ติดตามสถานะการณ์

เขย่าชีพจรเดือด!ไบเดนลั่น หนุนญี่ปุ่นเป็นสมาชิก"ถาวร"คณะมนตรีความมั่นคง UN -บิดแกนอำนาจ-ตอนนี้ มีแค่5ชาติ: รัส/จีน/อเม/อัง/ฝรศ

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ United Nations Security Council (UNSC) มีสมาชิกถาวร 5 ชาติเท่านั้นนะครับ นอกนั้นจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นวาระ
ชาติเหล่านั้น ได้แก่ อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รัสเซีย --- จะเห็นขั้วชัดเจนนะครับ: สามชาติแรก กับ สองชาติหลัง --- จึงเกิดดุลอำนาจ
ถ้าสมมติจะดันญี่ปุ่นเข้าไปจริงๆ ก็ซี้ดเลยล่ะครับ ไม่มียอมง่ายๆ แน่
(และตอนนี้ ที่น่าจะเกิดก่อน คือ การตะเพิดรัสเซียออกไปซะมากกว่า)
สังเกตนะครับ ขนาดเยอรมันยังไม่ได้เข้าร่วมเลย
เวลาประชุมสุมหัวเรื่องคว่ำบาตรหงายบาตรอิหร่าน จะมี P5+1 เป็นแกน
P5 ก็คือ 5 ชาตินั้นแหละที่เป็นสมาชิกถาวร UNSC
อีก 1 ที่บวกมาคือเยอรมัน
ถ้าจู่ๆ ญี่ปุ่นเสียบเข้ามาปาดหน้าเลย ก็ดูกระไรอยู่
https://www.reuters.com/world/biden...sit-launch-regional-economic-plan-2022-05-23/

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกา กระตุ้นให้ญี่ปุ่นอุตสาหะเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหาร (เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากจีน) ป๊าดดดดด ไม่บอกโต้งๆ ไปเลยล่ะ ว่ามาซื้ออาวุธข้าเถิดจะเกิดผล!
https://www.reuters.com/world/biden...sit-launch-regional-economic-plan-2022-05-23/

 

WORLD: รู้ไหม? ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ของ ‘น้องอุ้ม’ นอกจากจะกินได้ไม่ผิดกฎหมาย ยังราคาตัวละหลายแสนบาทด้วย
.
แม้ว่าโซเชียลมีเดียจีนจะเป็นระบบที่ค่อนข้างปิดที่อินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนน้อยคนจะดังออกมานอกประเทศ แต่ล่าสุดมีอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนที่โด่งดังมากจนเป็นขวัญใจ ‘ชาวเน็ต’ ไทย เธอคือสาวจีนในลุคญี่ปุ่นที่เป็น ‘อินฟลูเอนเซอร์สายกิน’ ชาวไทยเรียกชื่อเธอกันเล่นๆ ว่า ‘น้องอุ้ม’ เพราะวิดีโอทั้งหมดเป็นภาษาจีน และส่วนใหญ่คนก็จะดูจากที่แชร์ต่อกันมา โดยคาดเดากันว่า ‘ต้นทาง’ น่าจะมาจากโซเชียลมีเดียของจีน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ดูกันแต่ภาพ ฟังและอ่านอะไรไม่รู้เรื่องนั่นเอง
.
ที่ไม่ต้องฟังรู้เรื่องแต่ก็ดูรู้เรื่องเพราะทุกๆ คลิปวิดีโอจะเป็นการที่ ‘น้องอุ้ม’ ไปตลาดเพื่อซื้อสัตว์ตัวใหญ่ๆ มาอุ้มเล่น ก่อนที่เธอจะนำมันไปชำแหละ และเอาลงหม้อไฟหม่าล่าตอนท้ายคลิป นี่ก็เลยเป็นชื่อฉายาที่คนไทยเรียกกันว่า ‘น้องอุ้ม’ เพราะอะไรที่เธออุ้ม มันจะกลายเป็นอาหารของเธอ
.
จริงๆ ‘น้องอุ้ม’ ที่คนไทยเรียกนั้นมี ‘ชื่อในวงการ’ คือ ‘ถีจื่อ’ (提子/Tizi) โดยเธอมีเพจเฟซบุ๊คด้วย แต่ชื่อเพจเป็นภาษาจีน คนก็เลยหาไม่เจอกัน (ไปดูได้ที่ https://www.facebook.com/TZtizi )
.
แต่ในที่นี้ เราจะไม่ได้พูดถึงตัว ‘น้องอุ้ม’ เอง แต่จะพูดถึงสัตว์ในคลิปที่สร้างชื่อให้เธอระดับตราตรึงใจชาวโลกมากๆ ซึ่งก็คือ ‘ซาลาแมนเดอร์ยักษ์จีน’
.
ที่ตราตรึงก็เพราะ ไม่ว่าจะเป็น หอยยักษ์ ปูยักษ์ กุ้งยักษ์ หรือกระทั่ง จระเข้ และตะพาบน้ำ ที่ ‘น้องอุ้ม’ ทำการอุ้มก่อนจับลงหม้อนั้น แม้ว่าจะตัวใหญ่แค่ไหน แต่ก็ล้วนเป็นสัตว์ที่คนจินตนาการได้ว่ามันเป็นอาหาร เพราะก็เคยกินกันหรืออย่างน้อยก็เคยเห็นคนกิน แต่ซาลาแมนเดอร์ยักษ์น่ะเหรอ? เอาจริงๆ หลายคนเข้าใจว่ามันน่าจะเป็นสัตว์ป่า สัตว์อนุรักษ์ ทุกคนก็เลยงงว่ามันเอามากินได้ด้วย?
.
อธิบายง่ายๆ ก็ต้องเริ่มจากข้อเท็จจริงว่า ข้อตกลงนานาชาติว่าด้วยการคุ้มครองสัตว์ป่าในโลกนี้ที่สำคัญที่สุดคือ ‘อนุสัญญาไซเตส’ ที่ชาวโลกเริ่มลงนามกันและบังคับใช้เมื่อราวๆ 50 ปีที่แล้ว ข้อตกลงนี้ออกมาเพื่อแบนและควบคุมการซื้อขาย ‘สัตว์ป่า’ ระดับระหว่างประเทศอย่างจริงจังก่อนที่พวกมันจะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ หรือพูดง่ายๆ ก็คือมันเป็นกฎหมายระหว่างประเทศที่พยายามจะตัดวงจรการล่าสัตว์ป่าจากธรรมชาติและเอาสัตว์ป่าและชิ้นส่วนของพวกมันมาขายทอดตลาดนั่นเอง การคุ้มครองก็แบ่งเป็นหลายระดับ มีการลงชื่อสัตว์ในบัญชีรายชื่อสัตว์ย่อยๆ ที่เขาเรียกว่าบัญชีไซเตสอันดับ 1, 2 และ 3 ตามลำดับการคุ้มครองจากมากไปน้อย
.
ซาลาแมนเดอร์ยักษ์จีน คือสัตว์ในบัญชีอันดับ 1 ของไซเตส คือคุ้มครองเข้มงวดที่สุด ห้ามทำการซื้อขายโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะทำไปเพื่อ ‘การศึกษา วิจัย หรือเพาะพันธุ์’
.
เราจะเห็นว่าสัตว์ในบัญชีอันดับ 1 มันเอาไป ‘เพาะพันธุ์’ หรือสามารถเอามาขยายพันธุ์ในฟาร์มได้ ซึ่งสถานะของรุ่นลูกที่ออกมาในฟาร์ม จะถือว่าเป็นสัตว์ในบัญชีอันดับ 2 หรือเป็นสัตว์ที่คนจะขายแบบทั่วไปก็ได้ แต่ต้องมีใบอนุญาตเท่านั้น
.
และนี่ล่ะ ‘ที่มา’ ของซาลาแมนเดอร์ยักษ์’ ที่ ‘น้องอุ้ม’ เอามาทำอาหาร มันน่าจะมาจากฟาร์มในจีนสักแห่งที่มี ‘ใบอนุญาต’
.
ถามว่าทำฟาร์มกันทำไม? คำตอบเร็วๆ คือคนจีนก็กินซาลาแมนเดอร์ยักษ์เช่นเดียวกับที่เขามักพูดกันว่า ‘คนจีนกินทุกอย่างที่มี 4 ขา ยกเว้นเก้าอี้’ น่ะแหละ เพราะมีความเชื่อว่ามันมีสรรพคุณทางยาอยู่
.
ดังนั้น ซาลาแมนเดอร์ยักษ์จึงเป็นสัตว์ที่คนจีนกินแน่นอน และฟาร์มก็เร่งผลผลิตสุดๆ เพราะเนื้อซาลาแมนเดอร์ยักษ์นี่ ถ้าขายกันตามภัตตาคาร ราคาของมันกิโลกรัมละเป็นหมื่นบาทเลย และถ้าขายกันเป็นตัวๆ แบบที่น้องอุ้มเอามาอุ้มก่อนนำไปกิน ราคาก็ว่ากันที่หลักแสนบาทแน่นอน (เข้าใจว่าน่าจะประมาณตัวละ 200,000-400,000 บาท)
.
ถ้าราคามันดีขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่จะมีฟาร์มโผล่มาเต็ม ซึ่งในจีน ฟาร์มของซาลาแมนเดอร์ยักษ์อยู่ในบริเวณภูเขาของมณฑลส่านซีในใจกลางแผ่นดินจีนเลย และในปี 2011 ข้อมูลทางการจีนก็ระบุว่า มีซาลาแมนเดอร์ยักษ์ในฟาร์มอย่างต่ำๆ คือ 2 ล้านตัว
.
ดังนั้นในแง่นี้ มันเลยไม่ใช่สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์แน่ๆ และเรียกได้ว่ามันเป็น ‘สัตว์เศรษฐกิจ’ ของมณฑลส่านซีเลยด้วยซ้ำ
.
แต่ทั้งนี้ เห็นมันไม่ใกล้สูญพันธุ์ ถ้าไปเจอตามธรรมชาติก็อย่าไปจับกินนะ เพราะในธรรมชาติ ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ลดจำนวนลงต่อเนื่องมานานแล้ว ซึ่งส่งผลต่อระบบนิเวศแน่ๆ มันเลยเข้าไปอยู่ในบัญชีไซเตสลำดับที่ 1 ในท้ายที่สุด แค่พวกมัน ‘โชคดี’ ที่พอจะสามารถเอามาเพาะพันธุ์ได้ แถมยังมี ‘ราคาแพง’ ในตลาดอาหาร พวกฟาร์มก็เลยเพาะเลี้ยงกันสนุกสนานเลย จนทำให้สัตว์ที่ต้องควบคุมการล่าตามธรรมชาติ ดันกลายเป็น ‘สัตว์เศรษฐกิจ’ ไปด้วยพร้อมกันแบบงงๆ
.
อ้างอิง: Smithsonian Magazine. The Adorable Chinese Giant Salamander Is Slithering Toward Extinction. https://bit.ly/3Lx4k4E
Wikipedia. Chinese Giant Salamander. https://bit.ly/3wMfBZg
.
#GiantSalamander #ถีจื่อ
#提子 #Tizi #BrandThink
#พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
#CreateaBetterTomorrow

