชื่อ "แปซิฟิกดราก้อน"

สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ็นระบุว่า "สหรัฐฯกำลังมุ่งมั่นในด้านความร่วมมือด้านการทหารกับพวกลูกไล่ โดยไม่ใส่ความต้องการด้านความมั่นคงหลักๆใดๆ เพิกเฉยความกังวลของบรรดาประเทศแถบเอเชีย-แปซิฟิกทั้งหลาย"

ในถ้อยแถลงคล้ายกันที่เผยแพร่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือระบุว่าการซ้อมรบดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความตลบแตลงของสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้เคยเสนอประสานงานทางการทูตและการเจรจาโดยปราศจากการวางเงื่อนไขล่วงหน้า

เกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธหลายต่อหลายครั้งในปีนี้ ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีปใหญ่ที่สุดของพวกเขา และมีความกังวลว่าเปียงยางอาจกำลังเตรียมการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017

ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติกลับอยู่ในภาวะมึนตึง สืบเนื่องจากความตึงเครียดในอดีต ต่อกรณีญี่ป่นรุกรานเกาหลีใต้ ในช่วงปี 1910 ถึง 1945

วอชิงตันผลักดันให้โซลและโตเกียวร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ เช่นเดียวกับเพื่อตอบโต้อิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของจีน

"อุบายการจัดตั้งพันธมิตรทหารสหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อันมีแรงจูงใจจากการคุกเข่าคำนับสหรัฐฯของญี่ปุุ่นและเกาหลีใต้ คือหลักฐานของการโหมโรงจัดตั้งนาโต้เวอร์ชันเอเชียที่อันตราย" สำนักข่าวเคซีเอ็นเอรายงาน พร้อมกล่าวหาวอชิงตันกำลังปลุกปั่นสงครามเย็นรอบใหม่

ในรายงานของเคซีเอ็นเอ ยังได้เผยแพร่ความคิดเห็นของ คิม ฮโย-มยุง นักวิจัยของศูนย์สังคมระหว่างประเทศเพื่อวิจัยการเมือง ของเกาหลีเหนือ ที่ระบุว่า "นาโต้คือผู้ต้องรับผิดชอบสงครามในยูเครน มีสัญญาณแห่งลางร้ายว่าไม่ช้าก็เร็ว ระลอกคลื่นสีดำในแอตแลนติกเหนือจะทำลายความสงบสุขในแปซิฟิก" เขากล่าว "นาโต้ ไม่ได้เป็นสิ่งอื่นใดนอกเหนือไปจากข้ารับใช้ยุทธศาสต์ความเป็นเจ้าโลกของสหรัฐฯ และเป็นเครื่องมือของการรุกราน"

(ที่มา:รอยเตอร์)

 

อิหร่าน ชาติผู้มีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองมากสุดอันดับ 2 ของโลก สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก BRICS ที่ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้ กลุ่มที่ทางปักกิ่งและมอสโกอวดอ้างว่าเป็นตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ทรงพลัง ที่เป็นอีกทางเลือกนอกเหนือจากตะวันตก ในขณะที่ อาร์เจนตินา ก็แสดงจุดยืนปรารถนาเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มเช่นกัน

บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งกลุ่มขึ้นในปี 2009 และมีการประชุมซัมมิตครั้งแรกในปีเดียวกัน ก่อนที่แอฟริกาใต้ จะเข้าร่วมในปี 2010

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านระบุว่า "การเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ของอิหร่าน จะก่อผลลัพธ์ช่วยเพิ่มมูลค่าแก่ 2 ฝ่าย" ในขณะที่รัสเซียเปิดเผยว่า อาร์เจนตินา ก็สมัครเข้าร่วมกลุ่มเช่นกัน

รัสเซียอวดอ้างการสมัครเข้าร่วมของทั้ง 2 ชาติ ว่าเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าตะวันตก ที่นำโดยสหรัฐฯ กำลังล้มเหลวในความพยายามโดดเดี่ยวรัสเซีย ต่อสิ่งที่มอสโกเรียกว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารในยูเครน

"ในขณะที่สหรัฐฯมัวแต่คิดว่าจะปิดกั้นอะไรอีกในโลกใบนี้ รวมไปถึงการสั่งห้ามหรือทำลายสิ่งต่างๆ อาร์เจนตินาและอิหร่านได้สมัครเข้าร่วมกลุ่ม BRICS" มาเรีย ชาคาโรวา โฆษกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียกล่าว

