ตำนาน...หลวงพ่อโม้วัดเทพโมฬี จ.กำแพงเพชร

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- เมืองกำแพงเพชร เป็นเมืองเก่า มีความสำคัญทางด้านการเมือง การสงคราม และด้านพระพุทธศาสนา หลักฐานที่ปรากฏให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ของพุทธศาสนาสมัยเก่า คือ ซากปรักหักพัง อุโบสถ วิหารต่างๆ ของวัด ที่มีอยู่รายล้อมเมืองกำแพงเพชร


หลวงพ่อเทพโมฬี เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ปางมารวิชัย (สะดุ้งมาร) ที่หลงเหลือให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ในสมัยนั้น และความเสื่อมในเวลาต่อมา ชาวเมืองกำแพงเพชรส่วนใหญ่จะเรียกท่านว่า "หลวงพ่อโม้" หมายถึงว่า "องค์ใหญ่หลวงพ่อเทพโมฬี"
พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๐ ศอก ๑ คืบ สูง ๑๓ ศอก ๑ คืบ ประดิษฐานอยู่ ณ วัดเทพโมฬี ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.กำแพงเพร เป็นวัดที่มีขนาดเล็ก มีเนื้อที่ประมาณ ๑๒ ไร่เศษ ด้านหน้าทิศตะวันออก ติดกับถนนราชดำเนิน ด้านหลังทิศตะวันตกติดกับบ้านพักอัยการจังหวัด และโรงพยาบาลแพทย์บัณฑิต ทิศเหนืออยู่ใกล้กับสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดกำแพงเพชร
พระอาจารย์วชิระ ธีโร หรือ พระอาจารย์เจ็ก เป็นผู้ดูแลวัดเทพโมฬี เดิมวัดนี้เป็นวัดนอกเขตเมืองชากังราว เพราะอยู่ฟากฝั่งคูเมืองด้านทิศใต้ ของคูเมืองเก่า ติดกับวัดชีนังเกา สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีอายุประมาณ ๕๐๐-๗๐๐ ปี เนื่องจากว่า รอบๆ บริเวณวัดมีซากอิฐศิลาแลงเหมือนกับพื้นที่ทั่วไปของเมืองกำแพงเพชร จึงน่าสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน

ก่อนนั้น หลวงพ่อเทพโมฬี ชำรุดทรุดโทรมมาก มีเพียงพระองค์และส่วนของเศียรเท่านั้น ไม่มีพระกร มีต้นไม้และเถาวัลย์ขึ้นรก ถ้าไม่สังเกตจะมองไม่เห็นองค์ท่าน แถมยังมี งู แมงป่อง มากมาย ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้
ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๑๙ นายกาจ รักษ์มณี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรในสมัยนั้น มีความคิดที่จะบูรณะพุทธสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีคนกราบไหว้ เพื่อจะได้เป็นสาธารณสถานให้ชาวกำแพงเพชรได้กราบไหว้บูชา
ท่านจึงปรึกษาหารือกับ นายจำรูญ อรรถธรรสุนทร อัยการจังหวัดกำแพงเพชร ท่านอัยการจำรูญเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดว่า มีพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์อยู่องค์หนึ่ง ชาวบ้านนับถือกันมาก อยู่หลังบ้านพักอัยการจังหวัด
หลวงพ่อโม้ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ชาวบ้านนิยมกราบไหว้บูชา บนบานศาลกล่าวกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องห้ามฟ้าฝนไม่ให้ตก
ผู้ว่าราชการจังหวัด และอัยการจังหวัด จึงตกลงที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดเทพโมฬีแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อให้เป็นสถานที่บูชากราบไหว้ของชาวกำแพงเพชร และชาวจังหวัดใกล้เคียง ต่อไป
เมื่อพ.ศ.๒๕๑๙ ผู้ว่าราชการจังหวัด และอัยการจังหวัด ได้ชักชวนข้าราชการ พ่อค้า และชาวกำแพงเพชร ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ หลวงพ่อเทพโมฬี และ หลวงพ่อแป้งข้าวหมาก ขึ้นมาใหม่ โดยสร้างครอบองค์เดิมไว้
ขณะเดียวกัน ได้ไปอาราธนา หลวงพ่อโง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการปั้น และทำพิธีทางศาสตร์เวทในด้านนี้ มาเป็นผู้ปั้น พร้อมทั้งบูรณปฏิสังขรณ์องค์หลวงพ่อเทพโมฬี
หลวงพ่อโง่นใช้เวลาปั้นหลวงพ่อเทพโมฬี พร้อมทั้งปรับปรุงบริเวณโดยรอบแล้วเสร็จใน พ.ศ.๒๕๒๐ ในระหว่างที่บูรณะอยู่นั้น หลวงพ่อภา (พระครูวิธานวชิศาสน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเสด็จ ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) นำพระภิกษุมาช่วยร่วมบูรณปฏิสังขรณ์โดยตลอด
วัดเทพโมฬี จึงเป็นพุทธสถานสาธารณะ อยู่ในความดูแลของวัดเสด็จ และถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.กำแพงเพชร ในแต่ละวัน จะมีพุทธศาสนิกชนแวะเวียนมากราบไหว้บูชา เพื่อขอพรและแก้บนเมื่อประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตนปรารถนาต่อท่านเสมอมิได้ขาด สำหรับเครื่องแก้บน นอกจากดอกไม้ธูปเทียนแล้วก็มี ขนมจีนกับแป้งข้าวหมาก
ท่านที่เดินทางผ่านไปมายัง จ.กำแพงเพชร ควรจะหาโอกาสไปสักการบูชา ขอพรต่อองค์หลวงพ่อเทพโมฬี เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว ที่วัดเทพโมฬี ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โทร.๐๘-๑๗๒๗-๒๖๘๙---------///ล้อมกรอบ

ขอกล่าวอ้างถึงพระเทพโมฬี (หลวงพ่อโม้)
ประนมกราบก้ม วันทา พ่อเอย
องค์ท่านชนบูชา ทั่วด้าว
สืบสานต่อศรัทธา พุทธชื่น ชมแฮ
ขานเล่านานมาว่า พ่อโม้ โมฬี
ศรีสรีอรุณเบิกฟ้า แสงเจิดจ้าจำรูญ
รำไพพูนไพศาล งามตระการยิ่งนัก
ข้างบ้านพักอัยการ เห็นโอฬารวัดหนึ่ง
ชาวพุทธยิ่งน้อมนบ เคารพ มานพนาน
กาลครั้งสุโขทัย โดนไฟพม่าเผา
หินเสาหักองค์อิฐ มองพิศพักตร์ขาดเสี้ยว
ตาโง่นเหลียวกาจมอง ประคอง จำรูญร่าน
ชาวบ้านร่วมแรงล้น สิรินทร์ร่วมสร้างสรรค์
ยงยุทธผันเป็นจริง ได้พึ่งพิงทางใจ
กราบไหว้บนเห็นผล ฝนเอ๋ยจงอย่าตก
ของหมกลืมที่ไว้ ช่วยดลให้ลูกพบ
สมจริงจะจัดหา ถวายน้ำยาขนมจีน
ประวีณหาน้ำขัน ธูปเทียนพลันรุ่งโรจน์
ช่วงโชติแสงชัชวาล อธิษฐานสมใจปอง
เพื่อนพ้องตั้งจิตไว้ ขอท่านสงเคราะห์ให้
จงได้เห็นทัน เทอญนา
นี่คือคำกล่าวอ้างถึงประวัติและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเทพโมฬีเป็นอย่างดี 0 พิสิษฐ์ จันทร์ศรี 0

