ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    DISCOVERY: มารู้จักกับ ‘Fiona’ ซากฟอสซิลเก่าแก่ของอิกทิโอซอรัสที่กำลังตั้งท้อง ที่ถูกพบในชิลี และเรื่องราวของการขุดหาและศึกษาซากอิกทิโอซอรัส ในธารน้ำแข็ง Tyndall ที่ใช้เวลายาวนานถึง 13 ปี
    .
    ภายในธารน้ำแข็งพาตาโกเนียขนาดมหึมา นักโบราณคดีได้พบกับซากของ อิกทิโอซอรัส (ichthyosaurus) สัตว์เลื้อยคลานทางทะเลยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งพวกเขาได้ขุดซากฟอสซิลนี้ จากจุดขุดค้นที่ตั้งอยู่ใกล้กับธารน้ำแข็ง Tyndall โดยนักวิจัยพบว่ามันเสียชีวิตขณะกำลังตั้งท้องอยู่ ถือเป็นครั้งที่มีการค้นพบฟอสซิลที่มีลักษณะแบบนี้ในชิลี
    .
    อิกทิโอซอรัส เป็นสัตว์เลื้อยคลานเก่าแก่ ที่เคยอาศัยอยู่ในช่วงต้นของยุคไทรแอสซิก (Triassic) เมื่อประมาณ 251 ล้านปีที่แล้ว พวกมันเริ่มปรากฏขึ้นก่อนที่โลกจะมีไดโนเสาร์ราว 20 ล้านปี และสูญพันธุ์ไปหมดเมื่อประมาณ 95 ล้านปีที่แล้ว โดย National Geographic ระบุว่า อิกทิโอซอรัส สายพันธุ์เล็กสุดอาจมีความยาว 0.4 เมตร แต่พันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดอาจยาวได้ถึง 21 เมตร
    .
    สำหรับ อิกทิโอซอรัส ที่พบในชิลีนั้น มีความยาวประมาณ 4 เมตร และมีอายุประมาณ 129 - 139 ล้านปี โดยนักวิจัยได้ตั้งชื่อให้มันว่า ‘Fiona’ ตามชื่อตัวละครที่เป็นยักษ์สีเขียว ในหนังเรื่องเชร็ค เนื่องจากสารเคลือบเพื่อเก็บรักษาซาก ได้เปลี่ยนสีของมันให้กลายเป็นสีเขียวขุ่น
    .
    ความจริงแล้ว Fiona ถูกพบมาตั้งแต่ปี 2009 แต่นักวิจัยต้องใช้เวลากว่า 13 ปีกว่าจะทำการขุดและศึกษาฟอสซิลได้สำเร็จ Erin Maxwell หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านอิกทิโอซอรัสเล่าว่า ความล่าช้าในครั้งนี้ เกิดจากจุดพบซากในบริเวณธารน้ำแข็ง Tyndall ซึ่งตั้งอยู่ห่างไกลและเข้าถึงได้ยาก ทำให้นักวิจัยต้องใช้วิธีการขนย้ายซากของ Fiona และซากอิกทิโอซอรัสอีกกว่า 23 ตัวทางอากาศด้วยความระมัดระวัง
    .
    Pardo-Pérez นักวิจัยอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “มีซากอิกทิโอซอรัสอยู่ใน Tyndall อีกนับร้อยซาก” ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่พวกเขาอาจไม่มีทางนำมันออกมาศึกษาได้ อย่างไรก็ดีพวกเขาเล่าว่า ฟอสซิลของ Fiona มีส่วนสำคัญในการเพิ่มความรู้ความเข้าใจเรื่องวงจรชีวิตของอิกทิโอซอรัส และทำให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกของสิ่งมีชีวิตในทะเลยุคครีเทเซียสมากขึ้น

    ที่มา
    https://www.livescience.com/pregnant-ichthyosaur-fossil-chile

    ขอบคุณภาพจาก: Alejandra Zúñiga

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    CLIMATE: รายงานจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) เปิดเผยรายงานในปี 2021 พบตัวชี้วัดประเมินด้านโลกรวนทุบสถิติ ทั้งระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น อุณหภูมิมหาสมุทร และความเป็นกรดของน้ำทะเล เพิ่มขึ้นทุบสถิติทั้งหมด
    .
    องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) เปิดเผยรายงานประจำปีเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศโลกในปี 2021 “State of the Global Climate in 2021” โดยชี้ว่าตัวประเมินวิกฤตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงได้ทุบสถิติใหม่ในปีดังกล่าว ซึ่งชี้ว่านี่คือสัญญาณผลกระทบของมนุษย์ต่อโลก ที่จะส่งผลกระทบในระยะยาว สภาพอากาศสุดขั้วจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้คน
    .
    รายงานดังกล่าวยังเผยว่า 7 ปีที่ผ่านมานั้น เป็นช่วงที่ร้อนที่สุดทุบสถิตินับตั้งแต่บันทึกมา “รายงานนี้แสดงถึงความล้มเหลวของโลกในการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เชื้อเพลิงฟอสซิลส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ” Antonio Guterres เลขาธิการสหประชาชาติเผย
    .
    “หนทางในอนาคตที่ยั่งยืนคือพลังงานหมุนเวียน ข่าวดีคือตอนนี้เรามีพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีความพร้อม มีราคาถูกว่าเชื้อเพลิงอื่นๆ หากเราร่วมมือกัน การเปลี่ยนแปลงสู่พลังงานหมุนเวียนจะเป็นโครงการเพื่อความสงบสุขแห่งศตวรรษที่ 21”
    .
    รายงานดังกล่าวชี้ว่า มหาสมุทรได้ร้อนขึ้นอย่างมากทุบสถิติในปี 2021 โดยมหาสมุทรดูดซับความร้อนอย่างมาก ระดับน้ำทะเลก็สูงขึ้นทุบสถิติเป็นผลมาจากธารน้ำแข็งละลาย น้ำทะเลยังเผชิญความเป็นกรดจากการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่สูงที่สุดในรอบ 26,000 ปี
    .
    นอกจากนี้ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซมีเทนในชั้นบรรยากาศอยู่ในระดับที่สูงทุบสถิติ ในปี 2021 เช่นกัน โดยอุณหภูมิโลกเฉลี่ยร้อนขึ้น 1.1 องศาเซลเซียจากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม

    ปัจจุบันนี้ โลกได้ร้อนขึ้นแล้วเฉลี่ยราว 1.1 องศาเซลเซียสจากระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม (1850-1900) โดยทั่วโลกได้ร่วมกันให้คำมั่นสัญญาในความตกลงปารีส เพื่อไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ที่อาจทำให้เราเผชิญวิกฤตที่รุนแรงขึ้น
    .

    รายงาน https://mcusercontent.com/e35fa2254...2a-13ad5002dc33/1290_Statement_2021_en_1_.pdf
    .
    ที่มา

    https://www.theguardian.com/environ...mate-indicators-broke-records-in-2021-says-un

    https://www.nbcnews.com/science/environment/climate-change-records-2021-rcna29354

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    #คนเดียวปลูกป่า ชวนรู้จักชายเอกวาดอร์ผู้ซื้อที่ดินที่ถูกตัด-ทำลาย ทุ่มเทปลูกป่าสร้างแอมะซอนของตัวเองกว่า 40 ปี จนสัตว์ป่ากลับมาอาศัย และสอนให้ผู้อื่นเรียนรู้ฟื้นฟูป่า #ปลูกป่าในใจคน

    ป่าฝนแอมะซอนเป็นพื้นที่ทีมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ามากมายหลายสายพันธุ์ มันประกอบไปด้วยพืช 40,000 สายพันธุ์ ปลาน้ำจืดกว่า 3,000 ชนิด และสัตว์เลื้อยคลานอีกมากกว่า 370 ประเภท และสัตว์อื่น ๆ อีกมากมาย

    ป่าแอมะซอนครอบคลุมพื้นที่ของรัฐในเอกวาดอร์ทั้งหมด 5 รัฐ มีพื้นที่รวมทั้งหมดประมาณ 80 ล้านไร่ ถึงแม้ว่าพื้นที่ป่าแอมะซอนในเอกวาดอร์จะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2% ของป่าแอมะซอนทั้งหมด แต่มันนับเป็น 80% ของพื้นที่ป่าทั้งหมดของประเทศเอกวาดอร์เลยก็ว่าได้

    ที่ผ่านมา ป่าแอมะซอนในพื้นที่ของประเทศเอกวาดอร์ถูกทำลายนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 ที่เป็นยุคเฟื่องฟูของน้ำมัน มีการถางป่าทำถนนเพื่อสำรวจน้ำมัน รวมถึงเพื่อขยายพื้นที่ขุดเจาะ ทำให้ในช่วง 2001 - 2004 พื้นที่ป่าถูกทำลายไปกว่า 3,750,000 ไร่

    Omar Tello ชายชาวเอกวาดอร์วัย 61 ปี จึงตัดสินใจซื้อพื้นที่กว่า 40 ไร่ในปี 1980 และใช้เวลากว่า 40 ปีปลูกป่าแอมะซอนขึ้นมาทดแทนป่าที่หายไปในเมือง Puyo เพื่อที่จะอนุรักษ์พืชที่เสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ และเขาก็ได้ลาออกจากงานบัญชีเพื่อที่จะทุ่มเทเวลาให้กับผืนป่าแห่งนี้ด้วย