อัลแบร์โต เฟอร์นานเดซ ประธานาธิบดีของอาร์เจนตินา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในยุโรป เน้นย้ำถึงความปรารถนาของเขาในการพาประเทศเข้าร่วมกลุ่ม BRICS ทั้งนี้แหล่งข่าวรัฐบาลยอมรับว่ายังไม่ได้เริ่ม "กระบวนการอย่างเป็นทางการ" แต่อาร์เจนตินามีความตั้งใจที่จะทำเช่นนั้น

"เจ้าหน้าที่อาร์เจนตินาได้แสดงออกอย่างเปิดเผยแล้วว่าพวกเขามีความตั้งใจเข้าร่วม มันเป็นกระบวนการที่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น" แหล่งข่าวระบุ

ตามข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) จีน เป็นชาติที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในกลุ่ม BRICS คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของมูลค่าเศรษฐกิจของทั้งกลุ่มรวมกัน ซึ่งอยู่ที่ 27.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อินเดีย คิดเป็นสัดส่วน 13% ส่วน รัสเซียและบราซิล คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7%

BRICS มีประชากรรวมกันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของประชากรโลก และมีขนาดเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนถึง 26% ของเศรษฐกิจโลก

นับตั้งแต่เหตุการณ์ปฏิวัติอิสลามปี 1979 ซึ่งเป็นการโค่นจักรพรรดิชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ลงจากอำนาจ อิหร่านถูกกีดกันจากตะวันตกและเศรษฐกิจของพวกเขาถูกฉีกขาดจากมาตรการคว่ำบาตรต่างๆนานา อย่างไรก็ตามอิหร่านมีแหล่งน้ำมันสำรองคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 1 ใน 4 ของตะวันออกกลาง

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ร่วมประชุมทางไกลกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียและพวกผู้นำคนอื่นๆของกลุ่ม BRICS เมื่อสัปดาหที่แล้ว

สี วิพาษ์วิจารณ์มาตรการคว่ำบาตรข่มเหงรังแกของนานาชาติ ส่วนปูตินตำหนิตะวันตกว่าเป็นผู้ปลุกปั่นวิกฤตโลก และทั้งสองเรียกร้องให้ยกระดับความร่วมมือในกลุ่ม BRICS

ปูตินบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับจีน อยู่ในช่วงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และคุยโวถึงความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับปักกิ่ง โดยมีเป้าหมายตอบโต้อิทธิพลของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุว่าตะวันตกกำลังต่อสู้อยู่กับรัฐบาลเผด็จการทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงจีนและรัสเซีย

สหรัฐฯและบรรดามหาอำนาจตะวันตก อ้างว่าการตัดสินใจรุกรานยูเครนของปูติน คือต้นตอที่ฉุดความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962 ในนั้นรวมถึงการที่ตะวันตกและพันธมิตรกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเล่นงานรัสเซียหนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่

อย่างไรก็ตาม ปูติน บอกว่าตะวันตกต้องการทำลายรัสเซีย และว่ามาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเท่ากับเป็นการประเทศสงครามทางเศรษฐกิจ และระบุรัสเซียจะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับมหาอำนาจอื่นๆแทน อย่างเช่นจีน อินเดียและมหาอำนาจในตะวันออกกลาง

(ที่มา:รอยเตอร์/อาร์ทีนิวส์)

 

ตุรกี ในฐานะสมาชิกปัจจุบัน เมื่อวันอังคาร(28มิ.ย.) ถอนการคัดค้านในกรณีฟินแลนด์และสวีเดนสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ หลังจากทั้ง 3 ชาติตกลงที่จะปกป้องความมั่นคงของกันและกัน ยุติเรื่องราวดราม่าที่ยืดเยือมานานหลายสัปดาห์ ซึ่งทดสอบความเป็นปึกแผ่นของพันธมิตรทหารแห่งนี้ในจุดยืนต่อต้านการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