-->
เมืองกำแพงเพชร เป็นเมืองเก่า มีความสำคัญทางด้านการเมือง การสงคราม และด้านพระพุทธศาสนา หลักฐานที่ปรากฏให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ของพุทธศาสนาสมัยเก่า คือ ซากปรักหักพัง อุโบสถ วิหารต่างๆ ของวัด ที่มีอยู่รายล้อมเมืองกำแพงเพชร
หลวงพ่อเทพโมฬี เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ปางมารวิชัย (สะดุ้งมาร) ที่หลงเหลือให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ในสมัยนั้น และความเสื่อมในเวลาต่อมา ชาวเมืองกำแพงเพชรส่วนใหญ่จะเรียกท่านว่า "หลวงพ่อโม้" หมายถึงว่า "องค์ใหญ่หลวงพ่อเทพโมฬี"
พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๐ ศอก ๑ คืบ สูง ๑๓ ศอก ๑ คืบ ประดิษฐานอยู่ ณ วัดเทพโมฬี ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.กำแพงเพร เป็นวัดที่มีขนาดเล็ก มีเนื้อที่ประมาณ ๑๒ ไร่เศษ ด้านหน้าทิศตะวันออก ติดกับถนนราชดำเนิน ด้านหลังทิศตะวันตกติดกับบ้านพักอัยการจังหวัด และโรงพยาบาลแพทย์บัณฑิต ทิศเหนืออยู่ใกล้กับสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดกำแพงเพชร
พระอาจารย์วชิระ ธีโร หรือ พระอาจารย์เจ็ก เป็นผู้ดูแลวัดเทพโมฬี เดิมวัดนี้เป็นวัดนอกเขตเมืองชากังราว เพราะอยู่ฟากฝั่งคูเมืองด้านทิศใต้ ของคูเมืองเก่า ติดกับวัดชีนังเกา สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีอายุประมาณ ๕๐๐-๗๐๐ ปี เนื่องจากว่า รอบๆ บริเวณวัดมีซากอิฐศิลาแลงเหมือนกับพื้นที่ทั่วไปของเมืองกำแพงเพชร จึงน่าสร้างขึ้นมาพร้อมๆ กัน