    ช่วง 40 ปีที่ผ่านมา Tello ได้เดินทางทั่วประเทศ นำพืชหายากจากป่าที่ถูกบุกรุกมาสร้างป่าแอมะซอนขนาดย่อมของเขา และเมื่อเวลาผ่านไป ป่าของเขาสมบูรณ์มากขึ้น สัตว์กว่า 1000 สายพันธุ์เริ่มหวนกลับคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งในบรรดาสัตว์เหล่านั้นประกอบไปด้วยแมงมุมกว่า 400 ชนิด

    หลังจากที่สร้างป่าฝนของเขาได้สำเร็จ เขาก็ได้ออกเดินทางไปหมู่บ้านอื่น ๆ เพื่อที่จะถ่ายทอดความรู้ในการนำป่ากลับมา และทุกวันนี้ป่าฝนของเขากลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ผู้คนมากมาย

    “หากมีวันใดที่พืชบางชนิดหายไป ผู้คนก็ยังสามารถกลับมาในที่ของผม และเรียนรู้เรื่องราวของพวกมันได้ที่นี้ มันเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถหยุดการทำลายพวกมันจนหมดไป” Omar กล่าว

    “เราควรปลูกป่าที่เราเคยทำลายไป และคืนธรรมชาติที่เราเคยพรากไปจากโลกนี้”

    เรื่องราวการนำป่าแอมะซอนกลับมาของเขาได้ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านสารคดี “7 Hectares Back” โดย Dorata และ Robert Migas Mazur สารคดีเรื่องนี้เคยได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 จากการประกวด Yale Environment 360 Video Contest 2019 ด้วย ใครที่สนใจสามารถติดตามเรื่องราวของเขาได้

    https://www.bbc.com/news/av/stories-52122285/the-man-who-grew-his-own-amazon-rainforest

    https://e360.yale.edu/features/in-ecuador-one-mans-mission-to-restore-a-piece-of-the-rainforest

    https://globalforestatlas.yale.edu/amazon-forest/forest-governance/forest-governance-ecuador

    https://www.worldwildlife.org/places/amazon

    https://muse.jhu.edu/article/382362/pdf

    ที่มาภาพ

    https://e360.yale.edu/features/in-ecuador-one-mans-mission-to-restore-a-piece-of-the-rainforest

    https://www.bbc.com/news/av/stories-52122285/the-man-who-grew-his-own-amazon-rainforest


    เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
    environman

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เลือกตั้งผ่านไปแล้ว ชวนดูไอเดีย นำป้ายเลือกตั้งไปทำประโยชน์ต่อหลังจากเลือกตั้ง ในต่างประเทศ!
    .
    ที่ต่างประเทศ ส่วนใหญ่ป้ายจะทำจากฟิวเจอร์บอร์ดที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ส่วนขาตั้งก็ทำจากเหล็กที่สามารถรีไซเคิลได้เช่นกัน หลังจากเลือกตั้งโรงงานรีไซเคิลต่าง ๆ ก็จะรับของพวกนี้ไป
    .
    แต่มันก็มีไอเดียการเอาป้ายไปดัดแปลง อัพไซเคิลให้เป็นประโยชน์ต่อ มาดูกันดีกว่าว่า เขาเอาไปทำอะไรกันบ้างนะ
    .
    ในไทย ป้ายหาเสียงเก็บไม่ได้นะ ผิดกฎหมาย

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    งานวิจัยชี้ว่า โลมาสามารถจำเพื่อนได้ผ่านรสชาติของฉี่ โดยไม่ต้องเห็นหรือได้ยินพวกเขา
    .
    ทีมนักวิจัยจาก University of St Andrews พบว่า โลมาสามารถจำเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวได้ แม้ไม่ได้เห็นหรือได้ยินเสียงพวกเขา โดยความสามารถทางการสัมผัสรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์นี้ ทำให้โลมาบ่งชี้ถึงเพื่อนที่รู้จักได้ผ่านฉี่ หรือสิ่งอื่นๆที่ขับถ่ายออกมา
    .
    ในการศึกษา นักวิจัยได้ทำการทดสอบปฏิกิริยาของโลมาปากขวดต่อตัวอย่างฉี่ของโลมาตัวอื่นๆ โดยพบว่า โลมาที่ทดสอบมีความสนใจในฉี่ของตัวที่มันรู้จักมากกว่าตัวที่มันไม่รู้
    .
    ซึ่งจากผลการศึกษา นักวิจัยเชื่อว่าโลมามีประสบการณ์ด้านรสชาติที่แตกต่างจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ “เรารู้เพียงน้อยนิดเกี่ยวกับการทำงานของรสสัมผัสของโลมา งานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่า พวกเขาสูญเสียสัมผัสรสชาติที่พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เช่นรสเปรี้ยว หวาน หรือคม แต่พวกเขามีเซลล์ประสาทรับความรู้สึกที่แตกต่างออกไปอยู่บนลิ้น ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการระบุและบ่งชี้ถึงรสชาติส่วนตัวของสัตว์ตัวอื่นๆ” นักวิจัยเผย
    .
    งานศึกษา https://www.science.org/doi/10.1126/sciadv.abm7684
    .
    ที่มา

    https://www.theguardian.com/environ...ach-other-by-taste-of-their-urine-study-finds

    https://www.sciencealert.com/scient...-taste-friends-pee-to-check-if-they-re-around

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผลตรวจอาหารและเครื่องดื่ม “สำนักพระบิดา” 36 รายการ พบเชื้อราในอาหารแห้ง 3 รายการ ส่วนน้ำ 3 ตัวอย่างพบเชื้ออีโคไล (E.coli) และโคลิฟอร์ม เกินมาตรฐาน มีผ่านเกณฑ์ 2 ตัวอย่าง ที่เหลือ 28 ตัวอย่างอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

    นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลการตรวจตัวอย่างอาหาร น้ำ และเครื่องดื่มที่เก็บมาจากอาศรมฤาษีพระบิดา ตั้งอยู่ที่บ้านกุดแคนหมู่ที่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ สาธารณสุขอำเภอคอนสาร และโรงพยาบาลคอนสาร ได้เก็บตัวอย่างส่งมาตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา รวมทั้งหมด 36 ตัวอย่าง (ครั้งแรก 26 ตัวอย่างและส่งมาเพิ่มอีก 10 ตัวอย่าง) เพื่อตรวจหาเชื้อก่อโรค วัตถุเจือปนอาหาร และสารพิษ ผลการตรวจมีดังนี้

    ผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเครื่องดื่มผลไม้รวม และน้ำส้ม 25% จำนวน 2 ตัวอย่าง พบว่า ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 356 (พ.ศ.2556) เรื่อง เครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท และฉบับที่ 416 (พ.ศ.2563) เรื่อง กำหนดคุณภาพหรือมาตรฐาน หลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการในการตรวจวิเคราะห์ของอาหารด้านจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค

    ส่วนผลการตรวจตัวอย่างน้ำจากน้ำในถังสแตนเลส และถังน้ำต่างๆ ในพื้นที่อาศรม จำนวน 3 ตัวอย่าง ตรวจพบเชื้ออีโคไล (E.coli) และโคลิฟอร์ม (Coliforms) เกินมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 61 (พ.ศ.2524) และฉบับที่ 135 (พ.ศ.2534) เรื่อง น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท โดยเชื้ออีโคไล และโคลิฟอร์มเป็นเชื้อแบคทีเรียที่เป็นดัชนีบ่งชี้การปนเปื้อนอุจจาระ สาเหตุก่อโรคทางเดินอาหาร ท้องเสีย และอาหารเป็นพิษ

    สำหรับผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวเกรียบปลาทู ถั่วลันเตาคลุกเกลือ ปลาหมึกแห้ง จำนวน 3 ตัวอย่าง พบว่า ไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพทางจุลชีววิทยาของอาหารและภาชนะสัมผัสอาหารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฉบับที่ 3 สาเหตุเนื่องจากในตัวอย่างข้าวเกรียบปลาทู ถั่วลันเตาคลุกเกลือ และปลาหมึกแห้ง ตรวจพบเชื้อราเกินมาตรฐานกำหนด

    ส่วนตัวอย่างปลาร้าบองแมงดา ปลาร้า ชาสมุนไพร และน้ำ อีกจำนวน 28 ตัวอย่าง อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจวิเคราะห์

    นายแพทย์ศุภกิจ เปิดเผยต่อว่า ผลการตรวจวิเคราะห์ที่ได้ ชี้ให้เห็นว่า ตัวอย่างอาหาร และน้ำมีหลายรายการที่ไม่ได้มาตรฐานด้านจุลชีววิทยาตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข และเกณฑ์คุณภาพทางจุลชีววิทยาของอาหารและภาชนะสัมผัสอาหารของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เนื่องจากตรวจพบจุลินทรีย์ที่ใช้ในการบ่งชี้คุณภาพของอาหาร สุขลักษณะการผลิต ความปลอดภัยของอาหาร ได้แก่ เชื้ออีโคไล โคลิฟอร์ม และเชื้อรา ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการบริโภคอาหาร น้ำและเครื่องดื่มจากอาศรมฤๅษีพระบิดา เพราะอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพและก่อให้เกิดโรคได้
    #สำนักพระบิดา #ข่าว #mono29 #mono news

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    “คิม จอง-อึน” โชว์ถอดแมสก์ร่วมพิธีศพ แม้โควิดยังระบาดหนัก

    สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ เผยแพร่ภาพนาย “คิม จอง-อึน” ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ไม่สวมหน้ากากอนามัย