การผ่าทางตันครั้งนี้มีขึ้นตามหลังการเจรจายาวนาน 4 ชั่วโมง ก่อนการประชุมซัมมิตนาโต้จะเริ่มขึ้นในกรุงมาดริด ซึ่งบรรดาผู้นำ 30 ชาติมารวมตัวกันเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันต่อต้านรัสเซีย ที่เวลานี้พันธมิตรทหารที่นำโดยสหรัฐฯมองว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงโดยตรงมากกว่าศัตรูหน้าไหน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว นั่นหมายความว่า ฟินแลนด์และสวีเดน สามารถเดินหน้าในกระบวนการสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต้ ส่อเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านความมั่นคงของยุโรปในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศแถบนอร์ดิกนั้น มีประวัติศาสตร์แห่งความเป็นกลางมาช้านาน แต่เวลานี้พวกเขากำลังเสาะแสวงหาการคุ้มกันจากพันธมิตรทหารตะวันตก

"รัฐมนตรีต่างประเทศของเราได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงไตรภาคี ซึ่งยืนยันว่าตุรกีจะสนับสนุนคำเชิญฟินแลนด์และตุรกีเป็นสมาชิกนาโต้" ประธานาธิบดีเซาลี นีนิสตอ ของฟินแลนด์กล่าว พร้อมระบุว่าก้าวย่างต่างๆสำหรับการรับฟินแลนด์และสวีเดนเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ จะมีการตกลงกันในช่วง 2 วันข้างหน้า

เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้และประธานาธิบดีตุรกี ยืนยันเกี่ยวกับบันทึกข้อตกลงในถ้อยแถลงแยกกัน ตามหลังการพูดคุยเจรจาระหว่างเลขาธิการนาโต้ ประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี นายกรัฐมนตรีมักดาลีนา แอนเดอร์สสัน แห่งสวีเดนและ นีนิสตอ "เพิ่งบรรลุบันทึกข้อตกลงหลักๆ ระหว่างสวีเดน ฟินแลนด์และตุรกี เปิดทางสำหรับการเข้าร่วมนาโต้ของสวีเดน" แอนเดอร์สสัน เขียนบนทวิตเตอร์

ข้อตกลงครั้งนี้ถือเป็นการปลดล็อกความเป็นปึกแผ่นของพันธมิตรในมาตรการตอบโต้รัสเซีย โดยเฉพาะในทะเลบอลติก ดินแดนที่ฟินแลนด์และสวีเดน จะช่วยให้นาโต้ถือไพ่เหนือกว่ามอสโกในด้านการทหาร

ก่อนหน้านี้บรรดาเพื่อนบ้านนอร์ดิก อย่าง นอร์เวย์ เดนมาร์กและประเทศอื่นๆในแถบบอลติก 3 ชาติ ได้เข้าร่วมสมาชิกนาโต้ล่วงหน้าแล้ว แต่สงครามของรัสเซียในยูเครน ซึ่งมอสโกเรียกว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร กระตุ้นให้สวีเดนกลับลำจุดยืนเดิมที่มีมานานหลายทศวรรษ บ่ายหน้าขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต้

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯและ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร แสดงความยินดีกับข้อตกลงดังกล่าว โดย ไบเดน โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ เรียกมันว่าเป็น "ก้าวย่างสำคัญมุ่งหน้าสู่การเชื้อเชิญฟินแลนด์และสวีเดนของนาโต้ ซึ่งจะเพิ่มความเข้มแข็งแก่พันธมิตรของเราและยกระดับความมั่นคงร่วมกันของเรา"

สโตลเทนเบิร์ก บอกว่าจากนี้บรรดาผู้นำ 30 ชาติของนาโต้ จะมีคำเชิญฟินแลนด์ ซึ่งมีชายแดนติดกับรัสเซียเป็นระยะทาง 1,300 กิโลเมตร และสวีเดนเข้าร่วมนาโต้ และทั้งสองประเทศจะกลายเป็น "ผู้ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการ" เขากล่าว "ประตูเปิดแล้ว การเข้าร่วมนาโต้ของฟินแลนด์และสวีเดนจะเกิดขึ้น"

อย่างไรก็ตาม แม้อนุมัติคำเชิญอย่างเป็นทางการแล้ว รัฐสภาของประเทศสมาชิก 30 ชาติของนาโต้ จำเป็นต้องให้สัตยาบันรับรองการตัดสินใจของผู้นำของพวกเขา กระบวนการที่คาดหมายว่าน่าจะใช้เวลาราวๆ 1 ปี

ข้อเรียกร้องหลักของตุรกี ซึ่งสร้างความประหลาดใจแก่พันธมิตรนาโต้ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ก็คือขอให้ทั้ง 2 ชาตินอร์ดิกหยุดสนับสนุนกลุ่มนักรบเคิร์ดที่ปรากฏตัวอยู่ในแต่ละประเทศ และยกเลิกคำสั่งแบนขายอาวุธบางอย่างแก่ตุรกี