 

#ChinaReport | ‘กุ้ยโจว’ เป็นมณฑลฐานะเขตนำร่อง ด้านคลังข้อมูลขนาดใหญ่ระดับชาติ แห่งแรกของจีน
.
1/ มณฑลกุ้ยโจว ตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นศูนย์กลางคลังข้อมูล บิ๊กดาต้าขนาดใหญ่ของประเทศ เป็นมณฑลฐานะเขตนำร่องด้านคลังข้อมูลขนาดใหญ่ระดับชาติแห่งแรกของจีน
.
2/ กุ้ยโจวจึงเป็นพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง ‘สถานีฐาน 5G’ ค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีกว่า 56,000 สถานีแล้ว
.
3/ ประชาชนในทุกตำบล ทุกอำเภอ และทุกเมืองของมณฑลกุ้ยโจว สามารถเข้าถึงเครือข่ายสัญญาณ 5G ได้อย่างสะดวกสบาย ยังไม่หมดเท่านี้ กุ้ยโจววางแผนก่อสร้างสถานีฐาน 5G เพิ่มอีก 26,000 แห่งภายในปีนี้ เพื่อขยับขยายความครอบคลุมเครือข่ายให้มากขึ้น
.
4/ กุ้ยโจวมีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อการใช้งาน 5G เชิงบูรณาการ มากกว่า 200 รายการ อาทิ อินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม พลังงาน การคมนาคมขนส่ง การศึกษา และการดูแลสุขภาพ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
.
5/ กุ้ยโจวยังมีนโยบายดึงดูดผู้ประกอบการและสถาบันวิจัยชื่อดังระดับโลก ให้เข้ามาจัดตั้งศูนย์คลังข้อมูลขนาดใหญ่และสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในกุ้ยโจวอีกด้วย
.
ภาพและข้อมูล จาก...Xinhua | Southwest China's Guizhou builds 56,000 5G base stations | https://english.news.cn/20220521/385133d5c935407baea66ff63f7c39dc/c.html
.
#ChinaReport
.

 

รายงานสถานการณ์ โรคฝีดาษลิง (Monkeypox)
วันที่ 23 พฤษภาคม 2565

+ แพร่กระจายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น รวม 17 ประเทศ (ออสเตรีย,กรีซ,นอร์เวย์)

ประเทศไทยยังคงเฝ้าระวังและยังไม่พบการติดเชื้อในประเทศ

 