    ขณะร่วมพิธีศพของจอมพล “ฮยอน ซอย-แฮ” รองผู้อำนวยการสำนักงานการเมืองกลางกองทัพเกาหลี และอดีตองครักษ์ประจำตัวของนาย “คิม อิล-ซุง” ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ และบิดาของนาย “คิม จอง-อึน”เมื่อวานนี้

    โดยผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ เป็นบุคคลเพียงคนเดียวของทั้งงานที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยตลอดพิธี ไม่ว่าจะเป็นช่วงร่วมแบกโลงศพไปยังสุสาน และการฝังศพ

    หลายฝ่ายเชื่อว่า การกระทำเช่นนี้อาจเป็นหนึ่งในการสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน ท่ามกลางการระบาดหนักของโควิด ที่มีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 2 ล้าน 8 แสนคนในวันนี้ และเสียชีวิตไป 68 คน ในขณะที่รัฐบาลยังไม่ตอบสนองเพื่อขอรับความช่วยเหลือ ทั้งในด้านอุปกรณ์การแพทย์ และวัคซีนจากนานาชาติ แต่อย่างใด

    #ข่าวโมโน29 #mononews29 #ข่าวต่างประเทศ #worldnews #โควิด #โรคระบาด #คิม #เกาหลีเหนือ #COVID #พิธีศพ #วัคซีน

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กัมพูชา : ฝนแรกของปี 2565 ในวัน 22-23 พ.ค. พบระเบิดสงคราม 3 ลูก

    ฝนตกหนักทำให้ กัดเซาะหน้าดิน และพบระเบิดยุคสงคราม
    ฝนตกทำให้เกษตรกรไถดิน เตรียมเพาะปลูก

    ระเบิดลูกแรกพบที่ อ.เจียมสาร จ.พระวิหาร ขณะที่เกษตรกรไถดินและไถถูกกับระเบิดไม่ทราบชนิด เกษตรเสียชีวิต ในวันที่ 22 พ.ค. ภาพ 1-3

    กันดาลสตึง จังหวัดกันดาล หน่วย CMAC ได้เก็บกู้ระเบิดทิ้งจากเครื่องบิน MK-82 น้ำหนักประมาณ 230 กิโลกรัมในวันที่ 23 พ.ค. ภาพ 4-8

    CMAC ได้เก็บกู้ระเบิดที่ทิ้งจาก เครื่องบิน AN-M66 ที่มีน้ำหนักเกือบ 1,000 กิโลกรัม ในแม่น้ำโขงพนมเปญ 23 พ.ค. 2565 ภาพ 9-13

    : Angkrong News

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ฝรั่งเศส :เมืองชาโตว์รูซ์ ลูกเห็บยักษ์
    ลูกเห็บยักษ์ที่ชาโตว์นูซ์: นายก
    เทศมนตรีเมืองประกาศบ้าน 250 หลังและรถยนต์มากกว่า 1,000 คัน เสียหายจากลูกเห็บขนาดใหญ่เท่า
    ลูกเทนนิส บริการฉุกเฉินบันทึกการ โทร 1,200 ครั้ง

    ชาโตว์รูซ์ เป็นเมืองหลักของจังหวัดแอ็งดร์ ในแคว้นซ็องทร์-วาลเดอลัวร์ทางตอนกลางของประเทศฝรั่งเศส

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    23 พฤษภาคม 2565 ที่ห้องดอกไม้สด สำนักหอสมุดแห่งชาติ นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วย คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ชลดา เรืองรักษ์ลิขิต และศาสตราจารย์กิตติคุณสุกัญญา สุจฉายา แถลงข่าวการประกาศยกย่องวรรณคดีเรื่อง มหาชาติคำหลวง เป็นวรรณคดีแห่งชาติ และการสัมมนาทางวิชาการเรื่อง “วรรณกรรมเรื่องมหาชาติในวัฒนธรรมไทย”

    นายกิตติพันธ์ กล่าวว่า คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ได้พิจารณาคัดเลือกหนังสือวรรณคดีที่มีคุณค่าโดดเด่น ทั้งความงดงามทางวรรณศิลป์ รวมถึงแนวคิดด้านสังคม จริยธรรม จารีตประเพณีและวัฒนธรรม อันทรงอิทธิพลต่อสังคมไทย เพื่อประกาศยกย่องให้เป็น “วรรณคดีแห่งชาติ” โดยที่ผ่านมาได้มีการประกาศยกย่องไปแล้ว 2 เรื่อง ได้แก่ พ.ศ. 2553 ประกาศยกย่องวรรณคดีเรื่อง “ไตรภูมิกถา” ให้เป็นยอดของวรรณคดีสมัยสุโขทัย พ.ศ. 2558 ประกาศยกย่องพระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง “รามเกียรติ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช” เป็นวรรณคดีแห่งชาติ และล่าสุดใน พ.ศ. 2565 คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ มีมติเห็นชอบให้ประกาศยกย่องวรรณคดีเรื่อง “มหาชาติคำหลวง” เป็นวรรณคดีแห่งชาติ

    นายกิตติพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับ “มหาชาติคำหลวง” เป็นวรรณคดีที่เล่าเรื่องราวของพระเวสสันดรอันเป็นพระชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ซึ่งได้บำเพ็ญบารมีครบถ้วนทั้ง 10 ประการก่อนตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยาโปรดเกล้าฯ ให้ประชุมนักปราชญ์ราชบัณฑิตร่วมกันแปลแต่งขึ้นจากเรื่องเวสสันดรชาดกซึ่งเป็นภาษาบาลีในพระไตรปิฎกเป็นคำประพันธ์ภาษาไทยเมื่อ พ.ศ. 2025 แบ่งเนื้อหาออกเป็น 13 กัณฑ์ แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทร่าย โคลง ฉันท์ และกาพย์อันไพเราะงดงามยิ่ง มหาชาติคำหลวง นับเป็นต้นแบบการแปลแต่งวรรณคดีพระพุทธศาสนาเรื่องอื่น ๆ และเป็นต้นแบบการแต่งคำประพันธ์ในสมัยหลัง จึงถือเป็นวรรณคดีชั้นครูเรื่องสำคัญที่ทรงคุณค่ายิ่งในด้านวรรณศิลป์ ทั้งยังให้ความรู้เกี่ยวกับสังคมและประเพณีวัฒนธรรมไทย รวมถึงคติความเชื่อโดยเฉพาะเรื่องการให้ทาน

    "เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวรรณคดีเรื่องมหาชาติคำหลวงและวรรณคดีเรื่องมหาชาติสำนวนต่าง ๆ ที่มีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ตลอดจนคุณค่าด้านวัฒนธรรม ประเพณี และคติความเชื่อ จะมีการจัดสัมมนาวิชาการเรื่อง วรรณกรรมเรื่องมหาชาติในวัฒนธรรมไทย ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 เวลา 08.30-17.00 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ สำนักหอสมุดแห่งชาติ หรือรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง facebook fanpage กรมศิลปากร สอบถามได้ที่กลุ่มภาษาและวรรณกรรม สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ ทางอีเมล finearts.thai@gmail.com หรือโทร. 0-2164-2501 ต่อ 6076" นายกิตติพันธ์ กล่าว.

    #roundtablethailand
    roundtablethailand.com

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    FB_IMG_1653306653811.jpg

    (May 23) IMF ชี้รัฐบาลควรอุดหนุนราคาอาหาร-พลังงานให้คนจน : กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ชี้ว่า รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ควรอุดหนุนราคาอาหารและพลังงานให้แก่กลุ่มคนที่ยากจนที่สุดในสังคม ในยามที่คนทั่วโลกกำลังประสบปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น

    นางคริสตาลีนา กอร์เกียวา กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ซึ่งเป็นชาวบัลแกเรีย ให้สัมภาษณ์บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ว่า รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ควรช่วยเหลือประชาชนในลักษณะที่เจาะจง ด้วยการอุดหนุนด้านราคาให้แก่ประชาชนโดยตรง และจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขวิกฤตค่าครองชีพสูงในขณะนี้ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือคนยากจนข้นแค้นที่เดือดร้อนเพราะราคาอาหารและพลังงานแพงมาก อีกกลุ่มหนึ่งคือธุรกิจที่เดือดร้อนหนักที่สุดเพราะผลกระทบจากสงครามยูเครน หากรัฐบาลไม่ให้การสนับสนุนอย่างถูกต้อง การประท้วงที่เห็นในศรีลังกาอาจจะเกิดขึ้นซ้ำรอยในประเทศอื่น

    นางกอร์เกียวา ชี้ว่า อาหารมีมากมาย แต่ไม่ถูกแจกจ่ายอย่างเท่าเทียม วิธีแก้ไขคือ ปลูกให้มากขึ้นเท่าที่สามารถทำได้ และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้มากขึ้น เพราะนอกจากสงครามแล้ว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก็มีผล นอกจากนี้ยังต้องเปิดกว้างทางการค้า ไม่ควรมีประเทศใดมีอาหารเกินความต้องการแล้วสร้างอุปสรรคทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางการส่งออกเพื่อแจกจ่ายไปยังประเทศอื่น

    ส่วนเรื่องที่ธนาคารกลางหลายประเทศพากันขึ้นอัตราดอกเบี้ยหวังชะลอการขึ้นราคาสินค้านั้น กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟติงว่า ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้รัฐบาลที่กู้ยืมเงินในช่วงที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้น รัฐบาลประเทศต่าง ๆ จะต้องรอบคอบอย่างยิ่งว่าจะใช้งบประมาณจำนวนใด และใช้ในเรื่องใด