สโตลเทนเบิร์ก ระบุว่าในเงื่อนไขของข้อตกลง เกี่ยวกับกับคำสัญญาของสวีเดนที่จะทำงานเข้มข้นขึ้นในด้านคำขอส่งตัวผู้ต้องสงสัยนักรบในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนมายังตุรกี และการปรับแก้กฎหมายของสวีเดนและฟินแลนด์ จัดการกับนักรบกลุ่มนี้หนักหน่วงขึ้น

เลขาธิการนาโต้บอกต่อว่า สวีเดนและฟินแลนด์ จะยกเลิกข้อจำกัดต่างๆของพวกเขาในด้านการขายอาวุธแก่ตุรกีด้วย

ที่ผ่านมา ตุรกีหยิบยกความกังวลร้ายแรงเกี่ยวกับกรณีสวีเดนให้แหล่งกบดานแก่พวกนักรบจากพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน ซึ่งหยิบอาวุธขึ้นสู้กับรัฐตุรกีในปี 1984 แต่ทางสตอกโฮล์ม ปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว

ประธานาธิบดีตุรกีระบุในถ้อยแถลงว่าข้อตกลงที่เห็นพ้องกันในวันอังคาร(28มิ.ย.) หมายความว่า "จะมีความร่วมมือเต็มพิกัดกับตุรกี ในการต่อสู้กับพรรคแรงงานเคอร์ดิสถานและเครือข่ายของพวกเขา" พร้อมบอกด้วยว่า "สวีเดนและฟินแลนด์ แสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับตุรกี ในการต่อสู้กับก่อการร้ายในทุกรูปแบบ"

(ที่มา:รอยเตอร์)

 

รัสเซียโต้โจมตีคลังอาวุธ ไม่มีเจตนาถล่มศูนย์การค้าในยูเครนอย่างที่ตะวันตกกล่าวหา ด้านนาโต้เร่งเพิ่มทหารพร้อมรับมือรัสเซียจาก 4 หมื่นเป็น 3 แสนคน

เคียฟและเหล่าพันธมิตรตะวันตกเรียงหน้าประณามมอสโกว่ายิงขีปนาวุธถล่มศูนย์การค้าในเมืองเครเมนชุก ทางภาคกลางของยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 18 คน ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงในวันอังคาร (28 มิ.ย.) ว่ามุ่งโจมตีคลังอาวุธและเครื่องกระสุน ซึ่งเกิดการระเบิดและไฟไหม้ช็อปปิ้งมอลล์ที่อยู่ใกล้เคียง ด้านองค์การนาโต้ที่กำลังจะประชุมซัมมิตกันในสัปดาห์นี้เผย จะเพิ่มกองทหารเตรียมพร้อมระดับสูงของตนขึ้นเป็นกว่า 300,000 คน เพื่อตอบโต้สถานการณ์ที่แดนหมีขาวทำสงครามอยู่ในยูเครน

ทางการยูเครนแถลงว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีศูนย์การค้าในเมืองเครเมนชุกเมื่อวันจันทร์ (27) โดยที่ในตอนแรกระบุว่าขณะนั้นมีผู้คนไปจับจ่ายซื้อของกันที่นั่นกันเนืองแน่นถึงราว 1,000 คน แต่ต่อมา เดนิส โมนัสตีร์สกี้ รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครนแถลงใหม่ว่า ในทันทีที่เสียงเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่สามารถออกจากช็อปปิ้งมอลล์แห่งนั้น เนื่องจากมีหลุมหลบภัยอยู่ตรงฝั่งตรงข้ามถนน

เคียฟให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีคราวนี้ว่ามีอย่างน้อย 18 คน และบาดเจ็บ 59 คน และยังมีผู้สูญหายอีกราว 36 คน ขณะที่พวกผู้นำกลุ่ม 7 ชาติอุตสาหกรรมสำคัญของโลกตะวันตก (จี7) ซึ่งประชุมซัมมิตกันอยู่ที่รีสอร์ตทางภาคใต้ของเยอรมนี ได้ออกมาประณามว่า นี่เป็นการที่รัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามและเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ ส่วนประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน สำทับว่า เป็นหนึ่งในการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป และกล่าวหารัสเซียพุ่งเป้าโจมตีพลเรือนโดยตรง

ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงในวันอังคาร ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยยืนยันว่า ตนโจมตีคลังอาวุธในเมืองเครเมนชุก ซึ่งเป็นที่เก็บอาวุธความแม่นยำสูงที่อเมริกาและยุโรปส่งให้ยูเครน และไม่ได้ตั้งใจโจมตีศูนย์การค้าดังกล่าว

คำแถลงของกระทรวงกลาโหมรัสเซียยังระบุว่า เครื่องกระสุนที่จัดเก็บไว้เพื่อใช้กับพวกอาวุธของฝ่ายตะวันตก ได้ระเบิดทำให้เกิดไฟไหม้ในส่วนที่ไม่ได้ถูกใช้งานของศูนย์การค้าที่อยู่ใกล้คลังอาวุธ

ยูเครนบอกว่า การปฏิบัติการกู้ภัยโดยทหารและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงดำเนินอยู่ในวันอังคารเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและร่างผู้เสียชีวิต

นอกจากนั้น เคียฟยังอ้างว่า รัสเซียยกระดับการโจมตีอย่างเข้มข้นในช่วงหลายวันมานี้ เช่น เมื่อวันอาทิตย์ (26) อาคารที่พักอาศัยในกรุงเคียฟถูกถล่ม ซึ่งถือเป็นการโจมตีเมืองหลวงของยูเครนครั้งแรกนับจากต้นเดือนมิถุนายน ส่วนในวันจันทร์มอสโกยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองคาร์คีฟและลีซีชานสก์ ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกของยูเครน และถือเป็นอีกหนึ่งวันในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีพลเรือนเสียชีวิตมากที่สุด โดยเวลานี้ ลีซีชานสก์ กลายเป็นเมืองใหญ่เมืองเดียวในแคว้นลูฮันสก์ของภูมิภาคดอนบาสที่ยังอยู่ในการควบคุมของยูเครน

ด้าน ดมิทรี โปลแยนสกี้ รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวภายหลังเหตุโจมตีศูนย์การค้าในเมืองเครเมนชุกว่า ยูเครนใช้เหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อเรียกร้องความเห็นใจก่อนการประชุมซัมมิตขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 28-30 นี้

ในอีกด้านหนึ่ง เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ระบุในวันจันทร์ว่า กลุ่มพันธมิตรทางทหารนำโดยสหรัฐฯแห่งนี้ จะเพิ่มกลุ่มกำลังทหารสู้รบของตนบางกลุ่มทางปีกตะวันออกของนาโต้ ซึ่งก็คือด้านที่อยู่ติดต่อกับรัสเซีย ให้ขึ้นไปเป็นระดับกองพลน้อย และทำให้จำนวนกำลังทหารที่อยู่ในภาวะเตรียมพร้อมระดับสูงของนาโต้อยู่ที่ “ราวๆ กว่า 300,000 คน” จากปัจจุบันซึ่งมีอยู่ 40,000 คน

เขาระบุว่า กองทหารของนาโต้ที่ประจำอยู่ในพวกรัฐบอลติก และอีก 5 ชาติสมาชิกนาโต้ซึ่งอยู่แนวหน้าติดกับรัสเซีย จะได้รับการปรับจำนวนให้สูงขึ้นสู่ระดับกองพลน้อย นั่นคือ เป็นสองเท่าตัวหรือสามเท่าตัวของเวลานี้ โดยจะขึ้นไปเป็นระหว่าง 3,000 ถึง 5,000 คน

นี่จะเท่ากับเป็นการยกเครื่องการป้องกันร่วมและการป้องปรามร่วมครั้งใหญ่ที่สุดของนาโต้นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น สโตลเตนเบิร์กแถลงก่อนหน้าการประชุมซัมมิตนาโต้

นอกจากนั้น ยังจะมีการเคลื่อนย้ายพวกอาวุธหนัก เป็นต้นว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศ ขึ้นไปใกล้แนวหน้ามากขึ้น เช่นเดียวกับจะมีการกำหนดกองทหารเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อให้ทำหน้าที่คุ้มครองป้องกันสมาชิกนาโต้บางรายซึ่งอยู่ทางปีกตะวันออกที่ถือเป็นจุดล่อแหลมขององค์การ