May 23, 2022 ขายไม่ดี! ยอดขายรถยนต์ในไทยเมษายนดิ่งหนักเกือบ 30% สวนทางคนแห่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งเกือบ 200%
.
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนเมษายน 2565 โดยจำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนเมษายน 2565 มีทั้งสิ้น 117,786 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 12.87 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 31.79 เพราะวันทำงานน้อยกว่า ส่วนที่เพิ่มขี้นจากเมษายนปีที่แล้วเพราะผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะขายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.12 และ 26.39
.
ส่วนการผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกยังคงลดลงร้อยละ 21.53 จากการขาดชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ของรถบางรุ่น แต่ผลิตรถกระบะเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.17 จึงทำให้จำนวนผลิตรถยนต์เดือนเมษายนปีนี้เพิ่มขึ้นจากเมษายนปีที่แล้ว
.
รถยนต์นั่ง เดือนเมษายน 2565 ผลิตได้ 36,516 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 10.07 ขณะการผลิตเพื่อส่งออก เดือนเมษายน 2565 ผลิตได้ 58,671 คัน เท่ากับร้อยละ 49.81 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 1.70 ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนเมษายน 2565 ผลิตได้ 59,115 คัน เท่ากับร้อยละ 50.19 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 32.33
.
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนเมษายน 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 63,427 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 27.30 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 9.11 จากการผ่อนคลายการล็อกดาวน์และการอนุญาตให้จัดงานสงกรานต์ในวงจำกัด รวมทั้งการส่งมอบรถยนต์ให้ผู้จองรถยนต์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่สิ้นสุดวันที่ 3 เมษายน เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา การผ่อนคลายข้อจำกัดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศให้มีความสะดวกมากขึ้น ทำให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมากและค่าเงินบาทที่อ่อนค่ามากในรอบหลายปีจะทำให้ต้นทุนสินค้าหลายอย่างเพิ่มขึ้น รวมทั้งหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงจะทำให้อำนาจซื้อของประชาชนลดลง
.
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 121,845 คัน ลดลงจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 8.97 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2565 ร้อยละ 20.84 ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนเมษายน 2565 ส่งออกได้ 55,696 คัน โดยลดลงจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 40.65 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 5.33 ส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกในปีนี้จากรถกระบะเป็นหลัก จึงทำให้ส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ โดยมีมูลค่าการส่งออก 33,480.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2564 ร้อยละ 11.34
.
ทั้งนี้ ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนเมษายน 2565 มีการจดทะเบียนใหม่ จำนวน 1,232 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนปีที่แล้วถึงร้อยละ 197.58 โดยมีทั้งรถยนต์นั่ง รถโดยสาร รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์สามล้อรับจ้าง รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์สาธารณะ และรถบรรทุก โดยแม้ว่าปัญหาชิปขาดได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก รวมถึงปัญหาสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบ แต่ ส.อ.ท.ยังไม่หั่นเป้ายอดผลิตรถยนต์ปี 2565 โดยยังคงไว้ที่ 1,800,000 คัน ตามเดิม
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3ly2RjR
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#รถยนต์ #เศรษฐกิจ #รถยนต์พลังงานไฟฟ้า #ยอดผลิตรถ #ธุรกิจ #BTimes

 

May 23, 2022 วุ่นไม่จบ! ไฟเขียวนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ 1.2 ล้านตันของไทยมีอุปสรรค ทวงรมว.พาณิชย์ แต่ยังไม่ได้คำตอบ
.
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า ได้ทำหนังสือถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ความเห็นต่อประกาศของกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับผ่อนปรนมาตรการนำเข้าวัตถุดิบได้แก่ ระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองแสดงการได้รับสิทธิชำระภาษีตามพันธกรณีตามความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) สำหรับสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564 ถึงปี 2566 (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565 และระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตให้นำข้าวสาลีเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565 รวมทั้งคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจสอบการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และวัตถุดิบทดแทน (ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์)
.
สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเห็นว่าระเบียบทั้ง 2 ฉบับกำหนดให้คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจสอบการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และวัตถุดิบทดแทนเป็นผู้พิจารณาการนำเข้าซึ่งขัดแย้งกับ คำสั่งประกาศแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบติดตามการนำเข้าวัตถุดิบให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศและไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพราคาและเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยไม่ได้ระบุให้คณะอนุกรรมการฯมีหน้าที่ออกหนังสือรับรองหรืออนุญาตนำเข้าแต่อย่างใด
.
ที่ผ่านมาการนำเข้าวัตถุดิบทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้กรอบ WTO และการนำเข้าข้าวสาลีต้องขออนุญาตจากหน่วยงานรัฐประกอบด้วย กรมการค้าต่างประเทศและกรมปศุสัตว์ ดังนั้นการกำหนดให้ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการชุดที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จึงถือเป็นการซ้ำซ้อน และเพิ่มขั้นตอนในการขออนุญาต อีกทั้งเป็นวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกับการนำเข้าวัตถุดิบอื่น อาทิ การนำเข้าข้าวโพดในกรอบ AFTA
.
นอกจากนี้องค์ประกอบของคณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจสอบการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และ วัตถุดิบทดแทนไม่เท่าเทียมกัน โดยมีฝั่งผู้ที่คัดค้านการผ่อนปรน 3 หน่วยงานได้แก่ 1. สภาเกษตรกรแห่งชาติ 2. สมาคมการค้าพืชไร่ 3. สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ในขณะที่มีฝั่งผู้เรียกร้องให้ผ่อนปรน 2 หน่วยงานได้แก่ 1. สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และ 2. ผู้แทนกลุ่มผู้เลี้ยงปศุสัตว์ ดังนั้นการให้อำนาจคณะอนุกรรมการฯ พิจารณาอนุญาตนำเข้านั้นมีความเป็นไปได้ที่จะไม่เกิดการอนุญาตให้นำเข้าเลย อีกประการหนึ่งการผ่อนปรนมาตรการนำเข้าของรัฐในครั้งนี้ ถือเป็นการทั่วไป ไม่ใช่ผ่อนปรนให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือสมาคมใดสมาคมหนึ่ง คณะอนุกรรมการชุดนี้จึงไม่สามารถตรวจสอบ และอนุมัติจำนวนจะนำเข้าได้เพราะมีองค์ประกอบไม่ครอบคลุมผู้นำเข้าจากทุกองค์กร
.
นายพรศิลป์กล่าวต่อว่า ยังคงรอคำชี้แจงจากกระทรวงพาณิชย์ถึงข้อคิดเห็นของสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยที่มองว่าประกาศของกระทรวงพาณิชย์เป็นอุปสรรคต่อการผ่อนปรนนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ขณะที่สต๊อกวัตถุดิบของบริษัทผลิตอาหารสัตว์ต่างๆ เหลืออยู่ประมาณ 1 เดือนเศษเท่านั้น
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3a5YKZQ
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ #วัตถุดิบ #อาหารสัตว์ #เศรษฐกิจ #ธุรกิจ #BTimes

 

May 23, 2022 รีบลงทุน! ปตท. จ่อขายหุ้นกู้ อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยปีละ 3.25% ให้ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป จองซื้อ 23 ถึง 26 พ.ค. 65
.
ปตท. พร้อมออกและเสนอขายหุ้นกู้อายุ 7 ปี สำหรับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA (tha) จากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดสำหรับตราสารหนี้ที่ออกในประเทศไทย สามารถจองซื้อหุ้นกู้ได้ในระหว่างวันที่ 24-26 พฤษภาคม 2565 โดยกำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ไม่จำกัดมูลค่าการจองซื้อ (ยกเว้นยอดจองซื้อเต็มตามวงเงินที่บริษัทต้องการออก) ผ่านสถาบันการเงิน 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ผ่านทั้งช่องทางสาขาของธนาคารและช่องทางออนไลน์วันนี้ (23 พฤษภาคม 2565)
.
นางสาวพรรณนลิน มหาวงศ์ธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ขอขอบคุณนักลงทุนผู้ถือหุ้นกู้เดิม ที่ได้ให้ความสนใจจองซื้อหุ้นกู้รอบใหม่ของ ปตท. เมื่อวันที่ 19-20 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ การดำเนินธุรกิจ และการยึดมั่นในหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ ปตท. ที่ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนเสมอมา
.
“สำหรับนักลงทุนประชาชนทั่วไป ปตท. มีความพร้อมเปิดจองซื้อหุ้นกู้ ปตท. อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA (tha) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ เปิดให้จองซื้อได้ในระหว่างวันที่ 24-26 พฤษภาคม 2565 ผ่านสถาบันการเงิน 5 แห่ง ทั้งช่องทางสาขาของธนาคารและช่องทางออนไลน์ โดย ปตท. เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป ที่ต้องการลงทุนในตราสารที่ออกและเสนอขายโดยบริษัทที่มีความมั่นคง และมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมอีกด้วย” นางสาวพรรณนลินกล่าว
.
สำหรับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มีกำหนดจองซื้อขั้นต่ำที่ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยไม่จำกัดมูลค่าการจองซื้อของนักลงทุนแต่ละราย (ยกเว้นยอดจองซื้อเต็มตามวงเงินที่บริษัทต้องการออก) สามารถติดตามรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนการเสนอขายได้ที่ www.sec.or.th
.
อ่านเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/38JNaU2
.
ติดตาม BTimes ได้ทุกช่องทาง ดังนี้
เฟซบุ๊ก: https://m.facebook.com/btimesch3/
ยูทูป: https://m.youtube.com/c/MisterBan
ทวิตเตอร์: https://mobile.twitter.com/btimes_ch3
เว็บไซต์: https://btimes.biz
พ็อดคาสท์: https://btimes.podbean.com/
.
#ปตท #หุ้น #ลงทุน #เศรษฐกิจ #ธุรกิจ #หุ้นกู้ #BTimes