    Source: สำนักข่าวไทย
    https://tna.mcot.net/world-946402

    เพิ่มเติม
    - Global economy faces 'biggest test' since Second World War, IMF says : https://www.thenationalnews.com/bus...my-faces-biggest-test-since-second-world-war/

    - IMF Blog: Why We Must Resist Geoeconomic Fragmentation—And How
    https://blogs.imf.org/2022/05/22/why-we-must-resist-geoeconomic-fragmentation-and-how/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    (May 23) ธปท. ต่อลมหายใจแบงก์ จ่อยืดเวลาขาย ‘หนี้เอ็นพีเอ’ อีก 2 ปี : “ธปท.” จ่อผ่อนเกณฑ์ “แบงก์” ขายเอ็นพีเอ 2 ปี ไม่ต้องสำรองเพิ่ม หวังลดผลกระทบโควิด - ขายทรัพย์ไม่ออก ลดผลกระทบโควิด

    ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) เกี่ยวกับหลักเกณฑ์อสังหาริมทรัพย์รอการขายของสถาบันการเงิน เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สถาบันการเงินอาจจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ออกไปได้ยากขึ้น และมีแนวโน้มรับโอนอสังหาฯ เข้ามามากขึ้น จากการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

    ทั้งนี้ ธปท.จึงผ่อนผันระยะเวลาการถือครองเป็นการทั่วไป ให้สถาบันการเงินไม่ต้องนับระยะเวลาการถือครองอสังหาริมทรัพย์รอการขายระหว่างวันที่ 1 ม.ค.2565 - ธ.ค.2566 เป็นระยะเวลา 2 ปี และไม่ต้องกันเงินสำรองเพิ่มเติมในระยะเวลาดังกล่าว

    ส่วนกรณี อสังหาริมทรัพย์รอการขายที่เคยได้รับการผ่อนผันระยะเวลาการถือครองเป็นรายกรณี จากธปท.แล้ว ให้ได้รับการผ่อนผันตามเงื่อนไขเดิมต่อไป และไม่ต้องนับระยะเวลาการถือครองตามกรณีข้างต้น ทำให้สถาบันการเงินสามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์รอการขายดังกล่าวได้เพิ่มเติมอีก 2 ปี นับจากวันที่ครบกำหนด

    นอกจากนี้ กรณีที่การถือครองสินทรัพย์รอการขายยังมีอุปสรรคในการจำหน่าย และเข้าเงื่อนไขที่ธปท.กำหนด เช่นอยู่ในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หรืออยู่ในถิ่นทุรกันดาร หรือยังมีกรรมสิทธิ์ร่วม ที่แบงก์ไม่มีกรรมสิทธิ์ กรณีนี้ให้แบงก์สามารถเร่งจำหน่ายทรัพย์ออกได้ภายใน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่อุปสรรคหมดไป

    โดย ธปท.จะเปิดรับฟังความคิดเห็น และเสนอแนะต่อร่างหลักเกณฑ์อสังหาริมทรัพย์รอการขายได้ ตั้งแต่ 18 พ.ค.-1 มิ.ย.2565

    นายธรัฐพร เตชะกิจขจร ผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM กล่าวว่า หากมีการแก้หลักเกณฑ์ดังกล่าว เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับสถาบันการเงิน สามารถลดแรงกดดันในการขายเอ็นพีเอ ออกมาได้ ในภาวะที่มีผลกระทบจากโควิด-19

    เพราะวันนี้สิ่งที่แบงก์เผชิญคือ การถือสินทรัพย์รอการขายอยู่จำนวนมาก ดังนั้น หากสามารถคลายหลักเกณฑ์การขายเอ็นพีเอได้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อระบบการเงินในระยะข้างหน้า

    “เราเชื่อว่าดีต่อสถาบันการเงิน ระบบการเงินเพราะวันนี้สินทรัพย์รอการขายเยอะมาก เหมือนเขื่อนที่กำลังจะแตก จากของที่มีอยู่เยอะในตลาด ดังนั้น หากเกณฑ์นี้มาชะลอการออกของน้ำจากเขื่อนได้ ก็จะดีกับแบงก์ ทำให้ลดแรงกดดันในการเร่งขายออกได้ ส่วนเรามองว่าไม่ได้ผลกระทบ เพราะวันนี้ของที่มีอยู่ในตลาดมีเยอะมาก เพราะแบงก์มีกำหนดขายเอ็นพีเอ และเอ็นพีแอล ออกมาเยอะอยู่แล้วในปีนี้และปีหน้า”

    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    https://www.bangkokbiznews.com/business/1005865

    เพิ่มเติม
    - ธปท. เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) หลักเกณฑ์อสังหาริมทรัพย์รอการขาย
    และแบบรายงานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์รอการขาย : https://www.bot.or.th/Thai/FinancialInstitutions/Pages/NPA_Hearing.aspx
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    (May 23) วิกฤตหนี้ศรีลังกา จีนเข้าแทรกแซงการเจรจากับ IMF ให้กู้เพิ่มได้ แต่ไม่ลด : วิกฤตเศรษฐกิจที่ศรีลังกาเผชิญอยู่ ส่วนหนึ่งมาจากการเป็นหนี้จีนจำนวนมหาศาล การเจรจากับไอเอ็มเอฟเพื่อหาทางแก้ไข จีนเข้ามามีบทบาทสำคัญ

    วันที่ 22 พฤษภาคม 2565 สำนักข่าว เอพี ของสหรัฐอเมริกา รายงานวิเคราะห์สถานการณ์วิกฤตหนี้มหาศาลของศรีลังกา ที่มีจีนเข้ามามีบทบาทหลัก ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่และรายสำคัญ

    จีนชูโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เพื่อผลักดันการค้าในภูมิภาค ด้วยการออกเงินกู้ให้ก่อการสร้างท่าเรือและโครงสร้างพื้นที่ทั่วเอเชียและแอฟริกา

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับศรีลังกาก็คือ การเป็นหนี้จีนหลายพันล้านดอลลาร์ คุกคามความพยายามที่จะแก้ไขวิกฤตด้านการเงินขั้นร้ายแรง ถึงขั้นไม่สามารถนำเข้าน้ำมันและอาหารได้

    หวั่นมีอีกหลายชาติเหมือนศรีลังกา

    การดิ้นรนของศรีลังกาดูสุดขั้ว แต่ก็สะท้อนสภาพของประเทศอื่นๆ อีกหลายสิบประเทศ จากหมู่เกาะแปซิฟิกไปจนถึงชาติที่ยากจนที่สุดในเอเชียและแอฟริกาที่ลงนามร่วมข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง

    ศรีลังกาและชาติยากจนอื่นของเอเชีย ยินดีที่จีนมาช่วยทุ่มการลงทุนในประเทศ ขณะที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี ระบุว่า ภูมิภาคจำเป็นต้องลงทุนให้ได้ปีละ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

    แต่มีเสียงวิจารณ์จากคนศรีลังกาว่า รัฐบาลใช้จ่ายเกินตัว และว่าโครงการที่นำโดยจีน ลงทุนมากเกินไปทั้งที่ส่งผลดีต่อศรีลังกาน้อยมาก

    หนี้ของชาติยากจนทั้งหมดล้วนสูงขึ้น จึงเพิ่มความเสี่ยงว่า ชาติอื่นๆ จะถลำเข้าสู่ปัญหาเช่นเดียวกับศรีลังกา

    ประชากร 22 ล้านคนของศรีลังกาอยู่ในภาวะลำบากยากเข็ญ กระแสเงินต่างประเทศร่อยหรอตั้งแต่เดือนเมษายน นำไปสู่ภาวะอาหารขาดแคลน ประชาชนประท้วงไล่นายมหินทา ราชปักษา ให้ลาออก ส่วนหนี้ที่ศรีลังกา กู้ยืมจีน ญี่ปุ่น และชาติอื่นๆ ต้องระงับไว้

    จีนลั่นแสดงบทบาทถกไอเอ็มเอฟ

    จีนรั้งอันดับสาม รองจากญี่ปุ่น และเอดีบี ที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของศรีลังกา และครองสัดส่วนหนี้อยู่ 10% แต่รัฐบาลจีนมีศักยภาพล้นเหลือกับการจัดการเกี่ยวกับเรื่องหนี้

    รัฐบาลจีนสัญญาว่าจะแสดงบทบาทเชิงบวกในการเจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ถึงเรื่องเงินกู้ฉุกเฉินให้ศรีลังกา โดยจีนเสนอที่จะให้ยืมมากขึ้น แต่ต้องอยู่ร่วมในกระบวนการที่ไม่ให้มีการตัดลดหนี้ของศรีลังกา เพราะกลัวว่า ลูกหนี้รายอื่นๆ ในโครงการหนึ่บแถบหนึ่งเส้นทาง จะเรียกร้องการผ่อนปรนหนี้แบบเดียวกัน

    “ถ้าจีนโอนอ่อนให้ศรีลังกา ก็จะต้องยอมโอนอ่อนให้ลูกหนี้รายอื่นๆ พวกเขาไม่อยากยุ่งยากแบบนั้นแน่” นายดับเบิลยู. เอ. วิเชวาร์เดนา นักเศรษฐศาสตร์ที่เคยเป็นรองผู้ว่าการแบงก์ชาติศรีลังกา กล่าว