ทั้งนี้ในปัจจุบันนาโต้มีกองทหารเตรียมพร้อมระดับสูงราวๆ 40,000 คนอยู่ในความบังคับบัญชา แต่คาดหมายกันว่ากำลังทหารซึ่งจะกลายเป็นกว่า 300,000 คน จะอยู่ในลักษณะเป็นกองกลางซึ่งนาโต้สามารถนำไปใช้ได้ในกรณีฉุกเฉิน

เจ้าหน้าที่นาโต้ผู้หนึ่งอธิบายเพิ่มเติมว่า ระบบใหม่นี้จะเข้าที่เข้าทางได้ภายในปีหน้า และจะปรับปรุงยกระดับความสามารถของนาโต้ในการตอบโต้ได้ในระยะเวลาอันสั้นภายหลังได้รับแจ้งเหตุ โดยที่มีทรัพย์สินทั้งทางภาคพื้นดิน, ทางทะเล, ทางอากาศ, และทางไซเบอร์ พร้อมใช้งาน

(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี, การ์เดียน)

 

รัฐบาลทหารพม่าแจงชัดไม่อนุญาตทูตพิเศษอาเซียนพบซูจีระหว่างเยือน
.
.
เอเอฟพี - โฆษกรัฐบาลทหารพม่ากล่าวว่าทูตพิเศษของภูมิภาคที่ได้รับมอบหมายให้อำนวยความสะดวกในการเจรจาระหว่างรัฐบาลทหารของพม่าและฝ่ายตรงข้ามจะไม่ได้รับอนุญาตให้พบหารือกับอองซานซูจีระหว่างการเยือนที่กำลังจะเกิดขึ้น
.
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้นำความพยายามทางการทูตที่หยุดชะงักไปเพื่อยุติความโกลาหลวุ่นวายที่เกิดจากการรัฐประหารเมื่อปีก่อน ซึ่งนำไปสู่การชุมนุมประท้วงและการปราบปรามนองเลือดกับผู้เห็นต่าง
.
ปรัก สุคน ทูตพิเศษอาเซียนและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา มีกำหนดเดินทางถึงพม่าในวันพุธ (29) เพื่อเยือนพม่าเป็นเวลา 5 วัน โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเริ่มต้นการเจรจาระหว่างรัฐบาลทหารและฝ่ายตรงข้ามการปกครองของพวกเขา
.
ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดว่าปรัก สุคน จะพบหารือกับใครระหว่างการเยือน แต่ทูตพิเศษจะไม่ได้รับอนุญาตให้พบผู้ที่ถูกพิพากษาความผิดตามกฎหมายหรือผู้ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีตามกฎหมาย ซอ มิน ตุน โฆษกของรัฐบาลทหารกล่าวกับเอเอฟพี
.
ศาลรัฐบาลทหารตัดสินว่าซูจีมีความผิดฐานทุจริตคอร์รัปชัน ปลุกระดมต่อต้านทหาร ละเมิดกฎระเบียบโควิด-19 และละเมิดกฎหมายโทรคมนาคม และถูกตัดสินจำคุกรวม 11 ปี
.
นอกจากนี้ เธอยังเผชิญกับข้อหาอื่นๆ อีกมากมายและอาจต้องโทษจำคุกนานกว่า 150 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิดในทุกข้อหา
.
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซูจีถูกย้ายจากการกักบริเวณในบ้านพักไปขังเดี่ยวในเรือนจำ ความเคลื่อนไหวที่ก่อให้เกิดเสียงประณามจากสหประชาชาติ
.
เมื่อปีก่อน รัฐบาลทหารปฏิเสธที่จะอนุญาตให้ทูตพิเศษอาเซียนในขณะนั้นเยี่ยมซูจี ซึ่งถูกควบคุมตัวตั้งแต่การรัฐประหาร และในเวลาต่อมา กลุ่มภูมิภาคได้กีดกันพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย จากการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำของกลุ่ม.