 

Russia-Ukraine War: ประธานาธิบดียูเครนปราศรัยต่อที่ประชุมว่าด้วยเศรษฐกิจโลกในเมืองดาวอส ของสวิตเซอร์แลนด์ เรียกร้องขออาวุธให้ยูเครนเพิ่มขึ้น และให้นานาชาติคว่ำบาตรรัสเซียให้หนักขึ้น

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ปราศรัยผ่านระบบวิดีโอคอลออนไลน์ ต่อผู้เข้าร่วมการประชุมว่าด้วยเศรษฐกิจโลก หรือเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ในเมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์ โดยเซเลนสกีกล่าวว่า ประชาชนหลายหมื่นคนจะได้รับการช่วยเหลือ หากนานาประเทศส่งความช่วยเหลือให้ยูเครนแบบ 100% เต็ม ตอนที่รัสเซียเริ่มบุกยูเครนใหม่ ๆ ในเดือนกุมภาพันธ์

“จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมยูเครนถึงต้องการอาวุธทั้งหมดที่เราได้ร้องขอไป ไม่ใช่แค่อาวุธที่ส่งมอบมาให้เรา” เซเลนสกี ระบุ พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย และใช้มาตรการลงโทษธนาคารรัสเซียและภาคเทคโนโลยีสารสนเทศของรัสเซียด้วย ถ้าจะให้ดี บริษัทต่างชาติทั้งหมดควรออกจากรัสเซีย

แม้ว่าสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และแคนาดา ได้คว่ำบาตรน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย แต่สหภาพยุโรปยังเสียงแตกถึงมาตรการคว่ำบาตรขั้นรุนแรงดังกล่าว เพราะบางชาติสมาชิก อย่างเยอรมนีและฮังการี ต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอย่างมาก

สำหรับการประชุมว่าด้วยเศรษฐกิจโลกในเมืองดาวอสครั้งนี้นั้น ถือเป็นการประชุมแบบเผชิญหน้าครั้งแรกในรอบ 2 ปี จากสถานการณ์โควิด
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #รัสเซีย #ยูเครน #สงคราม
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline

ข้อมูลอ้างอิง:
AFP: Zelensky tells Davos: send us weapons, stop Russia trade
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Iran: สื่ออิหร่านรายงาน นายทหารระดับนายพัน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยรบพิเศษคุดส์ สังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ถูกลอบสังหารในกรุงเตหะรานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้านประธานาธิบดีอิหร่านประกาศจะแก้แค้นและนำตัวผู้ก่อเหตุลอบสังหารมาลงโทษ

สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านรายงานว่า พันเอกซายัด โคได เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ หน่วยรบพิเศษคุดส์ สังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน หรือ IRGC ถูกลอบสังหารเมื่อวันอาทิตย์ (22 มิถุนายน) ที่ผ่านมา หลังจากผู้ต้องสงสัย 2 คนที่เป็นมือปืน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ จ่อยิงใส่ พันเอกโคได ซึ่งนั่งอยู่ในรถยนต์ที่จอดนอกบ้านพักในกรุงเตหะรานถึง 5 นัด จนเสียชีวิต

ถือเป็นเหตุลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงในอิหร่านที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และเป็นการละเมิดความปลอดภัยครั้งใหญ่ของอิหร่าน นับตั้งแต่กรณีที่นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของประเทศ ถูกลอบสังหารเสียชีวิตเมื่อปี 2020

สื่ออิหร่านรายงานด้วยว่า พันเอกโคได ถือเป็นผู้ปกป้องศาสนสถานนิกายชีอะห์คนสำคัญ และทำหน้าที่ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามของกลุ่มก่อการร้าย รวมถึงกองกำลังรัฐอิสลาม หรือ IS

เบื้องต้น ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาระบุว่าเป็นผู้ลงมือ แต่เจ้าหน้าท่ีอิหร่านกำลังเร่งหาเบาะแส เพื่อติดตามตัวมือปืนแล้ว

ขณะที่กระทรวงต่างประเทศอิหร่านแถลงเป็นนัยโดยไม่ระบุชื่อประเทศว่าเป็นฝีมือของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ขณะที่ประธานาธิบดีอิบราฮีม ไรซี ผู้นำอิหร่าน แถลงว่าจะล้างแค้นให้กับพันเอกโดได และนำตัวผู้กระทำความผิดลงมาโทษ

ล่าสุด สำนักข่าวอิสนา สื่อกึ่งทางการของอิหร่านรายงานว่า สมาชิกเครือข่ายหน่วยข่าวกรองของอิสราเอลคนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่อิหร่านควบคุมตัวไปสอบปากคำแล้ว ส่วนรัฐบาลอิหร่านยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ ในเรื่องนี้
————
ภาพ: Iranian Presidency / AFP

#TNNWorldNews #อิหร่าน #กองทัพ
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

Russia-Ukraine War: กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ ทหารรัสเซียและกองกำลังท้องถิ่น สามารถควบคุมสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ได้แล้วถึง 95%

สถานีโทรทัศน์ Zvezda ที่ดำเนินการโดยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานว่า ทหารรัสเซียและกองกำลังติดอาวุธในลูฮันสก์ สามารถควบคุมพื้นที่ในสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ได้แล้วถึง 95% ยกเว้นเมืองเซเวโรโดเนตสก์ กับเมืองลิซิชานสก์ ที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพยูเครน

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ยังระบุด้วยว่า กองกำลังรัสเซียและพันธมิตร ได้โจมตีศูนย์บัญชาการและทหารยูเครน ตลอดจนคลังเก็บเครื่องกระสุนในภูมิภาคโดเนตสก์และลูฮันสก์ ด้วยขีปนาวุธความแม่นยำสูงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขณะที่ รัฐสภายูเครน มีมติขยายกฎอัยการศึกอีก 90 วัน จนถึงวันที่ 23 สิงหาคม ซึ่งก่อนหน้านี้ ยูเครนประกาศใช้กฎอัยการศึก เพียง 30 วันเท่านั้น หลังรัสเซียเปิดปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และมีการขยายกฎอัยการศึกไปแล้ว 3 ครั้ง

ด้านประธานาธิบดีโปแลนด์ เดินทางเยือนยูเครน และกล่าวต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติของยูเครนในกรุงเคียฟเมื่อวานนี้ (22 พฤษภาคม) ทำให้ประธานาธิบดีโปแลนด์ กลายเป็นผู้นำต่างชาติคนแรก ที่ขึ้นกล่าวต่อรัฐสภายูเครน นับตั้งแต่รัสเซียยกกองทัพบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #รัสเซีย #ยูเครน #สงคราม
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