    บรรดาผู้เชี่ยวชาญมองว่า ถ้าจีนพยายามที่จะไม่ให้มีการตัดลดนี้ ก็จะไปขัดขวางการเจรจากับไอเอ็มเอฟ หรือเจ้าหนี้ภาคเอกชนที่จะไม่ปล่อยเงินให้อีก

    อทิติ มิตตัล แห่งบริษัทที่ปรึกษา เวริสก์ เมเปิลครอฟต์ กล่าวว่า หากไม่ได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลจีน เส้นทางหนี้ของศรีลังกาจะซับซ้อนเลยทีเดียว

    เมื่อเดือนเมษายน นายรานิล วิกรามาสิงหะ ตอนนั้นเป็นผู้นำฝ่ายค้าน (ขณะนี้เป็นนายกรัฐมนตรี) ให้สัมภาษณ์สถานีรีพับลิก ทีวี ว่า จีนเสนอให้เงินกู้ 1 พันล้านดอลลาร์ แทนท่จะลดหนี้ให้ศรีลังกา ถึงแม้เงินจำนวนนั้นจะทำให้รัฐบาลมีเงินไว้ใช้จ้าย แต่ก็หมายถึว่า หนี้ก็จะพอกพูนขึ้น

    ด้านนายฉี เจิ้นหง เอกอัครราชทูตจีนประจำศรีลังกา กล่าวเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ว่า การเจรจากับไอเอ็มเอฟ ย่อมต้องถูกข้อเสนอของจีนแทรกแซง ซึ่งปกติแล้วไอเอ็มเอฟมักจะให้ผู้กู้ยืมทำตามข้อตกลงที่เจ้าหนี้จะลดหนี้ให้

    สหรัฐ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และรัฐบาลชาติอื่นๆ ต่างเป็นผู้ให้กู้ยืม แต่เป็นจำนวนที่น้อยกว่า ขณะที่ชาติต่างๆ ในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ได้รับเงินทุนจากกลุ่มเอกชนน้อยมาก เพราะโครงการดูเสี่ยงเกินไป และยังขาดกรอบการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างถูกกฎหมาย

    ทำธุรกิจ ไม่ได้ทำการกุศล

    รัฐบาลบางประเทศเผชิญกับปัญหาเช่นกันแต่น้อยกว่าศรีลังกา เช่น เคนยา บรรดาคนขับรถบรรทุกประท้วงใหญ่ที่รัฐบาลขึ้นภาษีน้ำมันเพื่อจะเอาเงินไปจ่ายค่าก่อสร้างทางรถไฟที่ร่วมมือกับจีน

    นอกจากนี้ยังมีประเทศที่ยกเลิกหรือลดขนาดโครงการลง เช่น มาเลเซียยกเลิกโครงการทางรถไฟ เมื่อปี 2019 (พ.ศ.2562) เพราะเห็นว่าแพงเกินไป หรือไทยเองต้องขอเจรจาต่อรองใหม่ในโครงการรถไฟความเร็วสูง เพราะเดิมมีงานที่บริษัทของไทยจะได้ประโยชน์น้อยเกินไป

    ก่อนหน้านี้ จีนเคยปรับโครงสร้างหนี้ให้ประเทศอื่นอยู่บ้าง เช่น เอธิโอเปีย โน้มน้าวให้จีนยกเลิกดอกเบี้ยบางส่วนลงและยืดเวลาการชำระหนี้ 4 พันล้านดอลลาร์ จาก 10 ปี เป็น 30 ปี นอกจากนี้ยังลดจำนวนที่จ่ายแต่ละปีลงด้วย

    เจ้าหน้าที่จีนกล่าวว่า โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง ไม่ใช่การกุศล การกู้ยืมเป็นเรื่องของธุรกิจ แต่รายละเอียดไม่เป็นที่เปิดเผย

    ในสายตาของรัฐบาลสหรัฐ รัสเซีย ญี่ปุ่น อินเดีย และชาติอื่นๆ ที่บ่นรัฐบาลจีน เห็นว่า จีนตั้งโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อขยายอิทธิพล และลดอำนาจของพวกเขาลง

    ส่วนบรรดาสมาชิกฝ่ายค้านมองว่า ศรีลังกาจำเป็นต้องให้จีนลดหนี้ลง พร้อมกล่าวโทษผู้นำประเทศที่ไปสร้างโครงการที่ไม่เป็นจริง และไม่มีปัญญาจะจ่ายเองตั้งแต่แรก อีกทั้งยังไม่อาจลงทุนในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจเองด้วย

    คาบีร์ ฮาชิม นักการเมือง กล่าวว่า เงินกู้ต่างประเทศที่เอามาสร้างทางหลวง สนามบิน ศูนย์แสดงสินค้าที่อยู่ในป่าในเขา ไม่มีทางที่จะได้เงินคืนกลับมาเป็นกระแสเงินต่างประเทศ และตอนนี้ศรีลังกาก็ไม่มีเงินดอลลาร์ ที่จะจ่ายคืนหนี้เป็นเงินดอลลาร์

    ผุดท่าเรือใหญ่โตที่ไม่คุ้มค่า

    เสียงวิจารณ์ที่ชัดเจนคือท่าเรือฮัมบันโตตา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ถูกยกเป็นตัวอย่างสำคัญถึงความประมาทของเจ้าหน้าที่รัฐ นอกจากจะสร้างในเมืองบ้านเกิดของนายมหินทา ราชปักษา ซึ่งตอนนั้นเป็นประธานาธิบดี ด้วยการกู้เงินจีนถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 37,400 ล้านบาท ทั้งที่แผนไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ

    ตอนนั้นโปรโมตกันว่า ท่าเรือฮัมบันโตตาจะรองรับเส้นทางการขนส่งทางทะเล ลดความหนาแน่นของท่าเรือหลักที่กรุงโคลอมโบ แต่สุดท้ายกลับไม่มีรายได้จากต่างประเทศเลย

    ต่อมาจีนจ่ายเงินประกันเอาท่าเรือออกมาให้บริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของจัดการ คือบริษัท ไชน่า เมอร์แชนตส์ กรุ๊ป ซื้อสัญญาเช่านานถึง 99 ปี มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ รวมที่ดินของนิคมอุตสาหกรรมด้วย

    สรุปแล้ว ศรีลังกาต้องจ่ายเงินสดให้ธนาคารจีน อีกทั้งยังเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาควบคุมกิจการภายในประเทศศรีลังกาเอง ขณะที่เงินกู้จากจีนยังต้องเอาไปจ่ายค่าสร้างสนามบินใกล้เมืองฮัมบันโตตา ทั้งที่มีสายการบินใช้เพียงน้อยนิด

    วิกฤตที่เกิดขึ้นจึงยิ่งเร่งเชื้อข้อกล่าวหาว่า จีนใช้กับดักหนี้เพื่อครองอิทธิพลในภูมิภาค

    วิเชยะดาสา ราชปักษี สมาชิกสภา กล่าวว่า “จีนก็รู้ว่าพวกเราไม่มีปัญญาจะจ่ายคืนหนี้นี้ได้ เราจำเป็นต้องให้จีนละทิ้งส่วนหนึ่งของเงินกู้ ให้รู้ว่า คนจนธรรมดาสามัญ ไม่มีข้าวจะกิน เพราะต้องเอาเงินมาจ่ายหนี้ทุกวันนี้”

    ปีนี้ ศรีลังกาเป็นหนี้ธนาคารจีนและเจ้าหนี้รายอื่นแล้ว 7 พันล้านดอลลาร์ แต่ต้องระงับการจ่ายคืนไว้ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. ระหว่างการเจรจากับไอเอ็มเอฟ ขณะที่รัฐบาลยังเป็นหนี้อีก 25,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้เป็นของนักลงทุนบอนด์ภาคเอกชน

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    https://www.prachachat.net/world-news/news-937047

    เพิ่มเติม
    - China Becomes Wild Card in Sri Lanka’s Debt Crisis @Diplomat_APAC https://thediplomat.com/2022/05/china-becomes-wild-card-in-sri-lankas-debt-crisis/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ละครในศตวรรษที่ "ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน" แสดงให้เห็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ สามารถใช้ไต้หวันจัดการกับจีนได้อย่างไร ในขณะที่วอชิงตันเพิ่งดำเนินการทางการทูตและการทหารบ่อยครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึง "การกลายเป็นยูเครน" ของไต้หวัน วอชิงตันกำลังแอบบังคับให้ "ปักกิ่งดำเนินการกับไต้หวัน" หรือไม่

    เมื่อไม่กี่วันก่อน ประธานาธิบดีสหรัฐ ไบเดน ออกเดินทางอย่างเป็นทางการในการเดินทางไปเอเชียครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง หลังจากที่เขาไปเยือนเกาหลีใต้แล้ว ไบเดนก็จะเดินทางไปญี่ปุ่น สำหรับการเยือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นของไบเดน โดยทั่วไปแล้วโลกภายนอกเชื่อว่าไบเดนมีเจตนาชั่วร้ายต่อจีน นอกเหนือจากการผลักดัน 'กรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก' (IPEF) แล้ว ยังมีความเป็นไปได้สูงที่ปัญหาของไต้หวันจะถูกนำขึ้นแสดงด้วย ในขณะที่สหรัฐฯ เริ่มที่จะเอาชนะพันธมิตรและหุ้นส่วนในเอเชีย จีนจะเผชิญกับบททดสอบใหม่ๆ