 

Netflix จ่อเตรียมเปิดมีโฆษณา หลังยอดผู้สมัครลดทำรายได้หด
.
.
.
.
.
เอเจนซีส์ - ซีอีโอบริษัท Netflix บริการสตรีมมิงออนไลน์ชื่อดังจากสหรัฐฯแถลงยืนยันสัปดาห์ที่แล้วว่า เป็นที่แน่นอนแล้วว่าทางบริษัทจะเพิ่มโฆษณาเข้าไปเพื่อต้องการให้ราคาสมาชิกรับชมยังคงต่ำ เกิดขึ้นหลัง Netflix ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 300 คนหลังรายได้ลด
.
เมโทรของอังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(27 มิ.ย)ว่า บริการสตรีมมิงออนไลน์ชื่อดังจากสหรัฐฯแถลงยืนยันสัปดาห์ที่แล้วว่า เป็นที่แน่นอนแล้วว่าทางบริษัทจะเพิ่มโฆษณาเข้าไปในกลุ่มสมาชิกที่ต้องการโฆษณาเพื่อต้องการให้ราคาค่าสมาชิกรับชมยังคงต่ำดึงดูดการสมัครเพิ่ม เกิดขึ้นหลัง Netflix สั่งเลิกจ้างพนักงาน 300 คนหลังรายได้ลด
.
ที่ผ่านมา Netflix บริการสตรีมมิงออนไลน์ชื่อดังจากสหรัฐฯไม่มีโฆษณากั้นระหว่างการรับชมในการทำตลาดแต่ทว่าผลประกอบการของบริษัทขาดทุน
.
อ้างอิงจากเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี(23)พบว่า Netflix ในเดือนกุมภาพันธ์ได้สูญเสียสมาชิกทั่วโลกไปราว 200,000 รายและเชื่อว่าจำนวนผู้ใช้บริการจำนวน 2 ล้านคนจะลดลงภายในไตรมาสที่กำลังจะมาถึง
.
และส่งผลให้บริษัทสั่งปลดพนักงานไป 300 คนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐฯหลังเป็นการสูญเสียผู้ใช้บริการเป็นครั้งแรกมากกว่า 10 ปี การสั่งปลดพนักงานรอ บล่าสุดคิดเป็น 4% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด การสั่งลดพนักงาน Netflix ยังเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมล่าสุดโดยสั่งปลดไป 150 คน
.
เมโทรรายงานว่า ผู้บริหารระดับสูงร่วม เทด ซาแรนดอส( Ted Sarandos )กล่าวให้สัมภาษณ์ที่เทศกาลภาพยนต์โฆษณาคานส์ไลออนส์( Cannes Lions advertising festival) ในวันพฤหัสบดี(23) กล่าวยืนยันว่า ทางบริษัทต้องการเอาใจกลุ่มผู้บริโภคที่คิดว่าต้องการอัตราสมาชิกต่ำและสามารถรับชมโฆษณาได้
.
โดยแผนการบริษัทที่ต้องการดึงผู้บริโภคให้หันกลับมารับชม Netflix ชี้ว่า การมีโฆษณาแทรกนั้นจะเกิดขึ้นสำหรับเฉพาะแผนสมาชิกโปรโมชั่นรับโฆษณาที่กำลังจะมาถึงเท่านั้น แต่สำหรับสมาชิกทั่วไปจะยังสามารถรับชมได้อย่างปกติโดยไม่มีโฆษณามากั้นเหมือนในปัจจุบัน
ดูน้อยลง

 

29.06.22

นักบินของสายการบิน SAS ไม่มีการหยุดงานประท้วงในวันนี้ และทำการบินตามปรกติทุกเส้นทาง เนื่องจาก ทั้ง 2 ฝ่าย (นายจ้าง และ นักบิน)สามารถตกลงกันโดยขยายเส้นตายการเจรจาเป็นวันที่ 02.07 แทน

จนกว่าจะถึงวันเสาร์ การเจรจาภายในของ SAS ยังคงดำเนินต่อไปอีก 3 วัน ซึ่งจะไม่มีการหยุดงานประท้วงในช่วงเวลานี้

ที่มา : https://www.nrk.no/norge/ingen-streik-i-sas-fra-onsdag-1.16019939

 

BREAKING!!
รับไหวไม่ไหว ? Bitcoin ร่วงลงหลุด 20,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ! ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกโดนเทขายยกแผง กังวลเงินเฟ้อ
#WorldMaker

ล่าสุดราคา Bitcoin ร่วงลง 20,000 ดอลลาร์ลงมาอีกครั้ง ! รอลุ้นกันงานนี้จะไหวหรือไม่ ?? ในขณะที่ทางฝั่งตลาดหุ้นเองก็ร่วงยกแผ่งอยู่ตอนนี้ !

แบ่งปันจาก World Maker

https://www.facebook.com/1095821106...jGUwj2ecb7v6xm7iv2N2kX8WYJaQWdXB1bRu84k6Sixl/