UN: ฟิลิปโป กรานดี ข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เผยว่า จำนวนคนที่ต้องอพยพหลบหนีปัญหาความขัดแย้ง ความรุนแรง การละเมิดสิทธิมนุษยชน และการถูกข่มเหงก่อกวนทั่วโลก ขณะนี้มีจำนวนทะลุเกิน 100 ล้านคนเป็นครั้งแรก

โดยมีปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน และปัญหาความขัดแย้งรุนแรงในที่อื่น ๆ เป็นปัจจัยหลัก ทำให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมเหล่านี้ ตัวเลขดังกล่าวเป็นสัญญาณเตือนให้หาทางออกร่วมกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนถูกบีบให้หนีจากบ้านเรือนตัวเอง และไม่ควรเป็นสถิติที่ต้องบันทึกไว้

UNHCR ระบุด้วยว่า ปัญหาความขัดแย้งรุนแรงระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ชาวยูเครนกลายเป็นคนพลัดถิ่นภายในประเทศ 8 ล้านคน และหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศอีกมากกว่า 6 ล้านคน

ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว UNHCR เปิดเผยตัวเลขผู้พลัดถิ่นเพิ่มขึ้นเป็น 90 ล้านคน เนื่องจากความรุนแรงและความขัดแย้งในหลายประเทศ รวมทั้งเอธิโอเปีย เบอร์กินา ฟาโซ เมียนมา ไนจีเรีย อัฟกานิสถาน และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

อันเดอเซจ ดูดา ประธานาธิบดีของโปแลนด์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ในกรุงเคียฟ เมื่อวานนี้ (22 พฤษภาคม) ว่า โปแลนด์สนับสนุนยูเครนเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู

โดยเรียกร้องกลุ่มประเทศอียูและเหล่าผู้นำยุโรป ยอมให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิก และว่า ยูเครนควรได้เข้าถึงทรัพย์สินของรัสเซีย ที่ถูกนานาชาติอายัดไว้ทั่วโลก เพื่อใช้บูรณะประเทศ

ส่วนเซเลนสกี ระบุว่า ชาวโปแลนด์ในยูเครนจะได้รับสิทธิ์เดียวกันกับที่ผู้อพยพชาวยูเครนได้รับอยู่ในโปแลนด์ และหวังว่า สภาผู้แทนฯ ของยูเครนจะลงมติสนับสนุนร่างกฎหมายที่เขาเสนอขึ้นไป เพื่อดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป

หลังโปแลนด์อนุมัติให้สิทธิการอยู่อาศัยและทำงาน รวมทั้งเข้าถึงระบบสวัสดิการสังคม ให้กับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนกว่า 3 ล้าน ที่หนีภัยจากยูเครนเข้ามาอยู่ในโปแลนด์
————
ภาพ: Reuters

#TNNWorldNews #รัสเซีย #ยูเครน #สงคราม
#เจาะลึกรอบโลก #TNNOnline
————
อัพเดทข่าวไฮไลต์และบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ มาเป็นเพื่อนใน Line กับ TNN World คลิก https://lin.ee/LdHJXZt

ติดตาม TNN World ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
Website : https://bit.ly/TNNWorldWebsite
Youtube : https://bit.ly/TNNWorldTodayYouTube
TikTok : https://bit.ly/TNNWorldTikTok

 

BREAKING !! : จับตาวิกฤตการเงินตลาดเกิดใหม่ !! ล่าสุดปากีสถานปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.5% เป็น 13.75% ! และยังคงหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจาก IMF ในขณะที่เงินเฟ้อพุ่ง 13% ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชียรองจากศรีลังกาที่ 30%
.
⚠️ล่าสุดธนาคารกลางปากีสถานเริ่มตอบสนองครั้งใหญ่ต่อวิกฤตการเงินภายในประเทศ ! โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.5% เป็น 13.75% ! และยังตั้งความหวังที่จะบรรลุข้อตกลงกับ IMF เพื่อรับเงินช่วยเหลือในสกุลดอลลาร์
.
ทั้งนี้ ในการควบคุมไม่ให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นอีก รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาน้ำมัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีแรงกดดันอื่น ๆ อีกมากมายที่จะผลักดันเงินเฟ้อภายในประเทศได้
.
รายงานระบุว่าภายใต้สมมติฐานเหล่านี้ "อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในระยะสั้น และอาจยังคงเพิ่มสูงขึ้นได้ตลอดปีงบประมาณ 2023"
.
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นและการที่ปากีสถานพึ่งพาการนำเข้าสูง ทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเข้าศู่โหมดวิกฤตรองจากศรีลังกาซึ่งตอนนี้เงินเฟ้อกว่า 30% ในขณะที่เงินเฟ้อของปากีสถานในปัจจุบันอยู่ที่ราว 13%
.
⚠️ค่าเงินรูปีปากีสถานร่วงลงสู่ระดับ All Time Low ที่ 200 ต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อไปเนื่องจากเงินเฟ้อและภาวะทุนไหลออก
.
ตอนนี้ทุนสำรองของประเทศเหลืออยู่ราว ๆ 1.02 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งครอลคลุมการนำเข้าสินค้าที่จำเป็นไม่ถึง 2 เดือนเท่านั้น ! ถือว่าเข้าขั้นวิกฤตแบบไม่ต้องสงสัยกันเลยทีเดียว !
.
ปากีสถานกำลังต้องการเงินกู้อย่างน้อย 3 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่แบงก์ชาติคาดการณ์ GDP ขยายตัวที่ +3% และคาดว่าเศรษฐกิจจะยังฟื้นตัวได้หากมีการสนับสนุนจาก IMF เนื่องจากแนวโน้มการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดกำลังลดลง
.
ดังนั้นเราคงต้องมาจับตามองกันต่อไปอย่างใกล้ชิดว่าปากีสถานจะรอดจากวิกฤตครั้งนี้ไปได้หรือไม่ ? หรือสุดท้ายแล้วจะลุกลามหนักเหมือนศรีลังกากันแน่ ? งานนี้บอกเลยว่าต่อคิวมาเป็นประเทศที่ 2 แล้ว และต้องลุ้นกันแบบไม่กระพริบตา !
.
ซึ่งไม่ว่าสถานการณ์ในตลาดการเงินและเศรษฐกิจโ,กจะเป็นอย่างไรต่อไป ทาง World Maker ก็จะคอยเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และจะนำข้อมูลมอาัปเดตให้ท่านทราบกันแบบ Real Time อย่างแน่นอน ! ใครไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญก็ติดตามเพจเราไว้ได้เลยครับ !
.
--------------------------------------------------------------
#WorldMaker X #Liberator
.
สนใจข่าวหุ้น/การเงิน/เศรษฐกิจ ทั้งไทย-ต่างประเทศ ทั้งแบบรายตัวและภาพรวม ??? วันนี้ท่านสามารถติดตามข่าวสาร บทวิเคราะห์ เกี่ยวกับการเงิน การลงทุน ทั้งหุ้นไทย และหุ้นต่างประเทศ ไปพร้อม ๆ กับเพจ World Maker และเพจหลักทรัพย์ Liberator Securities ได้แล้ว !
.
⚠️โดยทาง Liberator จะมีการอัปเดตข้อมูล-ข่าวสารเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยและเศรษฐกิจโลกให้ในทุก ๆ วันด้วย และมีแบบเจาะลึกกันรายตัว-รายวันเลยทีเดียว ! ใครสนใจรับข่าวสารดี ๆ เพิ่มเติมก็ติดตาม Liberator ไว้ได้เลยที่ : https://bit.ly/3kEtXW7
--------------------------------------------------------------
#ทันโลก #ทันเหตุการณ์ #ทันข่าวสาร อย่างแท้จริงไปกับ #WorldMaker
.
แนะนำให้ทุกท่าน #เปิดกระดิ่ง ตั้งค่า #รายการโปรด หรือ #Favourite ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่โดนการปิดกั้นการมองเห็นจากทาง Facebook ซึ่งอาจทำให้พลาดข่าวสารที่สำคัญจากทาง World Maker ได้
.
ขอบคุณทุกท่าน ที่ติดตาม World Maker ฝากกด Like และ Share เพื่อเป็นกำลังใจและให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
--------------------------------------------------------------