ก่อนนั้น หลวงพ่อเทพโมฬี ชำรุดทรุดโทรมมาก มีเพียงพระองค์และส่วนของเศียรเท่านั้น ไม่มีพระกร มีต้นไม้และเถาวัลย์ขึ้นรก ถ้าไม่สังเกตจะมองไม่เห็นองค์ท่าน แถมยังมี งู แมงป่อง มากมาย ทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้
ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๑๙ นายกาจ รักษ์มณี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรในสมัยนั้น มีความคิดที่จะบูรณะพุทธสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีคนกราบไหว้ เพื่อจะได้เป็นสาธารณสถานให้ชาวกำแพงเพชรได้กราบไหว้บูชา
ท่านจึงปรึกษาหารือกับ นายจำรูญ อรรถธรรสุนทร อัยการจังหวัดกำแพงเพชร ท่านอัยการจำรูญเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดว่า มีพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์อยู่องค์หนึ่ง ชาวบ้านนับถือกันมาก อยู่หลังบ้านพักอัยการจังหวัด
หลวงพ่อโม้ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ชาวบ้านนิยมกราบไหว้บูชา บนบานศาลกล่าวกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องห้ามฟ้าฝนไม่ให้ตก
ผู้ว่าราชการจังหวัด และอัยการจังหวัด จึงตกลงที่จะบูรณะปฏิสังขรณ์วัดเทพโมฬีแห่งนี้ขึ้นมา เพื่อให้เป็นสถานที่บูชากราบไหว้ของชาวกำแพงเพชร และชาวจังหวัดใกล้เคียง ต่อไป
เมื่อพ.ศ.๒๕๑๙ ผู้ว่าราชการจังหวัด และอัยการจังหวัด ได้ชักชวนข้าราชการ พ่อค้า และชาวกำแพงเพชร ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ หลวงพ่อเทพโมฬี และ หลวงพ่อแป้งข้าวหมาก ขึ้นมาใหม่ โดยสร้างครอบองค์เดิมไว้
ขณะเดียวกัน ได้ไปอาราธนา หลวงพ่อโง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการปั้น และทำพิธีทางศาสตร์เวทในด้านนี้ มาเป็นผู้ปั้น พร้อมทั้งบูรณปฏิสังขรณ์องค์หลวงพ่อเทพโมฬี
หลวงพ่อโง่นใช้เวลาปั้นหลวงพ่อเทพโมฬี พร้อมทั้งปรับปรุงบริเวณโดยรอบแล้วเสร็จใน พ.ศ.๒๕๒๐ ในระหว่างที่บูรณะอยู่นั้น หลวงพ่อภา (พระครูวิธานวชิศาสน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดเสด็จ ปัจจุบันมรณภาพแล้ว) นำพระภิกษุมาช่วยร่วมบูรณปฏิสังขรณ์โดยตลอด
วัดเทพโมฬี จึงเป็นพุทธสถานสาธารณะ อยู่ในความดูแลของวัดเสด็จ และถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.กำแพงเพชร ในแต่ละวัน จะมีพุทธศาสนิกชนแวะเวียนมากราบไหว้บูชา เพื่อขอพรและแก้บนเมื่อประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตนปรารถนาต่อท่านเสมอมิได้ขาด สำหรับเครื่องแก้บน นอกจากดอกไม้ธูปเทียนแล้วก็มี ขนมจีนกับแป้งข้าวหมาก
ท่านที่เดินทางผ่านไปมายัง จ.กำแพงเพชร ควรจะหาโอกาสไปสักการบูชา ขอพรต่อองค์หลวงพ่อเทพโมฬี เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว ที่วัดเทพโมฬี ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โทร.๐๘-๑๗๒๗-๒๖๘๙
---------///ล้อมกรอบ
ขอกล่าวอ้างถึงพระเทพโมฬี (หลวงพ่อโม้)
ประนมกราบก้ม วันทา พ่อเอย
องค์ท่านชนบูชา ทั่วด้าว
สืบสานต่อศรัทธา พุทธชื่น ชมแฮ
ขานเล่านานมาว่า พ่อโม้ โมฬี
ศรีสรีอรุณเบิกฟ้า แสงเจิดจ้าจำรูญ
รำไพพูนไพศาล งามตระการยิ่งนัก
ข้างบ้านพักอัยการ เห็นโอฬารวัดหนึ่ง
ชาวพุทธยิ่งน้อมนบ เคารพ มานพนาน
กาลครั้งสุโขทัย โดนไฟพม่าเผา
หินเสาหักองค์อิฐ มองพิศพักตร์ขาดเสี้ยว
ตาโง่นเหลียวกาจมอง ประคอง จำรูญร่าน
ชาวบ้านร่วมแรงล้น สิรินทร์ร่วมสร้างสรรค์
ยงยุทธผันเป็นจริง ได้พึ่งพิงทางใจ
กราบไหว้บนเห็นผล ฝนเอ๋ยจงอย่าตก
ของหมกลืมที่ไว้ ช่วยดลให้ลูกพบ
สมจริงจะจัดหา ถวายน้ำยาขนมจีน
ประวีณหาน้ำขัน ธูปเทียนพลันรุ่งโรจน์
ช่วงโชติแสงชัชวาล อธิษฐานสมใจปอง
เพื่อนพ้องตั้งจิตไว้ ขอท่านสงเคราะห์ให้
จงได้เห็นทัน เทอญนา นี่คือคำกล่าวอ้างถึงประวัติและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเทพโมฬีเป็นอย่างดี 0 พิสิษฐ์ จันทร์ศรี 0 http://www.komchadluek.net/2007/05/04/j001_113053.php?news_id=113053

</TD></TR></TBODY></TABLE>