    เกี่ยวกับ 'กรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก' (IPEF) ที่ขับเคลื่อนโดยฝ่ายบริหารของไบเดน โดยทั่วไปแล้วโลกภายนอกเชื่อว่า IPEF ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโต้อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในภูมิภาคนี้ และขั้นตอนต่อไปของฝ่ายบริหารไบเดนคือการสร้างความมั่นคง พันธมิตรเพื่อชนะการสนับสนุนประเทศในภูมิภาค

    เมื่อเทียบกับพันธมิตรทางเศรษฐกิจ ไบเดนอาจกังวลเกี่ยวกับความสำเร็จของกลยุทธ์ในการสร้างพันธมิตรด้านความมั่นคงในเอเชียแปซิฟิกมากกว่า เมื่อโครงสร้างของพันธมิตรด้านความมั่นคงเสร็จสมบูรณ์ ความพยายามที่จะแยกจีนออกจะเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่

    นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าสหรัฐฯ และญี่ปุ่นอาจรวมฉบับยูเครนและฉบับไต้หวันไว้ด้วยกัน เมื่อเร็วๆ นี้ สหรัฐฯ ได้ยั่วยุประเด็นไต้หวัน และญี่ปุ่นก็แสดงความร่วมมือในเชิงบวกเช่นกัน จีนได้ยกระดับการเฝ้าระวัง ก่อนที่ไบเดนจะเยือนเอเชีย เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ออกคำเตือนไปยังสหรัฐอเมริกา Yang Jiechi สมาชิกสำนักการเมืองของคณะกรรมการกลาง CPC และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการต่างประเทศกลาง คุยโทรศัพท์กับ Jack Sullivan ผู้ช่วยฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา เขาเตือนว่า หากสหรัฐฯ ยืนกรานที่จะเล่น "ไพ่ไต้หวัน" จะทำให้สถานการณ์เข้าสู่ "สถานการณ์อันตราย" จีนจะดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของตน และเราจะทำตามที่เราพูด

    ประธานาธิบดี Biden ของสหรัฐอเมริกาเพิ่งออกแถลงการณ์เกี่ยวกับประเด็นไต้หวันเมื่อเขาและ Kishida เข้าร่วมงานแถลงข่าวในญี่ปุ่น Reuters อ้างอิงจากบริบทของคำกล่าวของ Biden ในการตอบคำถามของนักข่าว"ถ้าไต้หวันถูกโจมตีโดยจีนแผ่นดินใหญ่ สหรัฐฯ จะปกป้องไต้หวันหรือไม่" Biden ตอบว่า "ใช่" เขากล่าวว่า "นี่คือคำมั่นสัญญาที่เราทำขึ้น ... เราสนับสนุนนโยบายจีนเดียว เราลงนามและลงนามในข้อตกลงบางฉบับ แต่ความคิดที่ว่าสามารถได้มาโดยการใช้กำลังหรือโดยความคิดของ การได้มาโดยใช้กำลังเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม"

    รอยเตอร์เชื่อว่าคำพูดของไบเดนเกี่ยวกับไต้หวันอาจบดบังไฮไลท์ของการเยือนของเขา นั่นคือการเปิดตัวกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก
    ก่อนคำพูดของไบเดน ในตอนเย็นของวันที่ 20 ตามเวลาท้องถิ่น ไพรซ์ โฆษกทำเนียบขาวทวีตว่าสหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับหลักการ "จีนเดียว" แต่ยึดถือนโยบาย "จีนเดียว"

    รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง ยี่ กล่าวเมื่อวันที่ 22 ว่า "ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก" ที่สหรัฐฯ ปรุงขึ้นภายใต้ธงของ "เสรีภาพและการเปิดกว้าง" แต่มีความกระตือรือร้นที่จะรวมตัวกันเป็น "วงกลมเล็กๆ" โดยอ้างว่า "เปลี่ยนสภาพแวดล้อมรอบข้างของจีน" และมีวัตถุประสงค์เพื่อพยายามควบคุมจีน ทำให้ประเทศในเอเชียแปซิฟิกเป็น "ตัวเบี้ย" ของสหรัฐฯ สิ่งที่อันตรายอย่างยิ่งคือการที่สหรัฐฯ ยั่วยุ และเล่น "ไพ่ไต้หวัน" และ "ไพ่ทะเลจีนใต้" พยายามสร้างความสับสนให้กับภูมิภาคอื่นๆ และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ข้อเท็จจริงจะพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่เรียกว่า "ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก" โดยพื้นฐานแล้วเป็นกลยุทธ์ในการสร้างความแตกแยก กลยุทธ์ในการปลุกระดมการเผชิญหน้า และกลยุทธ์เพื่อทำลายสันติภาพ ไม่ว่ากลยุทธ์นี้จะทำแบบไหน สุดท้ายก็จะล้มเหลว ประชาชนในภูมิภาคนี้ควรเตือนฝ่ายสหรัฐฯ ว่าไม่ควรมีการใช้สคริปต์สงครามเย็นที่ล้าสมัยซ้ำในเอเชีย ความวุ่นวายและสงครามที่กำลังเกิดขึ้นในโลกจะต้องไม่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตุ๊กตาเจ๊บ (Jeb) หรือ เจเบไดอาห์ เคอร์มาน (Jebediah Kerman) 1 ใน 4 เคอร์โบนัลส์ (Kerbonauts) จากเคอร์บัล สเปซ โปรแกรม (Kerbal Space Program) ถูกส่งขึ้นไปบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) โดยยานอวกาศสตาร์ไลเนอร์ (Starliner) จากบริษัทโบอิ้ง (Boeing) ขณะนี้ได้ถึงสถานีอวกาศนานาชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากนักบินอวกาศ

    โดยก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าได้มีการส่งตุ๊กตาเจ๊บไปกับยานอวกาศสตาร์ไลเนอร์ เม่อยานอวกาศเข้าเทียบท่ากับสถานีอวกาศนานาชาติ นักบินอวกาศที่ทำการเปิดประตูยานจึงถูกเซอร์ไพรส์ด้วยตุ๊กตาเจ๊บที่กำลังลอยเคว้งคว้างภายในยานถัดจากหุ่นทดสอบการนั่งในเที่ยวบิน

    ทั้งนี้ การส่งตุ๊กตาหรือพกตุ๊กตาขึ้นไปบินอวกาศกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ตั้งแต่ที่ยูริ กาการิน (Yuri Gagarin) นักบินอวกาศชาวรัสเซียได้นำตุ๊กตาตัวจิ๋วติดตัวไปกับเขาด้วยในเที่ยวบินอวกาศของมนุษย์ครั้งแรก เพื่อดูว่ายานอวกาศได้เดินทางเข้าสู่สภาวะเกือบไร้แรงโน้มถ่วง (Microgravity) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันจะลอยตัวขึ้นนั่นเอง

    นี่เป็นเที่ยวบินทดสอบการบินแบบไร้มนุษย์ (Orbital Flight Test) ครั้งแรกของบริษัทโบอิ้ง หลังจากที่ยานอวกาศสตาร์ไลเนอร์ล้มเหลวในการเปิดตัวเมื่อปี 2019 เนื่องด้วยปัญหาจากซอฟต์แวร์ และมีปัญหาที่ต้องทำการแก้ไขมาเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี

    แม้ระหว่างออกจากชั้นบรรยากาศโลก เครื่องสร้างแรงดันของยานอวกาศจะมีปัญหาไปบ้าง แต่สุดท้ายยานอวกาศก็สามารถเชื่อมเข้ากับสถานีอวกาศนานาชาติได้สำเร็จ จึงกลายเป็นสถิติใหม่ของบริษัทโบอิ้ง ทำให้หลังจากนี้เราจะได้เห็นยานอวกาศสตาร์ไลเนอร์ของบริษัทโบอิ้งขนส่งนักบินอวกาศไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ภายใต้โครงการเที่ยวบินลูกเรือเชิงพาณิชย์ (Crew Commercial Flight) ซึ่งเป็นโครงการที่นาซาทำร่วมกับบริษัทเอกชน 2 แห่ง คือ บริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) และโบอิ้ง

    ข้อมูลจาก https://www.tnnthailand.com/news/tech/114618/
    ภาพจาก Serg.Korsakov/Twitter

    #Starliner #Boeing #ISS #Jeb #TNNTechreports #Techreports #TNNONLINE #TNNThailand #TNNช่อง16 #gg
    —————————————————————————
    ติดตาม TNN Tech ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
    • Website : https://bit.ly/TNNTechWebsite
    • Youtube : https://bit.ly/TNNTechYoutube
    • TikTok : https://bit.ly/TNNTechTikTok0.
    • Line @TNNONLINE : https://lin.ee/4fP2tltIo
    หรือดูรายการ Live ได้ทาง
    https://www.facebook.com/TNN16LIVE/