 

ฮอกไกโดทำงาน8ชั่วโมง ได้ไข่ไก่ประมาณ 496 ฟอง

#อยู่ญี่ปุ่นกินไข่เจียวรับรองไม่จน55
#มาทำงานญี่ปุ่นไม่ฟุ่มเฟือยรับรองมีเงินเหลือเก็บ
#ราคาไข่ไก่ฮอกไกโด
#ช่วงนี้ประหยัดโด้ปไข่
#ค่าครองชีพญี่ปุ่น

 

#ข้างหลังภาพ

ภาพที่นำมาฝาก มาจากสุนทรพจน์ของท่านประธานเฟดที่ NABE (National Association of Business Economics) เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565

ภาพนี้เป็นภาพที่มีค่ามาก เพราะท่านประธานเฟดพยายามนำมาใช้อธิบายให้ทุกคนเห็นคล้อยตามว่า "Soft landing นั้น พอเป็นไปได้"

โดยท่านบอกว่า ในประวัติการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้กับเงินเฟ้อของเฟด เฟดสามารถที่จะจัดการกับเงินเฟ้อให้ลดลงมาเป็นปกติ โดยไม่เกิด Recession ตามมาได้ทั้งหมด 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1 ช่วงปี 1965

ครั้งที่ 2 ช่วงปี 1984

ครั้งที่ 3 ช่วงปี 1994

โดยในภาพ จะเห็นว่าทั้ง 3 กรณีนี้ ดอกเบี้ยเฟด (เส้นสีดำ) ได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้เกิด Recession (แถบสีเทา) ตามมา

ดังนั้น Soft landing จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ และเฟดจะพยายามทำให้สำเร็จในรอบนี้อีกครั้ง

หลังได้ฟังท่านประธานเฟดพุดเสร็จ หลายคนตั้งคำถาม เพราะในภาพดังกล่าว

- เฟดมีการขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อยประมาณ 12 รอบ

- มี Recession ทั้งหมด 9 ครั้ง

ซึ่งจาก 9 รอบนี้ ถ้าไม่นับรอบของโควิด อันเป็นการถดถอยของเศรษฐกิจจากปัจจัยพิเศษ คือ โควิด-19 ก็หมายความว่า (นับดูเร็วๆ) คะแนนของเฟดในสนามบอลนี้ คือ

3 : 8

Soft landing ได้ 3 ครั้ง และ อีก 8 ครั้งจบด้วย Recession

พูดง่ายๆ อัตราความสำเร็จในการสู้เงินเฟ้อโดยไม่เกิด Recession ของเฟดอยู่ที่ประมาณ 30% !!!!

ที่เหลือ มือหนักให้ยาแรงเกินไป หรือ Behind the curve ตายใจให้ยาเบาไปตอนแรก จนต้องเร่งให้ยาแรงช่วงท้าย จนจบลงด้วยการเกิด Recession ซึ่งช่วย Set Zero เงินเฟ้อให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

ไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมตลาดจึงไม่ค่อยอยากเชื่อว่า เฟดจะสำเร็จรอบนี้ เพราะช่วงที่ผ่านมา "เตะเข้าโกล" น้อยมากมากครับ

มาลุ้นกันต่อไปว่า หนังเรื่องนี้จะจบอย่างไรครับ

แต่อย่างน้อย อย่าลืมเตรียมการรับมือไว้ ตามที่เขาชอบพูดกัน

"Hope for the best and prepare for the worst"

แล้วเราจะผ่านไปได้ครับ

#ท่องเศรษฐกิจกับดรกอบ #SoftLanding

3. ครั้งที่ขึ้นดอกเบี้ยแล้วตามมาด้วยการเกิด Recession คือ

 

23 พ.ค. นี้ ไต้หวันมีผู้ติดเชื้อในประเทศ 66247 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 36ราย นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 40 ราย

ผู้ติดเชื้อในประเทศจำแนกได้ดังนี้

กรุงไทเป 7185 ราย
นครนิวไทเป 15708 ราย
นครเถาหยวน 8636 ราย
นครไทจง 7140 ราย
นครไถหนาน 4501 ราย
นครเกาสง 7286 ราย
จีหลง 1478 ราย
เทศมณฑลซินจู๋ 1927 ราย
นครซินจู๋ 1300 ราย
เหมียวลี่ 1130 ราย
จางฮั่ว 1979 ราย
หนานโถว 843 ราย
หยุนหลิน 906 ราย
เทศมณฑลเจียอี้ 568 ราย
นครเจียอี้ 317 ราย
ผิงตง 1973 ราย
อี๋หลาน 1473 ราย
ฮัวเหลียน 1033 ราย
ไถตง 549 ราย
เผิงหู 159 ราย
จินเหมิน 119 ราย
หมาจู่ 37 ราย

 

ผลตรวจชวนอึ้ง! ผลิตภัณฑ์พระบิดา มีแบคทีเรีย - เชื้อรา - อีโคไล สารปนเปื้อนอุจจาระ

23 พฤษภาคม : นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงการตรวจตัวอย่างอาหาร น้ำ และเครื่องดื่มที่เก็บมาจากอาศรมฤาษีพระบิดา บ้านกุดแคนหมู่ที่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ สาธารณสุขอำเภอคอนสาร และโรงพยาบาลคอนสาร ได้เก็บตัวอย่างส่งมาตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา รวมทั้งหมด 36 ตัวอย่าง เพื่อตรวจหาเชื้อก่อโรค วัตถุเจือปนอาหาร และสารพิษ

พบว่า ผลการตรวจตัวอย่างน้ำในถังสแตนเลส และถังน้ำต่างๆ ในพื้นที่อาศรม จำนวน 3 ตัวอย่าง ตรวจพบเชื้ออีโคไล (E.coli) และโคลิฟอร์ม (Coliforms) เกินมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เป็นเชื้อแบคทีเรียที่เป็นดัชนีบ่งชี้การปนเปื้อนอุจจาระ สาเหตุก่อโรคทางเดินอาหาร ท้องเสีย และอาหารเป็นพิษ

สำหรับผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวเกรียบปลาทู ถั่วลันเตาคลุกเกลือ ปลาหมึกแห้ง จำนวน 3 ตัวอย่าง พบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพทางจุลชีววิทยาของอาหารและภาชนะสัมผัสอาหารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจพบเชื้อราเกินมาตรฐานกำหนด

ส่วนตัวอย่างปลาร้าบองแมงดา ปลาร้า ชาสมุนไพร และน้ำ อีกจำนวน 28 ตัวอย่าง อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจวิเคราะห์

“จากผลการตรวจวิเคราะห์ที่ได้ ชี้ให้เห็นว่า ตัวอย่างอาหาร และน้ำมีหลายรายการที่ไม่ได้มาตรฐานด้าน จุลชีววิทยาตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข และเกณฑ์คุณภาพทางจุลชีววิทยาของอาหารและภาชนะสัมผัสอาหารของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เนื่องจากตรวจพบจุลินทรีย์ที่ใช้ในการบ่งชี้คุณภาพของอาหาร สุขลักษณะการผลิต ความปลอดภัยของอาหาร ได้แก่ เชื้ออีโคไล โคลิฟอร์ม และเชื้อรา ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการบริโภคอาหาร น้ำ และเครื่องดื่มจากอาศรมฤๅษีพระบิดา เพราะอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพและก่อให้เกิดโรคได้”

ซึ่งมีเพียงเครื่องดื่มผลไม้รวม และน้ำส้ม 25% ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเท่านั้น

#พระบิดา #ไทยรัฐออนไลน์

 

สื่อของกัมพูชา Khmer Times รายงานว่า กระทรวงสิ่งแวดล้อมกัมพูชาได้ออกคำเตือนอย่างเข้มงวดหลังจากภาพปรากฏบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีผู้คนจำนวนหนึ่ง (โดยเฉพาะหญิงสาว) ไปเล่นสนุกกับ "ต้นองคชาติ" (Nepenthes bokorensis) พืชตระกูลหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่หายาก

“สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้นผิด และได้โปรดอย่าทำอีกในอนาคต!” กระทรวงสิ่งแวดล้อมเขียนเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา ในโพสต์ Facebook "ขอบคุณที่รักทรัพยากรธรรมชาติ แต่อย่าเก็บมา มันจะสูญเปล่า!"

Nepenthes bokorensis หรือในภาษาเขมรคือ "ผกาบมปง กรอฬอม" มันได้ชื่อว่า "ต้นองคชาติ" จากสื่อตะวันตกเพราะมันมีรูปร่างเหมือนอวัยวะเพศชาย ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย CITES ที่เติบโตในอุทยานแห่งชาติมณีวงศ์ จ.กัมปอต และอุทยานแห่งชาติคีรียมย์ ใน จ.กำปงสปือ

มันเป็นหม้อข้าวหม้อแกงลิง (Nepenthes) ประเภทหนึ่ง เป็นพืชกินเนื้อที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักในกัมพูชา นายเนธ เพียกตรา โฆษกกระทรวงสิ่งแวดล้อม กล่าวกับสื่อเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ทั้งหมดมี 129 สายพันธุ์ โดย 5 สายพันธุ์เติบโตในบางพื้นที่ของกัมพูชา เช่น Nepenthes bokorensis ซึ่งพบในอุทยานแห่งชาติมนีวงศ์ หรืออุทยานแห่งชาติบกโก

Nepenthes bokorensis เป็นหม้อข้าวหม้อแกงลิงเขตร้อนที่มีถิ่นกำเนิดในกัมพูชา เป็นที่รู้จักจากภูเขาบกโก (Mount Bokor) ทางตอนใต้ของประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาดัมเรยของ จ.กำปอต ศัพท์เฉพาะ bokorensis หมายถึงทั้งภูเขาบกโกและอุทยานแห่งชาติบกโกสถานที่ที่พบมัน

การสูญเสียที่อยู่อาศัยของ Nepenthes bokorensis เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีถัดมา เนื่องจากงานในโครงการ "เมืองบกโกอ" ขนาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังในปี 2011 ทั้งจำนวนพืชและไซต์ที่ค้นพบใหม่ทั้งสองแห่งถูกคุกคามจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดคือการคุกคามจากนักท่องเที่ยวที่ไปเล่นพิเรนทร์กับมัน

https://www.igreenstory.co/dont-pick-rare-carnivorous-nepenthes-holdanii-plants/

ข้อมูลจาก
• "Ministry of Environment: Don’t pick rare carnivorous Nepenthes holdanii plants". (May 13, 2022). Khmer Times.
• Po Sophea. (July 31, 2021). ""Tubular" flowers in national parks under threat due to tourist presence". Thmey Thmey.
ภาพ Ministry of Environment

 

ในภาพรวมประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากมลพิษทางอากาศประมาณ 5 หมื่นคนต่อปี และมีต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์กว่า 8 แสนล้านบาท
.
ที่ผ่านมาคนทั่วไปรวมถึงคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มักรับรู้และเข้าใจว่าฝุ่น PM2.5 มีแหล่งกำเนิดจากควันดำที่ปล่อยจากท่อไอเสียรถยนต์เป็นหลัก ซึ่งต้นตอก็คือมาจากรถเครื่องยนต์ดีเซล โดยเฉพาะรถบรรทุก รถกระบะ และรถโดยสาร รวมทั้งซ้ำเติมจากการเผาในที่โล่ง โรงงานอุตสาหกรรม และการก่อสร้าง เป็นต้น
.
จากการศึกษาของคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พบว่า ฝุ่น PM2.5 ยังเกิดจากการทำปฏิกริยาทางเคมีในอากาศที่เรียกว่า “photochemical smog” ซึ่งเข้ามาเพิ่มเติมกับฝุ่นที่เกิดขึ้นในพื้นที่ หรือเกิดออกไซด์ของไนโตรเจน หรือ NOx มาผสมกับสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC) เช่น ละอองสารไฮโดรคาร์บอน ไอระเหยของสารที่ใส่ในสเปรย์ เป็นต้น โดยมีแสงแดดจัด ๆ เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา และตัวถัดมาคือ PAN หรือก๊าซ peroxyacyl nitrates
.
เมื่อ PM2.5 ที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาทางเคมีไปผสมโรงกับฝุ่น PM2.5 ที่เกิดจากการเผาไหม้ในที่โล่งและการจราจร ปริมาณฝุ่นพิษก็จะเพิ่มสูงขึ้นตาม ยิ่งเข้าหน้าหนาวในช่วงต้นปีสถานการณ์ PM2.5 จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากเกิดความผกผันของอุณหภูมิ หรือที่เรียกว่า temperature inversion ในลักษณะฝาชีครอบกรุงเทพฯ ทำให้อากาศไม่ถ่ายเท
.
ที่มักไม่ค่อยมีการพูดถึงมากนักก็คือฝุ่น PM2.5 ที่มาจากรถยนต์เชื้อเพลิงเบนซินที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ และปล่อยควันขาวออกมาซึ่งมีส่วนทำให้เกิด PM2.5 ด้วย โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะที่เติมน้ำมันออโตลูปเข้าไปผสมในน้ำมันเชื้อเพลิง
.
จะเห็นได้ว่า แหล่งกำเนิดฝุ่นพิษมีความซับซ้อนและสัดส่วนของแต่ละแหล่งที่มาก็มีปริมาณที่แตกต่างกัน การแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5 จึงต้องไปลดที่ต้นเหตุ ซึ่งขึ้นอยู่กับการผลักดันเชิงนโยบาย และความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
.
อ่านบทความฉบับเต็ม : https://www.igreenstory.co/source-of-pm2-5-in-bangkok/

#ฝุ่นPM2_5กรุงเทพ #แหล่งกำเนิดฝุ่น #รถยนต์ดีเซล #สสส #ScenarioThailand

 

"หากขยะอาหารเป็นประเทศ มันจะเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3" นี่คือคำกล่าวของสตาร์ทอัปที่ชื่อ PurePlus+ จากลอสแองเจลิส และเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนมิชชั่นของพวกเขา

เป้าหมายของพวกเขาคือการเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับ "ลูกอม" ที่ไม่ได้ผลิตแบบอุตสาหกรรมทำลายโลก แต่ยังช่วยปกป้องโลกจากการกินทิ้งกินขว้างด้วยนำส่วนผสมจากพืชที่จะถูกทิ้งไปเปล่า ๆ กลับมาทำลูกอม

นี่คือที่มาของลูกอมที่ชื่อ Faves ในถุงหนึ่งมีถุงเล็ก 6 ถุงในแต่ละถึงมีลูกอม 12 ชิ้น ซึ่งช่วยกอบกู้แครอท 6 หัว หัวบีท 3 หัว มันเทศ 1 ลูก สควอช 1/2 ลูก ฟักทอง 1/4 ลูก จากการถูกทิ้งไปเปล่า ๆ

นี่คือผลิตภัณฑ์แรกที่ออกแบบโดย PurePlus+ มันคือ "ลูกอมอัพไซเคิล" ที่ให้สารอาหารที่แท้จริงจากผลผลิต แต่ละเม็ดประกอบด้วย เส้นใยสารอาหารรองจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ผัก

ประมาณการว่า 90% ของชาวอเมริกันไม่รับประทานผักและผลไม้ทุกวัน FAVES จึงหวังจะเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผลไม้และผักโดยเฉพาะกับให้เด็ก ๆ มากขึ้น

นอกจากนี้ มันยังไม่เติมน้ำตาลแปรรูป ทำให้เป็นขนมที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เด็ก หรือใครก็ตามที่หวังจะกินลูกอมด้วยความรู้สึกไม่ต้องกังวลกับเรื่องสุขภาพ

FAVES ทำงานร่วมกับฟาร์มในท้องถิ่นทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อจัดหาผลิตผลเกษตรที่ไม่สมบูรณ์และจะถูกทิ้งไปสูญเปล่า นี่เป็นกรช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากแล้ว แต่พวกเขายังมีบริการส่งสินค้าที่ไม่ปล่อยคาร์บอนด้วย

แต่พวกเขาจะไม่หยุดแค่นี้ "เป้าหมายของเราในปีหน้าคือการหมุนเวียนผักและผลไม้ที่ไม่สมบูรณ์จำนวน 2.2 ล้านชิ้นจากฟาร์มในท้องถิ่น และทุก ๆ ปีหลังจากนั้นเพื่อเพิ่มจำนวนพืชผลเกษตรที่จะถูกทิ้งได้เป็นสองเท่า"

พวกเขาประกาศว่า "FAVES มุ่งมั่นที่จะแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศด้วยการป้องกันเศษอาหารและการหมุนเวียนผักผลไม้ที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อสร้างขนมที่ดีสำหรับคุณและดีต่อโลก" พวกเขาเรียกมันว่า Climate Candy

การช่วยกอบกู้โลกบางทีอาจไม่ต้องมีมิชชั่นที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย แค่มีไอเดียที่ผสมผสานกับแนวทางการช่วยโลกที่เรารู้ ๆ กันแล้ว และปรับใช้ด้วยศัยภาพที่ทุกคนมีเหมือนกับที่ FAVES พยายามแก้ปัญหาโลกร้อนด้วยลูกอม

https://www.igreenstory.co/climate-candy/

ข้อมูลจาก
https://climatecandy.com/pages/our-story
ภาพ @myfavesweets/facebook

 

เมืองวอลดอร์ฟ ในรัฐบาเดน-เวิร์ทเทมแบร์ก ประเทศเยอรมนีสั่งให้เจ้าของแมวห้ามนำแมวออกมานอกบ้านเป็นเวลา 5 เดือน เพราะช่วงเวลาตั้งแต่เดือนเม.ย. - ส.ค. เป็นฤดูวางไข่ของนกจาบหัวหงอน (Galerida cristata) หรือที่เรียกในภาษาเยอรมันว่า เฮาเบนลาร์เคอ (Haubenlerche)

พวกมันเคยมีอยู่มาก แต่ถูกทำลายถิ่นอาศัยจนเหลืออยู่น้อยในพื้นที่ ในระยะหลังยังถูกแมวไล่ล่าไปถึงรังของพวกมัน Mannheim24 สื่อในเยอรมนีบอกว่าคงจะน่าเสียดายหากปล่อยให้พวกมันถูกล่าจนหมด เพราะนกเหล่านี้มีเสียงไพเราะน่าฟัง จากข้อมูลขององค์กรอนุรักษ์ในท้องถิ่น NABU ประชากรของนกจาบหัวหงอนในยุโรปทั้งหมดลดลง 98% ตั้งแต่ปี 1980

SWR สื่อเยอรมนีรายงานว่า มีแมว 16.7 ล้านตัวอาศัยอยู่ในครัวเรือนของเยอรมัน (ที่มา: statista) จำนวนที่สูงนี้ทำให้เกิดความเสียหายต่อประชากรนกในระดับภูมิภาค และในเขตชานเมืองและชุมชนที่มีแมวหนาแน่นเป็นพิเศษ นกร้องเพลงเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างแท้จริง โดยเฉพาะพวกที่ทำรังบนพื้นอย่างนกจาบหัวหงอน

แต่ลาร์ส ลัคมันน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนกของ NABU ประมาณการว่า แมวฆ่านกในเยอรมนีระหว่าง 60 ถึง 100 ล้านตัวทุกปี แต่เขาบอกว่าจะไม่มีสายพันธุ์ใดในเยอรมนีที่จะสูญพันธุ์เพราะแมว เพราะสาเหตุใหญ่มาจากการสูญเสียแหล่งอาศัยของนกและแหล่งอาหารของพวกมันมากกว่า

หากจะนับว่าแมวเป็นตัวปัญหา แมวบ้านยังเป็นปัญหาน้อยกว่าแมวจรจัด ซึ่งในเยอรมนีมีแนวจรจัดประมาณ 2 ล้านตัว ที่จริงแล้ว นกจาบหัวหงอนกำลังจะสูญพันธุ์จากเยอรมนีเพราะแมวบ้าน แต่มาจากสาเหตุอื่นมากกว่า เช่น แมวจรจัดและแหล่งอาศัยที่น้อยลง

นกจาบหัวหงอนจะทำรังในที่ลุ่มเล็ก ๆ บนพื้นดิน มักอยู่ในที่รกร้างว่างเปล่าและในเขตชานเมือง รังเป็นโครงสร้างที่ไม่เป็นระเบียบซึ่งประกอบด้วยหญ้าและรากที่ตายแล้ว โดยนกจะกินธัญพืชและเมล็ดพืชเป็นหลัก เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์

นกจาบหัวหงอนได้รับการจัดประเภทโดย IUCN Red List of Threatened Species ว่าเป็นสัตว์ที่น่ากังวลน้อยที่สุด ซึ่งหมายความว่าขณะนี้ไม่ได้คุกคามการสูญพันธุ์ ค่าประมาณสำหรับประชากรทั่วโลกของนกชนิดนี้ที่โตเต็มที่อยู่ระหว่าง 22,000,000 ถึง 91,200,000 ตัว

https://www.igreenstory.co/cat-house-arrest-because-of-crested-lark/

ข้อมูลจาก
• Teresa Knoll. (May 18, 2022). "Walldorf: Cat house arrest because of crested lark - everything you need to know about the songbird". Mannheim24.
• "After house arrest in Walldorf: are house cats really that bad bird killers?". (May 19, 2022). SWR.