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BREAKING !! : จับตาการเงินโลก !!! ล่าสุดอินเดียประกาศยืนยัน 100% แล้วว่าจะขึ้นดอกเบี้ยและจะลดภาษีลงอีก เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ! หลังเผชิญภาวะเงินทุนไหลออกอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ จนทำให้รูปีอ่อนค่าลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ !
    .
    ⚠️ล่าสุดเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว !!! ธนาคารกลางอินเดียประกาศเร่งกระชับนโยบายเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ ! โดยยืนยัน 100% แล้วว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็ ว ๆ นี้อย่างแน่นอน ให้ประชาชนเตรียมรับมือ !
    .
    แต่ทั้งนี้ ยังดีที่รัฐบาลมีมาตรการลดภาษี ซึ่งทำควบคู่ไปกับการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นประชาชนนั้นถูกลดทอนลงได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ตอนนี้เงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีที่ 7.79%
    .
    Shaktikanta Das ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียให้ความเห็นเอาไว้ว่า
    .
    “เราได้เข้าสู่ขั้นตอนของการประสานงานระหว่างหน่วยงานทางการคลังและการเงินเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อแล้ว ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะดูดซับผลกระทบต่อราคาผู้บริโภค”
    .
    (We have entered another phase of coordinated action between fiscal and monetary authorities to check inflation, The measures would have a sobering impact on consumer prices.)
    .
    ⚠️ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากอินเดียเผชิญภาวะเงินทุนไหลออกอย่างรวดเร็ว และทำให้เงินรูปีอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 80 ต่อ 1 ดอลลาร์
    .
    อย่างไรก็ตาม คาดว่า GDP ของอินเดียจะยังคงเป็น 1 ในประเทศที่ขยายตัวอย่างโดดเด่นมากที่สุดในโลกในปีนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง +6.9% ซึ่งสูงกว่าจีนเสียอีก ดังนั้นคงต้องมาจับตาดูกันต่อไปอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียวว่า วิกฤตเงินเฟ้อในครั้งนี้จะฉุดเศรษฐกิจอินเดียให้ร่วงลงต่ำกว่าเป้าหมายหรือไม่ ?
    .
    นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงประเด็นเสริมเกี่ยวกับ Cryptocurrency เอาไว้ด้วยว่าสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับการควบคุมที่ดีเหล่านี้ 'จะบ่อนทำลาย' เสถียรภาพทางการเงินและการคลัง (ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าจะมีการควบคุม Crypto มากขึ้นหลังจากนี้)
    .
    และไม่ว่าสถานการณ์ทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะเป้นอย่างไรต่อไป ทาง World Maker ก็จะคอยเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และจะนำข้อมูลมาอัปเดตให้ท่านทราบกันแบบ Real Time อย่างแน่นอน ! ใครไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญก็ติดตามเพจเราไว้ได้เลยครับ !
    --------------------------------------------------------------
    #WorldMaker X #Liberator
    .
    สนใจข่าวหุ้น/การเงิน/เศรษฐกิจ ทั้งไทย-ต่างประเทศ ทั้งแบบรายตัวและภาพรวม ??? วันนี้ท่านสามารถติดตามข่าวสาร บทวิเคราะห์ เกี่ยวกับการเงิน การลงทุน ทั้งหุ้นไทย และหุ้นต่างประเทศ ไปพร้อม ๆ กับเพจ World Maker และเพจหลักทรัพย์ Liberator Securities ได้แล้ว !
    .
    ⚠️โดยทาง Liberator จะมีการอัปเดตข้อมูล-ข่าวสารเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยและเศรษฐกิจโลกให้ในทุก ๆ วันด้วย และมีแบบเจาะลึกกันรายตัว-รายวันเลยทีเดียว ! ใครสนใจรับข่าวสารดี ๆ เพิ่มเติมก็ติดตาม Liberator ไว้ได้เลยที่ : https://bit.ly/3kEtXW7
    --------------------------------------------------------------
    #ทันโลก #ทันเหตุการณ์ #ทันข่าวสาร อย่างแท้จริงไปกับ #WorldMaker
    .
    แนะนำให้ทุกท่าน #เปิดกระดิ่ง ตั้งค่า #รายการโปรด หรือ #Favourite ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่โดนการปิดกั้นการมองเห็นจากทาง Facebook ซึ่งอาจทำให้พลาดข่าวสารที่สำคัญจากทาง World Maker ได้
    .
    ขอบคุณทุกท่าน ที่ติดตาม World Maker ฝากกด Like และ Share เพื่อเป็นกำลังใจและให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
    --------------------------------------------------------------
    #อินเดีย #เศรษฐกิจ #การเงิน #การลงทุน #หุ้น #เศรษฐกิจโลก #เงินเฟ้อ #รูปี #ดอลลาร์ #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวรอบโลก #Crypto #คริปโต #คริปโท

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BREAKING !! : หมากต่อไปเริ่ม !! ล่าสุดรัสเซียเตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงิน ! หลังจากรูเบิลแข็งค่าจัดบรรลุเป้าหมายที่วางไว้แล้ว ! โดยหลังจากนี้อาจลดส่วนแบ่งที่บริษัทต่าง ๆ ต้องแลกสกุลเงินต่างชาติเป็นรูเบิลเหลือแค่ 50% จากปัจจุบันที่ 80% ขณะที่รูเบิลซื้อขายราว 57.5 ต่อดอลลาร์ ! จากเดิม 150 ต่อดอลลาร์
    .
    ⚠️ล่าสุดมีข่าวในโลกการเงินที่น่าสนใจออกมาแล้ว ! หลังจากรัสเซียเตรียมปรับลดสัดส่วนเงินสกุลต่างชาติที่ต้องนำมาแลกเป็นรูเบิลลงจาก 80% เป็น 50% ซึ่งหมายความว่าธุรกิจในรัสเซียจะกลับไปถือครองสกุลเงินต่างชาตได้มากขึ้นในบัญชี หลังจากเงินรูเบิลแข็งค่าเข้าสู่เป้าหมายที่รัสเซียวางเอาไว้
    .
    โดยรวมแล้ว แม้ว่าจะโดนโจมตีค่าเงินจนดิ่งฮวบลงไปถึง All Time Low แต่ล่าสุดการแข็งค่ากลับขึ้นมาทำให้เงินรูเบิลของรัสเซียแสดง Performance ได้ 30% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ตลอดปีนี้ (กล่าวง่าย ๆ ว่าแข็งค่าขึ้น 30%)
    .
    การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะทำให้หลังจากนี้ธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องขายสกุลเงินต่างชาติที่ได้รับมา 50% เพื่อแลกเป็นรูเบิลจากเดิมต้องขายถึง 80%
    .
    อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เข้าใจชัดเจน "มาตรการนี้ไม่ได้มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อค่าเงินรูเบิลเลย" เพราะว่าตอนนี้รัสเซียโดนคว่ำบาตรเรื่องการนำเข้าหนักมาก ดังนั้นธุรกิจต่าง ๆ จึงไม่รู้จะถือเงินสกุลต่างชาติไว้ทำไมอยู่แล้ว เพราะการคว่ำบาตรทำให้รัสเซียใช้จ่ายในสกุลเงินต่างชาติได้น้อยลงมาก ก็เลยต้องหันมาบริโภคภายในประเทศ เน้นใช้รูเบิลแทน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่รัสเซียทำมาตลอดนับตั้งแต่โดนคว่ำบาตรแรก ๆ จนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปกว่า 6000 ครั้งแล้ว
    .
    ⚠️ทั้งนี้ ในสภาวะปกติ (หมายถึงในช่วงที่ไม่โดนคว่ำบาตร) ค่าที่เหมาะสมของเงินรูเบิลถูกคำนวณไว้ราว ๆ 70-80 ต่อดอลลาร์ เนื่องจากค่าเงินที่แข็งเกินไปจะทำให้ผู้ส่งออกของรัสเซียซึ่งมีรายได้มากมายเป็นสกุลเงินต่างประเทศนั้นเสียประโยชน์
    .
    แต่ในสภาวะที่โดนคว่ำบาตรไม่ให้ส่งออกเช่นนี้ ยิ่งรูเบิลแข็งเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อรัสเซียมากเท่านั้น เพราะตราบใดที่ยังเน้นการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก และมีรายได้จากการขายพลังงานเป็นรูเบิล การแข็งค่าของสกุลเงินจะช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศมีความได้เปรียบสูงขึ้นไปอีก
    .
    ดังนั้นเราคงต้องมาจับตามองกันอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว ว่ามาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้จะถูกยกเลิกออกไปหรือไม่ ? เพราะความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซียนั้นเป็นการผ่อนคลายให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถถือสกุลเงินต่างชาติได้มากขึ้น ซึ่งก็น่าสนใจว่าจะนำเงินต่างชาติไปใช้ทำอะไร ?
    .
    ซึ่งไม่ว่าสถานการณ์ทางด้านการเงินและการเมืองโลกจะเป็นอย่างไรต่อไป ทาง World Maker ก็จะคอยเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และจะนำข้อมูลมอาัปเดตให้ท่านทราบกันแบบ Real Time อย่างแน่นอน ! ใครไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญแบบนี้ก็ติดตามเพจเราไว้ได้เลยครับ !
    --------------------------------------------------------------
    #ทันโลก #ทันเหตุการณ์ #ทันข่าวสาร อย่างแท้จริงไปกับ #WorldMaker
    .
    แนะนำให้ทุกท่าน #เปิดกระดิ่ง ตั้งค่า #รายการโปรด หรือ #Favourite ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่โดนการปิดกั้นการมองเห็นจากทาง Facebook ซึ่งอาจทำให้พลาดข่าวสารที่สำคัญจากทาง World Maker ได้
    .
    ขอบคุณทุกท่าน ที่ติดตาม World Maker ฝากกด Like และ Share เพื่อเป็นกำลังใจและให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
    --------------------------------------------------------------
    #รัสเซีย #รูเบิล #ดอลลาร์ #การเงิน #ลงทุน #หุ้น #เศรษฐกิจ #ยูโร #ยุโรป #สหรัฐ #คว่ำบาตร #ข่าวเศรษฐกิจ #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวรอบโลก #เศรษฐกิจโลก

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เวลาตกฟากของคุณคือเท่าไหร่?
    อภิมหาเศรษฐีหมวดธุรกิจอาหารและพลังงาน มีสินทรัพย์พอกพูนขึ้น 4.53 แสนล้านดอลลาร์ (ตีคร่าวๆ 14.7 ล้านล้านบาท) ในห้วง 24 เดือนที่ผ่านมา --- ด้วยอานิสงส์จากมหันตภัยอย่างที่เรารู้กัน และบวกไปอีกเด้ง คือ ผลกระทบจากรัสเซียรุกรานยูเครนล่าสุด ทำให้ราคาอาหารและเชื้อเพลิงพุ่งปรี๊ด (รายงานโดย Oxfam องค์กรการกุศลของอังกฤษ)

    นับเป็นหัว มีเถ้าแก่จากสองวงการนี้ เข้าทำเนียบอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 62 ราย (ต้องมีเงินเกินพันล้านดอลลาร์ถึงถูกนับ)
    .
    โดดข้ามไปมองอีกฝั่ง ปรากฏว่ามี “คนยากจน” เพิ่มขึ้นทั่วโลก 263 ล้านคน --- เบ็ดเสร็จ มีคนยากจนรวมทั้งสิ้นทั่วปฐพี 860 ล้านคน
    นิยามของ “คนยากจน” คือมีรายได้ต่ำกว่า 1.90 ดอลลาร์ต่อวัน (ตีหยาบๆ 65 บาทต่อวัน)
    … ในขณะที่ ค่าอาหารแพงขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

    ฟ้ากับเหว
    ข้างหนึ่ง มีคนร่ำรวยขึ้นมหาศาลเพราะกำไรจากอาหารและพลังงาน
    อีกข้างหนึ่ง มีคนอดอยาก และไม่มีไฟฟ้าใช้
    ใครกำหนด?
    .
    นานมาแล้ว เคยดูหนังทีวีเรื่องหนึ่ง มีแสงวาบจากท้องฟ้า เวลาตกฟากเดียวกันเปี๊ยบ แสงสายหนึ่งไปคลอดที่วังหลวง ในท้องฮองเฮา ส่วนแสงอีกสายไปตกในท้องขอทาน … ก็เวลาเดียวกัน

    เกิดมารวย ช่วยไม่ได้
    เกิดมาจน ก็ไม่มีใครช่วยคุณเช่นกัน

    เพจนี้ ขอ “ช่วย” เป็นกำลังใจให้ทุกชีวิต ฝ่าฟันวิบากของตน --- อ่านแล้วไม่ทำให้อิ่มท้อง แต่เชื่อเถิดว่าท่านจะอิ่มรักและความห่วงใยจากผม

    ผมไม่รวยเงิน แต่รวยน้ำใจ ให้ท่านได้ไม่มีหมด

    https://www.theguardian.com/news/20...-richer-oxfam-davos-wealth-tax-soaring-prices

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    และแล้วมันก็เกิดขึ้นจนได้ …
    ยุโรปเริ่มมีกระฟัดกระเฟียดใส่กันเองแล้วนะครับท่าน
    เรื่องก๊าซ คนพูดกันถึงแต่รัสเซีย อเมริกา ทว่ากลับลืมนอร์เวย์ไป! เงียบๆ แต่ฟาดเรียบ …
    ประเทศยุโรปนำเข้าก๊าซจากนอร์เวย์ (ซึ่งเป็นชาติภายในยุโรปด้วยกันเอง) ขณะนี้ ประมาณ 350-400 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน --- คิดเป็นเกือบๆ 30% ของที่นำเข้าทั้งหมด … ไม่ใช่น้อยเลยนะ

    เดิมที ยุโรปนำเข้าจากรัสเซีย หลัก 400 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่ก็อย่างที่รู้กัน ล่าสุด เหลือแค่ 260 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน (ส่วนนอร์เวย์ อดีต ราว 300 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่ปัจจุบัน จำเป็นต้องขยับขึ้น เพื่อช่วยแทนรัสเซียให้ได้มากที่สุด)

    กระจ่างชัดนะครับท่าน จะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ นอร์เวย์ป้อนก๊าซเลี้ยงยุโรปไม่แพ้รัสเซียเท่าไหร่ --- แต่ไม่ค่อยพูดถึงกัน เพราะมันของชัวร์ ไม่มีปัญหา

    ราคาก๊าซพุ่ง รัสเซียกระหยิ่มยิ้มย่อง … ขณะที่นอร์เวย์เอามือป้องปาก เพราะยิ้มประเจิดประเจ้อให้เพื่อนเห็นไม่ได้
    .
    มาเตอุสซ์ โมราเวียชกี้ นายกฯ โปแลนด์ โวยลั่น “แต่มันใช่หรือ ที่เราจะต้องจ่ายค่าก๊าซให้นอร์เวย์มหาศาลปานนั้น ขึ้นตั้ง 4-5 เท่าจากปีก่อน จะบ้าแล้ว”

    “พวกเขาควรจะ ‘แชร์’ กำไรที่มันล้นเหลือนี่นะ มันไม่ปกติ ไม่เป็นธรรมเลย”

    เมื่อสถานการณ์ไม่ปกติ บรรยากาศความสามัคคีปรองดองในหมู่คณะอาจแปรเปลี่ยน
    .
    ท่อก๊าซใหม่ที่เชื่อมจากแหล่งก๊าซใน “ทะเลเหนือ” North Sea ของนอร์เวย์ สู่เดนมาร์ก และเลยไปถึงโปแลนด์ กำลังจะสร้างเสร็จปีนี้แล้วครับท่าน --- ทำให้โปแลนด์จะสามารถรับก๊าซจากนอร์เวย์ ระดับ 1 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
    นั่นก็หมายความว่าต้องจ่ายนอร์เวย์อีกบานตะไทแบบยาวๆ เลยนะครับท่าน

    การที่รัสเซียตัดก๊าซ หรือหลายชาติในยุโรปหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่รับก๊าซรัสเซียเอง มันไม่ใช่แค่ทำให้ “ของขาด” หรือ “ของน้อย” และหาของใหม่ยาก
    ผลลัพธ์ไม่ใช่แค่นั้น
    ราคาของที่มีอยู่ ย่อมแพงขึ้นๆๆ
    รับไหวก็รับไป รับไม่ไหวก็บ่นไป (แต่ยังต้องรับ)
    (แต่นอร์เวย์คงไม่บ่น)
    .
    คำว่า “แชร์” กำไร ที่โปแลนด์ยกประเด็นขึ้นมา ก็น่าคิดนะครับท่าน … มันจะปฏิบัติจริงได้ท่าไหน
    แชร์ยังไง
    หมายถึงเอากำไรพวกนี้ มาคืนกลับให้สังคม (ไม่ใช่สังคมในประเทศนอร์เวย์ แต่สังคมของกลุ่มยุโรป) --- หมายถึงเอาเงินออกมาช่วยเหลือ!?
    นายกฯ โปแลนด์ มีเจาะจงลงไปด้วยว่า “โดยเฉพาะให้ยูเครน”

    ซึ่งมันก็ไม่จำเป็นต้องทำ อยู่ที่ความสมัครใจ

    หรือแชร์ในที่นี้ หมายความว่าลดราคาให้ลูกค้าหน่อย เพื่อลดภาระให้เพื่อนร่วมทวีป
    คุณเป็นพ่อค้า เป็นนอร์เวย์ คุณจะทำหรือ?

    เหตุการณ์ที่สืบเนื่องจากการกระทำของรัสเซีย มีคนได้ มีคนเสีย
    ความอิจฉา ความหมั่นไส้ บังเกิดขึ้นได้ไม่ยาก (ยิ่งเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ ด้วยแล้ว)
    คนเราแตกคอกัน ก็เริ่มจากเรื่องพรรค์นี้ …

    https://www.bloomberg.com/news/arti...-norway-to-share-oil-and-gas-profits-windfall
    https://www.bruegel.org/publications/datasets/european-natural-gas-imports/

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,980
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จีนทิ่ม"กลยุทธ์อินโด-แปซิฟิกของอเมริกา(กวาดพันธมิตรล้อมจีน)ต้องล้มเหลว"-ไบเดนเพิ่งไปเกาหลีใต้ ต่อด้วยญี่ปุ่นวันนี้ #ไซมึ้งชวยเสาะ

    หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนกล่าวว่า ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของอเมริกาต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า (เดิม สมัยก่อนเรียกอินโด-จีน แต่หลายปีหลัง ด้วยจุดประสงค์เชิงภูมิรัฐศาสตร์ อเมริกาเรียกว่าอินโด-แปซิฟิก ... คำหรือนิยามมันมีความหมายมาก ปล่อยผ่านไม่ได้ ต้องแก้)
    โจ ไบเดน ประธานาธิบดีอเมริกา เพิ่งเยือนเกาหลีใต้ และวันนี้ไปญี่ปุ่นต่อ ส่วนพรุ่งนี้ประชุมกลุ่ม Quad ซึ่งประกอบด้วยอเมริกา ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลีย (กลุ่มนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อยันอำนาจจีนในอินโด-แปซิฟิก หรืออินโด-จีน โดยเฉพาะ)
    หวังอี้ ชี้ว่ายุทธศาสตร์ของอเมริกาเช่นนี้ จ้องจะสร้างความแบ่งแยก โหมกระพือให้เกิดการปะทะ และทำลายความสงบสุข
    https://www.bloomberg.com/news/arti...ys-us-s-indo-pacific-strategy-doomed-to-fail?

     

แชร์หน้านี้

Loading...